เราย่อมตั้งไว้ซึ่งความเพียรอันไม่ถอยกลับ (ด้วยการอธิษฐานจิต) ว่า “หนัง เอ็น กระดูก จักเหลืออยู่, เนื้อแล

บทอธิษฐานจิตเพื่อทำความเพียร
 
ภิกษุทั้งหลาย ! เรายังรู้สึกได้อยู่ซึ่งธรรม ๒ อย่าง คือ
ความไม่รู้จักอิ่มจักพอ (สันโดษ) ในกุศลธรรมทั้งหลาย และ
ความเป็นผู้ไม่ถอยกลับ (อัปปฏิวานี)ในการทำความเพียร.
 
ภิกษุทั้งหลาย ! เราย่อมตั้งไว้ซึ่งความเพียรอันไม่ถอยกลับ(ด้วยการอธิษฐานจิต) ว่า
“หนัง เอ็น กระดูก จักเหลืออยู่,
เนื้อและเลือดในสรีระจักเหือดแห้งไปก็ตามที;
ประโยชน์ใด อันบุคคลจะบรรลุได้ด้วยกำลัง
ด้วยความเพียร ด้วยความบากบั่น ของบุรุษ,
ถ้ายังไม่บรรลุประโยชน์นั้นแล้ว
จักหยุดความเพียรเสีย เป็นไม่มี” ดังนี้.
 
ภิกษุทั้งหลาย ! การตรัสรู้เป็นสิ่งที่เราถึงทับแล้วด้วยความไม่ประมาท อนุตตรโยคักเขมธรรม ก็เป็นสิ่งที่เราถึงทับแล้วด้วยความไม่ประมาท.
ภิกษุทั้งหลาย ! ถ้าแม้ พวกเธอ พึงตั้งไว้ ซึ่งความเพียรอันไม่ถอยกลับ (ด้วยการอธิษฐานจิต) ว่า

“หนัง เอ็น กระดูก จักเหลืออยู่, เนื้อและเลือดในสรีระ
จักเหือดแห้งไปก็ตามที; ประโยชน์ใด อันบุคคลจะบรรลุได้
ด้วยกำลัง ด้วยความเพียร ด้วยความบากบั่น ของบุรุษ, ถ้ายัง
ไม่บรรลุประโยชน์นั้นแล้ว จักหยุดความเพียรเสีย เป็นไม่มี”
ดังนี้ แล้วไซร้; 
 
ภิกษุทั้งหลาย ! พวกเธอ ก็จักกระทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ซึ่งที่สุดแห่งพรหมจรรย์ อันไม่มีอะไรอื่นยิ่งกว่า อันเป็นประโยชน์ที่ต้องการของกุลบุตร ผู้ออกจากเรือน บวชเป็นผู้ไม่มีเรือนโดยชอบ, ได้ต่อกาล ไม่นานในทิฏฐธรรม เข้าถึงแล้วแลอยู่เป็นแน่นอน.
 
ก้าวย่างอย่างพุทธะ หน้า ๓๗
(ภาษาไทย)  ทุก. อํ. ๒๐/๔๘/๒๕๑.: คลิกดูพระสูตร
 
ลิ้งค์พระสูตร : 
http://etipitaka.com/read?language=thai&number=48&volume=20
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่