โรคต้อกระจกเกิดจากเลนส์ตาของเรามีความเสื่อมตามอายุที่เพิ่มขึ้นของเราค่ะ จากเดิมที่เลนส์มีความใส เมื่อมีความเสื่อมของเลนส์เพิ่มขึ้นเลนส์จะมีความขุ่นมัวขึ้น ภาพที่เห็นจะไม่คมชัดและไม่ใสเหมือนกับเมื่อก่อน ตาจะเริ่มมัวเหมือนมีฝ้าหรือเป็นหมอกมาบังการมองเห็นของเราค่ะ
ต้อกระจกมีทั้งหมดกี่ระยะ?
ถ้าเปรียบง่ายๆ จะมีทั้งหมด 3 ระยะค่ะ ได้แก่
1. ระยะเริ่มต้น
2. ระยะปานกลาง
3. และระยะสูงสุด (เป็นค่อนข้างเยอะแล้ว)
ระยะเริ่มต้น
คนส่วนใหญ่มักจะไม่รู้ตัว โดยเราจะไม่มีอาการและเราจะไม่รู้สึกเลยว่าเราเป็นต้อกระจก ส่วนใหญ่จะได้รับการตรวจเจอแบบโดยบังเอิญจากการไปพบคุณหมอจักษุแพทย์ตรวจสุขภาพตาประจำปีค่ะ ซึ่งเป็นต้อกระจก 10 - 20% ภาพที่เห็นจะยังคงเห็นเป็นภาพปกติอยู่ จะยังไม่มีอาการมองเห็นภาพขุ่นมัว
ระยะปานกลาง
ระยะนี้เราจะเริ่มมีอาการในการมองเห็นเริ่มขึ้นแล้วค่ะ ระยะนี้เราจะเริ่มรู้สึกว่ามีอาการมองเห็นภาพเป็นภาพขุ่นมัวหรือเป็นภาพหมอก หรือฝ้าเกิดขึ้น ซึ่งเป็นต้อกระจกประมาณ 20 - 50 %
หากเป็นต้อกระจกมากขึ้นเรื่อยๆ แม้เราจะตัดแว่นสายตาใส่แล้ว ก็จะไม่สามารถที่จะกลับมามองเห็นภาพคมชัดได้ 100% ค่ะ เนื่องจากเกิดสาเหตุจากเลนส์ตามีความเสื่อมและขุ่นมัวมากขึ้น ไม่ว่าเราจะตัดแว่นยังไงภาพก็จะไม่คมชัดเหมือนปกติหรือเหมือนเมื่อก่อนได้ค่ะ การมองเห็นจะเริ่มมัวขึ้นเรื่อยๆ แต่ระยะนี้อาจจะใส่แว่นช่วยได้อยู่
ระยะสูงสุด
ระยะนี้เราจะมีอาการมองเห็นภาพขุ่นมัวและเป็นหมอกมาบังการมองเห็นของเราแล้ว ซึ่งเป็นต้อกระจกประมาณ 50% ขึ้นไปจะกระทบการใช้ชีวิต และกระทบการมองเห็นของเรา
เราควรผ่าตัดต้อกระจกตอนไหน?
โดยปกติแล้วคนที่เป็นต้อกระจก 10 ถึง 40% จะยังไม่ต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนต้อกระจกค่ะ แต่เราจะแนะนำให้ใส่แว่นสายตาช่วยไปก่อน เมื่อไหร่ก็ตามที่ต้อกระจก 50% ขึ้นไปถึงจะต้องได้รับการผ่าตัดต้อกระจกช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่จักษุแพทย์จะเริ่มแนะนำเราในการผ่าตัดต้อกระจก เพราะเป็นช่วงที่จะได้รับการผ่าตัดง่ายต่อการเปลี่ยนเลนส์ตาค่ะ ส่วนใหญ่คนจะมักนิยมผ่าตัดต้อกระจกในช่วง 50% ขึ้นไปค่ะ
แล้วถ้าเราปล่อยทิ้งไว้ไม่ผ่าตัดต้อกระจกจะเกิดอะไรขึ้น?
1. จะส่งผลทำให้การผ่าตัดต้อกระจกนั้นยากมากขึ้นกว่าเดิม
2. ส่งผลทำให้การมองเห็นแย่ลง บางคนถึงขั้นตาบอด (แต่รักษาได้) การใช้ชีวิตแย่ลง
ดังนั้นหากเราถึงเวลาที่จะต้องผ่าตัดต้อกระจกแล้ว แนะนำให้ผ่าตัดต้อกระจกไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นานนะคะ
ต้อกระจกเกิดจากอะไร มีกี่ระยะ แล้วเราควรผ่าตัดต้องจบที่ระยะไหน?
ต้อกระจกมีทั้งหมดกี่ระยะ?
ถ้าเปรียบง่ายๆ จะมีทั้งหมด 3 ระยะค่ะ ได้แก่
1. ระยะเริ่มต้น
2. ระยะปานกลาง
3. และระยะสูงสุด (เป็นค่อนข้างเยอะแล้ว)
ระยะเริ่มต้น
คนส่วนใหญ่มักจะไม่รู้ตัว โดยเราจะไม่มีอาการและเราจะไม่รู้สึกเลยว่าเราเป็นต้อกระจก ส่วนใหญ่จะได้รับการตรวจเจอแบบโดยบังเอิญจากการไปพบคุณหมอจักษุแพทย์ตรวจสุขภาพตาประจำปีค่ะ ซึ่งเป็นต้อกระจก 10 - 20% ภาพที่เห็นจะยังคงเห็นเป็นภาพปกติอยู่ จะยังไม่มีอาการมองเห็นภาพขุ่นมัว
ระยะปานกลาง
ระยะนี้เราจะเริ่มมีอาการในการมองเห็นเริ่มขึ้นแล้วค่ะ ระยะนี้เราจะเริ่มรู้สึกว่ามีอาการมองเห็นภาพเป็นภาพขุ่นมัวหรือเป็นภาพหมอก หรือฝ้าเกิดขึ้น ซึ่งเป็นต้อกระจกประมาณ 20 - 50 %
หากเป็นต้อกระจกมากขึ้นเรื่อยๆ แม้เราจะตัดแว่นสายตาใส่แล้ว ก็จะไม่สามารถที่จะกลับมามองเห็นภาพคมชัดได้ 100% ค่ะ เนื่องจากเกิดสาเหตุจากเลนส์ตามีความเสื่อมและขุ่นมัวมากขึ้น ไม่ว่าเราจะตัดแว่นยังไงภาพก็จะไม่คมชัดเหมือนปกติหรือเหมือนเมื่อก่อนได้ค่ะ การมองเห็นจะเริ่มมัวขึ้นเรื่อยๆ แต่ระยะนี้อาจจะใส่แว่นช่วยได้อยู่
ระยะสูงสุด
ระยะนี้เราจะมีอาการมองเห็นภาพขุ่นมัวและเป็นหมอกมาบังการมองเห็นของเราแล้ว ซึ่งเป็นต้อกระจกประมาณ 50% ขึ้นไปจะกระทบการใช้ชีวิต และกระทบการมองเห็นของเรา
เราควรผ่าตัดต้อกระจกตอนไหน?
โดยปกติแล้วคนที่เป็นต้อกระจก 10 ถึง 40% จะยังไม่ต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนต้อกระจกค่ะ แต่เราจะแนะนำให้ใส่แว่นสายตาช่วยไปก่อน เมื่อไหร่ก็ตามที่ต้อกระจก 50% ขึ้นไปถึงจะต้องได้รับการผ่าตัดต้อกระจกช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่จักษุแพทย์จะเริ่มแนะนำเราในการผ่าตัดต้อกระจก เพราะเป็นช่วงที่จะได้รับการผ่าตัดง่ายต่อการเปลี่ยนเลนส์ตาค่ะ ส่วนใหญ่คนจะมักนิยมผ่าตัดต้อกระจกในช่วง 50% ขึ้นไปค่ะ
แล้วถ้าเราปล่อยทิ้งไว้ไม่ผ่าตัดต้อกระจกจะเกิดอะไรขึ้น?
1. จะส่งผลทำให้การผ่าตัดต้อกระจกนั้นยากมากขึ้นกว่าเดิม
2. ส่งผลทำให้การมองเห็นแย่ลง บางคนถึงขั้นตาบอด (แต่รักษาได้) การใช้ชีวิตแย่ลง
ดังนั้นหากเราถึงเวลาที่จะต้องผ่าตัดต้อกระจกแล้ว แนะนำให้ผ่าตัดต้อกระจกไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นานนะคะ