เรื่องราว ชีวิต มรสุม ด้านมืด และปาฏิหาริย์ เรื่องราวชีวิตจริงที่ยิ่งกว่านิยายของจารุณี สุขสวัสดิ์

 จารุณี สุขสวัสดิ์ 


ขอขอบพระคุณภาพจาก
http://plejarunee.com/biography


"ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย"

หากเอื้อนเอ่ยถึงคำนี้ เรื่องราวชีวิตของดาราสาวผู้เป็นถึงอดีตราชินีหนังจอเงินอย่าง "คุณเปิ้ล จารุณี" ที่ผ่านเข้ามาในเส้นทางชีวิตของเธอคงจะสามารถอธิบายถึงคำนี้ได้เป็นอย่างดี

ชีวิตของเธอเริ่มจากการแทบไม่มีอะไรสู่ความมีชื่อเสียงมั่งคั่ง แต่ทว่าเปลือกนอกที่ดูเหมือนว่าเธอจะประสบความสำเร็จที่แท้แล้วกลับมีมุมมืดซ่อนเร้นอยู่ อุปสรรคและมรสุมมากมายถาโถมเข้าสู่เส้นทางสายชีวิตของเธอ จนแม้แต่เธอเองก็เคยคิดจะ "จบ" เส้นทางสายชีวิตอันโหดร้ายนี้ลง

หลากหลายเรื่องราวชีวิตที่เกิดขึ้นกับเธอคนนี้ช่างน่าเหลือเชื่อว่าจะมีคนเคยพบเคยประสบ เรื่องราวที่เราต่างคิดว่า "น้ำเน่า" คงมีเพียงแค่ในนิยายเท่านั้น แต่เรื่องราวเหล่านี้กลับได้เกิดขึ้นบนเส้นทางสายชีวิตของเธอ เธอผู้เป็นอดีตราชินีหนังจอเงินคนนี้



จารุณี สุขสวัสดิ์ เกิดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2505 ที่ประเทศไทย ชื่อเล่นว่า "เปิ้ล" เป็นลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส คุณแม่เป็นคนไทยชื่อว่า "ระเบียบ สุขสวัสดิ์" ชื่อเล่นว่า "แอ๊ว" ส่วนคุณพ่อเป็นชาวฝรั่งเศสชื่อว่า "แฟร์น็อง เดส์แน็ช" (Fernand Desneiges)

ชีวิตในช่วงวัยเด็กของคุณเปิ้ลไม่ได้อยู่กับคุณพ่อชาวฝรั่งเศส แต่อยู่กับคุณแม่ที่เมืองไทย เนื่องด้วยความยากจนของครอบครัวทำให้คุณแม่ได้ฝากฝังให้คนอื่นช่วยเลี้ยงเธอตั้งแต่เด็กๆ เพื่อที่ตนจะได้สามารถทำงานเพื่อหาเงินมาส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัวได้

เมื่อถึงช่วงที่คุณเปิ้ลต้องเข้าโรงเรียน เธอได้ย้ายเข้ามาอยู่บ้านเช่ากับญาติที่กรุงเทพ ชีวิตของเธอช่วงนี้ไม่ได้ดีนัก เพราะเธอมักถูกญาติกลั่นแกล้งอยู่เป็นประจำ มีบางครั้งที่เมื่อต้องไปโรงเรียน คุณเปิ้ลถูกญาติของตนทิ้ง จนเธอต้องเดินทางไปโรงเรียน ข้ามถนนเองในวัยเพียงแค่ 3 ขวบครึ่งเท่านั้น และด้วยการที่เธอไม่ได้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่ทำให้เธอมักถูกล้อเลียนว่า "ไอ้ลูกไม่มีพ่อ" หรือ "ไอ้ลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่"

อีกทั้งด้วยความที่เธอเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศส มีเชื้อสายของชาวฝั่งตะวันตกอยู่ในตัว ทำให้คุณเปิ้ลมีหน้าตาลักษณะออกไปทางฝรั่ง และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เธอถูกล้อเลียน มาแกล้งดึงผม เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ถูกเด็กผู้ชายกระโดดถีบจนตกบันไดลงมาสลบแต่เธอสู้เขมไม่ได้ เมื่อขึ้นชั้นป.5 เธอได้ลุกขึ้นสู้ชกพวกผู้ชายที่เคยกลั่นแกล้งเธอ

จากการที่เด็กผู้หญิงถูกรุมกลั่นแกล้งในช่วงแรกๆ เธอก็ร้องไห้เสียใจไปตามประสาเด็กผู้หญิง แต่เมื่อโดนมากๆ เข้าความอดทนย่อมมีขีดจำกัด คุณเปิ้ลได้ตอบโต้กลับไปจนทำให้ภายหลังเธอค่อนข้างจะเป็นผู้หญิงที่แก่นแก้ว เตะต่อยเก่ง แต่ลึกๆ เธอกลับอ่อนไหว โหยหาความรัก ความเข้าใจ และถูกชักจูงปกครองได้โดยง่าย ความฝันอันสูงสุดของเธอคือการเห็นครอบครัวสุขสบาย จนมีคนใช้จุดอ่อนนี้ของเธอในการหาประโยชน์ใส่ตน

ขอขอบพระคุณภาพจาก
http://plejarunee.com/biography


สิ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นให้คุณเปิ้ลเริ่มหางานทำ อันเนื่องมาจากการที่คุณเปิ้ลได้เห็นภาพที่คุณแม่กำลังตรากตรำทำงานในไร่มันสำปะหลังท่ามกลางแดดที่ร้อนจัด อีกทั้งน้องชายของเธอยังต้องนอนอยู่ท่ามกลางแดด ทำให้คุณเปิ้ลรู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยจุนเจือครอบครัว และช่วยเหลือตนเองให้ได้เรียนหนังสือต่อ เนื่องจากคุณแม่ไม่สามารถส่งเสียเธอให้ร่ำเรียนต่อได้

คุณเปิ้ลเริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 12 ปี โดยเริ่มงานแรกเป็นคนแบกปูนในช่วงปิดเทอม โชคดีที่คุณเปิ้ลมีคุณป้าทำงานเป็นช่างฉาบอยู่เลยสามารถช่วยฝากฝังเธอได้ แต่ก็จำเป็นที่จะต้องโกหกว่าตนนั้นอายุ 15 ปี เพราะหากบอกอายุจริงไปนายจ้างอาจจะไม่รับเธอทำงาน ดีที่เธอเป็นเด็กที่ตัวสูงใหญ่ ทำให้นายจ้างเชื่อว่าเธออายุ 15 ปีจริงๆ การทำงานครั้งนี้คุณเปิ้ลได้รับเงินเดือนมา 700 บาท

หลังจากทำงานแบกปูน คุณเปิ้ลได้ทำงานพิเศษต่างๆ อีกมากมาย โดยได้พยายามปรึกษารุ่นพี่ที่โรงเรียนของเธอที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยว่ามีงานพิเศษอะไรบ้าง จนมีคนแนะนำให้เธอลองไปทำงานที่สวนสนุกแฮปปี้แลนด์ ในเริ่มแรกทางสวนสนุกยังไม่ได้รับเธอเข้าทำงาน แต่พอเจอแรงตื๊อเธอมากๆ สุดท้ายเธอจึงได้เข้าทำงานเป็นพนักงานชั่วคราว เป็นทั้งคนขายตั๋ว คนยกโค้ก ฯลฯ สารพัดหน้าที่แล้วแต่ว่าวันนั้นจะขาดคนตรงหน้าที่ไหนบ้าง หรือแม้แต่กระทั่งการแต่งตัวเป็นเจ้าหญิงในขบวนพาเหรด เนื่องจากเจ้าของสวนสนุกได้มาเห็นแววของเธอ

ขอขอบพระคุณภาพจาก
http://topicstock.ppantip.com/chalermthai/topicstock/A3257618/A3257618.html


คุณจารุณีได้ทำงานพิเศษมากมาย จนวันนึงที่เธอได้พอกับประกาศ ประกาศที่จะทำให้เส้นทางสายชีวิตของเธอเปลี่ยนไป เส้นทางที่จะเป็นจุดเริ่มต้นให้เธอได้พานพบกับเรื่องราวมรสุมมากมาย หรือแม้แต่เรื่องราวที่เธอไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าสิ่งที่เธอวาดฝันไว้จะเป็นจริง

คุณจารุณีได้เจอกับประกาศรับสมัครนักแสดงหน้าใหม่ ผู้ชาย 5 คน ผู้หญิง 2 คน คนนึงเรียบร้อย คนนึงเตะต่อยเป็น ด้วยความคึกคะนองของวัยรุ่น คุณเปิ้ลและเพื่อนๆ จึงชักชวนกันไปสมัครโดยได้นำรูปถ่ายหมู่มาตัดแบ่งให้แต่ละคนแปะลงใบสมัครแล้วส่งใบสมัครไป หลังจากการส่งใบสมัครไม่มีใครติดต่อกลับมา คุณเปิ้ลจึงคิดว่าคงจะไม่ได้แล้ว แต่ก็ไม่ได้ผิดหวังอะไรมากเพราะเธอไม่ได้คาดหวังตรงนี้อยู่แล้ว หลังจากนั้นไม่กี่เดือนได้มีคนติดต่อมาหาเธอจนได้ อันที่จริงใบสมัครของเธอถูกทิ้งไปแล้ว แต่ได้มีคนหยิบใบสมัครเธอขึ้นมา โดยทางผู้ใหญ่ได้ให้คุณเปิ้ลพาผู้ปกครองไปด้วยเนื่องจากยังไม่บรรลุนิติภาวะ หลังจากรู้ว่าค่าตอบแทนจากการแสดงหนังเรื่องนี้สูงถึง 10,000 บาท ทำให้เธอตัดสินใจเล่นหนังเรื่องนี้โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย จนสุดท้ายเธอได้มีผลงานการแสดงเรื่องแรกเป็นภาพยนตร์เรื่อง "สวัสดีคุณครู" ในปี พ.ศ. 2520

การแสดงเรื่องแรกนี้เกือบทำให้คุณเปิ้ลถูกไล่ออกจากโรงเรียนเนื่องในยุคที่เธอเข้าวงการมาเรื่องที่นักเรียนจะเป็นนักแสดงหรือทำงานในวงการบันเทิงเป็นเรื่องที่มีความผิดอย่างรุนแรง ถึงขนาดที่ต้องถูกไล่ออก จนทางผู้ใหญ่ต้องเข้าไปคุยและให้ดูบทว่าไม่มีเนื้อเรื่องที่เสื่อมเสีย ทำให้คุณเปิ้ลรอดพ้นจากการถูกไล่ออก


ขอขอบพระคุณภาพจาก
https://www.pinterest.com/pin/408138784975835815/

หลังจากผลงานการแสดงเรื่องแรกคุณเปิ้ลได้มีผลงานการแสดงอีกเล็กน้อย จนในปี พ.ศ. 2523 คุณเปิ้ลได้สั่นสะเทือนวงการหนังไทยด้วยการรับบทเป็น "พจมาน สว่างวงศ์" สาวผู้ทรนงในศักดิ์ศรีของตนจากเรื่อง "บ้านทรายทอง" ในปี พ.ศ. 2523 ผลงานการแสดงเรื่องนี้ของเธอสร้างปรากฏการณ์ต่อวงการหนังไทยเป็นอย่างสูง เนื่องด้วยความนิยมที่เหลือล้นจากประชาชนที่พากันมาดูภาพยนตร์เรื่องนี้จนรายได้แตะ 10 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่น่าตกตะลึงอย่างยิ่งในยุคนั้น และชื่อ "จารุณี สุขสวัสดิ์" ได้ขึ้นแท่นเป็นนางเอกคิวทองไปโดยปริยาย



ขอขอบพระคุณภาพจากเพจ
Thai Movie Posters


ความนิยมของคุณเปิ้ลสูงมากในระดับที่ว่าหากมีชื่อเธออยู่ในหนังแล้วละก็ หนังเรื่องนั้นจะไม่มีวันขาดทุนอย่างแน่นอน ทำให้ผู้สร้างมากรายต่างต้องการนำเธอไปแสดงหนังของตนทั้นสิ้น อีกทั้งในยุคที่ยังไม่มี social แบบทุกวันนี้ ได้มีผู้คนที่ชื่นชอบคลั่งไคล้ในตัวคุณเปิ้ลรวมตัวกันสร้าง "ชมรมสุขสวัสดิ์" ขึ้นมาสำหรับคนที่ชื่นชอบในตัวของนักแสดงสาวคนนี้ หากเป็นยุคนี้คงเป็นเรื่องธรรมดาอย่างมากที่จะมีกลุ่มสำหรับคนที่ชื่นชอบดารานักแสดง แต่หากนึกย้อนว่าเป็นในยุค 30 กว่าปีก่อนที่ยังไม่มี social แบบทุกวันนี้ นับว่าเธอคนนี้โด่งดังและมีอิทธิพลต่อผู้คนแบบไร้เทียมทาน



ขอขอบพระคุณภาพจาก
http://topicstock.ppantip.com/chalermthai/topicstock/2010/08/A9567235/A9567235.html


แต่...

หลังจากที่คุณเปิ้ลเริ่มมีชื่อเสียง ได้มีผู้บริหารท่านนึงได้ชักชวนเธอให้มาอยู่กับตน แล้วจะส่งเสียเลี้ยงดูให้ได้ร่ำเรียนหนังสือ ด้วยที่คุณเปิ้ลขาดความรัก ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่แต่เด็ก ไม่มีเสาหลักที่มั่นคง ทำให้เธอสามารถถูกชักจูงหรือผูกพันธ์กับใครได้โดยง่ายดาย

ถึงแม้คุณเปิ้ลจะเป็นดาราระดับคิวทอง แต่เธอไม่ได้มีสิทธิ์ในการเลือกเล่นภาพยนตร์เอง อำนาจการตัดสินใจทั้งหมดจะอยู่ในมือผู้ใหญ่ คุณเปิ้ลมีหน้าที่เพียงแค่แสดงตามตารางที่ทางผู้ใหญ่ได้จัดไว้ให้ ซึ่งตารางงานเหล่านั้นก็มีงานเข้ามาตลอดแทบไม่มีเวลาให้คุณเปิ้ลได้พักผ่อนเลย มีหลายครั้งที่คุณเปิ้ลเหนื่อยกับการที่ตนต้องมาทำงานแบบนี้ แต่ทางผู้ใหญ่ก็ใช้จุดอ่อนของคุณเปิ้ลที่ต้องการทำงานเพื่อครอบครัวมาเป็นตัวล่อให้เธอทำงานต่อไป

นอกจากตารางงานของเธอที่แน่นจนแทบไม่มีเวลาจะพักแล้วนั้น การใช้ชีวิตของคุณเปิ้ลก็ไม่ได้สะดวกสบายแบบดารานักแสดงทุกวันนี้ อย่างที่ทราบกันว่าดารานักแสดงในยุคนั้นมักเก็บตัว ไม่ออกมาเดินห้างหรือเที่ยวให้คนทั่วไปเห็น คุณเปิ้ลเคยแอบไปเดินห้างจนถูกผู้ใหญ่ต่อว่าอย่างรุนแรง หลังจากนั้นหากเธออยากได้ของอะไรก็ต้องฝากให้คนไปซื้อ

นอกจากนี้คุณเปิ้ลยังนับว่าเป็นนักแสดงที่เกิดอุบัติเหตุในการถ่ายทำบ่อยเป็นอย่างมาก และแต่ละครั้งก็รุนแรงเสียจนชะตาชีวิตของเธอแทบจะขาดมาหลายต่อหลายครั้ง

ในปี พ.ศ. 2524 ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "ลูกสาวกำนัน" เกิดความผิดพลาดในการถ่ายทำโดยเรือเครื่องที่คุณเปิ้ลต้องขับหนีคนร้ายในฉากเข้าไปชนตอม่อของสะพาน สาเหตุที่เกิดความผิดพลาดในการถ่ายทำเนื่องมาจากการที่คุณเปิ้ลได้ฝึกใช้เรือเครื่องในเวลาอันสั้นทำให้ยังไม่ชำนาญมากนัก

ในเทคแรกการถ่ายทำฉากนี้ยังไม่ผ่านเนื่องด้วยยังไม่เป็นที่พอใจแก่ผู้กำกับและความผิดพลาดเรื่องกล้อง เมื่อเข้าเทคที่ 2 ผู้กำกับต้องการให้เร่งความเร็วเรือยิ่งขึ้นเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ในฉาก ด้วยความไม่ชำนาญและความประมาทของคุณเปิ้ลที่เห็นว่าตนสามารถขับเรือได้ ทำให้เธอเร่งเครื่องให้เร็วขึ้นตามที่ผู้กำกับต้องการ เมื่อเร่งความเร็วเรือมากเกินไป ทำให้เรือเกิดร่อน จนคุณเปิ้ลที่ชำนาญไม่มากพอไม่สามารถควบคุมเรือได้จนเรือได้ชนกับตอม่อสะพานในที่สุด ในส่วนนี้ต้องนับถือในน้ำใจของคุณผจญ ดวงขจรที่ไม่กระโดดหนีลงจากเรือมาก่อน เพราะหากกระโดดหนีเรืออาจเข้าไปอัดกับตอม่อแรงขึ้น และคุณเปิ้ลอาจต้องจบชีวิตลงในอุบัติเหตุครั้งนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 33
ในเรื่องของความรักคุณเปิ้ลเคยมีความรักอยู่ประมาณ 2 ครั้ง ความรักครั้งแรกทางฝ่ายชายได้เข้ามาจีบเธอทางแม่ ทั้งสองรู้สึกดีต่อกันเป็นอย่างมาก แต่ฝ่ายชายกลับมาเสียชีวิตไปก่อน ความรักครั้งที่สองคุณเปิ้ลได้ชอบพอกับผู้ชายคนนึงเช่นกัน แต่มีคืนนึงเมื่อฝ่ายชายได้ขับรถมาส่งเธอที่บ้านคุณเปิ้ลได้พบกับภรรยาของผู้ชายถือปืน

ใช่แล้ว...ผู้ชายคนนั้นมีภรรยาแล้ว หลังจากที่คุณเปิ้ลรู้ความจริง เธอจึงตัดสินใจออกมาจากความสัมพันธ์อันไม่ถูกต้องนี้


ขอขอบพระคุณภาพจาก
http://plejarunee.com/biography



ปัจจุบันคุณเปิ้ลเป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ที่ใครต่อใครต่างยอมรับในความสามารถและฝีมือ นอกจากนี้เธอยังมีผลงานมาให้ผู้คนได้ชื่นชมอย่างไม่ขาดสาย

ดูเหมือนบททดสอบชีวิตของเธอจะถึงสิ้นสุดลงแล้วตอนนี้พระเจ้าคงจะได้รับรู้ถึงความใจสู้ของเธอ
คุณเปิ้ลเป็นบุคคลที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างมากคนนึง ครอบครัวคือตัวแปรสำคัญของเธอ ถึงแม้จะรู้ว่าตนต้องเป็นอัมพาตก็ตามแต่สิ่งแรกที่เธอคิดถึงไม่ใช่ตัวของเธอเอง แต่กลับเป็นครอบครัว

หากเธอเป็นอะไรไปครอบครัวของเธอจะทำเช่นไร?

ภาพความลำบากตรากตรำของครอบครัวและความยากลำบากที่เธอต้องพบเจอกับตัวเองในวัยเด็กช่วยปลูกฝังให้เธอมีใจที่กล้าแกร่งไม่ย่อท้อต่อสิ่งใด ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อตัวครอบครัวของเธอเอง

นอกจากนี้เธอยังเป็นคนที่เมื่อใดได้ก้าวเข้าไปสู่จุดตกต่ำอันดำมืดที่สุด มักจะมีปาฏิหาริย์หรือแสงสว่างที่ช่วยให้ชีวิตและจิตใจอันดำมืดของเธอฟื้นคืนมาได้อย่างน่าอัศจรรย์

อันที่จริงคุณเปิ้ลเคยคิดจะ "จบ" ถนนสายชีวิตของเธอลงปัญหามรสุมและความหมางเมินไม่เข้าใจของครอบครัวถาโถมใส่เธอ จนเธอตัดสินใจขับรถเพื่อที่จะฆ่าตัวตายให้ชีวิตนี้จบสิ้นไปเสียที มีหลายครั้งที่เธอคิดจะทำเช่นนี้แต่ไม่สำเร็จ ครั้วนี้มันจะต้องสำเร็จไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม เธอคิดเช่นนั้น

ในขณะที่เธอกำลังขับรถเพื่อจบชีวิตของตนลงได้มีสายโทรศัพท์เข้ามา คนที่โทรมาคือชายหนุ่มผู้เป็นแฟนคลับของเธอ เขาได้โทรมาหาเธอในขณะที่เขาก็กำลังจะตัดสินใจกระโดดฆ่าตัวตายจากชั้น 9 เช่นเดียวกับเธอที่คิดจะฆ่าตัวตายเช่นกัน

ชายหนุ่มโทรมาร่ำลาเธอด้วยเสียงที่สิ้นหวังอาลัยตายอยาก เขาพูดพร้อมร้องไห้ไปด้วย จนคุณเปิ้ลที่กำลังคิดจะฆ่าตัวตายต้องพยายามพูดปลอบจนชายคนนั้นเลิกคิดสั้นความคิดที่เธอจะฆ่าตัวตายก็มลายหายไปด้วย ปัจจุบันเธอและชายหนุ่มคนนั้นยังคบหากันเหมือนญาติคนหนึ่ง



ขอขอบพระคุณภาพจาก
แต้ว บอกอ MODEL



นอกจากนี้เรื่องราวชีวิตอันแสนน่าอัศจรรย์ของเธอได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับคุณกฤษณา อโศกสินนักเขียนรางวัลซีไรต์ในการเขียนเรื่อง "ล่องทะเลดาว" อีกด้วย

ชีวิตของเธอคนนี้เต็มไปด้วยปาฏิหาริย์และสิ่งมหัศจรรย์ใจ

นี่แหละคือเรื่องราว ชีวิต มรสุม ด้านมืด และปาฏิหาริย์ เรื่องราวชีวิตจริงที่ยิ่งกว่านิยายของอดีตราชินีหนังจอเงินผู้มีนามว่าจารุณี สุขสวัสดิ์

สวัสดี.
ความคิดเห็นที่ 32



แต่ถึงกระนั้นคุณเปิ้ลได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสจากอุบัติเหตุครั้งนี้ใบหน้าทั้งแถบถึงคอถลอก ดั้งหัก มือหักทำการผ่าถึง 5 ครั้ง ใส่เหล็กดัดอีก 2 ปีครึ่ง จนถึงกับต้องทำการปั๊มหัวใจในรถพยาบาล โชคดีที่เธอรอดจากอุบัติเหตุครั้งนี้มาได้ แน่นอนว่าเธอต้องใช้เวลาในการพักฟื้นรักษาตัวเป็นเวลานาน

แต่อนิจจา มีผู้สร้างมากมายหลายคนที่เข้ามาหาคุณเปิ้ลในขณะที่เธอกำลังพักฟื้นแล้วพูดกับเธออย่างรุนแรงว่าถ้ามาเป็นแบบนี้หนังของตนจะเป็นอย่างไร ผู้สร้างหลายท่านกลับไม่เห็นใจเธอในขณะที่กำลังบาดเจ็บอยู่เลย เจ็บกายว่าแย่แล้ว แต่เจ็บใจนั้นแย่เสียยิ่งกว่า

คุณเปิ้ลต้องใช้เวลาพักผ่อนฟื้นถึง 8 เดือน แต่เพียงแค่เดือนที่ 2 เธอก็ต้องกลับมาทำงานแล้ว กว่าจะหายดีเธอต้องใช้เวลานานถึง 2 ปีเศษ กว่าจะหายเป็นปกติ แต่ถึงแม้จะหายดี อวัยวะบางส่วนของเธอไม่เหมือนเดิม แต่เธอยังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ

จากเหตุการณ์ความเห็นแก่ตัวของนายทุนที่คุณเปิ้ลได้ประสบมาทำให้เธอกลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย คิดว่าทุกคนที่ทำดีด้วยเพียงเพื่อผลประโยชน์ วันนี้พูดอย่าง อีกวันพูดอย่าง





หลังจาก 3 ปีที่เธอประสบอุบัติเหตุในการถ่ายทำลูกสาวกำนันในปี พ.ศ. 2527 ได้เกิดอุบัติเหตุอย่างรุนแรงกับเธออีกครั้ง ในการถ่ายทำ "บ้านสีดอกรัก" รถยนต์ที่มีคณะนักแสดงโดยสารมาได้เกิดเสียหลักล้มคว่ำทำให้คนในรถได้รับบาดเจ็บคนที่ได้บาดเจ็บสาหัสที่สุดคือคุณเปิ้ลโดยเธอได้รับบาดเจ็บกระโหลกร้าว หลังหัก อุบัติเหตุครั้งนี้รุนแรงมากจนทีมแพทย์ได้ทำการจิ้มในส่วนช่วงขาของคุณเปิ้ลจิ้มจนเลือดออกแล้ว คุณเปิ้ลก็ยังไม่รู้สึก ทีมแพทยถอดใจและคิดว่าคุณเปิ้ลคงจะกลายเป็นอัมพาตช่วงล่างเสียแล้ว

แต่ถึงแม้เธอจะประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรงจนอาจจะกลายเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิตได้ก็ตาม สิ่งแรกที่เธอนึกถึงคือ "ครอบครัว"

"ถ้าหากเราเป็นอะไรไปครอบครัวจะทำอย่างไร แล้วเราละ ไม่ได้เราจะเป็นอัมพาตไม่ได้" นี่คือสิ่งที่เธอคิด

อุบัติเหตุครั้งนี้ของเธอหนักมากจนแม้แต่การขับถ่ายเธอจำเป็นต้องใช้การสวนปัสสาวะ แม้คุณเปิ้ลจะรู้รสชาติถึงความโหดร้ายของนายทุนมาตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งแรก แต่ในครั้งนี้กลับเลวร้ายยิ่งกว่า เพราะสภาพของเธอในตอนนั้นย่ำแย่มากๆ จนดูแล้วคงจะไม่มีโอกาสจะกลับมาเดินได้แล้ว

เมื่อหมดผลประโยชน์ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจอีกต่อไป นายทุนหลายท่านพูดถึงเรื่องผลประโยชน์ให้เธอได้ยินต่อหน้า พูดในทำนองว่าจะหาใครมาแทนโดยไม่เกรงใจและเห็นใจเธอที่เจ็บหนักสักนิด

แต่เพราะใจสู้เพื่อครอบครัวและปาฏิหาริย์กระมังที่ทำให้เพียงแค่เวลา 2 เดือนกว่าๆ เธอสามารถกลับมายืนขึ้นได้อย่างปกติอีกครั้ง อุบัติเหตุในครั้งนี้ทำให้ปัจจุบันการขับถ่ายของคุณเปิ้ลยังมีปัญหาอยู่เล็กน้อย





ถึงแม้ว่าเบื้องหลังความสำเร็จของเธอจะไม่สวยงามเหมือนภาพที่เราเห็นก็ตาม แต่ต้องยอมรับว่าในขณะนั้นเธอคือที่สุดแห่งนางเอกภาพยนตร์และราชินีหนังบู๊แต่ชื่อเสียงเงินทองเหล่านี้ย่อมไม่จีรังยั่งยืนการมาถึงของวิกฤตหนังไทยตกต่ำ ทำให้บัลลังก์ของราชินีหนังจอเงินคนนี้ต้องสั่นสะเทือน

การโปรโมทภาพยนตร์เรื่อง "มาธาดอร์จอมเพี้ยน" ที่โรงภาพยนตร์มีผู้มาชมเพียงแค่ไม่กี่คน ทำให้คุณเปิ้ลรู้สึกใจหายเป็นอย่างยิ่ง เพราะตามปกติแล้วเมื่อใดที่เธอมีการโปรโมทภาพยนตร์ผู้คนล้วนหลั่งไหลเข้ามาชมกันอย่างไม่ขาดสาย แต่ครั้งนี้กลับเปลี่ยนไป

"วงการหนังไทยเฟดลงแล้ว"


นี่อาจเป็นสิ่งที่เธอในขณะนั้นตระหนักได้ ความล้มเหลวครั้งนี้ทำให้เธอถูกทางผู้ใหญ่ต่อว่า ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของเธอแม้แต่น้อย

ในช่วงชีวิตของคุณเปิ้ลต้องพานพบกับความเห็นแก่ตัวของนายทุนมามากมาย ตั้งแต่เรื่องการโกงค่าตัวที่ในยุคสมัยนั้นดารานักแสดงมักเจอะเจอกันเป็นเรื่องปกติ คุณเปิ้ลก็เช่นกัน เธอเจอกับการโกงค่าตัวมามากมาย มีหลายครั้งที่เธอเคยไปทวงค่าตัวจากผู้สร้างแต่คำตอบที่ได้รับกลับเป็นการพูดในทำนองประมาณว่า "ไม่จ่ายมีอะไรไหม?" หรือรุนแรงถึงขั้นที่ว่าใช้ "กระบอกปืน" ข่มขู่เธอเลยก็มี

นอกจากการโกงค่าตัวจากนายทุนแล้ว คุณเปิ้ลยังต้องพบการโกงค่าตัวจากผู้ดูแลของเธออีกด้วย โดยค่าตอบแทนจากการแสดงหนังทั้งหมดของคุณเปิ้ลจะตกเป็นของผู้ดูแลของเธอ รายได้ส่วนนั้นคุณเปิ้ลจะได้รับเป็นเงินเดือนๆ ละ 5,000 บาท หากมีความจำเป็นให้ใช้วิธีเบิกพิเศษ

หรือแม้แต่การถูกฟ้องร้อง คุณเปิ้ลเคยถูกฟ้องร้องสาเหตุมาจากการที่เธอได้พูดถึงชื่อสังกัดในการสัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ทำให้ผู้บริหารฟ้องร้องเธอ โชคช่วยที่ผู้ฟ้องร้องมาด่วนจากไปเสียก่อนทำให้คดีความจบลง


ปัญหาและอุปสรรคมากมายค่อยๆ ถาโถมเข้ามาในเส้นทางสายชีวิตของเธอ ราวกับว่านี่คือบททดสอบแห่งชีวิตที่จะพิสูจน์ว่านางเอกคิวทอง
จารุณี สุขสวัสดิ์คนนี้จะก้าวข้ามผ่านมันไปได้หรือไม่



หลังจากที่เธอได้ออกจากอ้อมอกของผู้ดูแล เงินต่างๆ ถูกโกงไปจนไม่เหลืออะไร ตัวคุณเปิ้ลมีอาการของโรคไทรอยด์ตั้งแต่อายุ 19 ปี เนื่องด้วยการทำงานอย่างหนัก พักผ่อนน้อย อีกทั้งยังมีเรื่องเครียดมากมายทั้งๆ ที่อยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต เนื่องจากคุณหมอประจำตัวของเธอไม่อยู่ ทำให้คุณเปิ้ลต้องเปลี่ยนไปรักษากับหมอคนใหม่และคุณหมอท่านนี้เห็นว่าคุณเปิ้ลทานยามาหลายชุดแล้วไม่หายเสียทีจึงได้ให้การรักษาแบบผิดวิธีโดยการให้กินแร่รังสีเข้าไปจนเธอแพ้รังสี

ประมาณปี 2529 ในการถ่ายทำเรื่อง "วันนี้ยังมีรัก" เธอมีอาการตัวบวมอย่างรุนแรงเพียงในชั่วข้ามคืน การป่วยครั้งนี้ส่งผลให้เธอประสบวิกฤตเป็นอย่างมากจนไม่มีงานเข้ามา


(ภาพไม่มีความเกี่ยวข้องแต่พอดีคิดว่าเข้ากับคำบรรยายดีค่ะ)

ขอขอบพระคุณภาพจาก
https://bit.ly/30VXlfe



ช่วงที่คุณเปิ้ลได้หายไป เธอใช้วิธี "แก้ปัญหา" ด้วยการ "หนีปัญหา"

คงเพราะเรื่องราวต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตทำให้เธอรู้สึกเบื่อหน่ายกับปัญหาเหล่านั้นเหลือเกิน ในช่วงนั้นคุณเปิ้ลเป็นหนักถึงขั้นที่กินยานอนหลับเพื่อหนีเรื่องราวปัญหาที่ตนต้องเจอ หนักเข้าไปจนถึงขั้นใช้เหล้าย้อมใจ แต่สุดท้ายเธอจึงคิดได้ว่าควรจะต้องแก้ปัญหามิใช่หนีปัญหาเช่นนี้ คุณเปิ้ลจึงได้เริ่มหางานทำ

จากการที่เธอได้ไปร่วมงานทำให้มีคนในวงการเข้ามาให้กำลังใจเธอมากมายจนเธอเองรู้สึกซึ้งในน้ำใจของเพื่อนๆ ในวงการจนไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้ และในงานนั้นเอง "คุณชาติเชื้อ กรรณสูติ" ได้ชักชวนให้เธอมาแสดงละครโทรทัศน์เป็นครั้งแรก

"ไฟเสน่หา" เป็นละครโทรทัศน์เรื่องแรกของคุณเปิ้ล ถึงแม้เธอจะเป็นนักแสดงฝีมือดี มีผลงานการันตีมามากมาย แต่ทว่าด้วยความแตกต่างในศาสตร์การถ่ายทำของหนังและละครทำให้เธอจำเป็นต้องปรับตัวอย่างมากในเรื่องนี้


ขอขอบพระคุณภาพจากเพจ
Thai Movie Posters



จนคุณเปิ้ลได้ออกอัลบั้มครั้งแรก แต่โชคร้ายที่ทางค่ายเพลงกลับมาปิดตัวลง มีนักดนตรีแนะนำให้เธอซื้อลิขสิทธิ์เพลงให้เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองเพื่อที่จะสามารถนำไปขายต่อให้คนอื่นได้ ทำให้คุณเปิ้ลถึงกับนำบ้านเข้าธนาคารเพื่อกู้เงินมาได้ 1 ล้าน 2 แสนบาท จ่ายค่าทำเพลง ค่าอะไรต่างๆ จนสูญงินไป 5 แสนกว่าบาท

เมื่อคุณเปิ้ลนำเพลงไปขายให้ค่ายกลับไม่มีค่ายไหนสนใจ มีเพียงแค่ค่ายคีตาเท่านั้นที่สนใจ แต่ทางค่ายไม่ได้นำเพลงของเธอใช้ แต่ทางคีตาจะทำเพลงให้กับเธอเองจนออกมาเป็นอัลบั้มกับทางค่ายคีตาที่มีเพลงดังสุดติดหูอย่าง "แจงแวง" ที่เมื่อพูดถึงผลงานเพลงของเธอแล้ว เพลงนี้จะต้องลอยมาในห้วงความคิดของผู้ฟังเป็นเพลงแรก


ขอขอบพระคุณภาพจากเพจ
แต้ว บอกอ MODEL



เมื่อเธอกำลังจะไปได้ดีกับวงการเพลงแต่คีตา กลับมาปิดกิจการลงไป ทำให้คุณเปิ้ลมีปัญหาเรื่องการเงินไม่สามารถนำเงินไปจ่ายให้กับทางธนาคารได้ จนมีคนแนะนำให้กู้จากอีกธนาคารเพื่อมาจ่ายในส่วนตรงนี้แล้วนำโฉนดมาไว้ที่อีกธนาคาร จากหนี้ที่เดิมมากอยู่แล้วก็ค่อยๆ พอกพูนจนกลายเป็นดินพอกหางหมู จนหนี้สินเป็นยอด 5 ล้านบาท และเมื่อรวมกับอะไรต่างๆ ทั้งสิ้นรวมเป็นยอดเงินทั้งหมด 11 ล้านบาท จนต้องขายทรัพย์สินที่เธอมี หรือแม้แต่มีผู้ใหญ่เสนอจะให้บ้านกับเธอโดยไม่ต้องขายที่ดิน แต่ต้องแลกกับที่เธอต้องมาเป็นผู้หญิงของเขาคุณเปิ้ลก็เคยเจอมาแล้ว แต่เธอก็ไม่เลือกเส้นทางนี้ จนท้ายที่สุดเธอก็ผ่านมรสุมตรงจุดนั้นมาได้

แม้คุณเปิ้ลผ่านพบกับมรสุมชีวิตมามากมาย ใช่ว่าในชีวิตของเธอจะไม่มีเรื่องราวน่าเปรมปรีดิ์เลย

ช่วงที่เล่นละคร "คือหัตถาครองภิภพ" นักแสดงร่วมกับเธออย่าง "คุณจิ๊ อัจฉราพรรณ" ได้สังเกตุเห็นถึงอาการเงียบๆ เก็บตัวของเธอจนได้เรียกมาคุยปรับความเข้าใจถึงความยากลำบากของเธอเวลาที่พักกองคุณเปิ้ลมักจะหลบหน้าหลบตาไปอยู่คนเดียว ไม่มาฝึกซ้อมด้วยกันทำให้เธอค่อนข้างลำบากในการร่วมแสดงกับเธอ

เมื่อทั้งสองได้สนิทสนมกันมากขึ้น คุณจิ๊ได้รู้ถึงความพยายามในการตามหาพ่อของคุณเปิ้ลตั้งแต่สมัยวัยรุ่น แต่ไม่สามารถตามหาเจอจึงได้เลิกล้มความตั้งใจนี้ไป คุณจิ๊เห็นว่าฝรั่งมีอายุยืนจึงเกิดความคิดที่จะช่วยคุณเปิ้ลตามหาพ่อแท้ๆ ขึ้นมา

คุณจิ๊ได้พยายามให้พรรคพวกคนรู้จักช่วยเหลือและช่วยประสานงานกับทางสายการบินเพื่อหาข้อมูลของคุณพ่อของคุณเปิ้ล จนในท้ายที่สุดคุณเปิ้ลก็ได้พบกับพ่อบังเกิดเกล้าของเธอที่เธอใฝ่ฝันอยากจะพบมานานแสนนาน





เมื่อคุณเปิ้ลได้เจอกับพ่อแท้ๆ ของเธอ เธอรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก เธอไปเยี่ยมท่านประมาณปีละ 2 ครั้ง อีกทั้งยังเรียนภาษาฝรั่งเศสเพื่อที่จะได้คุยกับท่านได้อย่างสะดวก แต่ไม่กี่ปีคุณพ่อของคุณเปิ้ลก็ได้มาด่วนจากไป

ถึงแม้จะได้พบกับคุณพ่อบังเกิดเกล้าเพียงไม่กี่ปี แต่อย่างน้อยความที่ได้เจอพ่อแท้ๆ ของเธอก็ได้เป็นจริง จากความช่วยเหลือของคุณจิ๊

สำหรับคุณเปิ้ลคุณจิ๊คือผู้มีพระคุณคนหนึ่งในชีวิตของเธอนอกจากที่คุณจิ๊ช่วยตามหาพ่อแท้ๆ ให้เธอแล้ว คุณจิ๊ยังช่วยเป็นกาวประสานใจระหว่างเธอกับคุณแม่ในช่วงที่ทั้งสองหมางเมินกันอีกด้วย บุญคุณที่คุณจิ๊มีต่อเธอทำให้คุณเปิ้ลรักคุณจิ๊อย่างมาก ถึงขนาดที่คุณเปิ้ลเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า หากคุณจิ๊ต้องการให้ตนช่วยเหลืออะไร ตนจะช่วยเหลือโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย


ความคิดเห็นที่ 4
ภาพสี คุณเปิ้ลทำงานที่สวนสนุกแฮปปี้แลนด์

พี่เปิ้ลย้อน time machine

ภาพวัยเด็ก หนูน้อย จารุณี สุขสวัสดิ์








จารุณี สุขสวัสดิ์ กับการถ่ายแบบชุดว่ายน้ำขึ้นปกครั้งแรกในชีวิต  กับนิตยสาร ผู้หญิง ฉบับเดือน มกราคม 2540
เรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีใครคิดว่านางเอกนักบู๊จะซ่อนรูปและเซ็กซี่เย้ายวนได้ขนาดนี้






ความคิดเห็นที่ 41
.
ความคิดเห็นที่ 35
จารุณี สุขสวัสดิ์

- เริ่มการศึกษาระดับชั้นอนุบาล 1 - ประถมศึกษาปีที่ 2
ที่โรงเรียนอนุบาลทองสุโชติ

- ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนธัมมสิริศึกษา อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

- ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-7 ที่โรงเรียนพิบูลย์อุปถัมภ์ กรุงเทพฯ

- ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนบางกะปิ

- ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ที่โรงเรียนพาณิชยการเจ้าพระยา

- สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา

- ระดับปริญญาโท จากสำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

(คัดลอกจาก : http://plejarunee.com/biography)





"เปิ้ลเป็นลูกสาวคนโต เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะยากจนอยู่ต่างจังหวัด ตอนเด็กๆ ก็อยู่กับแม่อายุประมาณ 3 ขวบ เริ่มจำความได้ ก็ได้ยินแม่พูดแต่เรื่องจนๆๆ ไม่มีเงินๆๆ แม่ต้องไปทำงานรับจ้างทุกวัน

พอถึงวัยเข้าโรงเรียนเปิ้ลต้องย้ายมาอยู่กับญาติที่กรุงเทพฯ ก็เริ่มมีปัญหาทางจิตใจ บ้านที่มาอาศัยอยู่เป็นบ้านเช่า อยู่รวมกันหลายครอบครัวเปิ้ลนอนในห้องเดียวกับเจ้าของบ้านซึ่งเขามีหลานอายุไล่เลี่ยกับเรา ตอนเด็กๆ จะถูกแกล้งบ่อยๆ เช่น โดนดึงผม หรือบางทีเจ้าของบ้านบอกให้หลานๆ ของเขาพาเราไปส่งที่โรงเรียน แต่พอไปถึงหน้าปากซอย พวกเขาก็พากันทิ้งเราไปหมด เราก็ต้องช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่ 3 ขวบครึ่ง ต้องข้ามถนนเอง

พอถูกแกล้งบ่อยๆ ก็เริ่มมีภูมิคุ้มกันมากขึ้นเป็นธรรมดา พอโตขึ้นก็เริ่มไม่ยอมคน เริ่มเตะต่อย แต่ความที่เขามีหลายคน บางทีเราก็แพ้เขาเหมือนกัน เช่น เขาจับเราไปขังหีบ แล้วตะโกนล้อเราว่าเป็นไอ้ลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่ ตอนนั้นเราไม่เข้าใจว่าทำไมถึงอยู่กับแม่ไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่แม่ก็เป็นคนดี และแม่ก้รักเรามาก ก็ได้แต่คิดถึงแม่ ยิ่งถูกแกล้งก็ยิ่งคิดถึง"


ขอขอบพระคุณภาพจาก
แต้ว บอกอ MODEL





"หลังจากที่เปิ้ลส่งจดหมายมาสมัครเป็นนักแสดงแล้วก็ได้เซ็นสัญญาเป็นดาราในสังกัดของผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ช่วงนั้นจะว่าไปเปิ้ลก็เหมือนคนที่เป็นเด็กแล้วก็แก่เลย เพราะตัวเองต้องรับผิดชอบครอบครัวมาตั้งแต่อายุ ๑๒ พออายุ ๑๕ ก็ได้มาเล่นหนัง เราต้องอยู่ในกรอบทุกอย่าง ทำอย่างนั้นก็ไม่ได้อย่างนี้ก็ไม่ได้จะถูกบังคับตลอด การเป็นดาราสมัยก่อนมันจะเครียดมากๆ เคยไปเดินซื้อของที่ห้างเซ็นทรัล ผู้ใหญ่ก็เรียกไปดุด่า จนเป็นเรื่องราวกันใหญ่โต

ช่วงแรกๆ นี่ก็เรียนไปด้วยถ่ายหนังไปด้วย แต่พอหนังบ้านทรายทองออกฉาย เราต้องทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน เรียกว่าแทบจะตลอด ๒๔ ชั่วโมงเลย รับใบคิวมานี่ตกใจเลยงานเต็มทั้งเดือน

เอ้อ...แล้วฉันจะนอนช่วงไหนละเนี่ย?

แต่เราก็ไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นอะไรนะคะ ตอนนั้นอายุยังน้อยก็อาศัยพักตามกองถ่าย เราต้องอดทนเพราะมีความฝันว่าสร้างบ้านให้ครอบครัว บางทีเหนื่อยมากๆ แล้วเราไม่ไหวก็มีวีนบ้าง แต่ทางผู้ใหญ่เขาก็เอาจุดอ่อนของเรามาบอกว่ามีเงินเก็บกี่ล้านๆแล้ว เราก็เลยทำงานตายเลย เหมือนไก่ชนน่ะ (ยิ้ม)  

ตอนนั้นเราทำงานเยอะรายได้เข้ามาเยอะ แต่ก็โดนเขาเอาไปหมดเลย ตอนที่ออกมาจากสังกัดไม่มีอะไรสักอย่าง แต่ว่าเปิ้ลก็ต้องขอบคุณเหตุการณ์ครั้งนั้นนะ เพราะไม่อย่างนั้นเราคงไม่มีวิธีคิด ไม่มีวิธีแก้ไขปัญหาต่างๆเหมือนเช่นทุกวันนี้ เพราะที่สุดแล้ว ประสบการณ์ร้ายๆที่เข้าผ่านมันทำให้เราสามารถเข้าใจโลกได้ง่ายขึ้น"


ขอขอบพระคุณภาพจาก
http://topicstock.ppantip.com/chalermthai/topicstock/2010/08/A9567235/A9567235.html





"เคยลงทุนทำธุรกิจกับเพื่อนๆ หลายอย่าง แล้วมันก็เกิดปัญหาเรื่องหุ้นส่วนเลยถอนหุ้นออกไป อย่างร้านอาหารเปิ้ลก็เคยไปหุ้นกับเขา เป็นเพื่อนในวงการนี่แหละค่ะ เราก็ไปช่วยเขาผัด ช่วยรับแขกด้วยนะ สักพักหนึ่งเขาก็ปิดร้านบอกว่าจะปรับปรุง ผ่านไป ๔ เดือน ร้านก็ยังไม่เปิดสักที ไปตามอีกที่ปรากฏว่าเขาปิดร้านย้ายหนีไปแล้ว ใช้เวลาถึง ๕ ปี เปิ้ลถึงไปเจอตัวเขา ก็ได้เงินคืนมา ๓ หมื่นกว่าบาท จากที่เราลงทุนไปแสนกว่าบาท ช่วงที่มีหนี้สินในเวลา ๑๐ กว่าปีที่ผ่านมา พอเราจะไปขอความช่วยเหลือใครก็ยังมาโดนเอาเปรียบซ้ำอีก แล้วยิ่งเปิ้ลเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว ก็จะมีเรื่องอื่นๆ แอบแฝงเข้ามาเจือปน
           
เมื่อก่อนเปิ้ลเคยขับรถวอลโว่ แล้วตอนนี้เปลี่ยนมาขับรถกระบะ บางคนก็พูดแบบไม่เกรงใจเราว่าทำไมเปลี่ยนมาขับรถกระบะล่ะ?

คนขับรถวอลโว่ก็จะคบกับคนที่ขับวอลโว่นะ!

คนขับกระบะก็จะคบกับคนขับกระบะ คิดให้ดีนะ เราก็เริ่มรู้สึกสั่นคลอนแล้ว

เอ...คนเรานี่จะคบกันต้องดูที่ฐานะเหรอ?

กลับกลายเป็นว่าคนเขาจะดีกับเราก็ต่อเมื่อเราขับรถดีๆขับรถแพงๆ ทำให้เราได้เรียนรู้อีกส่วนหนึ่งของสังคม เมื่อก่อนช่วงที่จารุณีโด่งดังจะไม่มีทางได้เจออะไรแบบนี้หรอก อย่างทุกวันนี้เพื่อนที่เปิ้ลคบอยู่จะเป็นเพื่อนตัวจริง จากที่เคยมีเพื่อนสัก ๑๐๐ คน ก็อาจจะเหลือแค่ ๔ คน"

ขอขอบพระคุณภาพจากเพจ
แต้ว บอกอ MODEL





"โลกมายาเป็นโลกที่รวมเอาคนที่เหลือเชื่อเข้ามาไว้ด้วยกัน มันเห็นเปรียบเทียบกันได้วันต่อวัน ชั่วโมงต่อชั่วโมง คนที่มีชีวิตยิ่งกว่านิยายก็ออกมาเดินกันให้เห็นๆ

เช่นวันนี้ไปถ่ายหนังที่บ้านราคาพันล้าน อีกวันหนึ่ง ไปถ่ายหนังใต้สะพานลอยพระรามหก ยายจะหาแผ่นกระดาษมาทำข้างฝายังหายาก เราได้เห็นความแตกต่างของคนในสังคม ทำให้ได้ย้อนคิดว่า เรามาจากไหน เรามาจากดิน แล้วเรามีโอกาสเข้ามาสัมผัสชีวิตคนที่อยู่สูงสุด นิยายที่เราอ่าน นางเอกแสนจนได้แต่งงานกับพระเอกแสนรวย หรือว่าตัวอิจฉากระทืบเท้าด่าทอ เราเจอยิ่งกว่านั้นอีก มันเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ วันดีคืนดีก็มีคนโทรศัพท์มาด่าว่าเรามีลูกกับผัวเขา เปิ้ลก็งง ไหงชีวิตเราถึงเป็นอย่างนั้น เขาก็ไม่ยอมเลิกรา ประเภทหูเบาไปฟังนักข่าวยุยงกันมา

ถ้าให้เปรียบกับหนังน้ำเน่า ชีวิตจริงเน่ากว่าเยอะ
ไอ้ที่มานั่งด่ากันว่าหนังไทยน้ำเน่า เอาชีวิตจริงไหม มันเน่ายิ่งกว่า ยกตัวอย่าง

เราขับรถวอลโว่ เพราะผู้ใหญ่เขาขับมา 10 กว่าปี แล้ว เขาจะเปลี่ยนเป็นรถเบนซ์ เขาก็เลยขาย ต่อให้เราผ่อนใช้เขา ครั้นเราจะไปซื้อรถใหม่มันก็แพงกว่า รถที่ขับนี่ถูกบังคับเปลี่ยนมา 4 ครั้ง คนก็คิดว่าเปลี่ยนเพราะความเป็นนางเอก แต่ความจริงไม่ใช่ พอถึงวันหนึ่งเราประสบปัญหาในชีวิต เราแบกภาระไม่ไหวแล้วก็เลยเปลี่ยนเป็นรถกระบะญี่ปุ่น หันมาใช้กระบะ คนที่เคยพูดกับเราดีๆ ในวันที่เราขับวอลโว่ แต่พอวันรุ่งขึ้นเราขับ กระบะ มันเลิกคบกับเราเลย นี่ยิ่งกว่านิยายไหม เปิ้ลเจอโจทย์และคำเฉลยมาตลอดชีวิต ถึงคิดว่าวงการนี้ดี เพราะมันสอนเรา"

ขอขอบพระคุณภาพจากเพจ
แต้ว บอกอ MODEL
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่