******* จารุณี สุขสวัสดิ์: ราชินีจอเงินในดวงใจ *******


ในพันทิป กระทู้ที่เกี่ยวกับพี่เปิ้ลก็มีอยู่แล้ว เช่น
https://ppantip.com/topic/39194982
https://ppantip.com/topic/41084383
ตอนแรกผมก็ไม่อยากตั้งซ้ำ
แต่พอนึกถึงวันที่ได้เจอพี่เปิ้ล ได้นั่งคุยกัน
ก็อดไม่ได้ที่จะบันทึกเรื่องราวเหล่านี้ไว้ ขอนำภาพลงก่อนนะครับ

ภาพนี้ผมได้ถ่ายคู่กับพี่เปิ้ลนะครับ แต่ขอปกปิดตัวเองหน่อยนึง
วันนั้นเป็นวันที่ผมรู้สึกประทับใจมากๆเลยครับ เดี๋ยวจะค่อยๆเล่า

ก่อนเจอพี่เปิ้ลประมาณสองสัปดาห์ ผมได้เจอพี่จิ๊ก เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ ดังภาพ

เป็นภาพที่เฉือนตัวเองออกไปเช่นเคยครับ
วันที่เจอพี่จิ๊ก เนาวรัตน์ ผมก็นึกในใจว่า
นักแสดงหญิงไทยที่ผมชอบมากๆมีอยู่สองท่านคือ
พี่เปิ้ลกับพี่จิ๊ก วันนี้ได้เจอพี่จิ๊กแล้ว ก็ควรได้เจอพี่เปิ้ลด้วยสิ
หลังจากบ่นในใจ อีกประมาณสองสัปดาห์ ผมก็มีโอกาสได้เจอพี่เปิ้ล จารุณี

วันที่เจอพี่เปิ้ล ผมมาทำงานบางอย่างแล้วบังเอิญเจอ
ตอนนั้น มีน้องผู้หญิงกลุ่มใหญ่กำลังรุมล้อมพี่เปิ้ลอยู่
ผมเอง ซึ่งตัวใหญ่มาก ล่ำมากไม่กล้าโผเข้าไปในตอนนั้น
จึงยืนรอด้วยใจจดจ่อและคิดในใจว่าพี่เปิ้ลจะเห็นผมมั้ย

จนแฟนคลับกลุ่มใหญ่หายไปจนหมด 
พี่เปิ้ลหันมาเห็นหนุ่มล่ำรายหนึ่ง ตัวใหญ่มาก
กำลังยืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงนั้น พอเห็นพี่เปิ้ลหันมาแล้วยิ้มให้
ผมจึงเดินเข้าไปอีกสองก้าว พี่เปิ้ลจึงถามผมว่า
"ยืนรอพี่รึเปล่าคะ"
"ใช่ครับ ผมชื่นชอบพี่มานานแล้วครับ ตั้งแต่สวัสดีคุณครูเลย"
"อุ้ย ได้ดูทันด้วยเหรอ"
"ทันครับพี่ แล้วก็ชอบมาก"

ผมถามต่อว่า "หลังจากนั้นพี่เปิ้ลน่าจะเล่นอีกสองเรื่อง
ก่อนจะมาเล่นบ้านทรายทองใช่ไหมครับ"
"อืม ก็หลายเรื่องอยู่นะ มาช่วยกันนึกสิ"
"ผมจำได้สองเรื่องคือรักแล้วรอหน่อยกับครูขาหนูเหงา"
"จริงๆมีอีกนะ อืม เดี๋ยวเราไปหามุมดีๆคุยกันดีกว่านะ"

วันนั้นพี่เปิ้ลมีผู้ติดตามประมาณ 4-5 ท่าน
ฝั่งผม ผมก็มีผู้ติดตามประมาณ 2-3 คน 
แต่เหล่าผู้ติดตามปล่อยให้ผมกับพี่เปิ้ลคุยกันอย่างอิสระ
ไม่ได้มีใครมารบกวน 

ระหว่างเดินกันสองคน มันเหมือนฝันครับ
ตอนเด็กๆ ผมฝันว่าได้เดินคุยกับพี่เปิ้ลสองต่อสอง
และคิดอยู่เสมอว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย
แต่วันนี้มันเป็นไปแล้ว

ระหว่างเดินกันสองต่อสอง พี่เปิ้ลทักขึ้น
"มาเรื่องงานเหรอคะ"
คงเห็นผมใส่สูทผูกเนคไท ผมจึงเล่าเรื่องงานให้ฟัง
เล่าตามมารยาทโดยไม่ได้อวดอะไร
พี่เปิ้ลถามว่า "ทำงานแบบนี้ต้องจบปริญญาเอกแล้วมั้งคะ"
"ใช่ครับ" คือตอบแบบไม่คิดอวด แต่หลังจากนั้น
สิ่งที่คาดไม่ถึงคือพี่เปิ้ลเรียกผมว่า ดร.ทุกคำเลย
ผมดีใจมากที่ราชินีจอเงินให้เกียรติผมมากถึงขนาดนี้

พอเจอมุมดีๆ เราจึงมีโอกาสได้คุยกันต่อ
"บ้านทรายทองดังมากๆนะครับพี่เปิ้ล
พี่เปิ้ลก็เล่นดีมากๆด้วย"
"ดีใจค่ะที่ ดร.ชอบ"
"ตอนนั้นพี่เปิ้ลยังเด็กมากเลยนะครับ"
"น่าจะสัก 17 นะคือตอนนั้นเข้าวงการตอนเด็กมากๆ"
"พี่เปิ้ลทำให้ผมได้ดูบ้านทรายทอง เคยอ่านแต่นิยายครับ"

"หลังจากนั้นพี่เปิ้ลก็ดังมากๆเลยนะครับ"
"แต่กว่าจะรู้ว่าดังก็ต้องใช้เวลา
ที่รู้แน่ๆคือคิวงานแน่นขึ้นมากจนกินนอนไม่เป็นเวลา
ช่วงนั้นดาราต้องเก็บตัว ไม่ค่อยได้เจอใคร ทำแต่งาน"
"เพราะพี่เปิ้ลทำให้ผมได้ดูหนังดีๆอย่างปริศนา
เจ้าสาวของอานนท์และรัตนาวดี"
"น่าจะบุคลิกได้"
"พี่เปิ้ลเหมาะมากกับบทแบบนี้ครับ แต่พวกบทบู๊ก็เหมาะนะครับ
อย่างพวกพยัคฆ์ร้าย 191 ช่างเขาเถอะ อย่าดีกว่า"
"ดร.ก็ดูหนังของพี่แบบหนักมาก"
"ชอบครับ นิตยสารก็ซื้อเก็บไว้เยอะมาก
คือเป็นดาราหญิงที่ชอบมากที่สุดเลยครับ"
หลังจากนั้นก็จะเป็นการถามถึงสุขภาพ
อุบัติเหตุและอาการของโรคบางอย่างที่พี่เปิ้ลต้องเผชิญ

พอเห็นสมควรแก่เวลา ผมจึงพูดขึ้นก่อน
"รบกวนพี่เปิ้ลนานแล้วครับ คงเอาไว้แค่นี้ดีกว่า"
ที่ประทับใจมากคือพี่เปิ้ลให้เวลาผมนานมาก
และไม่พูดเลยว่าต้องรีบไป ผมจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นเองด้วยความเกรงใจ

ตอนนั้นตื่นเต้นจนลืมเรื่องขอถ่ายรูป เลขาฯผมจึงพูดว่า
"น่าจะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไว้หน่อยนะคะ"
นั่นทำให้ผมนึกได้

ถึงวันนี้ ผมก็ยังรู้สึกว่าวันนั้นเหมือนฝันครับ
เพราะมันเหมือนความฝันในวัยเด็ก
ฝันว่าได้คุยกับราชินีจอเงินอย่างพี่เปิ้ล จารุณี สุขสวัสดิ์.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่