สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์การผ่าคีลอยด์ที่หูค่ะ (อาจมีน้ำเยอะหน่อยนะคะ อยากเล่า🥹)
เราอายุ18ปี อยู่ม.6 เป็นคีลอยด์ตั้งแต่ม.1 แต่เป็นแค่เล็ก ๆ จนเราขึ้นม.4 มันเริ่มใหญ่ขึ้นมาก ๆ แบบกะทันหัน น่าจะเป็นเพราะไปเกาแรงๆจนเลือดออก ทำให้มันใหญ่กว่าเดิม และเราได้เริ่มรักษาตอนเดือนพฤษภาคม ปี67ค่ะ
-โดยเราไปรพ.ใกล้บ้านก่อนเพื่อให้รพ.ทำเรื่องส่งตัวไปให้รพ.ในเมืองค่ะ เพราะรพ.ใกล้บ้านไม่มีห้องผ่าตัด
-หลังจากนั้น เราก็ไปรักษาที่รพ.ในเมืองต่อตามวันนัด
โดยไปทั้งหมด4ครั้ง
ครั้งที่1 ไปเจอครั้งแรก ตอนเข้าไปตรวจกับหมอ หมอบอกว่าให้ฉีดดีกว่า เพราะถ้าตัดมันมีโอกาสโตขึ้นอีก เราก็ไม่ว่าอะไร หลังจากนั้นก็ฉีดกับหมออีกคน และเริ่มยุบลงโดยรู้สึกได้เมื่อเอามือไปจับ หลังจากนั้นหมอจึงนัดอีกครั้งในเวลา1เดือน
ครั้งที่2 เราเจอหมออีกคน (เป็นคนเดียวกับคนที่ฉีดยาให้) และมีหมออีกคนอยู่ด้วย สรุปคือตอนเราเข้าไปตรวจมีหมอ2คน แล้วหมออีกคนก็พูดมาว่า ทำไมไม่ตัด เราเลยอธิบายไปว่าตอนมาครั้งแรกหมอให้ฉีดเพราะถ้าตัดมันมีโอกาสใหญ่ขึ้น หมอเลยพูดขึ้นมาว่า ให้ตัดพอเริ่มใหญ่ขึ้นก็ค่อยฉีดเสียก่อนเลย ไม่ต้องรอให้ใหญ่มาก ๆ แต่ครั้งนี้ที่เราไปต้องฉีดก่อน และค่อยมาตัดครั้งหน้า เพราะห้องผ่าตัดไม่ว่าง และเราไม่ได้พาผปค.มายืนยัน
ครั้งที่3 เรามาตัดออก ไม่เจ็บเลยสำหรับเรา เพราะฉีกยาชา 555555 ตอนฉีดยาชาก็ไม่เจ็บ หลังจากนั้นรอ7วันเพื่อไปตัดไหม
ครั้งที่4คือวันนี้ และครั้งสุดท้าย คือไปตัดไหม ตัดไหมก็ไม่เจ็บ จี้ด ๆ นิดหน่อย ความรู้สึกตรงนี้เราคิดว่าแล้วแต่คนด้วยแหละ (ที่บอกแบบนี้เพราะเราเคยอ่านเจอบางคนบอกว่าตอนตัดเจ็บมาก แต่สำหรับเราคือไม่รู้สึกอะไรเลย)
ค่ะ ก็ที่มาตั้งกระทู้นี้เพื่อให้ความรู้กับคนที่อยากไปนัดที่โรวพยาบาลรัฐหรือคนที่ไม่มีงบ เนื่องตากตอนเราหาข้อมูล หาค่อนข้างยาก เลยอยากมาแนะนำบ้างค่ะ
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดคือ ครั้งแรกที่เราไปโรงพยาบาลใกล้บ้านคือจ่าย30บาท
หลังจากนั้นอีก4ครั้งที่โรงพยาบาลในเมืองก็ครั้งละ30 เท่ากับว่าทั้งหมดคือ150บาทค่ะ
แต่ถ้าใครไม่มีบัตรทองต้องจ่ายค่าผ่ตัดนะคะ ที่นี่เริ่มต้นที่2500 ถ้าใหญ่มาก ๆ แบบของเรา3000+-ค่ะ (ตอนนั้นหมอบอก แต่พอเขารู้ว่าเรามีการส่งตัวมาจึงไม่ต้องจ่ายเพราะมีบัตรทอง)
หวังว่ากระทู้นี้คงมีประโยชน์แก่ใครหลายๆคนนะคะ ใครมีอะไรสอบถามได้นะคะ
#คีลอยด์ตรงหู
รีวิวผ่าตัดคีลอยด์ตรงหู
เราอายุ18ปี อยู่ม.6 เป็นคีลอยด์ตั้งแต่ม.1 แต่เป็นแค่เล็ก ๆ จนเราขึ้นม.4 มันเริ่มใหญ่ขึ้นมาก ๆ แบบกะทันหัน น่าจะเป็นเพราะไปเกาแรงๆจนเลือดออก ทำให้มันใหญ่กว่าเดิม และเราได้เริ่มรักษาตอนเดือนพฤษภาคม ปี67ค่ะ
-โดยเราไปรพ.ใกล้บ้านก่อนเพื่อให้รพ.ทำเรื่องส่งตัวไปให้รพ.ในเมืองค่ะ เพราะรพ.ใกล้บ้านไม่มีห้องผ่าตัด
-หลังจากนั้น เราก็ไปรักษาที่รพ.ในเมืองต่อตามวันนัด
โดยไปทั้งหมด4ครั้ง
ครั้งที่1 ไปเจอครั้งแรก ตอนเข้าไปตรวจกับหมอ หมอบอกว่าให้ฉีดดีกว่า เพราะถ้าตัดมันมีโอกาสโตขึ้นอีก เราก็ไม่ว่าอะไร หลังจากนั้นก็ฉีดกับหมออีกคน และเริ่มยุบลงโดยรู้สึกได้เมื่อเอามือไปจับ หลังจากนั้นหมอจึงนัดอีกครั้งในเวลา1เดือน
ครั้งที่2 เราเจอหมออีกคน (เป็นคนเดียวกับคนที่ฉีดยาให้) และมีหมออีกคนอยู่ด้วย สรุปคือตอนเราเข้าไปตรวจมีหมอ2คน แล้วหมออีกคนก็พูดมาว่า ทำไมไม่ตัด เราเลยอธิบายไปว่าตอนมาครั้งแรกหมอให้ฉีดเพราะถ้าตัดมันมีโอกาสใหญ่ขึ้น หมอเลยพูดขึ้นมาว่า ให้ตัดพอเริ่มใหญ่ขึ้นก็ค่อยฉีดเสียก่อนเลย ไม่ต้องรอให้ใหญ่มาก ๆ แต่ครั้งนี้ที่เราไปต้องฉีดก่อน และค่อยมาตัดครั้งหน้า เพราะห้องผ่าตัดไม่ว่าง และเราไม่ได้พาผปค.มายืนยัน
ครั้งที่3 เรามาตัดออก ไม่เจ็บเลยสำหรับเรา เพราะฉีกยาชา 555555 ตอนฉีดยาชาก็ไม่เจ็บ หลังจากนั้นรอ7วันเพื่อไปตัดไหม
ครั้งที่4คือวันนี้ และครั้งสุดท้าย คือไปตัดไหม ตัดไหมก็ไม่เจ็บ จี้ด ๆ นิดหน่อย ความรู้สึกตรงนี้เราคิดว่าแล้วแต่คนด้วยแหละ (ที่บอกแบบนี้เพราะเราเคยอ่านเจอบางคนบอกว่าตอนตัดเจ็บมาก แต่สำหรับเราคือไม่รู้สึกอะไรเลย)
ค่ะ ก็ที่มาตั้งกระทู้นี้เพื่อให้ความรู้กับคนที่อยากไปนัดที่โรวพยาบาลรัฐหรือคนที่ไม่มีงบ เนื่องตากตอนเราหาข้อมูล หาค่อนข้างยาก เลยอยากมาแนะนำบ้างค่ะ
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดคือ ครั้งแรกที่เราไปโรงพยาบาลใกล้บ้านคือจ่าย30บาท
หลังจากนั้นอีก4ครั้งที่โรงพยาบาลในเมืองก็ครั้งละ30 เท่ากับว่าทั้งหมดคือ150บาทค่ะ
แต่ถ้าใครไม่มีบัตรทองต้องจ่ายค่าผ่ตัดนะคะ ที่นี่เริ่มต้นที่2500 ถ้าใหญ่มาก ๆ แบบของเรา3000+-ค่ะ (ตอนนั้นหมอบอก แต่พอเขารู้ว่าเรามีการส่งตัวมาจึงไม่ต้องจ่ายเพราะมีบัตรทอง)
หวังว่ากระทู้นี้คงมีประโยชน์แก่ใครหลายๆคนนะคะ ใครมีอะไรสอบถามได้นะคะ
#คีลอยด์ตรงหู