ผู้ชายที่มีแฟนแล้วมาจีบเรา ทำยังไงดีคะ?

ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ ขอเกริ่นก่อนนะคะว่าเราเป็นนักเรียนม.ปลาย ธรรมดาคนนึงเลยค่ะ ช่วงที่ผ่านมานี้ก็เป็นช่วงกีฬาสีและเขาคนนั้น ขอให้นามสมมติเป็นกายนะคะ กายเป็นนักเรียนระดับชั้นเดียวกับเราค่ะแต่อยู่คนละห้องกันคนละสายวิชากัน กายเรียนศิลป์ภาษาส่วนเราเรียนวิทย์คณิตนะคะ ห้องจึงเรียนอยู่ห่างกันมากๆค่ะ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีโอกาสได้พูดคุยหรือทำความรู้จักอะไรเลยนะคะ มารู้จักกันช่วงกีฬาสีค่ะเพราะต้องทำงานร่วมกัน ในระหว่างเวลาที่ทำงานเนื่องจากเขาเป็นนักกีฬาโรงเรียนเลยเป็นกรรมการตัดสินกีฬา ส่วนเราเป็นฝ่ายบันทึกคะแนนค่ะ ดังนั้นก็ต้องมีคุยกันบ้างแต่เรียกได้ว่านับประโยคได้เลยค่ะ เราเคยชวนเค้าคุยครั้งเดียวโดยถามว่า เซ็ตต่อไปสีอะไรแข่งกับสีอะไร แค่นี้เลยค่ะ มันก็ปกจิมาโดยตลอดจนจบช่วงตัดสินกีฬานะคะ เริ่มเข้าสู้เฟส2 คือการเดินขบวนต่างๆ ซึ่งพวกเราทั้งคู่ก็ต้องเดินเช่นกันค่ะ และอยู่ในตำแหน่งที่ติดกันค่ะ เวลานั่งเนี่ยเรียกว่าแทบจะติดกันเลยค่ะเพราะต้องนั่งเบียดกันมากๆ แต่เราก็ไม่เคยให้เขามาโดนตัวเลยนะคะ ระหว่างนั้นกายก็มักจะมาเล่นของเราเล็กๆน้อยค่ะ แต่ตอนนั้นเราไม่ได้ว่าอะไร เพราะไม่ได้สนิทด้วยก็จะไม่กล้าว่าเค้าและเป็นการเล่นที่ยังพอรับได้ค่ะช่วงซ้อมเดินเวลาร้อนเขาก็จะถามว่าร้อนเหรอ ร้อนมากไหมพอตอนพักก็จะเอาธงมาบังให้แบบแอบๆ ช่วงเดินก็จะมีหยุดพักอะไรกัน เรามักจะหันไปหาเพื่อนอีกสองสามคนที่เดินขบวนเหมือนกันแต่อย่างที่บอกว่าเราอยู่ในตำแหน่งที่ติดกันก็ต้องหันไปเจอเขาตลอด เราไม่เคยคิดจะสบตากายเลยค่ะคือจะเห็นแบบหางตาตลอดว่ากายมอง เวลาเดินเนี่ยเราต้องใส่รองเท้าส้นสูงใช่มั้ยคะ กายจะแสดงความเป็นห่วงโดยการถามว่าเจ็บไหม รองเท้ากัดหรือเปล่า ถามบ่อยมากๆหลายรอบมากๆ แถมยังถามหาฝ่ายพยาบาลให้เวลาเรารองเท้ากัด บอกอาการแทนเราด้วย หรือแม้แต่ตอนที่เราถือของเดินขบวนพอถึงช่วงพักก่อนเข้าสนาม เราปวดแขนมากคือของที่เราต้องถือมันหนักแบบมากๆและเราก็ไม่ใช่คนที่จะมีกล้ามเนื้อแขนมากอะไรเลยแถมไม่ได้วอร์มแขนก่อนถือด้วย เขาก็ถามว่าเจ็บมากไม้แล้วก็ชวนคุยว่าแบบเออเนี่ยกายก็เจ็บมากทั้งปวดทั้งเมื่อยอะไรทำนองนี้ แถมก่อนเข้าสนามเขาก็บอกว่าไหวมั้ย ทนอีกนิดนะเดี๋ยวก็เดินเสร็จแล้ว ส่วนรองเท้าถ้าเจ็บมากก็แอบถอดได้นะ ประมาณนี้ค่ะ แต่ย้ำนะคะว่าพวกเราไม่สนิทกัน!! ตอนนั้นก็งงเล็กน้อยว่ามันต้องใส่ใจกันขนาดนั้นเลยเหรอทั้งที่คุยกันไม่กี่ประโยคแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากค่ะ จนจบการเดินขบวนกีฬาสีค่ะ ต่างคนก็ต่างเก็บอุปกรณ์และไปประจำตำแหน่งตัวเองที่ต้องรับผิดชอบ วันนั้นก็จบลงพร้อมกับกีฬาสีค่ะ
เราจะเข้าสู่เฟส3 ซึ่งเป็นเฟสที่สำคัญมากค่ะ หลังจากที่ทุกคนอ่านมาถึงตอนนี้แล้วคงคิดว่าโอ้ เป็นอะไรที่น่ารักมาก แต่อย่าลืมอ่านหัวข้อกระทู้นะคะ ขอย้ำอีกเรื่องนึงคือ ตลอดเวลาที่ทำงานร่วมกันเนี่ย เราไม่เคยเอะใจกับเหตุการณ์ที่กล่าวมาข้างต้นเลยนะคะ มองกายเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีคนนึงมาโดยตลอดแม้จะไม่ได้คุยอะไรกันมากก็ตาม ก็มองว่าเขาเป็นนักกีฬาที่เก่ง และเป็นกรรมการที่ยุติธรรมมากๆ เป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงและตรงต่อเวลาค่ะ (ชื่นชมแบบเพื่อนนะคะ) ดังนั้นเหตุการณ์ที่เราพิมพ์ให้อ่านข้างต้นือการกลับมานั่งตกผลึกความคิดและย้อนวันวานล้วนๆเลยค่ะ (ก่อนหน้านี้มองเป็นเพื่อนจริงๆ) กลับมาที่เฟสสาม ยังจำช่วงแรกที่เราบอกได้มั้ยคะว่าห้องเรียนเราอยู่ห่างกันมากๆ ช่วงอาทิตย์หลังจากกีฬาสีเราเจอเขาที่ห้องเรียนทุกวันเลยค่ะ ตอนนั้นก็ยังย้ำว่าไม่ได้เอะใจอะไรนะคะเพราะอย่างที่รู้ว่าเขาเป็นนักกีฬาโรงรียนและห้องเราก็มีนักกีฬาโรงเรียนและพวกเขาก็เป็นเพื่อนกันกันค่ะ มีวันนึงเราป่วยเลยไปนอนที่ห้องพยาบาลทำให้เราต้องไปตามสอบคาบที่เรานอนป่วยเป็นผักต้มอยู่ เจอครูแล้วกำลังจะสอบแต่ว่าครูบอกจะกลับมาสอบอีกทีประมาณ4โมงเย็น ทำให้ห้องพักครูในตอนนั้นไม่มีครูเลยค่ะ มีแต่เรากับเพื่อนอีกสองคนนั่งเหงาๆกัน บังเอิญว่าห้องพักครูตรงนั้นมันอยู๋หน้าโรงยิมซึ่ง กายเป็นนักกีฬาที่จวนเจียนจะแข่งก็ต้องมาซ้อมบ่อยทุกวันๆมากขึ้น เขากับเพื่อนๆก็เปิดประตูเข้ามาจะเอาของพอดีเลย ปึ้งเจอกันสบตากันทันดีทันใดอย่างกับหนังอินเดีย จากนั้นความชุลมุนก็เริ่มต้นขึ้นโดยมีคนตะโกนเรียกเชื่อเราจากด้านหลังประตูห้องพักครูประมาณ10รอบ พร้อมประโยคคลาสสิคว่ากายชอบๆๆ แบบนี้อยู่สักพัก เขาก็โผล่หน้าผ่านประตูมาแล้วยิ้มๆบอกว่าไม่ใช่นะ ตอนนี้คือเริ่มเอะใจแล้วเอ้ะ ยังไงเนี่ยคนนี้ แต่ก็ยังไม่เชื่อนะคะว่าชอบเพราะคิดว่ามันคือการแซวกันเล่นของเพื่อนผู้ชายธรรมดา มันก็เอะใจนิดๆแหละค่ะเลยถามเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อนก็บอกว่าน่าจะเป็นการแซวเล่นเพราะ กายมีแฟนแล้ว หลังประโยคนั้นก็โล่งใจปนสงสัยนะคะ โล่งใจที่คิดว่ากายคงไม่กล้ามายุ่งกับเราหรอกเพราะมีแฟนแล้ว แต่สงสัยว่าเพื่อนเขาแซวเพื่ออะไร เก็บความสงสัยนั้นกลับมาที่บ้านก็จัดการส่องไอจีตามประสาคนขี้เผือก ในไอจีกายนี่รักแฟนมาก ปักหมุดโพสต์ที่ถ่ายรูปคู่กันเอย แท็กไอจีไว้ที่หน้าไบโอ ตั้งโปรไฟล์เป็นรูปคู่กัน ทุกอย่างถูกต้องตามประการคนรักแฟนทุกอย่าง ไอนี่ก็แบบโอเคโล่งใจสุดๆ เพราะคิดว่าคนที่รักแฟนขนาดนี้ไม่น่ามายุ่งอะไรกับเรา วันต่อมาคือเกิดเรื่องเยอะมาก เอางี้นะคะ เรามาโรงเรียนปกติเปิดเข้าประตูห้องมาปุ๊บคนแรกที่เจอคือกายค่ะ ย้ำอีกครั้งนะคะว่าอยู่คนละห้องกันและห้องไกลกันมาก ไอเราถึงแม้จะโล่งใจแต่ยังมีความระแวงค่ะวันนั้นเลยตัดสินใจลงไปนั่ที่โรงอาหารช่วงเช้า(ปกติหลับในห้องตลอด) ปรากฏว่าเขาตามลงมาค่ะ ตอนนั้นเครียดนิดค่ะ เริ่มวิตกแต่ไอเรามันเป็นคนโลกสวยซะด้วยเลยยังคิดว่าเขาลงมาหาอะไรกิน มันผิดปกติตรงที่สบตากันอีกแล้วค่า แถมยังยิ้มกริ่มๆใส่เราด้วย (จะบ้าาาา ไม่ได้เขินนะคะแต่เครียดมากกว่าค่ะ)จากนั้นกีบหนีขึ้นห้องค่ะ วันนั้นเข้าแถวบนอาคารเรียนค่ะเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ ซึ่งห้องเรียนเราอยู่ติดกับห้องน้ำนะคะ เรายืนอ่านหนังสืออยู่ระหว่างเตรียมจัดแถวเพราะคาบแรกสอบ ก็รู้สึกเลยว่ามีคนมากระแทกแต่กระแทกเบาๆนะคะ ไม่ได้เจ็บ เงยหน้าขึ้นไปก็นั่นแหละค่ะ จะใครที่ไหนถ้าไม่ใช่กายกับเพื่อนอีกคนนึงของเขา โดยเพื่อนเขาก็เรียกชื่อเราแล้วบอกว่า กายชอบ ส่วนกายก็ทำท่าปิดปากเพื่อนตัวเองไม่ให้พูดแบบเขินๆ (เขินไรพ่อคุณ ไม่ให้เกียรติแฟนตัวเองเลย) เรานี่ยิ้มเหยเกเลยค่ะ งง ช็อค ไม่รู้ต้องทำไรเลยตัดสินใจ อ่านหนังสือสอบก่อนเนาะค่อยว่ากันห้ามเด็ดขาดวิชานี้ ตอนนี้เราเริ่มเครียดจริงแล้วค่ะว่ายังไงกันแน่เลยลองปรึกษาเพื่อนให้นามสมมติว่าเจนที่เคยมีแฟนอยู่กลุ่มเดียวกับกาย สรุปได้ว่าผู้ชายกลุ่มนี้เลี่ยหู้กันทั้งกลุ่มแหละค่ะ แค่กายเลี่ยหู้น้อยสุดกับเรียบร้อยสุดในกลุ่ม ยังจำเพื่อนคนที่อยู่กับกายตลอดได้มั้ยคะ ที่ชอบเรียกชื่อเราพร้อมประโยคคลาสสิคแบบเด็กอนุบาลอ่ะค่ะ ไอคนนี้ขอให้ชื่อว่าเสร่อมันก็เคยเป่าหูแฟนเก่าของเจนสมัยที่ยังคบกันให้เลิกกับเจนแล้วไปหาผู้หญิงคนใหม่ด้วยเหตุผลที่ว่าคนนี้คบนานไปแล้ว มันเก่ามันไม่สด โอ้มายก้อด ส่วนไอแฟนเก่าหัวขวดของเจนก็ดันไปโง่เชื่อตามไอเสร่อด้วยค่ะ แต่ว่าดีแล้วที่เลิกกันเจนไม่ควรอยู่กับคนแบบนี้ค่ะ กลับมาที่ปัจจุบันนั้นแหละค่ะ ไอเสร่อก็พยายามปั่นกายเหมือนกัน โดยผู้หญิงที่มันเลือกที่จะปั่นคือเรา โชคร้ายใช่มั้ยคะ แล้วไอกายก็ไม่รู้เป็นไร คุยกันไม่กี่ประโยคโดนเพื่อนเป่าหูนิดหน่อยสามารถหันมาชอบกันได้ง่ายๆเลยเหรอ  ผู้ชายแก๊งนี้เป็นอะไรกันไปหมด เราไม่ทราบนะคะว่าสภาพหลังบ้านของกายกับแฟนเป็นยังไง แต่ในสตอรี่ก็รักกันฉ่ำและคบกันนานพอควรด้วย ยังไงก็ตามไม่ควรมาทำอย่างนี้เลยค่ะ กลับมาที่เราปรึกษาเพื่อนนะคะ เพื่อนก็เล่าวีรกรรมไอเสร่อกับกายให้ฟัง ของกายมีเรื่องเปี่ยนแฟนบ่อยคบกันสามสี่เดือนก็เปี่ยนคนแล้ว ส่วนไอเสร่อนี่นอกจากจะหน้าแย่สันดานก็แย่ด้วยค่ะขอไม่ลงรายละเอียด ลองไปเสิร์ชคำว่าผู้ชาย ยิ้มเป็นยังไงก็ไอเสร่อมีครบทุกข้อค่ะ หลังจากปรึกษากันเสร็จก็เริ่มเรียนคาบต่อไปจนถึงพักเที่ยง วันนั้นเป็นพักเที่ยงที่สบายใจมากค่ะเพราะไม่มีกายมาป้วนเปี้ยนแถวห้อง (ทั้งไอเสร่อและกายเป็นนักกีฬาโรงเรียนนะคะ วันนั้นเป็นวันแข่งกีฬาค่ะเลยไม่เจอช่วงนึง แฮปปี้มาก) สบายใจได้ไม่นานระหว่างกินข้าวก็พบว่ารถตู้มาส่งนักกีฬาที่ไปแข่งวันนี้ค่ะ โอ้ชิท รถจอดหน้าโรงอาหารพอดีค่ะ ไอเสร่อก็เริ่มเสร่อตามชื่อของมัน ตามสเต็ปค่ะมันก็เรียกชื่อเราพร้อมประโยคคลาสสิคว่ากายชอบ ตอนนั้นเราเมินเลยค่ะ ไม่สนใจแบบสุดๆ รีบกินข้าวแล้ววิ่งขึ้นห้องเลยค่ะแทบอ้วกแต่คุ้มเพราะไม่ต้องเจอหนามัน พอตอนเลิกเรียนเราก้เอากระเป๋าไปวางหน้าห้องก่อนวันนั้นเป้นเวรพอดี แต่เป็นเวรทำความสะอาดที่มีความสุขมากเพราะได้อยู่ในห้องนานๆจะได้ไม่ต้องออกไปเจอกายกับแก๊งเพื่อนๆของเขา เพราะตอนที่เราเอากระเป๋าออกไปเก็บเราเห็นกายเอากระเป๋ามาตั้งที่หน้าห้องพอดี เห็นปุ๊บเลยรีบวิ่งเข้าห้องเลยค่ะ เป็นวันที่ทรหดสุดๆ แล้วกลับมาที่หัวข้อกระทู้อีกครั้งนะคะ ทำยังไงให้กายกับไปแก๊งเพื่อนเสร่อพวกนี้เลิกตามรังควานชีวิตดีค่ะ

ปล.เผื่อคนที่สงสัยในรูปพรรณสัณฐานนะคะ
กาย-นักกีฬาโรงเรียนเลื่องชื่อ โคตรจะป๊อบปูล่า เป็นลูกครึ่งอะไรสักอย่างไม่แน่ใจว่าเยอรมันนีหรือสเปน สูงมาก 185+ หน้าตาได้ฝรั่งมาเต็มๆไม่ได้เค้าไทยมาเลย ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขเช่น บุหรี่ พอต เหล้า เบียร์ 
เสร่อ-หน้าตาก็เสร่อนิสัยก็เสร่อ ตัวเล็ก ดัดฟัน ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขเยอะมากเช่นกัน เคยมีเพศสัมพันธ์จำนวนนับครั้งไม่ถ้วน เมื่อไหร่จะเป็นเอดส์ซักที
เรา-ไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่ แต่เป็นที่รู้จักของครูหลายคนเพราะเราแข่งขันวิชาการหลายรายการ 

ย้ำว่าไม่เคยไปให้ความหวังใดๆหรือไปยุ่ง ไปช่วนคุยกับกายเลยนะคะ ชวนคุยประโยคเดียวคือ  เซ็ตต่อไปสีอะไรแข่งกับสีอะไร แค่นี้จริงๆค่ะ
อ่านมาถึงตรงนี้หวังว่าทุกคนจะเข้าใจเรานะคะว่าเราไม่ได้ร็สึกดีหรือเขินอะไรเลย กลับกันมันรู้สึกขนลุกมากกว่าที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ จะทำอพไรก็ต้องคอยหลบเพราะไม่อยากเจอ เพราะฉะนั้นข้อร้องเลยนะคะสำหรับคนที่จะมาตอบคำถามของกระทู้นี้ ขออย่าให้อ่านเจอพวกคำตอบแบบ ก็ดีแล้วนี้ คบๆกันไปเลย มีแฟนก็ไม่เห็นเป็นไร อะไรทำนองนี้เลยนะคะ เราไม่เคยมองกายในแนวนี้เลย มองว่าเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีคนนึงเท่านั้น ดังนั้นรบกวนคอมเม้นอย่างสุภาพและจริงใจ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับวิธีแก้ปัญหาค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่