เรื่อง:
เลเซอร์ สลายต้อกระจก
บทคัดย่อ:
การสลายต้อกระจกด้วยเลเซอร์นั้น เป็นนวัตกรรมการสลายต้อกระจกแบบใหม่ และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาต้อกระจกด้วย ศ.นพ.สบง ศรีวรรณบูรณ์ ภาควิชาจักษุวิทยา เล่าว่า ต้อกระจกเป็นโรคที่พบได้บ่อย สาเหตุเกิดจากความเสื่อมของเลนส์ตา แต่ก็อาจเกิดจากโรคทางตาอื่น ๆ เช่น ม่านตาอักเสบ ตาติดเชื้อ การได้รับอุบัติเหตุทางตา และการใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์
โดยเลนส์ตาปกติทั่วไปจะใสและนิ่ม แต่เมื่อคนเราอายุมากขึ้น มีการใช้สายตามากหรืออาจมีสาเหตุอื่น เช่น ผู้ที่เป็นเบาหวาน มีผลทำให้เลนส์ตาแข็งขึ้นและขุ่นมากขึ้น ทำให้แสงไม่สามารถผ่านเข้าไปในตา ประสิทธิภาพการมองเห็นจึงลดลง ซึ่งการรักษาต้อกระจกเริ่มตั้งแต่ การใส่แว่น การหยอดตา และถ้าไม่ดีขึ้นก็ต้องรักษาโดยการผ่าตัดนำเลนส์ตาที่ขุ่นออกแล้วใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปแทน
แต่ปัจจุบันการรักษาแบบใหม่ โดยนำแสงเลเซอร์มาช่วยสลายต้อกระจก จะช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำมากขึ้น โดยแสงเลเซอร์ที่นำมาใช้สลายต้อกระจก จะใช้ Femtosecond laser ทำหน้าที่แทนใบมีดในการเปิดแผลที่กระจกตาและเปิดถุงหุ้มเลนส์ตา ซึ่งแสงเลเซอร์สามารถกำหนดขนาดและรูปแบบที่ต้องการได้แม่นยำกว่าการใช้ใบมีดแบบเดิม และแผลยังมีความเรียบและสมานตัวได้ดีกว่า จากนั้นทำการสลายต้อกระจกด้วยแสงเลเซอร์ แล้วดูดเอาต้อกระจกที่สลายแล้วออก และทำการใส่เลนส์แก้วตาเทียมให้ผู้ป่วย หลังผ่าตัดการมองเห็นจะกลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยสามารถลุกขึ้นทำกิจกรรมเบาๆ ได้ โดยจะนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือไม่ก็ได้
หากแต่การรักษาด้วยเลเซอร์ ยังมีข้อจำกัดสำหรับผู้ป่วยที่กระจกตามีรอยแผลเป็น หรือสุกมากเกินไป หรือมีการอักเสบในตา เพราะแสงเลเซอร์จะยิงไม่ผ่าน อีกทั้งการผ่าตัดด้วยแสงเลเซอร์ยังมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
อย่างไรก็ดี การป้องกันความเสื่อมของเลนส์ตา เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม หากใช้สายตาติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรมีการจัดระยะการมองและต้องมีแสงสว่างที่เหมาะสม การทำงานที่อาจเกิดอุบัติเหตุกับดวงตา ควรสวมอุปกรณ์ ป้องกัน รวมถึงการใช้ยาหยอดตาทุกชนิด ต้องมั่นใจว่าจะไม่ก่อให้เกิดผลเสียกับดวงตา และผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปี ขึ้นไป ควรตรวจสุขภาพตาโดยจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
นอกจากนี้ควรดูแลถนอมดวงตา ซึ่งอาจช่วยชะลอการเกิดต้อกระจกได้ โดยรับประทานผักใบเขียว ผักหรือผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและมีวิตามินเอสูง เช่น ฟักทอง แครอท มะเขือเทศ มะละกอสุก กล้วย หรือรับประทานอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพสูง เช่น ปลา ตับสัตว์ นม และเนย งดสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์ สวมแว่นกันแดดเมื่ออยู่กลางแจ้ง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เหล่านี้มีส่วนช่วยให้ดวงตามีการมองเห็นที่เป็นปกติไปอีกนาน
ผู้สนใจสามารถขอรับคำแนะนำได้ที่ โทร.0 2419 8032, 0 2419 8037 และ 08 8949 3241 และดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.si.mahidol.ac.th/th/department/opthalmology/
ท่านสมาชิกชาวพันทิปท่านใด เรื่องเลเซอร์ต้อกระจก ที่ศิริราช ใช่เปล่าครับ เคยรักษาใช่เปล่าครับ
รายการ พบหมอศิริราช ตอน เลเซอร์สลายต้อกระจก
เรื่อง:
เลเซอร์ สลายต้อกระจก
บทคัดย่อ:
การสลายต้อกระจกด้วยเลเซอร์นั้น เป็นนวัตกรรมการสลายต้อกระจกแบบใหม่ และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาต้อกระจกด้วย ศ.นพ.สบง ศรีวรรณบูรณ์ ภาควิชาจักษุวิทยา เล่าว่า ต้อกระจกเป็นโรคที่พบได้บ่อย สาเหตุเกิดจากความเสื่อมของเลนส์ตา แต่ก็อาจเกิดจากโรคทางตาอื่น ๆ เช่น ม่านตาอักเสบ ตาติดเชื้อ การได้รับอุบัติเหตุทางตา และการใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์
โดยเลนส์ตาปกติทั่วไปจะใสและนิ่ม แต่เมื่อคนเราอายุมากขึ้น มีการใช้สายตามากหรืออาจมีสาเหตุอื่น เช่น ผู้ที่เป็นเบาหวาน มีผลทำให้เลนส์ตาแข็งขึ้นและขุ่นมากขึ้น ทำให้แสงไม่สามารถผ่านเข้าไปในตา ประสิทธิภาพการมองเห็นจึงลดลง ซึ่งการรักษาต้อกระจกเริ่มตั้งแต่ การใส่แว่น การหยอดตา และถ้าไม่ดีขึ้นก็ต้องรักษาโดยการผ่าตัดนำเลนส์ตาที่ขุ่นออกแล้วใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปแทน
แต่ปัจจุบันการรักษาแบบใหม่ โดยนำแสงเลเซอร์มาช่วยสลายต้อกระจก จะช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำมากขึ้น โดยแสงเลเซอร์ที่นำมาใช้สลายต้อกระจก จะใช้ Femtosecond laser ทำหน้าที่แทนใบมีดในการเปิดแผลที่กระจกตาและเปิดถุงหุ้มเลนส์ตา ซึ่งแสงเลเซอร์สามารถกำหนดขนาดและรูปแบบที่ต้องการได้แม่นยำกว่าการใช้ใบมีดแบบเดิม และแผลยังมีความเรียบและสมานตัวได้ดีกว่า จากนั้นทำการสลายต้อกระจกด้วยแสงเลเซอร์ แล้วดูดเอาต้อกระจกที่สลายแล้วออก และทำการใส่เลนส์แก้วตาเทียมให้ผู้ป่วย หลังผ่าตัดการมองเห็นจะกลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยสามารถลุกขึ้นทำกิจกรรมเบาๆ ได้ โดยจะนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือไม่ก็ได้
หากแต่การรักษาด้วยเลเซอร์ ยังมีข้อจำกัดสำหรับผู้ป่วยที่กระจกตามีรอยแผลเป็น หรือสุกมากเกินไป หรือมีการอักเสบในตา เพราะแสงเลเซอร์จะยิงไม่ผ่าน อีกทั้งการผ่าตัดด้วยแสงเลเซอร์ยังมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
อย่างไรก็ดี การป้องกันความเสื่อมของเลนส์ตา เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม หากใช้สายตาติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรมีการจัดระยะการมองและต้องมีแสงสว่างที่เหมาะสม การทำงานที่อาจเกิดอุบัติเหตุกับดวงตา ควรสวมอุปกรณ์ ป้องกัน รวมถึงการใช้ยาหยอดตาทุกชนิด ต้องมั่นใจว่าจะไม่ก่อให้เกิดผลเสียกับดวงตา และผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปี ขึ้นไป ควรตรวจสุขภาพตาโดยจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
นอกจากนี้ควรดูแลถนอมดวงตา ซึ่งอาจช่วยชะลอการเกิดต้อกระจกได้ โดยรับประทานผักใบเขียว ผักหรือผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและมีวิตามินเอสูง เช่น ฟักทอง แครอท มะเขือเทศ มะละกอสุก กล้วย หรือรับประทานอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพสูง เช่น ปลา ตับสัตว์ นม และเนย งดสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์ สวมแว่นกันแดดเมื่ออยู่กลางแจ้ง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เหล่านี้มีส่วนช่วยให้ดวงตามีการมองเห็นที่เป็นปกติไปอีกนาน
ผู้สนใจสามารถขอรับคำแนะนำได้ที่ โทร.0 2419 8032, 0 2419 8037 และ 08 8949 3241 และดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.si.mahidol.ac.th/th/department/opthalmology/
ท่านสมาชิกชาวพันทิปท่านใด เรื่องเลเซอร์ต้อกระจก ที่ศิริราช ใช่เปล่าครับ เคยรักษาใช่เปล่าครับ