4/10 สปอยล์+รีวิว ยูเรนัส2324 หนังไทยที่ไปไกลไม่ถึงฝั่งฝัน เป็นได้แค่เพียงขยะอวกาศอีกชิ้นเท่านั้น




วันนี้ผมมาแปลกหน่อยนะครับเพราะย้ายมาเขียนในพันทิปแทนเนื่องจากผมเล็งเห็นมาสักพักหนึ่งแล้วว่าคนในพันทิปนั้นค่อนข้างที่จะมีความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์อยู่พอสมควรเลยดังนั้นพวกเขาอาจจะเข้าใจได้มากกว่าก็เป็นได้

แต่ยังไงทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็ขอเตือนไว้ก่อนเลยนะครับว่าผมเข้าไปดูมาเพียงแค่รอบเดียวเท่านั้นดังนั้นเนื้อหาบางส่วนอาจจะขาดเกินหรือไม่สมบูรณ์ก็เป็นได้

เอาล่ะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

สปอยล์

ณ ที่แห่งหนึ่งในจังหวัดพังงามีผู้หญิง 2 คนชื่อ แคท และ ลิน ซึ่งทั้งคู่เป็นแฟนกันโดยแคทมีความฝันว่าอยากจะเป็นนักดํานํ้าส่วนลินอยากจะเป็นนักบินอวากาศ

วันหนึ่งทั้งคู่ก็ทําความฝันของตัวเองได้สําเร็จแต่ทว่าความฝันนั้นมันก็ทําให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกัน

วันหนึ่งในขณะที่แคทกําลังดํานํ้าอยู่นั้นเธอก็ได้หมดสติไปจนเมื่อเธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเธอก็ได้พบว่าตัวเธอกําลังอยู่ในโลกคู่ขนานซึ่งเธอกับลินนั้นไม่ได้เป็นแฟนกัน

แคทจึงใช้เวลาอยู่นานหลายวันในการตามจีบลินจนสําเร็จและได้กลับมาเป็นแฟนกันอีกครั้งทว่าวันหนึ่งลินก็ถูกคลื่นสึนามิพัดจนตายหายไปกับสายนํ้าแคททนรับความเจ็บปวดนี้ไม่ไหวจึงได้ตรอมใจตายตามไปด้วย

แคทตื่นขึ้นมาอีกครั้งในโลกหลักและพบว่าเวลาเพิ่งผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงเท่านั้นเธอจึงฉงนงุนงงและสงสัยพร้อมกับพยายามคิดทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่คิดเท่าไหร่เธอก็คิดถึงแต่ลิน

แคทตัดสินใจกระโดดลงไปในนํ้าจนหมดสติอีกครั้งทําให้เธอตื่นขึ้นมาในโลกคู่ขนานอีกเช่นเคยแต่คราวนี้เป็นโลกคู่ขนานในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งฝ่ายอักษะชนะสงครามและฝ่ายเสรีไทยใช้ปืนวอลเตอร์ต่อสู้กับทหารญี่ปุ่น

ในโลกนี้แคทเป็นทหารของเครือจักรภพซึ่งกําลังถูกไล่ยิงโดยทหารญี่ปุ่นโชคดีที่เธอถูกลินซึ่งเป็นฝ่ายเสรีไทยช่วยไว้ได้ทัน

แคทตัดสินใจบอกความจริงทุกอย่างกับลินว่าเธอนั้นมาจากโลกคู่ขนานและต้องการให้ลินอยู่กับเธอตลอดไปแต่ไม่ทันไรเธอก็ถูกทหารญี่ปุ่นยิงตายอีกครั้ง

ในขณะเดียวกันยานอวกาศของลินในโลกหลักก็เกิดความเสียหายขึ้นทําให้เธอต้องออกไปนอกยานเพื่อซ่อมมันแต่อยู่ๆก็มีสะเก็ดของดาวหางพุ่งมาชนเธอและเฉือนท่ออากาศจนขาด

ในขณะที่ลินกําลังอยู่ในสภาพใกล้ตายเธอก็รู้สึกได้ถึงการมีอยู่ของพหุภพจํานวนมากมายมหาศาลเหลือคณานับ

ซึ่งจิตใจของแคทที่ออกมาจากโลกคู่ขนานและกําลังกลับสู่โลกหลักนั้นก็ได้บังเอิญมาพบเจอกับลินในพื้นที่ว่างระหว่างเวลาและอวกาศพอดีทําให้ทั้งคู่ได้พบกันอีกครั้ง

ลินบอกว่าแคทก็เปรียบเสมือนดาวหางที่กําลังแล่นมาหาเธอที่เป็นดาวมฤตยูแต่ในทุกๆครั้งดาวหางนั้นก็จะถูกดวงอาทิตย์เผาไหม้ไปเสียก่อนก็เหมือนกับแคทที่ไม่ว่าจะพยายามรั้งลินไว้มากสักเท่าไหร่ก็ต้องมีเหตุให้ต้องจากลากันทุกครั้งไปอยู่ดี

ถึงแม้ที่ๆแคทไปจะเป็นโลกใบใหม่แต่สิ่งที่มันมอบให้กับเธอนั้นกลับไม่ใช่อะไรที่ใหม่ขึ้นเลยมันเป็นเพียงสิ่งที่เธอมีอยู่แล้วแต่ไม่เคยเห็นค่าจนวันหนึ่งเมื่อเธอสูญเสียมันไปเธอกลับเอาแต่ถวิลหาสิ่งที่ไร้ค่าเหล่านั้น

แคทเริ่มเข้าใจทุกๆสิ่งจนเมื่อจิตใจของแคทกลับเข้าร่างในโลกปกติลินก็กลับมาหาแคทที่โลกและทั้งคู่ก็ย้ายไปอยู่ที่อเมริกาและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่นั่น

ถึงแม้แคทจะรู้ว่ามันไม่มีอะไรที่คงอยู่ยั่งยืนตลอดไปแต่อนาคตในวันพรุ่งนี้จะเป็นเช่นไรตอนนี้เธอก็คงจะไม่สนใจขอเพียงแค่ได้อยู่กับลินอย่างมีความสุขในวันนี้ก็เป็นพอ

จบบริบูรณ์

รีวิว

จริงแล้วๆหนังเรื่องนี้มันยังมีรายละเอียดที่ยิบย่อยเยอะแยะเพิ่มเติมมากกว่านี้อีกนะครับแต่เนื้อหาหลักจริงๆมันก็มีแค่ที่ผมย่อไปให้เท่านั้นแหละซึ่งก็ไม่น่าเชื่อเลยว่าเนื้อหาแค่นี้จะสามารนํามาสร้างเป็นหนังที่มีความยาวได้ถึงประมาณ 3 ชั่วโมงกันเลยทีเดียวเชียว

แต่สําหรับผมนั้นดูแล้วรู้สึกไม่ค่อยสนุกและไม่ค่อยเข้าใจอะไรเท่าไหร่เลยส่วนหนึ่งก็เพราะความคาดหวังของผมเองด้วยแหละที่คิดว่ามันจะมีฉากไซไฟสนุกๆเยอะกว่านี้แต่นอกจากเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับยานอวกาศและโลกคู่ขนานแล้วผมก็ไม่เห็นถึงความไซไฟหรือสาระใดๆอื่นเลย

อีกทั้งดาวมฤตยูที่ถูกตั้งเป็นชื่อของเรื่องพอเข้าไปดูจริงๆแล้วกลับไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของมันเลยแม้แต่น้อยและชื่อของมันก็ถูกเอ่ยเพียงไม่ถึง 10 ครั้งเท่านั้นส่วนเลข 2324 ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเลยนอกจากการส่งเสริมให้ชื่อหนังดูมีความเท่มากขึ้น

บางคนอาจบอกว่าก็เพราะมันเป็นหนังรักในธีมอวกาศไงจริงๆจะหนังอะไรผมก็ดูได้หมดนะแต่นี่ไม่รู้รักกันไม่พอหรืออะไรผมอินกับตัวละครนะแต่ไม่อินกับบทมันดูทําอะไรเป็นอมนุษย์ไปหมดผมว่านั่งดูเด็กจีบกันในเรื่องแฟนฉันยังสนุกกว่าอีก

ส่วนที่ผมขัดใจมากที่สุดก็คงจะเป็นประมาณ 25% ของหนังทั้งเรื่องพูดด้วยภาษาอังกฤษซึ่งผมไม่ชอบเลยเพราะขี้เกียจแปลขี้เกียจอ่านซัพฟังแล้วรู้สึกกระแดะส่วนเดียวที่ผมชอบเกี่ยวกับการพูดภาษาอังกฤษคือตอนที่ตัวละครพูดว่า THREE แล้วดันออกเสียงว่า ตรี-ตะรี หรือ สรี-สะรี

นอกจากนี้บทที่ว่าแย่แล้วแต่เรื่องของการตัดต่อนี่สิที่แย่กว่าไม่ว่าจะเป็นการดําเนินเรื่องที่ช้าบ้างเร็วบ้างความต่อเนื่องของฉากที่เหมือนตัดต่อผิดการตัดฉากสลับไปมาแบบงงๆโดยไม่อธิบายอะไรใดๆทั้งสิ้น

ทั้งหมดนี้มันดูเหมือนไม่ตั้งใจทําราวกับว่าจ้างคนที่ไหนก็ไม่รู้ซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้มาก่อนมาตัดต่อหนังมาเขียนบทมากํากับผมยังงงอยู่เลยว่าตอนถ่ายเสร็จเขาได้ดูหนังของตัวเองบ้างไหมแล้วเขากล้าเอามาฉายได้ยังไง

โดยรวมแล้วถึงแม้จะตะแคงข้างดูมันก็ยังเป็นหนังที่ห่วยแตกอยู่ดีและมันก็จะยังคงห่วยแตกอยู่อย่างงี้ต่อไปจนวันยังคํ่าถ้าคนทําหนังยังไม่เริ่มที่จะปรับเปลี่ยนความคิดเสียที

แต่ถ้าคุณเป็นสายวายที่ชื่นชอบในความงงงวยและวิทยาศาสตร์แค่พอตัวแต่ไม่ได้ชื่นชอบเป็นชีวิตจิตใจหรือแค่อยากมาหลับในโรงหนังเฉยๆเพราะถูกยามเขาไล่ออกจากที่นอนชั่วคราวมาผมก็มั่นใจได้เลยว่าคุณจะต้องชอบหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน

แต่ถ้าไม่ใช่ผมก็แนะนําว่าอย่าไปดูเลยจะดีกว่าเพราะหนังหลายๆเรื่องถึงแม้จะมีไอเดียที่ดีสักแค่ไหนแต่ถ้าไม่ตั้งใจทําไอเดียนั้นก็จะเป็นได้เพียงแค่ขยะราคาแพงชิ้นโตขยะที่ต่อให้ทุ่มทุนสร้างไปมากขนาดไหนก็ยังคงไร้ค่า

เป็นขยะที่ราคาแพงสุดแสนแต่กลับไม่มีค่าใดๆทําได้แค่เพียงรอวันที่สายลมแห่งกาลเวลาจะพัดพาให้เลือนหายไปจากความทรงจําของผู้คนที่ผิดหวังเท่านั้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่