เรื่องมีอยู่ว่า ทุกครั้งที่คุยกันกับแม่ ช่วงหลังๆ ของบทสนทนา แม่จะถามว่าเมื่อไหร่ฝ่ายชายจะมาขอ เรากับแฟนเพิ่งคบกันได้ปีกว่าๆ รู้จักกันประมาณ 2 ปี เราก็บอกแม่ไปว่าเรายังไม่พร้อมยังไม่มีตังค์ เราเพิ่งเรียนจบเงินเดือนแค่หมื่นกว่า หักลบค่าใช้จ่ายแล้วก็ไม่พอใช้ แม่ก็พูดขึ้นมาว่า ทำไมต้องให้ ลูกเป็นคนหาเงินมาแต่งกันเองทำไมฝ่ายชายพ่อแม่เขาไม่หาตังค์มาแต่ง เราเคยไปเจอฝ่ายชายมาแล้ว เราไม่ได้ถามเรื่องนี้เลย แต่เขาพูดประโยคแรกขึ้นมาเลยว่าเขาไม่มีเงินมาแต่ง อยากให้หาเงินไปแต่งกันเอง เราก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะตอนนั้นคบกันยังไม่ได้นานตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่ต้องแต่ง แต่แม่เราก็ถามอยู่ตลอด มันทำให้เราอึดอัดมาก เราเข้าใจพ่อกับแม่ ว่าอยากให้แต่งงานทำให้มันถูกต้อง แต่ถ้าจะให้เราไปพูดไปบังคับฝ่ายใช้เขามาแต่งมันก็ไม่ได้ ระหว่างที่คบกันอยู่ด้วยกันก็มีปัญหากันบ้างแล้วทุกครั้งที่มีปัญหามันก็หนักเราก็ยังไม่มั่นใจ ว่าแฟนเรา เขาจะรักเราอยู่กับเราได้นานเเค่ไหนหรือ ยิ่งถ้าแต่งงานกันไปแล้วแล้วเลิกกันมันยิ่งหนักกว่าตอนที่ยังไม่แต่ง เรามองว่า มันไม่มีอะไรแน่นอนหรือเป็นหลักประกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าแต่งกันไปแล้วอยู่กันไม่ได้หรือ ตกลงคุยกันเพราะถึงวันแต่งแล้วมีปัญหาเหมือนในข่าวที่เห็นๆกันอยู่คนที่เสียใจที่สุดก็คือ เรากับแฟน เรามีประสบการณ์ไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเคยผ่านมาแล้ว ที่พ่อแม่คุยกันแล้ว เราอยู่กับฝ่ายชาย เขาก็บอกว่าเขายังไม่มีเงินมาแต่งเขาขอเวลา 1 ปีอันนี้แฟนคนก่อนหน้านี้นะคะ พออยู่กันไปสักพัก ก็มีปัญหากันตามประสาเด็ก แล้วเขาก็ไล่เราออกจากบ้าน พอเรากลับไปบ้าน เขาก็ง้อเราก็ดีกัน แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนเดิม พ่อแม่เราก็บอกให้เขามาขอก็นัดกันกับพ่อเขา ว่าจะมาหมั้นก่อน คนที่หาเงินมาหมั้นก็คือเรา แต่สุดท้ายพอถึงวันพ่อเขาก็ไม่มา ตอนนั้นเสียความรู้สึกมากดีที่ยังไม่ได้บอกใครยังไม่ได้บอกผู้ใหญ่ฝ่ายเราบอกแค่พ่อกับแม่ พอคบกันไปเรื่อยๆจน ถึงเวลาใกล้ครบกำหนดที่ ฝ่ายชายต้องมาขอ เขาก็มาบอกเลิกเราแล้วบอกว่าแม่เขาบอกให้เลิกถ้าไม่เลิกเขาจะตัดแม่ตัดลูก อันนี้คือรู้สึกแย่มาก เสียใจมากๆเพราะตอนที่อยู่กับเขาเราไม่เคยขอเงินเขาสักบาทเราเป็นคนหาเงินเลี้ยงลูกเขา หลังจาก เลิกกับแฟนคนนั้นมาเราไม่เคยคาดหวังเลยว่าจะได้แต่งงานกับใคร
ถ้าถามว่าอยากแต่งไหมเราเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนอยากแต่งงาน แต่มันไม่อยากคาดหวัง เพราะกลัวผิดหวัง แล้วทุกครั้งที่แม่พูดแม่ถามเรื่องนี้มันทำให้เรา เครียด กดดัน แล้วร้องไห้ทุกครั้งแล้วก็ทะเลาะกันตลอด เราถามแม่กลับไปว่า จะให้เลิกกันไหม ถ้าเขาไม่มาแต่ง เราไม่สามารถไปบังคับให้ใครมาแต่งงานกับเราได้ ถ้าเขาอยากแต่ง เขาคงมาขอเอง หรือถ้าเขาพร้อม เขาคงถามเรื่องนี้กับเราเอง เราไม่สามารถคุยเรื่องนี้กับใครได้เลย ถ้าจะคุยกับแฟนเรื่องที่แม่ถาม ก็กลัวทะเลาะกัน เพราะเราเองก็รู้ว่าสถานะทางการเงินของเราสองคนเป็นยังไง แม่ขอให้เราส่งเงินให้ทุกเดือน แต่อยากให้เราเก็บตังค์มาเเต่งงาน มันไม่มีให้เก็บ จะให้ทำยังไง ทุกวันนี้เราแทบไม่อยากติดต่อกับทางบ้านเลย ไม่ใช่ว่าเรา ไม่เป็นห่วงหรือไม่รัก แต่ทุกครั้งที่คุยกัน เราจะเครียดแล้วร้องไห้ตลอด หรือเวลามีปัญหากับแฟนเราจะไม่กล้าคุยกับทางบ้าน มัน คุยกับใครไม่ได้ ก็อยากอยู่คนเดียวร้องไห้อยู่คนเดียว พอทะเลาะกับแม่เรื่องแฟน เรื่องแต่งงานแล้วก็ไม่กล้ามาบอกแฟน เพราะกลัวเขาเครียด แล้วเราจะทะเลาะกันไปอีก เวลามีปัญหาไม่สามารถคุยกับใครได้เลย และเรื่องอื่นที่มีปัญหาไม่ว่าจะเรื่องเงินเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เราอยากระบาย ให้ใครสักคนฟังเราอยากพูดให้แม่ฟังครอบครัวฟัง แต่แม่ก็ชอบ พูด ประมาณว่า กูเหนื่อยกว่าอีก ตอนกูวัยรุ่นกูลำบากกว่าอีก กูไม่มีใครช่วยเลยนู่นนี่นั่น คือเราแค่อยากได้คนรับฟัง แค่นั้นไม่ได้อยากให้มาช่วยอะไรเลย เเค่รับฟังหนูหน่อย คนทุกคนไม่ได้เข้มแข็งเหมือนกัน สภาพจิตใจไม่ได้เข้มแข็งเหมือนกัน เราคิดว่าเราเป็นซึมเศร้า ทุกครั้งที่เราเครียดเราจะกินข้าวไม่ได้นอนไม่หลับ ปวดหัวไมเกรน เรื่องความรัก พอเรารู้ว่าครอบครัวเราเป็นแบบนี้มันทำให้เราคิดมาตลอดว่า เราอาจจะไม่เหมาะสมกับใครเลย และไม่อยากดึงใครเข้ามาชีวิตอีกเลย เราคิดว่าเราอยากเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว สักวันหนึ่งเราคิดว่าเราจะท้อง แล้วอยู่กับลูกสองคน ไม่ต้องมีผู้ชายคนไหนเข้ามา แม่จะได้ไม่ต้องคาดหวังว่าจะต้องแต่งงานตอนไหนกับใคร เพราะไม่ต้องแต่งไปเลยก็คือจบ
ไม่ต้องมีใคร แต่เราก็ไม่อยากอยู่คนเดียว เราเลยคิดว่าการมีลูกมันจะทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้น ถึงสุดท้ายแล้วแฟน ไม่ได้อยู่กับเราก็ไม่เป็นไร เพราะเราก็เข้าใจเขา เขาดีกับครอบครัวเรามาโดยตลอดพ่อแม่เราป่วย เขาก็พากลับจากต่างจังหวัดกลับบ้าน ไปรักษาพ่อไปดูแลพ่อ ซึ่งโรคที่พ่อเราป่วย เราคิดเลยว่าถ้าคนที่รับไม่ได้ก็คือเลิกกันเลยนะตอนนั้น
มันยากที่จะมีคนรับได้ แล้วเราก็คิดว่าเราน่าจะได้กรรมพันธุ์มาจากพ่อโรคนี้ด้วย เขารู้เรื่องนี้แต่เขาก็ยังไม่ไปไหน ยังอยู่กับเรา ณตอนนี้เราต้องการแค่ทำงานหาเงินสร้างอนาคตและความสบายใจแค่นั้นส่วนเรื่องแต่งงานเราอยากให้มันมั่นคงมั่นใจและพร้อมกว่านี้ก่อน เราไม่สนหรอกว่าชาวบ้านจะมองยังไงเพราะสุดท้ายแล้ว คนที่เจอปัญหา ก็คือเราสองคน แม่เราห่วง ว่าชาวบ้านจะมองยังไง ชาวบ้านถาม ทำไมต้องแคร์คนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง เราอยากรู้แค่นั้น ทุกวันนี้ยังเหนื่อยกันไม่พอหรอ อยากให้เข้าใจเราบ้าง (ตอนนี้เรากับแฟนยังไม่เลิกกันนะคะ เราอายุ 23)
แม่อยากให้แต่งงาน แต่ยังไม่พร้อม
ถ้าถามว่าอยากแต่งไหมเราเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนอยากแต่งงาน แต่มันไม่อยากคาดหวัง เพราะกลัวผิดหวัง แล้วทุกครั้งที่แม่พูดแม่ถามเรื่องนี้มันทำให้เรา เครียด กดดัน แล้วร้องไห้ทุกครั้งแล้วก็ทะเลาะกันตลอด เราถามแม่กลับไปว่า จะให้เลิกกันไหม ถ้าเขาไม่มาแต่ง เราไม่สามารถไปบังคับให้ใครมาแต่งงานกับเราได้ ถ้าเขาอยากแต่ง เขาคงมาขอเอง หรือถ้าเขาพร้อม เขาคงถามเรื่องนี้กับเราเอง เราไม่สามารถคุยเรื่องนี้กับใครได้เลย ถ้าจะคุยกับแฟนเรื่องที่แม่ถาม ก็กลัวทะเลาะกัน เพราะเราเองก็รู้ว่าสถานะทางการเงินของเราสองคนเป็นยังไง แม่ขอให้เราส่งเงินให้ทุกเดือน แต่อยากให้เราเก็บตังค์มาเเต่งงาน มันไม่มีให้เก็บ จะให้ทำยังไง ทุกวันนี้เราแทบไม่อยากติดต่อกับทางบ้านเลย ไม่ใช่ว่าเรา ไม่เป็นห่วงหรือไม่รัก แต่ทุกครั้งที่คุยกัน เราจะเครียดแล้วร้องไห้ตลอด หรือเวลามีปัญหากับแฟนเราจะไม่กล้าคุยกับทางบ้าน มัน คุยกับใครไม่ได้ ก็อยากอยู่คนเดียวร้องไห้อยู่คนเดียว พอทะเลาะกับแม่เรื่องแฟน เรื่องแต่งงานแล้วก็ไม่กล้ามาบอกแฟน เพราะกลัวเขาเครียด แล้วเราจะทะเลาะกันไปอีก เวลามีปัญหาไม่สามารถคุยกับใครได้เลย และเรื่องอื่นที่มีปัญหาไม่ว่าจะเรื่องเงินเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เราอยากระบาย ให้ใครสักคนฟังเราอยากพูดให้แม่ฟังครอบครัวฟัง แต่แม่ก็ชอบ พูด ประมาณว่า กูเหนื่อยกว่าอีก ตอนกูวัยรุ่นกูลำบากกว่าอีก กูไม่มีใครช่วยเลยนู่นนี่นั่น คือเราแค่อยากได้คนรับฟัง แค่นั้นไม่ได้อยากให้มาช่วยอะไรเลย เเค่รับฟังหนูหน่อย คนทุกคนไม่ได้เข้มแข็งเหมือนกัน สภาพจิตใจไม่ได้เข้มแข็งเหมือนกัน เราคิดว่าเราเป็นซึมเศร้า ทุกครั้งที่เราเครียดเราจะกินข้าวไม่ได้นอนไม่หลับ ปวดหัวไมเกรน เรื่องความรัก พอเรารู้ว่าครอบครัวเราเป็นแบบนี้มันทำให้เราคิดมาตลอดว่า เราอาจจะไม่เหมาะสมกับใครเลย และไม่อยากดึงใครเข้ามาชีวิตอีกเลย เราคิดว่าเราอยากเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว สักวันหนึ่งเราคิดว่าเราจะท้อง แล้วอยู่กับลูกสองคน ไม่ต้องมีผู้ชายคนไหนเข้ามา แม่จะได้ไม่ต้องคาดหวังว่าจะต้องแต่งงานตอนไหนกับใคร เพราะไม่ต้องแต่งไปเลยก็คือจบ
ไม่ต้องมีใคร แต่เราก็ไม่อยากอยู่คนเดียว เราเลยคิดว่าการมีลูกมันจะทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้น ถึงสุดท้ายแล้วแฟน ไม่ได้อยู่กับเราก็ไม่เป็นไร เพราะเราก็เข้าใจเขา เขาดีกับครอบครัวเรามาโดยตลอดพ่อแม่เราป่วย เขาก็พากลับจากต่างจังหวัดกลับบ้าน ไปรักษาพ่อไปดูแลพ่อ ซึ่งโรคที่พ่อเราป่วย เราคิดเลยว่าถ้าคนที่รับไม่ได้ก็คือเลิกกันเลยนะตอนนั้น
มันยากที่จะมีคนรับได้ แล้วเราก็คิดว่าเราน่าจะได้กรรมพันธุ์มาจากพ่อโรคนี้ด้วย เขารู้เรื่องนี้แต่เขาก็ยังไม่ไปไหน ยังอยู่กับเรา ณตอนนี้เราต้องการแค่ทำงานหาเงินสร้างอนาคตและความสบายใจแค่นั้นส่วนเรื่องแต่งงานเราอยากให้มันมั่นคงมั่นใจและพร้อมกว่านี้ก่อน เราไม่สนหรอกว่าชาวบ้านจะมองยังไงเพราะสุดท้ายแล้ว คนที่เจอปัญหา ก็คือเราสองคน แม่เราห่วง ว่าชาวบ้านจะมองยังไง ชาวบ้านถาม ทำไมต้องแคร์คนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง เราอยากรู้แค่นั้น ทุกวันนี้ยังเหนื่อยกันไม่พอหรอ อยากให้เข้าใจเราบ้าง (ตอนนี้เรากับแฟนยังไม่เลิกกันนะคะ เราอายุ 23)