คำสอนวัดธรรมกายปฏิบัติแล้วบรรลุธรรมในชาติปัจจุบันได้หรือไม่?

ถ้าทำตามแล้วไม่สามารถไปนิพพานในชาติปัจจุบันได้ มันจะถือว่าถูกต้องตามหลักธรรมที่พระพุทธองค์ทรงเน้นให้ออกจากทุกข์ให้เร็วที่สุดหรือครับ

ธัมมปหังสนปาฐะ

เอวัง สฺวากขาโต ภิกขะเว มะยา ธัมโม,
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมเป็นธรรมอันเรากล่าวดีแล้วอย่างนี้,

อุตตาโน,
เป็นธรรมอันทำให้เป็นดุจของคว่ำที่หงายแล้ว,

วิวะโฏ,
เป็นธรรมอันทำให้เป็นดุจของปิดที่เปิดแล้ว,

ปะกาสิโต,
เป็นธรรมอันเราตถาคตประกาศก้องแล้ว,

ฉินนะปิโลติโก,
เป็นธรรมมีส่วนขี้ริ้ว  อันเราตถาคตเฉือนออกหมดสิ้นแล้ว,

เอวัง สฺวากขาโต โข ภิกขะเว มะยา ธัมเม,
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  เมื่อธรรมนี้  เป็นธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว อย่างนี้,

อะละ เมวะ,
ย่อมเป็นการสมควรแล้ว นั่นเทียว,

สัทธาปัพพะชิเตนะ กุละปุตเตนะ วิริยัง อาระภิตุง,
ที่กุลบุตรผู้บวชแล้วด้วยศรัทธา,จะพึงปรารภการการทำความเพียร,

กามัง ตะโจ จะ นะหารุ จะ อัฎฐิ จะ อะวะสิสสะตุ,
ด้วยการอธิษฐานจิตว่า แม้หนังเอ็นกระดูกนั้นจักเหลืออยู่,

สะรีเร อุปะสุสสะตุ มังสะโลหิตัง,
เนื้อและเลือดในสรีระนี้จะเหือดแห้งใป ก็ตามที,

ยันตัง ปุริสะถาเมนะ ปุริสะวิริเยนะ ปุริสะปะรักกะ เมนะ ปัตตัพพัง,
ประโยชน์ใด อันบุคคลจะพึงลุถึงได้ด้วยกำลัง,ด้วยความเพียร ความบากบั่นของบุรุษ


นะ ตัง อะปาปุณิตฺวา,ปุริสัสสะ วิริยัสสะ สัณฐานัง ภะวิสสะตีติ
ถ้ายังไม่บรรลุประโยชน์นั้นแล้ว,จักหยุดความเพียรของบุรุษ เสีย เป็นไม่มี ดังนี้.


ทุกขัง ภิกขะเว กุสีโต วิหะระติ,
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนผู้เกียจคร้าน ย่อมอยู่เป็นทุกข์,

โวกิณโณ ปาปะเกหิ อะกุสะเลหิ ธัมเมหิ,
ระคนอยู่ด้วยอกุศลธรรมอันลามกทั้งหลายด้วย,

มะหันตัญจะ สะทัตถัง ปะริหาเปติ,
ย่อมทำประโยชน์อันใหญ่หลวงของตนให้เสื่อมด้วย,

อารัทธะวิริโย จะ โข ภิกขะเว สุขัง วิหะระติ,
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้มีความเพียรอันปรารภแล้วย่อมอยู่เป็นสุข,

ปะวิวิตโต ปาปะเกหิ อะกุสะเลหิ ธัมเมหิ,
สงัดแล้วจากอกุศลธรรมอันลามกทั้งหลายด้วย,

มะหันตัญจะ สะทัตถังปะริปูเรนติ,
ย่อมทำประโยชน์อันใหญ่หลวงของตนให้บริบูรณ์ด้วย,

นะ ภิกขะเว ยิ้มเนนะ อัคคัสสะ ปัตติ โหติ,
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การบรรลุธรรมอันเลิศ ด้วยการกระทำอันเลว ย่อมมีไม่ได้เลย,

อัคเคนะ จะ โข อัคคัสสะ ปัตติ โหติ,
แต่การบรรลุธรรมอันเลิศ ด้วยการกระทำอันเลิศ ย่อมมีได้แล.

มัณฑะ เปยยะมิทัง ภิกขะเว พรัหมะจะริยัง,
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พรหมจรรย์นี้ น่าดื่ม เหมือนมัณฑะยอดโอชาแห่งโครส,

สัตถา สัมมุขีภูโต,
ทั้งพระศาสดาก็อยู่ ณ ที่เฉพาะหน้านี้แล้ว,

ตัสฺมาติหะ ภิกขะเว วิริยัง อาระภะถะ,
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้น เธอทั้งหลายจงปรารภความเพียรเถิด,

อัปปัตตัสสะ ปัตติยา,
เพื่อการบรรลุถึงซึ่งธรรม อันยังไม่บรรลุ,

อะนะธิคะตัสสะ อะธิคะมายะ,
เพื่อการถึงทับซึ่งธรรม อันยังไม่ถึงทับ,

อะสัจฉิกะตัสสะ สัจฉิกิริยายะ,
เพื่อการทำให้แจ้งซึ่งธรรม อันยังไม่ได้ทำให้แจ้ง,

เอวัง โน อะยัง อัมหากัง ปัพพัชชา,

เมื่อเป็นอย่างนี้ บรรพชานี้ของเราทั้งหลาย,

อะวังกะตา อะวัญฌา ภะวิสสะติ,
จักเป็นบรรพชาไม่ต่ำทราม,จักไม่เป็นหมันเปล่า,

สะผะลา สะอุทฺระยา,
แต่จักเป็นบรรพชาที่มีผล เป็นบรรพชาที่มีกำไร,

เยสัง มะยัง ปะริภุญชามะ,จีวะระปิณฑะปาตะเสนาสะนะคิลานะปัจจะยะเภสัชชะปะริกขารัง,
พวกเราทั้งหลายบริโภคจีวร บิณฑบาต เสนาสนะและเภสัช ของชนทั้งหลายเหล่าใด,

เตสัง เต การา อัมเหสุ,
การกระทำนั้น ๆ ของชนทั้งหลายเหล่านั้น ในเราทั้งหลาย,

มะหัปผะลา ภะวิสสันติ มะหานิสังสาติ,
จักเป็นการกระทำมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่ ดังนี้,

เอวัง หิ โว ภิกขะเว สิกขิตัพพัง.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย พึงทำความสำเหนียกอย่างนี้แล.

อัตตัตถัง วา หิ ภิกขะเว สัมปัสสะมาเนนะ,
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  เมื่อบุคคลมองเห็นอยู่ ซึ่งประโยชน์แห่งตน ก็ตาม,

อะละเมวะ อัปปะมาเทนะ สัมปาเทตุง,
ก็ควรแล้วนั่นเทียว เพื่อยังประโยชน์แห่งตนให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท,

ปะรัตถัง วา หิ ภิกขะเว สัมปัสสะมาเนนะ,
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  เมื่อบุคลมองเห็นอยู่  ซึ่งประโยชน์แห่งชนเหล่าอื่นก็ตาม,

อะละเมวะ อัปปะมาเทนะ สัมปาเทตุง,
ก็ควรแล้วนั่นเทียว เพื่อยังประโยชน์แห่งชนเหล่าอื่นให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาท,

อุภะยัตถัง วา หิ ภิกขะเว สัมปัสสะมาเนนะ,
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หรือว่า เมื่อบุคคลมองเห็นอยู่  ซึ่งประโยชน์ ของทั้งสองฝ่าย ก็ตาม,

อะละเมวะ อัปปะมาเทนะ สัมปาเทตุง,
ก็ควรแล้วนั่นเทียว เพื่อยังประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายนั้นให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาท,

อิติ.
ดังนี้แล.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่