ทำยังไงเมื่อภรรยาเฉลยว่ามีหนี้บัตรเครดิต ในและนอกระบบ กว่า30รายการ

สวัสดีครับ ผมมีความตั้งใจมานานมากๆที่จะได้บันทึกเรื่องราวเอาไว้ในพันทิป เผื่อว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ พอจะช่วยแนะแนวช่วยเหลือและแก้ไขปัญหานี้ให้เป็นเบาได้
     ปัจุบันซึ่งเรา2คนได้อยู่กินร่วมกันมาประมาณ10ปี ต้องย้อนความไปตั้งแต่ช่วงก่อนโควิดประมาณช่วงปี 2016 ซึ่งต่างคนต่างมีงานฐานเงินเดือนประมาณ 12,000บาท และมีงานเสริมหลังเลิกงานยอดรวมกันประมาณ 15,000บาท จึงได้ตกลงซื้อรถกันแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร 
     หลังจากนั้นประมาณ 1-2ปี เขามีปัญหามาปรึกษา บอกว่าพ่อของเขาที่เกษียณจากงานเอกชนแล้วและได้รับเงินก้อนไปแล้ว มีหนี้บัตรเครดิตโดนติดตามทวงถาม ยอดประมาณ 3แสน จึงขอคำปรึกษาและหาทางออกกันว่าให้เรายื่นกู้เงินซื้อบ้านของพ่อเขาเป็นชื่อเรา และนำเงินไปจัดการหนี้ทั้งหมด

ได้ยอดกู้บ้าน 1,220,000 
ใช้หนี้(ยอดกลมๆนะครับ)
-ส่วนของพ่อ                    300,000(ไม่มั่นใจยอดเท่าไหร่)
-ปิดงวดรถ                       230,000
-ค่ากยศ.ของผม               70,000
-บัตรเครดิตของผม2ใบ     46,000
ส่วนต่าง 574,000 ตกลงกันว่า ให้พ่อและแม่เขาได้เก็บไว้ใช้ยามจำเป็น

     สัญญาผ่อน30ปี ตกลงกันว่าจ่ายกันคนละครึ่ง ซึ่งผมก็ไม่ติดอะไรเพราะผมก็ได้ใช้หนี้และหลักประกันก็คือบ้าน และผ่อนกันคนละ 3,800 บาท 

***ปัญหาที่1***
หลังจากนั้นปี2019 สถานการณ์เชื้อโควิดรอบแรก ทำให้กระทบกับรายได้ 
งานเสริม 0 บาท
งานหลักผมได้ชดเชย ยังได้รับปกติ 18,000 บาท
ของภรรยา โดนลดเหลือ 50% และทางบริษัทจะจ่ายคืนให้ภายหลัง เหลือ 7,500 บาท
โดยปกติแล้วค่าใช้จ่ายต่างๆที่อยู่ร่วมกัน เราตกลงกันอย่างชัดเจนว่าใครต้องจ่ายอะไร ผมถามเขาหลายครั้งว่าไหวไหม เขาบอกโอเคผมจึงปล่อยผ่าน

***ปัญหาที่2***
พ่อของเขาได้ล้มป่วย ช่วงโควิดรอบแรกเกี่ยวกับเนื้องอกในสมอง ความโชคดีในโชคร้าย เป็นช่วงลอคดาวน์พอดี จึงทำให้มีเวลาที่จะไปโรงพยาบาลได้แทบทุกวัน ค่ารักษาใช้ 30บาทรักษาทุกโรค แต่ก็แฝงมาด้วยค่าใช้จ่ายๆต่างๆ ซึ่งผมก้ถามเขาหลายครั้งว่าไหวไหม และผมก้ช่วยในส่วนที่เท่าจะช่วยได้ด้วยเงินและกำลังที่มีอย่างเต็มที่เป็นเวลา 2ปี 

***ปัญหารที่3***
คุณยายเสีย เขามีค่าใช้จ่ายประมาณ 5-7,000 ในการจัดงาน และขอยืมเงินเรา 15,000 บาท แต่เรายกให้เลย

***ปัญหาที่4***
หลักจากนั้น1อาทิตย์ พ่อเขาก็ได้เสียชีวิตลง เขาใช้เงินจัดงาน ประมาณ 100,000+  เขาบอกเอกง่าเขาจะจัดการเองทั้งหมด
แต่ผมก็มีจ่ายช่วยเขาประมาณ 2-30,000 บาท

***ปัญหาที่5***
เงินซอง เงินเบิกรัฐต่างๆ ของการจัดงาน เขาบอกว่ายกให้แม่ทั้งหมด
ค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกี่ยวกับแม่เขาดูแลเองโดยไม่ขอความช่วยเหลือใดๆจากผม
-ค่าน้ำ,ไฟ,เน็ตบ้าน
-เงินเดือนแม่ 3000
-แม่อยากได้อะไร เงิน ของ ของกิน เขาก็จะหามาให้

***ปัญหาที่6***
รวมจากช่วงโควิดจนถึงงานศพ ทำให้ผมมีค่าใช้จ่ายแฝง และมีใช้หนี้ของหายให้กับบริษัทฯ
จึงทำให้มีหนี้บัตรเครดิต 2ใบ ยอดรวม 70,000 แต่อยู่ในเกณฑ์ปกติ ใช้จ่ายได้ไม่ติดขัด

 ปี2023อัพเดทรายรับ
ผม 22k
ภรรยา 19K
รายได้เสริม 15k

***ปัญหาที่7***
เขาขอยืมเงินผม เอาไปให้น้องที่ทำงาน 30,000 เพื่อให้น้องที่ทำงานรักษาแม่ผ่าตัดดวงตา และจะขอคืนให้เดือนละ 3,000 และถ้าได้เงินจากประกันสังคมจะปิดยอดให้ ซึ่งผมก็บอกว่าให้ได้ แต่ถ้าเขาเบี้ยวขึ้นมาจะรับผิดชอบไหวไหม ให้คิดดีๆ สุดท้ายก็ให้ไป และน้องเขาก้ลาออกจากงานไป หลังจากงวดที่ 5 เริ่มมีปัญหาค้างจ่ายบ้างหยุดจ่ายบ้าง

***ปัญหาที่8***
เขามาขอความช่วยเหลือบอกว่า แม่เขาเป็นหนี้นอกระบบ ประมาณ 95,000 บาท ผมจึงถามไถ่ไปว่าเงินซองและเงินค่าบ้านและสวัสดิการงานศพล่ะ
เขาบอกว่าแม่ใช้หมดแล้ว

เดี๋ยวว่างๆมาต่อนะครับทำงานก่อน พอผมเรียบเรียงไป ผมก็คิดได้ว่า โครตตตที่จะไม้เมคเซ้นเลยย
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก
มีเนื้อหาเข้าข่ายไม่เหมาะสมอาจสร้างความขัดแย้งในเว็บบอร์ด
ทั้งนี้การลบเนื้อหานี้ออกไปนั้น มิได้เป็นการตัดสินความอย่างใดอย่างหนึ่งแต่เป็นไปเพื่อรักษาบรรยากาศการแลกเปลี่ยนความเห็นในเว็บบอร์ดให้กับเพื่อนสมาชิกค่ะ

ความคิดเห็นนี้ได้ถูก ppantip.com ลบออกไปจากระบบแล้ว หากเนื้อหาที่ถูกลบยังคงถูกนำไปแสดงใน application หรือเว็บไซต์ใดๆ
ทาง ppantip.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆด้วย การดำเนินการทางกฎหมายกรุณาติดต่อผู้พัฒนา application หรือเว็บไซต์นั้นๆโดยตรงค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 37
***บทสรุป***
จากวันที่รับรู้เรื่องหนี้ จนถึงปัจจุบันผ่านมา1ปี
รายรับปัจจุบันรวม 75K
1.หนี้นอกระบบชำระคงเหลือ 5,000*28งวด
2.บัตรเครดิตจ่ายได้2 ใบ ยอดชำระควงเหลือ 1,900* 34 งวด
3.***ตกหล่น***จำนำรถ 4,700*31 งวด ถ้าดูว่าไม่ไหว่ก็ต้องปล่อยให้โดนยึด
4.หนี้ของที่ทำงาน20,000คงเหลือ 1,000*9งวด
4.บัตรเครดิตยื่นฟ้องต่อศาลจำนวน1ใบ2รายการ  รวม180,000 ชำระ 3,000*60งวด
5.บัตรเครดิตยื่นฟ้องต่อศาลจำนวน1ใบ3รายการ รวม138,000  ชำระ 2,000*60งวด เริ่ม ส.ค. นี้ (ต้องชำระเพราะไม่งั้นเขาจะทำเรื่องหักเงินเดือน)
6.ค่าบ้าน 7,900*27ปีโดยประมาณ หักจากเงินเดือนผม ไม่ไหวก็ต้องปล่อย
8.บัตรอื่นๆไม่ได้ชำระ ถึงคราวขึ้นศาลก็ต้องว่าไปตามนั้น

9.ญาติของผมได้เสียไปแล้วค่าใช้จ่ายครอบครัวผมเป็นคนจัดการเองทั้งหมด(ไม่มีหนี้เพิ่ม)  หลังจากนั้นจึงตัดสินใจจะย้ายไปอยู่บ้านเดียวกับแม่ เพื่อลดค่าใช้จ่าย สาธารณูปโภค ส่วนบ้านฝั่งผมนั้นจะให้ญาติท่านอื่นของครอบครัวผมมาดูแลต่อ

  ซึ่งยอมรับตรงๆว่าค่อนข้างตรึงมือมากเกินตัวไปจริงๆ แต่ก็พอจะผ่านมันไปได้  อย่างไรก็ตามถ้าเขาบริสุทธิ์ใจและไม่โกหกปกปิด ผมก็ใช้ชีวิตอยู่กับเขาต่อไป ที่ผ่านเขาดูแลผมดีทุกอย่าง อย่างเสมอมา ผมก็ยินดีช่วยเหลือ คนเรามีทั้งส่วนดีและไม่ดี ผมแค่มองว่าเขาจัดการปัญหาเรื่อเงินได้แย่มากๆเท่านั้นเอง ซึ่งมันเองก็เป็นบทเรียนของเขาและของผมที่ราคาค่อนข้างแพง แต่ถ้าเป้นไปตามแผนการเงิน ภายใน5ปี ชีวิตก็กลับมาสู่ปกติได้ครับ

   สุดท้ายนี้ทุกๆท่านที่เข้ามาอ่าน มีขอเสนอแนะให้ความช่วยเหลือใดๆ เปลี่ยนจากหนักให้เป็นเบาได้บ้าง ผมยินดีรับฟังและปรับใช้มากๆครับ ขอบคุณพื้นที่ให้ผมได้ระบายครับ ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 24
เคยเลิกกะผู้ชายคนนึงเพราะวินัยการเงินแย่ จนจะมาเดือดร้อนเรา

เราไม่ติดนะ ถ้าช่วยกันบ้างนิดๆ หน่อยๆ ยืมกันแล้วก้อคืน

แต่ถ้าเป็นหมื่นเป็นแสน จนเกินความสามารถตัวเอง เราถอยทุกกรณี

จะจนจะรวย ต้องสามารถรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้ตามอัตภาพ อย่าเดือดร้อนคนอื่น
ความคิดเห็นที่ 117
แล้วยิ่งพอเขาเสียพ่อไปทุกอย่างมันก็ยิ่งแย่ > ในแง่การเงินต้องบอกว่าสบายขึ้นสิคะ ตัวเบาขึ้น มีเวลาหาเงินมากขึ้น

เขายืนยันจะไม่ให้ผมช่วย เพราะผมช่วยครอบครัวเขามามากแล้ว แต่เขาทนเก็บเอาไว้ไม่ไหว แค่บอกให้รับทราบ และถึงผมจะแยกทางกับเขา เขาก็เข้าใจ > นี่เป็นคำพูดที่ perfect มาก ในการทำให้คนใจอ่อนแบบคุณช่วยต่อ

การกระทำเสียงดังกว่าคำพูด คำพูดของเขา (ไม่ให้คุณช่วย) กับสิ่งที่เขาทำ (ใช้คำพูดให้คุณช่วยเหลือมากขึ้นๆ ในแต่ละครั้ง) มันตรงข้ามกัน

ความรักต้องมาพร้อมความสบายใจ ไม่ถูกกดดันด้วยความสงสาร หรือความรู้สึกผิดว่าเราเป็นที่พึ่งได้ไม่ดีพอ เราเคารพความต้องการของคุณที่จะช่วยต่อนะ แต่อยากให้คุณมองอะไรตามความเป็นจริง คือ 1. เขาหวังพึ่งคุณมาตลอด 2. เขาอาจยังมีหนี้ปิดบังอีก วัยหนุ่มคือชีวิตตอนพีคของคุณและมันกำลังจะผ่านไป
ความคิดเห็นที่ 13
เยอะเกิน แค่อ่านยังท้อ -*-
ความคิดเห็นที่ 12
ต่อนะครับ
  เขาจึงขอให้ผมยืมเงินพี่ชาย ซึ่งผมไม่เห็นด้วย 100% และไม่ยินยอมทุกกรณี แต่สุดท้ายแล้ว เขาไปคุยกับพี่ชายมาก่อนแล้ว
พี่ผมจึงมาคอนเฟริมกับผมว่า ใช่เขาจริงๆใช่มั้ยที่ขอยืม ผมก้ยืนยันว่าใช่ แต่ไม่ให้ยืม เดี๋ยวจะหาทางออกให้เขาเอง
  หลังจากจบการคุยกัน พี่ชายก็โอนเงินให้ผมทันที และบอกว่าเอาไปจัดการเอง และไม่ต้องรีบหามาใช้ ไว้มีแล้วค่อยมาใช้และให้เก้บหลักฐานการชำระหนี้ให้เรียบร้อย

***ปัญหาที่9***
   ผมตัดสินใจได้ไม่นาน แนะนำให้เขานำรถเราไปจำนองหรือเอารถของพ่อเขาไปขายแต่เขาบอกต้องใช้เงินคืนเขาภายในอาทิตย์นี้ และก็ถามรายละเอียดหลายๆอย่าง เกี่ยวกับเรื่องเงินที่น้องยืม ปัญหาการเงินของเขา และเจ้าหนี้ของแม่ ถามเขาไปตรงๆว่าเขาว่ามีปัญหาการเงินอะไรหรือเปล่า เป้นหนี้การพนันมั้ย แม่เป็นหนี้ได้ยังไง ซึ่งสรุปแล้วส่วนตัวเขาไม่มี ซึ่งผมได้ขอดูรายการบัญชีของเขาย้อนหลังในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ แต่เขาบอกว่าแม่แอบรับเป็นเจ้ามือหวยเองแล้วไม่มีเงินจ่ายเขา เลยไปยืมเขามา
   ผมวางใจได้ระดับนึงแต่ก็แอบเอะใจอยู่บ้าง สุดท้ายแล้วผมจึงตัดสินใจให้เงินเขา นำไปใช้หนี้แม่ แล้วตกลงว่าให้เขานำรถยนต์ของพ่อที่เป็นมรดกไปขายและนำเงินมาคืน

***ปัญหาที่10***
   หนี้บัตรเครดิตของพ่อเขาโผล่มาจากไหนอีก 120,000 โดยไม่ทราบที่มา ถามก็ไม่ได้คำตอบ เพราะพ่อเขาก็ได้เสียไปแล้ว แต่ดาดว่าน่าจะเป็นแม่และเขาเอง แต่เขาจะเป็นคนรับผิดชอบเองไม่เกี่ยวกับเรา


.
.
.
.
.
***วันเฉลยทั้งหมด***
    เขาบอกว่ากลับมามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย ไม่สามารถพิมพ์คุยได้เพราะกลัวบอกรายละเอียดไม่หมด

    เย็นวันนั้นเขายื่นจดหมายมา1ฉบับให้ผมอ่าน เนื้อความบอกขอโทษเราและบอกว่าหลังจากอ่านจบถ้าจะต้องเลิกกันเขาก็เข้าใจ
เขาเป็นหนี้หยิบยืมจากคนรอบข้าง ตั้งแต่ช่วงโควิดจนถึงปัจจุบัน
    1.หนี้นอกระบบ จากคนรู้จักยอดรวมทั้งหมดจากที่ยืมหลายๆครั้ง 428,000 เบ็ดเสร็จรวมดอกเบี้ยหลังจากได้คุยกับเจ้าหนี้แล้ว ซึ่งเจ้าหนี้ก็เข้าใจว่ายืมเพื่อนำไปใช้เรื่องสำคัญ
   2.ยืมจากที่ทำงานค้างชำระ 2คน ยอดรวม 50,000 บาท
   3.บัตรเครดิตและแอปยืมเงิน 16 รายการ ยอดรวม 590,000 บาท
   4.นำรถของเราไปจำนอง(ชื่อเขาเป็นเจ้าของรถ) ยอด  190,000 บาท

เงินที่ยืมพี่ 100,000 นั้นแม่เขาก็ไม่ได้เป็นหนี้
เงินที่ขอยืมให้น้อง 30,000 น้องไม่มีการยืมใดๆ
แต่เขานำเงินไปหมุนเวียนจ่าย "ขั้นต่ำ" เพื่อให้อยู่รอดไปวันๆ เขานำเงินไปหมุนเวียนจ่ายหนี้นอกระบบ

   และเงินทั้งหมดเขาไม่ได้นำไปเล่นการพนันใดๆ แต่เงินเขาไม่พอใช้ตั้งแต่covid เลยหยิบยืมนำไปใช้จ่ายให้กับตัวเขาเองและแม่ของเขา ช่วงตอนที่พ่อป่วย จัดงานศพของพ่อ และก็มีซื้อของดีๆให้ผมบ้าง เขาไม่กล้าที่จะขอความช่วยเหลือจากเรา ปล่อยให้มันสะสมมาจนถึงขนาดนี้
  เขาเดินบัญชี2เล่ม จึงทำให้เราตรวจไม่เจอ
เขาบอกว่า ผมไม่ต้องจัดการอะไร เขาจะจัดการเองทั้งหมด
   ผมบอกเขาว่าถ้าเขาจัดการได้ตั้งแต่แรก ปัญหาพวกนี้ก็จะไม่เกิด ถ้าเขาบอกผมตั้งแต่แรก ปัญหามันจะไม่หนักขนาดนี้ สุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะช่วยกันแก้ปัญหา โดยเริ่มจากการตั้งสติแจกแจงหนี้ทั้งหมดของทั้ง2คน จากพื้นฐานที่ผมทำบัญชีการเงินของผมไว้อยู่แล้ว

เดี๋ยวบ่ายมาต่อครับ ปล.พิมตกหล่นขออภัย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่