เงินไม่ใช่ทุกอย่าง: ความจริงที่คนจน (อาจจะ) ไม่มีวันเข้าใจ…

สวัสดีครับทุกคน.. ขอเปิดประเด็นด้วยคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจครับ “เงินไม่ใช่ทุกอย่าง” ใช่ครับ ฟังดูเหมือนคำพูดของคนรวยที่ไม่มีอะไรทำมากไปกว่าอวดความสุข (หรือความไม่มีความสุข) ของตัวเอง แต่… ความจริงมันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ครับ แต่จะให้คนที่ยังอยู่ใน survival mode เข้าใจ? ก็ไม่ง่ายเลย

ลองมองในมุมนี้นะครับ คนรวยเค้าไม่ได้บอกว่าเงินไม่สำคัญ แค่บอกว่าเงินไม่ใช่ทุกอย่าง ถ้าคุณยังต้องกังวลเรื่องค่ากิน ค่าเช่า ค่าไฟ มันยากที่จะเห็นภาพใหญ่ ยากที่จะเข้าใจว่าจริง ๆ แล้ว ความสุขที่แท้จริงมันมาจากอะไร

เมื่อคุณมีเงินแล้ว คุณจะเข้าใจว่า เงินมันแค่ช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลกับปัญหาพื้นฐาน แต่มันไม่ได้ทำให้คุณมีความสุขโดยอัตโนมัติ คุณจะเริ่มมองหาความหมายของชีวิต มองหาความสุขที่ไม่ใช่จากการบริโภคหรือความสะดวกสบายทางวัตถุ

ลองนึกภาพตามนะครับ คุณตื่นขึ้นมาในตอนเช้า มีเงินในบัญชีมากมาย ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายรายวัน คุณสามารถเลือกทานอาหารเช้าที่ไหนก็ได้ อยากไปเที่ยวไหนก็ได้ ไม่ต้องรอวันหยุดยาว แต่ความสุขจากสิ่งเหล่านี้มันอยู่ได้ไม่นาน ความตื่นเต้นจากการซื้อของใหม่ หรือการไปเที่ยวใหม่ ๆ มันจะหมดไปในที่สุด

คนที่ยังอยู่ใน survival mode อาจจะคิดว่า “ถ้าฉันมีเงิน ฉันจะมีความสุข” แต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นครับ ผมเข้าใจว่าคนที่ต้องกังวลเรื่องค่าครองชีพอาจจะคิดว่าเงินคือทุกอย่าง เพราะมันสามารถทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นฐานของชีวิต แต่เมื่อคุณมีเงินมากพอที่จะไม่ต้องกังวลเรื่องนี้แล้ว คุณจะเริ่มมองหาสิ่งอื่นที่เติมเต็มชีวิตมากกว่าแค่เงิน

ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเป็นสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ ลองนึกถึงเวลาที่คุณมีเพื่อนที่ดี ที่คุณสามารถพูดคุยและแบ่งปันความรู้สึกได้ หรือมีครอบครัวที่เข้าใจและสนับสนุนคุณ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เงินไม่สามารถซื้อได้ ไม่ว่าจะรวยแค่ไหนก็ตาม

อีกตัวอย่างหนึ่งคือ สุขภาพครับ คุณสามารถมีเงินซื้ออาหารดี ๆ หรือการรักษาพยาบาลที่ดีที่สุดได้ แต่ถ้าคุณไม่ดูแลตัวเอง ไม่ออกกำลังกาย ไม่รักษาสุขภาพจิต คุณก็ไม่สามารถมีความสุขได้อย่างแท้จริง สุขภาพที่ดีเป็นสิ่งที่คุณต้องลงทุนด้วยเวลาและความพยายาม ไม่ใช่เงิน

การมีเป้าหมายในชีวิตก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ลองคิดดูครับ ถ้าคุณตื่นขึ้นมาในทุก ๆ วันโดยไม่มีเป้าหมาย ไม่มีอะไรที่ต้องทำ คุณจะรู้สึกยังไง? คุณอาจจะรู้สึกเบื่อ หมดกำลังใจ การมีเป้าหมายทำให้เรามีความหมายในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่รัก การพัฒนาตัวเอง หรือการช่วยเหลือผู้อื่น

สุดท้ายนี้ การรู้จักพอเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คนรวยที่มีความสุขจริง ๆ มักจะเป็นคนที่รู้จักพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น และสามารถชื่นชมความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ รอบตัวได้ การไล่ล่าความสุขจากการมีเงินมากขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้คุณไม่มีวันพอใจและไม่มีวันมีความสุขอย่างแท้จริง

สรุปแล้ว เงินไม่ใช่ทุกอย่างครับ ความสุขที่แท้จริงมาจากการมีความสัมพันธ์ที่ดี สุขภาพที่แข็งแรง การมีเป้าหมายในชีวิต และการรู้จักพอ ผมหวังว่าทุกคนจะเข้าใจและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในระดับไหนของชีวิตก็ตาม

ปล. ใครมีความคิดเห็นหรือประสบการณ์ยังไง มาแชร์กันได้นะครับ เพราะเรื่องแบบนี้พูดกันแค่ครั้งเดียวอาจจะไม่เข้าใจจริง ๆ อมยิ้ม01
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 77
เห็นด้วยแบบที่จขกท.ว่ามาค่ะ มันก็คือ Maslow's Hierarchy of Needs

ตราบใดที่ความต้องการพื้นฐาน 2 ชั้นล่างยังไม่ถูกเติมเต็ม มันก็ยังไปไม่ถึงพีระมิดชั้นบนๆ ซึ่งเงินก็เป็นปัจจัยที่เราใช้เพื่อให้เกิดชั้นล่างๆ ของพีระมิด เพราะงั้นก็ไม่แปลกถ้าบางคนจะคิดว่าเงินซื้อความสุขได้ เพราะเขายังอยู่ในช่วงที่ยังต้องการสิ่งที่ต้องใช้เงิน

ส่วนคนที่เลยจุดนั้นมาแล้ว ก็ต้องการในสิ่งที่เงินหาซื้อไม่ได้ ก็เลยบอกว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้

ในเมื่อมองจากคนละจุดกัน ก็ย่อมเห็นไม่เหมือนกัน เถียงกันไปก็ไม่จบ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ผมโชคดีที่ตอนเด็ก ได้ประสบการณ์ การอยู่บ้านนอก ที่ไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา
แต่สามารถมีความสุขได้
ดังนั้น ผมจึงแสวงหาความสุขได้ทุกวันในสถานที่ที่มีทั้งไฟฟ้า ประปา ไวไฟ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่