ตามชื่อกระทู้เลยนะ เรารู้สึกสงสารเด็กน้อยๆ สมัยนี้มาก น้องๆ ต้องโดนกดดันหลายอย่างมากเลยพอน้องเริ่มต้องเรียน ป.1 ต่อไปชั้นอื่นๆ อย่างจริงจัง
เราชอบน้องๆ ตอนอนุบาลมากสุดแล้วมันดูน้องๆ เป็นตัวเองได้เล่น ได้สนุกสนาน แต่หลังจากนั้นน้องๆ ต้องเจอสังคมต้องฝึกฝนการเรียน ยิ่งถ้าน้องได้เรียนที่ดีๆ หน่อย น้องจะมีการเปรียบเทียบอยากได้ อยากมีเหมือนเพื่อนๆ แล้ว ถ้าพ่อแม่มีตังค์มากมาย มันไม่เป็นไรเลยที่พวกเขาจะสรรหาให้ลูกๆ ได้ แต่บางครอบครัวไม่ได้มีเงินที่จะตามกระแสนั้นได้ก็ได้ต้องอธิบายให้น้องเข้าใจว่ามันไม่ได้ดั่งใจไปหมดทุกอย่าง น้องก็แอบน้อยใจ
เด็กเก่งว่าดี เด็กเล่นเยอะก็ว่าไม่มีอนาคต
ใครจะไปรู้ว่าเด็กที่เรียนเก่งเค้าเครียดแค่ไหน โดนกดดันแค่ไหน
บางคนยิ่งต้นทุนหัวสมองไม่ดีหรือปานกลางก็ต้องแข่งขันตามมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ! กะเค้า
เราก็เคยอยู่ในระบบแบบนี้ ตั้งใจเรียนวิทย์แทบตายสุดท้ายชอบภาษา
บางทีมองตาน้อง ดวงตาน้องมีแต่ความเศร้า ความสดใสมันได้หายไปแล้ว
ไม่รู้น้องเก็บอะไรไว้บ้าง
เครียดการเรียน สังคม อยากได้อยากมีเหมือนเพื่อนๆ รึป่าว ก็ต้องเรียกคุย
เราแค่รู้สึกว่าน้องๆ สมัยนี้โดนกดดันสู้มากกกก ต้องสอบเข้านู้นนี้ให้ได้นะ
ต้องเรียนพิเศษนะ บางทีน้องก็อยากเล่นบ้าง เพราะการเรียนในห้อง
ก็หนักอยู่แล้ว
ย้ำ! ว่าหนักมาก
เรามีความรู้สึกว่าน้องที่แบกทุกอย่างไว้ตอนปฐม มันเหมือนตอนเราแบกตอนม.ปลายเลยอ่ะ
แค่เรามองย้อนกลับไปแล้วมาเทียบกับน้องตอนนี้คือสงสารน้องมากกกก
เราเห็นเด็ก Gen Z ที่เริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ระยะต้น น้องแต่ละคือบางคนก็แบกทุกอย่างยันชีวิตทุกวันนี้
อารมณ์แบบให้ฉันมีชีวิตรอดแต่ละวันก็พอแล้ว ไม่ต้องมีหนี้สิน ไม่ต้องมีรถ บ้าน อะไรมากหรอก
ขอเอาปากท้องให้รอดก่อน น้องกลายเป็น แลดูลำบากกว่าเราสมัยก่อนเยอะมาก
ด้วยสังคม ยุคสมัย เศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป เด็กรุ่นใหม่เติบโตไปพร้อมกับความกดดันและความคาดหวัง
ที่หักล้างกันกับเงินที่มีอยู่ในกระเป๋าหรือ Skill อย่างสิ้นเชิง
ย้อนกลับมาเด็กๆ ของเรา น้องๆ ต้องมีอนาคตที่สดใสนะ พ่อแม่หลายคนที่มีกำลังก็คง
ไม่ส่งลูกเข้า รร. วัดหรอกใช่มั้ย อย่างน้องโรงเรียนประจำจังหวัดต้องได้ ห้องคิง
ห้อง EP ห้องแอร์ เรียนภาษาเพิ่ม เรียนพิเศษ เรียนอินเตอร์ บลาๆ มันต้องแข่งขันกันไง
ไม่งั้นลูกฉันก็ไม่เริศ ก็สอบเข้าที่ไหนไม่ได้
สงสารนะที่บางทีตัวเด็กเองก็ไม่ได้อยากได้แบบนี้หรอก แต่น้องก็ไม่ได้รู้ว่าตัวเองชอบอะไร
ตั้งแต่เด็ก อะไรที่พ่อแม่ว่าดี หนูก็ว่าดี
เฮ้ออออออออออ..
ไหนๆ หนูก็เกิดมาแล้ว พ่อแม่ก็ต้องรับผิดชอบกันต่อไป และอย่าลืมคุยกับลูกแบบ Deep talking ด้วยล่ะ
เพราะโรคซึมเศร้ามันก็สามารถสะสมกันได้ตั้งแต่เด็กนั้นแหล่ะรู้ยัง?
แต่ก็มีนะพ่อแม่ที่ไม่ซีเรียสอะไรกะลูกเลย และลูกไม่เสียคนเลย
ก็ขอชื่นชมที่เลี้ยงเค้าได้ดี
ส่วนคนที่ไม่พร้อมกับการรับผิดชอบอันใหญ่หลวงนี้ ก็อย่ามีลูกเลย
มันมีความสุขกว่ากันเยอะ
#มีลูกเมื่อพร้อมไม่เกินจริง
เรารู้สึกสงสารเด็กๆ สมัยนี้มาก
เราชอบน้องๆ ตอนอนุบาลมากสุดแล้วมันดูน้องๆ เป็นตัวเองได้เล่น ได้สนุกสนาน แต่หลังจากนั้นน้องๆ ต้องเจอสังคมต้องฝึกฝนการเรียน ยิ่งถ้าน้องได้เรียนที่ดีๆ หน่อย น้องจะมีการเปรียบเทียบอยากได้ อยากมีเหมือนเพื่อนๆ แล้ว ถ้าพ่อแม่มีตังค์มากมาย มันไม่เป็นไรเลยที่พวกเขาจะสรรหาให้ลูกๆ ได้ แต่บางครอบครัวไม่ได้มีเงินที่จะตามกระแสนั้นได้ก็ได้ต้องอธิบายให้น้องเข้าใจว่ามันไม่ได้ดั่งใจไปหมดทุกอย่าง น้องก็แอบน้อยใจ
เด็กเก่งว่าดี เด็กเล่นเยอะก็ว่าไม่มีอนาคต
ใครจะไปรู้ว่าเด็กที่เรียนเก่งเค้าเครียดแค่ไหน โดนกดดันแค่ไหน
บางคนยิ่งต้นทุนหัวสมองไม่ดีหรือปานกลางก็ต้องแข่งขันตามมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ! กะเค้า
เราก็เคยอยู่ในระบบแบบนี้ ตั้งใจเรียนวิทย์แทบตายสุดท้ายชอบภาษา
บางทีมองตาน้อง ดวงตาน้องมีแต่ความเศร้า ความสดใสมันได้หายไปแล้ว
ไม่รู้น้องเก็บอะไรไว้บ้าง
เครียดการเรียน สังคม อยากได้อยากมีเหมือนเพื่อนๆ รึป่าว ก็ต้องเรียกคุย
เราแค่รู้สึกว่าน้องๆ สมัยนี้โดนกดดันสู้มากกกก ต้องสอบเข้านู้นนี้ให้ได้นะ
ต้องเรียนพิเศษนะ บางทีน้องก็อยากเล่นบ้าง เพราะการเรียนในห้องก็หนักอยู่แล้ว
ย้ำ! ว่าหนักมาก
เรามีความรู้สึกว่าน้องที่แบกทุกอย่างไว้ตอนปฐม มันเหมือนตอนเราแบกตอนม.ปลายเลยอ่ะ
แค่เรามองย้อนกลับไปแล้วมาเทียบกับน้องตอนนี้คือสงสารน้องมากกกก
เราเห็นเด็ก Gen Z ที่เริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ระยะต้น น้องแต่ละคือบางคนก็แบกทุกอย่างยันชีวิตทุกวันนี้
อารมณ์แบบให้ฉันมีชีวิตรอดแต่ละวันก็พอแล้ว ไม่ต้องมีหนี้สิน ไม่ต้องมีรถ บ้าน อะไรมากหรอก
ขอเอาปากท้องให้รอดก่อน น้องกลายเป็น แลดูลำบากกว่าเราสมัยก่อนเยอะมาก
ด้วยสังคม ยุคสมัย เศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป เด็กรุ่นใหม่เติบโตไปพร้อมกับความกดดันและความคาดหวัง
ที่หักล้างกันกับเงินที่มีอยู่ในกระเป๋าหรือ Skill อย่างสิ้นเชิง
ย้อนกลับมาเด็กๆ ของเรา น้องๆ ต้องมีอนาคตที่สดใสนะ พ่อแม่หลายคนที่มีกำลังก็คง
ไม่ส่งลูกเข้า รร. วัดหรอกใช่มั้ย อย่างน้องโรงเรียนประจำจังหวัดต้องได้ ห้องคิง
ห้อง EP ห้องแอร์ เรียนภาษาเพิ่ม เรียนพิเศษ เรียนอินเตอร์ บลาๆ มันต้องแข่งขันกันไง
ไม่งั้นลูกฉันก็ไม่เริศ ก็สอบเข้าที่ไหนไม่ได้
สงสารนะที่บางทีตัวเด็กเองก็ไม่ได้อยากได้แบบนี้หรอก แต่น้องก็ไม่ได้รู้ว่าตัวเองชอบอะไร
ตั้งแต่เด็ก อะไรที่พ่อแม่ว่าดี หนูก็ว่าดี
เฮ้ออออออออออ..
ไหนๆ หนูก็เกิดมาแล้ว พ่อแม่ก็ต้องรับผิดชอบกันต่อไป และอย่าลืมคุยกับลูกแบบ Deep talking ด้วยล่ะ
เพราะโรคซึมเศร้ามันก็สามารถสะสมกันได้ตั้งแต่เด็กนั้นแหล่ะรู้ยัง?
แต่ก็มีนะพ่อแม่ที่ไม่ซีเรียสอะไรกะลูกเลย และลูกไม่เสียคนเลย
ก็ขอชื่นชมที่เลี้ยงเค้าได้ดี
ส่วนคนที่ไม่พร้อมกับการรับผิดชอบอันใหญ่หลวงนี้ ก็อย่ามีลูกเลย
มันมีความสุขกว่ากันเยอะ
#มีลูกเมื่อพร้อมไม่เกินจริง