เรื่องมีอยู่ว่าเราแก้วหูทะลุทั้งสองข้างและได้รักษาที่นี่รพ.แพทย์...เพราะเป็นรพ.ประกันสังคมไม่ต้องเสียเงิน และเมื่อปี 59 รพ.ได้ส่งตัวต่อไปผ่าปะแก้วหูที่ รพ.ภูมิพล เนื่องจากที่รพ.แพทย์...อุปกรณ์ไม่พร้อม ผ่าที่รพ.ภูมิพลข้างขวา ก่อนผ่าตรวจการได้ยินก่อน และนัดตรวจเลือด จองห้อง โกนผมที่หลังหู และให้สระผมด้วยยาสระผมฆ่าเชื้อ และอื่นๆตามขั้นตอน หลังผ่าหมอและเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจ และฉีดยาแก้ปวดให้เป็นระยะ มีหมอและเจ้าหน้าที่คอยมาตรวจเป็นระยะทั้งคืน ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีประสบความสำเร็จและหูได้ยินปกติ
แต่พอหลังจากนั้นหนึ่งปี 2560 กลับมารักษาที่เดิมรพ.แพทย์...เพราะยังเหลืออีกข้างที่ยังไม่ได้ผ่า มาคราวนี้รพ.จะผ่าให้เองไม่ส่งตัวต่อเนื่องจากมีอุปกรณ์พร้อมแล้ว และนัดผ่าวันที่ 4 ก.ค. 2560 ก่อนผ่านัดมาตรวจเลือดจองห้อง แต่!ไม่ได้ตรวจการได้ยิน เตรียมการผ่าโกนผมหลังหูแต่ไม่ได้ให้สระผมด้วยผาสระผมฆ่าเชื้อ นัดผ่าเวลา 15:00 แต่กว่าหมอจะมาเจ้าหน้าที่โทรตามหลายรอบ เราต้องนอนรอที่ห้องผ่าตัดแบบใจตุ้มๆต่อมๆกว่าหมอจะมาก็ 16:30 พอมาถึงก็เริ่มผ่าเลย โดยผ่าที่ด้านหน้าหู ไม่ได้ผ่าด้านหลังที่โกนผมไว้ ใช้เวลาไม่นาน ประมาณชั่วโมงกว่าๆ แต่แปลกมากที่นี่พอผ่าตัดเสร็จทำแผลเล็กมากๆแค่ปิดไว้เฉย แต่ที่เคยผ่าที่รพ.ภูมิพลเค้าจะพันรอบหัวเลยนะ แล้วเค้าก็เลื่อนเตียงเราห้องพักพื้นสักพักก็กลับห้องผู้ป่วยตามเดิม พอมาถึงห้องนอนได้ไม่ถึงครึ่งชัวโมงเลือดก็ไหลออกมาเยอะมากเปื้อนเสื้อเลย กดกลิ่งเรียกพยาบาล นางมาก็ทำไรไม่ถูกจึงโทรคุยกับหมอ วางสายแล้วจึงมาทำแผลเช็ดเลือดที่ไหลและพันผ้าแบบพันรอบหัวให้ แล้วก็ฉีดยาให้หนึ่งเข็ม หลังจากนั้นก็ไม่ได้ฉีดอีกเลย ถ้าปวดก็ได้แค่ยากิน และหมอไม่เคยมาตรวจหรือมาดูเลยตลอดระยะเวลาที่นอนรพ. 2 คือ 3 วัน มีแต่เจ้าหน้าที่มาวัดความดันและให้กินยาแก้วปวด ได้พบหมออีกที่ตอนจะออกจากโรงพยาบาล แต่หมอก็ไม่ได้ไปตรวจที่ห้องนะต้องมีเจ้าหน้าที่ให้เรานี่งรถเข็นพาไปหาหมอเองที่ห้องตรวจ เจ็บปวดทรมารกว่าตอนผ่าที่รพ.ภูมิพลมากมาย หลังจากออกจากโรงพยาบาลประมาณ 1 สัปดาห์ก็นัดมาตัดไหม เรามีอาการเวียนหัวบ้านหมุนและมีเสียงดังในหู แต่ก็ไม่ได้คิดมากเพราะคิดว่ายังมีอุปกรณ์อยู่ในหู แต่หลังจากนั้นหมอก็นัดเอาอุปกรณ์ในหูออก พอเอาออกก็รู้สึกโล่งๆยุนะ แต่ยังมีเสียงก้องๆในหูอยู่ แจ้งหมอ หมอก็บอกว่าปกติให้รอประมาณ 1 - 2 เดือน หลังจากหนึ่งเดือน อาการเสียงก้องหายไปละแต่หูเราก็ยังไม่ได้ยิน และยังเวียนหัว บ้านหมุนอยู่เป็นระยะ แจ้งหมอแล้ว แต่หมอกลับบอกว่าการปะแก้วหูเพื่อให้รอยทะลุปิดไม่ได้ผ่าให้ได้ยิน! เราก็ยืนยันว่าก่อนผ่าเราได้ยิน หมอก็ไม่เชื่อบอกว่าเราคิดไปเอง และไล่เรากลับบอกไม่ต้องคิดมาก และนัดอีกทีหลังจาก 1 เดือน คือที่วันที่ 4 ก.ค.2560
ระหว่างที่รอนัดรอบถัดไปเราเครียดมากเพราะหูเราไม่ได้ยิน ได้ยินข้างเดียวเวลาใครพูดอะไรก็จะจับทิศทางยากไม่รู้ใครพูดทางไหน และยังเวียนหัวและบ้านหมุนอยู่ แต่ดีที่ที่ทำงานกับที่พักอยู่ข้างๆกันทำให้เดินไปทำงานได้แบบค่อยๆไป เราเลยไปขอประวัติการรักษาที่รพ.ภูมิพลมา เพื่อยืนยันว่าหูเราเคยตรวจการได้ยินที่นี่และหูเราได้ยินทั้งสองข้างไม่ได้พิการหูหนวกแต่กำเนิดแต่อย่างใด และได้ความมั่นใจเราไปตรวจการได้ยินอีกที่รพ.ตา หู คอ จมูก ผออกมาหูข้างที่ผ่ามาไม่ได้ยินจริงๆด้วย เราก็ขอผลเพื่อไปยืนยันกับหมอว่าเราไปตรวจมาและไม่ได้คิดไปเองอย่างที่หมอว่า
พอมาถึงวันนัด 4 ก.ค.2560 (วันนี้) เราไปพร้อมผลตรวจจากสองโรงพยาบาล แต่หมอกลับยืนยันเหมือนเดิมว่าผ่าเพื่อให้รอยทะลุปิดไม่ได้การันตีว่าจะได้ยิน เราจึงบอกไปว่าหมอดูผลการตรวจสิคะ!ก่อนหน้าผ่ายังได้ยินดีๆอยู่เลย หมอก็บอกผมไม่รู้ ผมผ่าแผลก็ปิดดีผมดูแค่นี้ เราก็ถามต่อว่าแล้วหมอจะรักษายังไงต่อไป หมอก็บอกว่าเดี๋ยวส่งให้หมออีกท่านพิจารณาให้ใช้เครื่องช่วยฟัง แต่เราจึงถามว่าถ้ารักษาไม่ได้ส่งตัวเราไปรักษาที่ศิริราชได้มั้ย หมอว่าที่ศิริราชไม่ได้ดิวไว้ แต่จะทำเรื่องส่งตัวให้แล้วแต่เจ้าหน้าส่งไปไหนเค้าจะโทรมาบอกอีกครั้ง
**ทั้งหมดที่เล่ามาก็เพื่อเตือนว่าจะเลือกรักษาที่นี่คิดดีๆนะคะ ก็ไม่เชิงว่าหมอจะไม่มีความรับผิดชอบ แต่มันจะคุ้มกันหรอคะกับการสูญเสียการได้ยินเพื่อแลกกับได้แค่เครื่องช่วยฟัง หรือเซ็นไปเพื่อส่งตัวเราไปรักษาที่อื่นที่ก็ไม่รู้ว่าจะมีที่ไหนรักษาได้หรือเปล่า และเราต้องมาเสียเวลาเสียงานกับการรักษาตัวอีกนานเท่าไร แล้วจากนี้ละสมัทภาพการทำงานของเรา คุณภาพชีวิตของเราจะเป็นอย่างไรต่อไป ดีที่เราเป็นแค่ข้างเดียว แล้วนึกถึงคนที่เค้าหูดับทั้งสองข้างล่ะจะแย่ขนาดไหน เพราะที่นี่ไม่มีการตรวจการได้ยินก่อนผ่าและไม่ได้การันตีว่าหลังผ่าจะได้ยินนะ สักแต่ว่าผ่าๆอย่างเดียวไม่สนว่าจะได้ยินไม่ได้ยินหรือไม่ วันนี้เราถามหมอว่าที่นี่มีเครื่องตรวจการได้ยินมั้ย เจ้าหน้าที่บอกมี หมอเองก็บอกมี เราถามว่าทำไมไม่ตรวจก่อนผ่า หรือส่งเราไปตรวจตอนนี้ หมอก็ยืนยันแค่ว่า ผ่าเพื่อปิดรอยทะลุ มันคนละเรื่องกับการได้ยิน ฉนันเตือนนะคะ! คิดดีๆ
ใครเคยผ่าตัดปะแก้วหูทะลุที่โรงพยาบาลย่านรังสิตบ้าง
แต่พอหลังจากนั้นหนึ่งปี 2560 กลับมารักษาที่เดิมรพ.แพทย์...เพราะยังเหลืออีกข้างที่ยังไม่ได้ผ่า มาคราวนี้รพ.จะผ่าให้เองไม่ส่งตัวต่อเนื่องจากมีอุปกรณ์พร้อมแล้ว และนัดผ่าวันที่ 4 ก.ค. 2560 ก่อนผ่านัดมาตรวจเลือดจองห้อง แต่!ไม่ได้ตรวจการได้ยิน เตรียมการผ่าโกนผมหลังหูแต่ไม่ได้ให้สระผมด้วยผาสระผมฆ่าเชื้อ นัดผ่าเวลา 15:00 แต่กว่าหมอจะมาเจ้าหน้าที่โทรตามหลายรอบ เราต้องนอนรอที่ห้องผ่าตัดแบบใจตุ้มๆต่อมๆกว่าหมอจะมาก็ 16:30 พอมาถึงก็เริ่มผ่าเลย โดยผ่าที่ด้านหน้าหู ไม่ได้ผ่าด้านหลังที่โกนผมไว้ ใช้เวลาไม่นาน ประมาณชั่วโมงกว่าๆ แต่แปลกมากที่นี่พอผ่าตัดเสร็จทำแผลเล็กมากๆแค่ปิดไว้เฉย แต่ที่เคยผ่าที่รพ.ภูมิพลเค้าจะพันรอบหัวเลยนะ แล้วเค้าก็เลื่อนเตียงเราห้องพักพื้นสักพักก็กลับห้องผู้ป่วยตามเดิม พอมาถึงห้องนอนได้ไม่ถึงครึ่งชัวโมงเลือดก็ไหลออกมาเยอะมากเปื้อนเสื้อเลย กดกลิ่งเรียกพยาบาล นางมาก็ทำไรไม่ถูกจึงโทรคุยกับหมอ วางสายแล้วจึงมาทำแผลเช็ดเลือดที่ไหลและพันผ้าแบบพันรอบหัวให้ แล้วก็ฉีดยาให้หนึ่งเข็ม หลังจากนั้นก็ไม่ได้ฉีดอีกเลย ถ้าปวดก็ได้แค่ยากิน และหมอไม่เคยมาตรวจหรือมาดูเลยตลอดระยะเวลาที่นอนรพ. 2 คือ 3 วัน มีแต่เจ้าหน้าที่มาวัดความดันและให้กินยาแก้วปวด ได้พบหมออีกที่ตอนจะออกจากโรงพยาบาล แต่หมอก็ไม่ได้ไปตรวจที่ห้องนะต้องมีเจ้าหน้าที่ให้เรานี่งรถเข็นพาไปหาหมอเองที่ห้องตรวจ เจ็บปวดทรมารกว่าตอนผ่าที่รพ.ภูมิพลมากมาย หลังจากออกจากโรงพยาบาลประมาณ 1 สัปดาห์ก็นัดมาตัดไหม เรามีอาการเวียนหัวบ้านหมุนและมีเสียงดังในหู แต่ก็ไม่ได้คิดมากเพราะคิดว่ายังมีอุปกรณ์อยู่ในหู แต่หลังจากนั้นหมอก็นัดเอาอุปกรณ์ในหูออก พอเอาออกก็รู้สึกโล่งๆยุนะ แต่ยังมีเสียงก้องๆในหูอยู่ แจ้งหมอ หมอก็บอกว่าปกติให้รอประมาณ 1 - 2 เดือน หลังจากหนึ่งเดือน อาการเสียงก้องหายไปละแต่หูเราก็ยังไม่ได้ยิน และยังเวียนหัว บ้านหมุนอยู่เป็นระยะ แจ้งหมอแล้ว แต่หมอกลับบอกว่าการปะแก้วหูเพื่อให้รอยทะลุปิดไม่ได้ผ่าให้ได้ยิน! เราก็ยืนยันว่าก่อนผ่าเราได้ยิน หมอก็ไม่เชื่อบอกว่าเราคิดไปเอง และไล่เรากลับบอกไม่ต้องคิดมาก และนัดอีกทีหลังจาก 1 เดือน คือที่วันที่ 4 ก.ค.2560
ระหว่างที่รอนัดรอบถัดไปเราเครียดมากเพราะหูเราไม่ได้ยิน ได้ยินข้างเดียวเวลาใครพูดอะไรก็จะจับทิศทางยากไม่รู้ใครพูดทางไหน และยังเวียนหัวและบ้านหมุนอยู่ แต่ดีที่ที่ทำงานกับที่พักอยู่ข้างๆกันทำให้เดินไปทำงานได้แบบค่อยๆไป เราเลยไปขอประวัติการรักษาที่รพ.ภูมิพลมา เพื่อยืนยันว่าหูเราเคยตรวจการได้ยินที่นี่และหูเราได้ยินทั้งสองข้างไม่ได้พิการหูหนวกแต่กำเนิดแต่อย่างใด และได้ความมั่นใจเราไปตรวจการได้ยินอีกที่รพ.ตา หู คอ จมูก ผออกมาหูข้างที่ผ่ามาไม่ได้ยินจริงๆด้วย เราก็ขอผลเพื่อไปยืนยันกับหมอว่าเราไปตรวจมาและไม่ได้คิดไปเองอย่างที่หมอว่า
พอมาถึงวันนัด 4 ก.ค.2560 (วันนี้) เราไปพร้อมผลตรวจจากสองโรงพยาบาล แต่หมอกลับยืนยันเหมือนเดิมว่าผ่าเพื่อให้รอยทะลุปิดไม่ได้การันตีว่าจะได้ยิน เราจึงบอกไปว่าหมอดูผลการตรวจสิคะ!ก่อนหน้าผ่ายังได้ยินดีๆอยู่เลย หมอก็บอกผมไม่รู้ ผมผ่าแผลก็ปิดดีผมดูแค่นี้ เราก็ถามต่อว่าแล้วหมอจะรักษายังไงต่อไป หมอก็บอกว่าเดี๋ยวส่งให้หมออีกท่านพิจารณาให้ใช้เครื่องช่วยฟัง แต่เราจึงถามว่าถ้ารักษาไม่ได้ส่งตัวเราไปรักษาที่ศิริราชได้มั้ย หมอว่าที่ศิริราชไม่ได้ดิวไว้ แต่จะทำเรื่องส่งตัวให้แล้วแต่เจ้าหน้าส่งไปไหนเค้าจะโทรมาบอกอีกครั้ง
**ทั้งหมดที่เล่ามาก็เพื่อเตือนว่าจะเลือกรักษาที่นี่คิดดีๆนะคะ ก็ไม่เชิงว่าหมอจะไม่มีความรับผิดชอบ แต่มันจะคุ้มกันหรอคะกับการสูญเสียการได้ยินเพื่อแลกกับได้แค่เครื่องช่วยฟัง หรือเซ็นไปเพื่อส่งตัวเราไปรักษาที่อื่นที่ก็ไม่รู้ว่าจะมีที่ไหนรักษาได้หรือเปล่า และเราต้องมาเสียเวลาเสียงานกับการรักษาตัวอีกนานเท่าไร แล้วจากนี้ละสมัทภาพการทำงานของเรา คุณภาพชีวิตของเราจะเป็นอย่างไรต่อไป ดีที่เราเป็นแค่ข้างเดียว แล้วนึกถึงคนที่เค้าหูดับทั้งสองข้างล่ะจะแย่ขนาดไหน เพราะที่นี่ไม่มีการตรวจการได้ยินก่อนผ่าและไม่ได้การันตีว่าหลังผ่าจะได้ยินนะ สักแต่ว่าผ่าๆอย่างเดียวไม่สนว่าจะได้ยินไม่ได้ยินหรือไม่ วันนี้เราถามหมอว่าที่นี่มีเครื่องตรวจการได้ยินมั้ย เจ้าหน้าที่บอกมี หมอเองก็บอกมี เราถามว่าทำไมไม่ตรวจก่อนผ่า หรือส่งเราไปตรวจตอนนี้ หมอก็ยืนยันแค่ว่า ผ่าเพื่อปิดรอยทะลุ มันคนละเรื่องกับการได้ยิน ฉนันเตือนนะคะ! คิดดีๆ