‘ธปท.’แพร่สถิติ ‘หนี้สินครัวเรือน’ ไตรมาส 1/67 แตะ 16.37 ล้านล้านบาท คิดเป็น 90.8% ต่อ GDP เพิ่มขึ้น 2.5% จากปีก่อน แต่ลดลง 0.024% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว พบ ‘หนี้บ้าน’ เพิ่มขึ้น 3.52% จากปีก่อน ขณะที่ ‘หนี้เช่าซื้อรถ’ หดตัว 2.42%
.........................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่ข้อมูลสถิติเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน หรือหนี้สินครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 โดยหนี้สินครัวเรือนมีจำนวน 16,370,603 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 90.8% ต่อจีดีพี เพิ่มขึ้น 399,513 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (1/2566) ที่หนี้สินครัวเรือนมีจำนวน 15,971,090 ล้านบาท หรือคิดเป็น 90.7% ต่อจีดีพี
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบหนี้สินครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 กับไตรมาสก่อน (4/2566) ที่หนี้สินครัวเรือนมีจำนวน 16,374,519 ล้านบาท (คิดเป็น 91.4% ต่อจีดีพี) พบว่าหนี้สินครัวเรือนมีจำนวนลดลง 3,916 ล้านบาท หรือลดลง 0.024%
เมื่อพิจารณารายละเอียดเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนจำแนกตามวัตถุประสงค์ พบว่า ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 เงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 5,541,267 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 188,453 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (1/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 5,352,234 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 7,019 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.127% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (4/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 5,533,668 ล้านบาท
ส่วนเงินกู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 1,765,356 ล้านบาท ลดลง 43,720 ล้านบาท หรือลดลง 2.42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 1/2566) ที่เงินกู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 1,809,076 ล้านบาท และลดลง 32,031 ล้านบาท หรือลดลง 1.78% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (4/2566) ที่เงินกู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 1,797,387 ล้านบาท
สำหรับเงินกู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น มีจำนวน 4,525,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 220,789 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 1/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น มีจำนวน 4,304,261 ล้านบาท แต่ลดลง 9,655 ล้านบาท หรือลดลง 0.21% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (4/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น มีจำนวน 4,534,705 ล้านบาท
ขณะที่เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพ มีจำนวน 2,947,645 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45,828 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.58% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 1/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพมีจำนวน 2,901,817 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 39,163 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.35% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (4/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพ มีจำนวน 2,908,482 ล้านบาท
นอกจากนี้ เมื่อข้อมูลเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 พบว่าหนี้สินครัวเรือนส่วนใหญ่ หรือ 13,146,157 ล้านบาท เป็นหนี้สินที่ครัวเรือนกู้ยืมจากสถาบันรับเงินฝาก ประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์ จำนวน 6,333,352 ล้านบาท ,สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่รับฝากเงิน จำนวน 4,418,992 ล้านบาท ,สหกรณ์ออมทรัพย์ จำนวน 2,333,244 ล้านบาท และสถาบันรับฝากเงินอื่นๆ จำนวน 60,569 ล้านบาท
ส่วนหนี้สินครัวเรือนที่กู้ยืมจากสถาบันการเงินอื่น มีจำนวน 2,498,432 ล้านบาท ประกอบด้วย บริษัทบัตรเครดิต ลิสซิ่ง และสินเชื่อส่วนบุคคล จำนวน 1,955,659 ล้านบาท , บริษัทประกันภัยและประกันชีวิต จำนวน 186,860 ล้านบาท ,บริษัทหลักทรัพย์ จำนวน 95,815 ล้านบาท , ธุรกิจบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน จำนวน 92,298 ล้านบาท ,โรงรับจำนำ จำนวน 84,821 ล้านบาท และสถาบันการเงินอื่นๆ จำนวน 82,978 ล้านบาท
Cr.
https://www.isranews.org/article/isranews-news/129709-bot-Household-debt-Q1-67-news.html
ที่มาจาก ธปท.
https://app.bot.or.th/BTWS_STAT/statistics/BOTWEBSTAT.aspx?reportID=985&language=TH
เช่าซื้อรถหด-กู้บ้านเพิ่ม! ธปท.เผยไตรมาส 1/67 หนี้ครัวเรือน 16.37 ล้านล้านบาท 90.8% ต่อจีดีพี
.........................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่ข้อมูลสถิติเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน หรือหนี้สินครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 โดยหนี้สินครัวเรือนมีจำนวน 16,370,603 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 90.8% ต่อจีดีพี เพิ่มขึ้น 399,513 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (1/2566) ที่หนี้สินครัวเรือนมีจำนวน 15,971,090 ล้านบาท หรือคิดเป็น 90.7% ต่อจีดีพี
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบหนี้สินครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 กับไตรมาสก่อน (4/2566) ที่หนี้สินครัวเรือนมีจำนวน 16,374,519 ล้านบาท (คิดเป็น 91.4% ต่อจีดีพี) พบว่าหนี้สินครัวเรือนมีจำนวนลดลง 3,916 ล้านบาท หรือลดลง 0.024%
เมื่อพิจารณารายละเอียดเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนจำแนกตามวัตถุประสงค์ พบว่า ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 เงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 5,541,267 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 188,453 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (1/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 5,352,234 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 7,019 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.127% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (4/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 5,533,668 ล้านบาท
ส่วนเงินกู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 1,765,356 ล้านบาท ลดลง 43,720 ล้านบาท หรือลดลง 2.42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 1/2566) ที่เงินกู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 1,809,076 ล้านบาท และลดลง 32,031 ล้านบาท หรือลดลง 1.78% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (4/2566) ที่เงินกู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 1,797,387 ล้านบาท
สำหรับเงินกู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น มีจำนวน 4,525,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 220,789 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 1/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น มีจำนวน 4,304,261 ล้านบาท แต่ลดลง 9,655 ล้านบาท หรือลดลง 0.21% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (4/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น มีจำนวน 4,534,705 ล้านบาท
ขณะที่เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพ มีจำนวน 2,947,645 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45,828 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.58% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 1/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพมีจำนวน 2,901,817 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 39,163 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.35% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (4/2566) ที่เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพ มีจำนวน 2,908,482 ล้านบาท
นอกจากนี้ เมื่อข้อมูลเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 พบว่าหนี้สินครัวเรือนส่วนใหญ่ หรือ 13,146,157 ล้านบาท เป็นหนี้สินที่ครัวเรือนกู้ยืมจากสถาบันรับเงินฝาก ประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์ จำนวน 6,333,352 ล้านบาท ,สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่รับฝากเงิน จำนวน 4,418,992 ล้านบาท ,สหกรณ์ออมทรัพย์ จำนวน 2,333,244 ล้านบาท และสถาบันรับฝากเงินอื่นๆ จำนวน 60,569 ล้านบาท
ส่วนหนี้สินครัวเรือนที่กู้ยืมจากสถาบันการเงินอื่น มีจำนวน 2,498,432 ล้านบาท ประกอบด้วย บริษัทบัตรเครดิต ลิสซิ่ง และสินเชื่อส่วนบุคคล จำนวน 1,955,659 ล้านบาท , บริษัทประกันภัยและประกันชีวิต จำนวน 186,860 ล้านบาท ,บริษัทหลักทรัพย์ จำนวน 95,815 ล้านบาท , ธุรกิจบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน จำนวน 92,298 ล้านบาท ,โรงรับจำนำ จำนวน 84,821 ล้านบาท และสถาบันการเงินอื่นๆ จำนวน 82,978 ล้านบาท
Cr. https://www.isranews.org/article/isranews-news/129709-bot-Household-debt-Q1-67-news.html
ที่มาจาก ธปท. https://app.bot.or.th/BTWS_STAT/statistics/BOTWEBSTAT.aspx?reportID=985&language=TH