ขอแตกประเด็นจากกระทู้
https://ppantip.com/topic/42851720
เห็นมีหลายคอมเมนท์ พยายามสื่อว่าอาชีพขายบริการเป็นอาชีพที่ไม่มีสิทธิ์เลือก ไม่ต้องใช้ความสามารถ นู่นนั่นนี่
อันนี้พูดไปก็เถียงกันไม่จบไม่สิ้น ผมไม่แตะแล้วกัน ต่างคนต่างความคิด ไม่อยากกินมาม่า
สื่อต่างๆของประเทศไทยพยายาม สร้างภาพว่าอาชีพขายบริการมันขมขื่น น่าขยะแขยงขนาดหนัก
ตอนเด็กๆ ผมจำได้ว่าเคยดูละคร "ทองพูนโคกโพธิ์ราษฎรเต็มขั้น" ที่พี่หนุ่ยอำพล ลำพูนแสดง (ดักแก่ไปหน่อย)
เป็นเรื่องราวของหนุ่มขับแท๊กซี่ ที่มีคนรักเป็นสาวขายบริการ ละครเรื่องนั้นทำเอาผมติดภาพความน่าอดสูของสตรีขายบริการมาจนถึงวันนี้เลย
แต่พอโตขึ้นมา ผมก็มีโอกาสได้ใช้บริการ ผู้ขายบริการทางเพศ กับเขาบ้างเหมือนกัน
แต่เป็น ผู้ชายขายบริการ นะครับ ส่วน สตรีขายบริการนี่ไม่เคยลอง เพราะผมเป็นเกย์ 5555
ผมจะลองแชร์ประสบการณ์ของตัวเองในฐานะ คน "เคย" ซื้อบริการให้ฟังดีกว่า
ว่าไอ้ที่พูดๆกันว่า อาชีพขายบริการมันหยั่งงู้นหยั่งงี้ เรื่องศักดิ์ศรีบลาๆๆ
ในมุมของคนที่ลงไปใช้บริการจริงๆมันเป็นยังไง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เอาแอคเคาท์จริงนี่แหละลง อย่าแบนนะว้อยยยย
ผมเป็นเริ่มใช้บริการหนุ่มขายบริการตั้งแต่ผมอายุ 20 กลางๆครับ ตอนนั้นมีความคิดว่า
"ความบริสุทธิ์ของชายหนุ่มมีวันหมดอายุ ถ้าจะรอมีเพศสัมพันธ์กับคนที่เรารัก อาจจะได้พกซิงไปฝากยมบาลก็ได้"
เป็นความคิดที่นึกย้อนกลับมา ยังอุบาทว์ตัวเองเลย 5555
ประเด็นที่1 :: ลูกค้าเป็นคนเลือกพนักงาน
ที่แรกที่ผมไปจำได้เลยว่าอยู่แถวอารีย์ เล็งทีนี่มาตั้งกะเรียนม.5 ม.6 ตั้งปฏิญาณว่าถ้าอายุ23ยังซิงจะมาฝึกวิทยายุทธ์ที่นี่แหละ
เข้าไปถึง มันจะเป็นเหมือน อัฒจันทร์ขนาดเล็ก คือมันเป็นขั้นบันไดอ่ะครับ แล้วก็มีพนักงานนั่งอยู่หลายสิบท่าน
พร้อมกับคนเชียร์แขกที่จะเข้ามาถามความต้องการของเรา
ก่อนจะแนะนำ "พนักงาน" ที่คิดว่าตรงกับความต้องการของเราที่สุดมาสัก 4-5 ท่านเพื่อที่จะให้เราเลือก
หลังจากเลือกก็นะ...ก็ตามนั้น
ต่อมาเมื่อแอพลิเคชั่น Line เริ่มเป็นที่นิยม รูปแบบร้านและการให้บริการมันก็เปลี่ยนไป ร้านนวดผุดเป็นดอกเห็ด
พนักงานเริ่มไม่ประจำหน้าร้านละ ร้านจะส่งภาพพนักงานมาให้ทางช่องทาง Line Official แทน ถ้าเราสนใจน้องคนไหนก็ทักร้านไป
สอบถาม "ความสามารถ" อะไรก็ได้เดี๋ยวนร้านก็จะสรรหาประโยคโอ้โลมปฏิโลมมาดึงให้เราไปจองใช้บริการ
สรุปประเด็นที่ 1
ชัดเจนว่า ลูกค้าเป็นคนเลือกพนักงาน
฿฿฿฿฿
ประเด็นที่ 2 :: พนักงานเลือกลูกค้า
ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ผมอยากจะสื่อเลยนะ ใครที่ไปดูสารคดี ดูละคร แล้วติดภาพว่าผู้ขายบริการจะต้องจำยอม ยอมจำนน กล้ำกลืนฝืนทำ
อันนี้ผมว่า คุณอินกับภาพที่สื่อยัดเยียดให้คุณมากไปหน่อย ขอเล่าในมุมที่ผมเจอแล้วกันนะครับ
ในขณะที่คุณกำลัง "ฮึกเฮิม" หลังจากได้เลือกพนักงาน แต่ถ้าพนักงานเขาเกิดไม่ถูกโฉลกกับคุณ
เขาจะเริ่มแจ้ง "ข้อจำกัด" กับคุณ เช่น พี่ครับผมไม่นั่นนะ พี่ครับผมไม่นี่นะ ซึ่งจุดนี้อ่ะ มันตีความเป็นสองนัยยะ
คือ
(1) พนักงานไม่ปรารถนาจะทำให้คุณจริงๆ เช่น คุณจะขอลองแนววิตถาร , ขอร่วมเพศทางประตูหลังกับชายแท้ , ขอให้ชายแท้ร่วมเพศทางประตูหลัง อันนี้เขาปฏิเสธคุณได้เลยนะ ผมเองก็เคยโดนมาอยู่บ้างเหมือนกัน ผมเคยโดนน้องคนนึงบอกว่า
"ถ้าพี่ต้องการแบบนั้น เดี๋ยวผมบอกร้านให้พี่หาเด็กคนใหม่แล้วกัน" เข้ เมิงไม่ง้อตรูสักหน่อยหรอวะ T T เราจะมีศัพท์ที่เราใช้ประจำในกลุ่มรีวิวร้านนวดว่า "ต่างกรรมต่างวาระ" คือ ถ้าน้องเขาคลิ้กกับคุณเขาอาจทำแทบถวายชีวิตก็ว่าได้ แต่พอคุณแนะนำเพื่อนให้ไปใช้บริการ เพื่อนคุณอาจจะเจอเนื้องานแบบ "อิหยังวะ" กลับมา น้องคนเดียวกันแต่เนื้องานต่างกันอย่างสิ้นเชิง อันนี้จะว่า เป็น "สิทธิ์" , เป็น "ความพอใจ" ของพนักงานที่จะเลือกทำหรือไม่ทำให้ลูกค้าก็ได้ เพราะฉะนั้นใครที่ติดภาพความคิดว่า "ขายตัว = ขายวิญญาณ" สำหรับพนักงานกลุ่มนี้ ผมเห็นต่างอยู่นะ
(2) พนักงานเล่นตัวเรียกราคา อันนี้เจอบ่อย เจอจนชิน เจอจนรู้สึก "หึหึ" คือจะเริ่มมาด้วยประโยคคล้ายๆกับแบบแรก "พี่ครับผมไม่นั่นนะ" "พี่ครับผมทำไม่ได้นะ" แต่จะพูดน้ำเสียงโทนอ่อน ดรอปลงมาสักสองเลเวลความขึงขัง คุณจะรู้ทันทีว่า เขากำลังเดินเกมส์ต่อรองกับคุณอยู่ เมื่อเจอพนักงานประเภทนี้ สิ่งที่คุณต้องมีคือ เงิน และความสามารถในการต่อรอง ผมจะเซ็งมากๆ ถ้าเจอ(ซึ่งเจอบ่อย)อะไรแบบนี้ และยิ่งถ้าเจอตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มนี่คือ เซ็งสุดอ่ะ พนักงานกลุ่มนี้
นี่แหละคือ "ขายตัว = ขายวิญญาณ" ของแท้ ทุกอย่างทำเพื่อเงินจริงๆ
ประเด็นพนักงานเลือกลูกค้ายังไม่จบนะ ผมเป็นคนที่ชอบขอคอนแทคพนักงานมาดีลส่วนตัว ส่วนใหญ่ผมจะขอไอจีกับไลน์
มีไม่น้อยเลยที่ "พนักงานทักมาก่อน" คือจะเจอบ่อยช่วงกลางเดือนถึงใกล้ๆเงินเดือนออก
คือถ้าน้องเขาคลิ้กกับคุณ น้องเขาทักมาของาน (ขอเงิน) เองเลย เราไม่ต้องวิ่งหาด้วยซ้ำ
เพราะฉะนั้น ใครที่มีภาพว่า
พนักงานขายบริการเลือกลูกค้าไม่ได้ โปรดคิดใหม่ บางทีคุณนั่นแหละคือคนที่ไม่ถูกเลือก เหิ้มมม
฿฿฿฿฿
ประเด็นที่ 3 :: ทำเพราะความจำเป็น หรือ ทำด้วยความเต็มใจ
อันนี้ผมกล้าพูดเลยว่า ร้อยละ 90 ทำเพราะเต็มใจ
โอเคแหละ ผมไม่ตัดสินว่า งานขายบริการมันเป็นงานยากหรืองานง่าย
ความยากง่ายในอาชีพ เราไม่ได้ลงไปทำเองก็ไม่รู้หรอก แต่ละคน แต่ละอาชีพมีมุมที่ต้องเผชิญต่างกัน
แต่สิ่งที่ผมมั่นใจในอาชีพนี้ คือ เป็นอาชีพที่ใช้เวลาน้อยแต่ผลตอบแทนงาม (แต่อายุงานสั้น) ถ้าขยันๆหน่อยนี่เดือนนึงได้หลายแสนอยู่
น้องเด็กนวดคนนึงเคยโพสต์ลง X ถึง สิ่งที่ได้มาและสิ่งที่เสียไปกับงานขายบริการ เสียดายหา thread นั้นไม่เจอละ
อย่างที่ผมเล่า ผมชอบขอไอจีเด็กขายบริการมาดีลเอง มันทำให้ผมได้เห็นไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของพวกเขา
เอาตรงๆนะ บางทีก็หมั่นไส้
หลายทีที่เห็นแล้วรู้สึกก็ "สมควร" ที่สังคมจะดูถูกและรุมประนาม
ความฟุ้งเฟ้อ , วัตถุนิยม , สังคมประดิษฐ์ คือไม่อยากจะเชื่อว่า คุณยอมเอาร่างกายเข้าแลกเพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุประโลมใจต่างๆ
สำหรับผมนะ ไอ้กลุ่ม 90% นี้เนี่ยแหละ ที่ "สมควรให้เขาด่า" มันเป็นกลุ่มคน "ขายตัว=ขายวิญญาณ" ที่แท้ทรู
ส่วนอีก 10% ที่ผมละไว้ว่าเป็นกลุ่มทำเพราะความจำเป็น ผมเพิ่งมาค้นพบช่วงโควิดนี่แหละครับ
มันมีจริงๆนะ คนที่เขามีภาระ หาเช้ากินค่ำ แล้วมาช้อต มาพังเพราะโควิด
ณ ช่วงที่โควิดมัน strike ผมเข้าใจว่าทุกคนถูกเซ็ตซีโร่กลับมาที่ศูนย์
แต่ในความเป็นจริงคือ มันมีคนที่ติดลบด้วยไง เขาไม่ได้อยู่แค่ศูนย์
น้องพนักงานกลุ่มนี้แหละ ที่ผมค่อนข้างเข้าใจ และไม่ค่อยเรียกร้อง "บริการ" อะไรจากเขามากนัก
เพราะอาจโดนส้นเท้ากระแทกหน้าเข้าให้ 5555 หยอกๆ
คือผมไม่อยากซ้ำเติมชีวิตพวกเขาให้มันแย่ไปกว่าที่เป็นอยู่ ผมมองว่าพวกเขาทำงานแบบมีศักดิ์ศรี มีลิมิตของตัวเอง
กล่าวคือ รู้ว่าตัวเอง "จมลงไปใต้น้ำ" ได้ในระดับไหน และจะไม่ถลำตัวลงไปลึกกว่านั้น
ปัจจุบัน น้องกลุ่ม 10%นี้แทบจะหายไปหมดละครับ เขาไปมีชีวิตที่สมบูรณ์ ปกติสุข ยืนหยัด ตั้งหลักกันได้ละ
ผลของโควิดมันควรจะจบไปได้แล้ว ที่เหลือในปัจจุบันมันคือการเลือกของคุณเองล้วนๆ
ที่ผมเล่า ผมเล่าในมุมที่ผมเจอนะ เป็นมุมของการใช้บริการผู้ชายป้ายเหลือง
ส่วนในธุรกิจขายบริการของสุภาพสตรี ผมไม่รู้ว่ามันเป็นแบบเดียวกันไหมนะ มันอาจแตกต่าง ช้ำเลือดช้ำหนองมากกว่า อันนี้ไม่รู้จริงๆ
เวลาพูดถึงคนขายบริการ ผมไม่อยากให้เรา "เหมาเข่ง" มองน้ำในคลองเป็นน้ำเน่าน้ำเสียทั้งหมด
อยากให้มองคนในฐานะที่เขาเป็นคนด้วยกันมากกว่า ส่วนจะดีจะชั่วใครทำอะไรก็รับกันไปเอง
เพราะพนักงานอีก10%มันคอยเตือนใจเตือนสติผมอยู่ว่า เพชร พลอย ทับทิม มรกต มันอาจกลิ้งตกลงไปในคลองก็ได้
ปัจจุบันนี้ ผมก็เลือกจะเลิกไปนวดมาได้เป็นปีแล้วเหมือนกัน รู้สึกว่ารับตัวเองไม่ได้ละ
เคยพิมพ์สารภาพบาปไว้อยู่
https://ppantip.com/topic/42841148
อย่าแบนเค้านะ
เล่าให้ฟัง :: อาชีพ [ช]ขายบริการ เป็นอาชีพที่เลือกไม่ได้จริงๆหรอ?
เห็นมีหลายคอมเมนท์ พยายามสื่อว่าอาชีพขายบริการเป็นอาชีพที่ไม่มีสิทธิ์เลือก ไม่ต้องใช้ความสามารถ นู่นนั่นนี่
อันนี้พูดไปก็เถียงกันไม่จบไม่สิ้น ผมไม่แตะแล้วกัน ต่างคนต่างความคิด ไม่อยากกินมาม่า
สื่อต่างๆของประเทศไทยพยายาม สร้างภาพว่าอาชีพขายบริการมันขมขื่น น่าขยะแขยงขนาดหนัก
ตอนเด็กๆ ผมจำได้ว่าเคยดูละคร "ทองพูนโคกโพธิ์ราษฎรเต็มขั้น" ที่พี่หนุ่ยอำพล ลำพูนแสดง (ดักแก่ไปหน่อย)
เป็นเรื่องราวของหนุ่มขับแท๊กซี่ ที่มีคนรักเป็นสาวขายบริการ ละครเรื่องนั้นทำเอาผมติดภาพความน่าอดสูของสตรีขายบริการมาจนถึงวันนี้เลย
แต่พอโตขึ้นมา ผมก็มีโอกาสได้ใช้บริการ ผู้ขายบริการทางเพศ กับเขาบ้างเหมือนกัน
แต่เป็น ผู้ชายขายบริการ นะครับ ส่วน สตรีขายบริการนี่ไม่เคยลอง เพราะผมเป็นเกย์ 5555
ผมจะลองแชร์ประสบการณ์ของตัวเองในฐานะ คน "เคย" ซื้อบริการให้ฟังดีกว่า
ว่าไอ้ที่พูดๆกันว่า อาชีพขายบริการมันหยั่งงู้นหยั่งงี้ เรื่องศักดิ์ศรีบลาๆๆ
ในมุมของคนที่ลงไปใช้บริการจริงๆมันเป็นยังไง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมเป็นเริ่มใช้บริการหนุ่มขายบริการตั้งแต่ผมอายุ 20 กลางๆครับ ตอนนั้นมีความคิดว่า
"ความบริสุทธิ์ของชายหนุ่มมีวันหมดอายุ ถ้าจะรอมีเพศสัมพันธ์กับคนที่เรารัก อาจจะได้พกซิงไปฝากยมบาลก็ได้"
เป็นความคิดที่นึกย้อนกลับมา ยังอุบาทว์ตัวเองเลย 5555
ประเด็นที่1 :: ลูกค้าเป็นคนเลือกพนักงาน
ที่แรกที่ผมไปจำได้เลยว่าอยู่แถวอารีย์ เล็งทีนี่มาตั้งกะเรียนม.5 ม.6 ตั้งปฏิญาณว่าถ้าอายุ23ยังซิงจะมาฝึกวิทยายุทธ์ที่นี่แหละ
เข้าไปถึง มันจะเป็นเหมือน อัฒจันทร์ขนาดเล็ก คือมันเป็นขั้นบันไดอ่ะครับ แล้วก็มีพนักงานนั่งอยู่หลายสิบท่าน
พร้อมกับคนเชียร์แขกที่จะเข้ามาถามความต้องการของเรา
ก่อนจะแนะนำ "พนักงาน" ที่คิดว่าตรงกับความต้องการของเราที่สุดมาสัก 4-5 ท่านเพื่อที่จะให้เราเลือก
หลังจากเลือกก็นะ...ก็ตามนั้น
ต่อมาเมื่อแอพลิเคชั่น Line เริ่มเป็นที่นิยม รูปแบบร้านและการให้บริการมันก็เปลี่ยนไป ร้านนวดผุดเป็นดอกเห็ด
พนักงานเริ่มไม่ประจำหน้าร้านละ ร้านจะส่งภาพพนักงานมาให้ทางช่องทาง Line Official แทน ถ้าเราสนใจน้องคนไหนก็ทักร้านไป
สอบถาม "ความสามารถ" อะไรก็ได้เดี๋ยวนร้านก็จะสรรหาประโยคโอ้โลมปฏิโลมมาดึงให้เราไปจองใช้บริการ
สรุปประเด็นที่ 1 ชัดเจนว่า ลูกค้าเป็นคนเลือกพนักงาน
฿฿฿฿฿
ประเด็นที่ 2 :: พนักงานเลือกลูกค้า
ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ผมอยากจะสื่อเลยนะ ใครที่ไปดูสารคดี ดูละคร แล้วติดภาพว่าผู้ขายบริการจะต้องจำยอม ยอมจำนน กล้ำกลืนฝืนทำ
อันนี้ผมว่า คุณอินกับภาพที่สื่อยัดเยียดให้คุณมากไปหน่อย ขอเล่าในมุมที่ผมเจอแล้วกันนะครับ
ในขณะที่คุณกำลัง "ฮึกเฮิม" หลังจากได้เลือกพนักงาน แต่ถ้าพนักงานเขาเกิดไม่ถูกโฉลกกับคุณ
เขาจะเริ่มแจ้ง "ข้อจำกัด" กับคุณ เช่น พี่ครับผมไม่นั่นนะ พี่ครับผมไม่นี่นะ ซึ่งจุดนี้อ่ะ มันตีความเป็นสองนัยยะ
คือ
(1) พนักงานไม่ปรารถนาจะทำให้คุณจริงๆ เช่น คุณจะขอลองแนววิตถาร , ขอร่วมเพศทางประตูหลังกับชายแท้ , ขอให้ชายแท้ร่วมเพศทางประตูหลัง อันนี้เขาปฏิเสธคุณได้เลยนะ ผมเองก็เคยโดนมาอยู่บ้างเหมือนกัน ผมเคยโดนน้องคนนึงบอกว่า "ถ้าพี่ต้องการแบบนั้น เดี๋ยวผมบอกร้านให้พี่หาเด็กคนใหม่แล้วกัน" เข้ เมิงไม่ง้อตรูสักหน่อยหรอวะ T T เราจะมีศัพท์ที่เราใช้ประจำในกลุ่มรีวิวร้านนวดว่า "ต่างกรรมต่างวาระ" คือ ถ้าน้องเขาคลิ้กกับคุณเขาอาจทำแทบถวายชีวิตก็ว่าได้ แต่พอคุณแนะนำเพื่อนให้ไปใช้บริการ เพื่อนคุณอาจจะเจอเนื้องานแบบ "อิหยังวะ" กลับมา น้องคนเดียวกันแต่เนื้องานต่างกันอย่างสิ้นเชิง อันนี้จะว่า เป็น "สิทธิ์" , เป็น "ความพอใจ" ของพนักงานที่จะเลือกทำหรือไม่ทำให้ลูกค้าก็ได้ เพราะฉะนั้นใครที่ติดภาพความคิดว่า "ขายตัว = ขายวิญญาณ" สำหรับพนักงานกลุ่มนี้ ผมเห็นต่างอยู่นะ
(2) พนักงานเล่นตัวเรียกราคา อันนี้เจอบ่อย เจอจนชิน เจอจนรู้สึก "หึหึ" คือจะเริ่มมาด้วยประโยคคล้ายๆกับแบบแรก "พี่ครับผมไม่นั่นนะ" "พี่ครับผมทำไม่ได้นะ" แต่จะพูดน้ำเสียงโทนอ่อน ดรอปลงมาสักสองเลเวลความขึงขัง คุณจะรู้ทันทีว่า เขากำลังเดินเกมส์ต่อรองกับคุณอยู่ เมื่อเจอพนักงานประเภทนี้ สิ่งที่คุณต้องมีคือ เงิน และความสามารถในการต่อรอง ผมจะเซ็งมากๆ ถ้าเจอ(ซึ่งเจอบ่อย)อะไรแบบนี้ และยิ่งถ้าเจอตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มนี่คือ เซ็งสุดอ่ะ พนักงานกลุ่มนี้ นี่แหละคือ "ขายตัว = ขายวิญญาณ" ของแท้ ทุกอย่างทำเพื่อเงินจริงๆ
ประเด็นพนักงานเลือกลูกค้ายังไม่จบนะ ผมเป็นคนที่ชอบขอคอนแทคพนักงานมาดีลส่วนตัว ส่วนใหญ่ผมจะขอไอจีกับไลน์
มีไม่น้อยเลยที่ "พนักงานทักมาก่อน" คือจะเจอบ่อยช่วงกลางเดือนถึงใกล้ๆเงินเดือนออก
คือถ้าน้องเขาคลิ้กกับคุณ น้องเขาทักมาของาน (ขอเงิน) เองเลย เราไม่ต้องวิ่งหาด้วยซ้ำ
เพราะฉะนั้น ใครที่มีภาพว่า พนักงานขายบริการเลือกลูกค้าไม่ได้ โปรดคิดใหม่ บางทีคุณนั่นแหละคือคนที่ไม่ถูกเลือก เหิ้มมม
฿฿฿฿฿
ประเด็นที่ 3 :: ทำเพราะความจำเป็น หรือ ทำด้วยความเต็มใจ
อันนี้ผมกล้าพูดเลยว่า ร้อยละ 90 ทำเพราะเต็มใจ
โอเคแหละ ผมไม่ตัดสินว่า งานขายบริการมันเป็นงานยากหรืองานง่าย
ความยากง่ายในอาชีพ เราไม่ได้ลงไปทำเองก็ไม่รู้หรอก แต่ละคน แต่ละอาชีพมีมุมที่ต้องเผชิญต่างกัน
แต่สิ่งที่ผมมั่นใจในอาชีพนี้ คือ เป็นอาชีพที่ใช้เวลาน้อยแต่ผลตอบแทนงาม (แต่อายุงานสั้น) ถ้าขยันๆหน่อยนี่เดือนนึงได้หลายแสนอยู่
น้องเด็กนวดคนนึงเคยโพสต์ลง X ถึง สิ่งที่ได้มาและสิ่งที่เสียไปกับงานขายบริการ เสียดายหา thread นั้นไม่เจอละ
อย่างที่ผมเล่า ผมชอบขอไอจีเด็กขายบริการมาดีลเอง มันทำให้ผมได้เห็นไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของพวกเขา
เอาตรงๆนะ บางทีก็หมั่นไส้
หลายทีที่เห็นแล้วรู้สึกก็ "สมควร" ที่สังคมจะดูถูกและรุมประนามความฟุ้งเฟ้อ , วัตถุนิยม , สังคมประดิษฐ์ คือไม่อยากจะเชื่อว่า คุณยอมเอาร่างกายเข้าแลกเพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุประโลมใจต่างๆ
สำหรับผมนะ ไอ้กลุ่ม 90% นี้เนี่ยแหละ ที่ "สมควรให้เขาด่า" มันเป็นกลุ่มคน "ขายตัว=ขายวิญญาณ" ที่แท้ทรู
ส่วนอีก 10% ที่ผมละไว้ว่าเป็นกลุ่มทำเพราะความจำเป็น ผมเพิ่งมาค้นพบช่วงโควิดนี่แหละครับ
มันมีจริงๆนะ คนที่เขามีภาระ หาเช้ากินค่ำ แล้วมาช้อต มาพังเพราะโควิด
ณ ช่วงที่โควิดมัน strike ผมเข้าใจว่าทุกคนถูกเซ็ตซีโร่กลับมาที่ศูนย์
แต่ในความเป็นจริงคือ มันมีคนที่ติดลบด้วยไง เขาไม่ได้อยู่แค่ศูนย์
น้องพนักงานกลุ่มนี้แหละ ที่ผมค่อนข้างเข้าใจ และไม่ค่อยเรียกร้อง "บริการ" อะไรจากเขามากนัก
เพราะอาจโดนส้นเท้ากระแทกหน้าเข้าให้ 5555 หยอกๆคือผมไม่อยากซ้ำเติมชีวิตพวกเขาให้มันแย่ไปกว่าที่เป็นอยู่ ผมมองว่าพวกเขาทำงานแบบมีศักดิ์ศรี มีลิมิตของตัวเอง
กล่าวคือ รู้ว่าตัวเอง "จมลงไปใต้น้ำ" ได้ในระดับไหน และจะไม่ถลำตัวลงไปลึกกว่านั้น
ปัจจุบัน น้องกลุ่ม 10%นี้แทบจะหายไปหมดละครับ เขาไปมีชีวิตที่สมบูรณ์ ปกติสุข ยืนหยัด ตั้งหลักกันได้ละ
ผลของโควิดมันควรจะจบไปได้แล้ว ที่เหลือในปัจจุบันมันคือการเลือกของคุณเองล้วนๆ
ที่ผมเล่า ผมเล่าในมุมที่ผมเจอนะ เป็นมุมของการใช้บริการผู้ชายป้ายเหลือง
ส่วนในธุรกิจขายบริการของสุภาพสตรี ผมไม่รู้ว่ามันเป็นแบบเดียวกันไหมนะ มันอาจแตกต่าง ช้ำเลือดช้ำหนองมากกว่า อันนี้ไม่รู้จริงๆ
เวลาพูดถึงคนขายบริการ ผมไม่อยากให้เรา "เหมาเข่ง" มองน้ำในคลองเป็นน้ำเน่าน้ำเสียทั้งหมด
อยากให้มองคนในฐานะที่เขาเป็นคนด้วยกันมากกว่า ส่วนจะดีจะชั่วใครทำอะไรก็รับกันไปเอง
เพราะพนักงานอีก10%มันคอยเตือนใจเตือนสติผมอยู่ว่า เพชร พลอย ทับทิม มรกต มันอาจกลิ้งตกลงไปในคลองก็ได้
ปัจจุบันนี้ ผมก็เลือกจะเลิกไปนวดมาได้เป็นปีแล้วเหมือนกัน รู้สึกว่ารับตัวเองไม่ได้ละ
เคยพิมพ์สารภาพบาปไว้อยู่ https://ppantip.com/topic/42841148
อย่าแบนเค้านะ