ลองนึกตาม ถ้าร่างกายนี้ตายลง คนทั้งโลกจะตายไปพร้อมกันเลยไหม? โลกนี้จะสลายไหม?

แปลกดี คนเรามองสัตว์ป่าเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เห็นฝูงกวาง เห็นเสือ ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์
แต่ทำไมไม่มองร่างกายและจิตใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติบ้าง?

"ลองนึกตาม ถ้าร่างกายนี้ตายลง คนทั้งโลกจะตายไปพร้อมกันเลยไหม? โลกนี้จะสลายไหม?"

ก็เห็นตัวอย่างจากญาติผู้ใหญ่ที่เสียไปหลายคนแล้วไม่ใช่เหรอ มนุษย์หนึ่งคนตาย โลกไม่ได้พังตามไปด้วย

มันก็มีอยู่เท่านี้ไม่ใช่เหรอ จะตามหาอะไรอีก ปล่อยใจให้สบาย ทิ้งทุกอย่างไว้ แล้วมองอย่างใจเป็นกลาง
"ถ้าร่างกายนี้ตายลง คนทั้งโลกจะตายไปพร้อมกันเลยไหม?" มองตามจริง อย่ามองผ่านสายตาของเราฝั่งเดียว
อย่ามองแค่ว่าตายแล้วก็จบกันไป เหมือนภาพตัด ดำมืด มองไม่เห็น คิดไม่ได้ นั่นเป็นการมองผ่านสายตาเราฝั่งเดียว
ลองมองจากสายตาคนอื่นบ้างสิ ตอนคุณเสียญาติผู้ใหญ่คุณมองอย่างไร คนทั้งโลกตายพร้อมเขาเลยไหม?

ใช่ไง มีเท่านี้เอง นี่ล่ะคือที่สุดในพุทธศาสนา เป็นเท่านี้เองที่ธรรมดามาก ธรรมดาจนคนยอมรับไม่ได้
มัวไปคิดถึงภาพตัด มัวไปคิดถึงความอาลัยจากชีวิต มัวไปคิดถึงชาติหน้า มัวไปคิดต่อยอดเกินจริงอยู่นั่น
เกลือกกลั้วสมมติมายาจนละเลยความจริงตรงหน้า คุณเห็นความจริงมาตลอดแต่คุณกลับทำเป็นไม่เห็น
คุณกลับไปสร้างการผูกมัดที่เกินกว่าความจริง แทนที่จะรู้สักว่ารู้ ตรงๆ รู้ซื่อๆ คุณกลับเอาสิ่งที่รู้ไปสร้างสมมติไม่จบสิ้น

มันไม่ง่ายที่จะคลายอนุสัยที่เป็นสันดานเบื้องลึก คุ้นชินกับอนุสัยจนเคยตัว คิดว่าอนุสัยคือส่วนหนึ่งของความจริง
อนุสัยนี่น่ากลัว กิเลสตัวอื่นยังพอรู้ง่าย โกรธ โลภ อิจฉา ขโมย ยังพอรู้ว่าไม่ดี แต่อนุสัยนี่ไม่รู้ตัวเลย เนียนมาก
ขนาดสอนธรรมตรงๆ ยังไม่ยอมเชื่อ จะเอาให้ได้ว่าอนุสัยคือความจริง ต่อต้านทุกอย่างที่ไม่ตรงกับอนุสัย


ผมไม่ว่างสอบภูมิธรรมแต่ละคนหรอก คุณลองเอาไปทวนเป็นการบ้านเอาเอง

"ลองนึกตาม ถ้าร่างกายนี้ตายลง คนทั้งโลกจะตายไปพร้อมกันเลยไหม? โลกนี้จะสลายไหม?"

นึกตามครั้งเดียวไม่ค่อยเห็นผล ติดอนุสัยแน่นเกินไป ปล่อยใจไม่มากพอ หรือปล่อยใจมากเกินจนเลื่อนลอย
ผู้ปฏิบัติมักไม่รู้สึกตัวว่าปล่อยใจเป็นกลางแล้วหรือยัง ไม่ตึงเกินไปก็หย่อนเกินไป ไม่ค่อยกลางจริงๆ เสียที
สาเหตุที่ปฏิบัตินานแต่ไม่สำเร็จสักทีเพราะเหตุนี้ล่ะ ไม่มี feedback ไม่รู้ตัว สุดท้ายก็ท้อใจไม่อยากปฏิบัติ
ต้องฝึกปล่อยใจเป็นกลาง ฝึกจนเริ่มรู้ว่าแบบไหนคือตึง แบบไหนคือหย่อน ถ้ามีอาจารย์ช่วยตรวจก็จะเร็วขึ้น

ฝึกทวนการบ้านนี้บ่อยๆ ทิ้งทิฏฐิไว้ ปล่อยใจเป็นกลาง มองซื่อๆ ตรงไปตรงมา อย่าต่อยอดเกินจากความจริง
ทวนแล้วทวนอีกจนวันหนึ่งที่ใจยอมปล่อยวางได้ เห็นร่างกายนี้จิตใจนี้เป็นธรรมชาติ เป็นของธรรมดา

ถ้าทำได้ถึงจุดนั้นจริง คุณจะรู้เองว่าอริยบุคคลมีจริง อย่างน้อยก็ตัวคุณเองแล้วหนึ่ง ขั้นต่ำโสดาบันแน่นอน
เบื้องปลายถ้าวางใจเป็นกลางได้สุดๆ ปล่อยวางทุกอย่าง วันนั้นล่ะที่คุณจะรู้ว่าโลกนี้ไม่พ้นจากอรหันต์
ท้าให้คุณลอง เชื่อว่ามีหลายคนพร้อมบรรลุธรรมในชาตินี้ แต่มัวหาข้ออ้างไม่ยอมบรรลุธรรมกันเอง

มีอีกกระทู้ที่ใช้เทคนิคพิจารณาธรรมคล้ายกระทู้นี้ นำไปพิจารณาควบคู่กันได้
"ชาติหน้า ก็เหมือนลูกนกบนหลังคา : คุณเป็นลูกนกตัวนั้นหรือไม่"
https://ppantip.com/topic/42252101
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่