อยากจะปรึกษาปัญหานิดหน่อยค่ะ

สวัสดีค่ะ ตอนนี้หนูอายุ15ค่ะ หนูมีความรู้สึกเครียด ไม่ค่อยเชื่อใจคนอื่นหรือเล่าเรื่องให้คนอื่นฟังแม้กระทั้งครอบครัวตัวเอง คิดเล็กคิดน้อย โทษตัวเองค่ะ แล้วก้อยากฆตต.ด้วย แต่หนูไม่เคยลองทำร้ายร่างกายหรือลองพยายามฆตต.นะคะ เพราะหนูกลัวไม่ตายจริงค่ะ ขอคำปรึกษาหน่อยนะคะ ถ้าหนูใช้คำผิดหรือคำงง ๆ ขออภัยด้วยค่ะ

ขอย้อนเวลากลับไปในจุดที่หนูคิดว่าหนูเริ่มมีความคิดแนว ๆ นี้นะคะกลับไปเมื่อช่วงป.6ค่ะ ในตอนนั้นหนูเรียนออนไลน์แล้วค่อนข้างมีความกดดันค่ะเพราะจะสอบเข้าม.1แล้วก้เรียรออนไลน์ด้วยแต่หนูเรียนไม่ค่อยรู้เรื่องค่ะ แม่หนูก้กดดันหนูแล้วหนูก้กดดันตัวเองด้วยค่ะ ตั้งแต่หนูจำได้หนูย้ายมาเรียนรร.นี้เพราะแม่อยากให้หนูสอบเข้าจภ.ให้ได้ค่ะ หนูโดนพูดมาโดยตลอดว่าอยากจะให้เรียนจภ. อยากจะให้หนูเป็นหมอ หนูก้เลยกดดันตัวเองค่ะ จนถึงตอนสมัครสอบ ปรากฎว่าจภ.และรร.ที่เป้นสนาม2ของหนูมันชนกันค่ะ ในตอนนั้นใจหนูมันเทไปที่สนาม2ค่ะ เพราะหนูคิดว่าหนูน่าจะสอบจภ.ไม่ได้ค่ะ แต่ตอนนั้นท่านบังคับหนูไปสอบจภ.ด้วยเหตุที่ว่าเพราะว่ารร.2มีห้องธรรมดา เรารอไปสอบห้องธรรมดาก้ได้ลูก แม่อยากให้หนุไปสอบจภ. หนูในตอนป.6ตอนนั้นร้องไห้ค่ะ หนูไม่เข้าใจตัวเองในตอนนั้นว่ามันเป็นความรู้สึกแบบไหนหนูถึงร้อวไห้ออกมาตอนแม่ได้บอกคำนั้น อาจจะเป้ความรู้สึกผิดหวังที่แม่ไม่เข้าใจหนูหรืออาจจะเป็นเพราะหนูไม่เข้าใจที่แม่พูด แต่สุดท้ายเขาก้เลื่อนสอบออกจากกันค่ะ ทำให้หนูสามารถไปสอบทั้ง2ที่ได้ ที่ปัจจุบันที่หนูเรียนคือสนามสอบ2ค่ะ ผลสรุปสุดท้ายของเรื่องนี้คือหนูไม่ได้ไปสอบที่จภ.ค่ะ ตอนที่เขาเลื่อนสอบคุณแม่หนูตัดสินใจไปไม่ไปมาประมาณ3รอบค่ะ แต่เพราะหนูมีที่เรียนแล้วหนูจึงไม่ได้ใส่ใจแต่ก้คาดหวังที่ตะได้สอบค่ะ จนสุดท้ายแม่หนูก้ตัดสินใจ"ไม่พาหนูไปสอบค่ะ"ส่วนเหตุผลที่หนูเห็นก้คือเรามีธุระที่อื่นค่ะ น่าจะไปทำสวนมั้งคะไม่มั่นใจ วันนั้นเป้นสัปดาห์หลังปัจฉิมด้วยค่ะ ด้วยความเหนื่อยหนูก้เลยไม่คิดอะไร แต่หนูมารู้เหตุผลอีกข้อที่หลังคือตาหนูไม่อยากให้หนูไปสอบค่ะ ตาเป้นห่วงหนูกลัวหนูไปเรียนรร.ประตำแล้วอยู่ไม่ได้ เป้นห่วงหนูค่ะ หนูเข้าใจที่ท่านเป้นห่วงนะคะ แต่หนูไม่เข้าใจค่ะ ในความพยายามที่ผ่านมาของหนู ที่หนูยอมเรียนพิเศษเพิ่มหนัก ๆ จนป่วย พยายามถึงรู้ว่าโอกาสติดจะน้อย ยอมลดเวลาเล่นเพื่อที่จะได้ประโยคที่ว่าไม่ให้ไปสอบนะหรือแค่สอบนะแต่ไม่ให้เรัยนหรอคะ ในส่วนนี้ความคิดหนูอาจจะเด้กค่ะ แต่หนูในตอนนั้นคิดแบบนี้จริง ๆ ก้เลยทั้งโกรธทั้งเสียใจค่ะใน้วลานั้นค่ะ อันนี้น่าจะเป้นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หนูเริ่มไม่ค่อยเชื่อแม่หนู

เวลาที่ผ่านมาตลอด3ปีก้เกิดเหตุการณที่ทำให้ควาสเชื่อใจที่หนูมีต่อแม่ร้อยลวเรื่อย ๆ ค่ะ หนูมีความชอบแต่แม่หนูไม่เคยสนับสนุนหรือสนใจค่ะ แม่ไม่เคยรู้จักในสิ่งที่หนูรักค่ะ แม่ไม่สนใจแต่แม่ไม่เคยขวางค่ะ จนบาวทีหนูก็คิดว่าหนูอยากจะไปเรียนสายภาษาเขาคงไม่ห้ามแต่เขาจะบังคับหนูสอบเข้าหมอค่ะ 5555ในบาวเรื่องที่เป้นเรื่องปกติของหนูแม่ก้มองมันไม่ปกติจนทำให้มีปากเสียงหลายครั้ง หนูรู้สึกเหมือนแม่ไม่รู้จักหนูเลย เวลาหนูขอคำปรึกษาในเรื่องที่แม่เคยทำแม่ชอบไล่ให้หนูไปเปิดยูทูปค่ะ ทำให้หนูรู้สึกแย่กว่าเดิมเพราะหนูเริ่มกลัวที่จะพูดคุยกับแม่ค่ะ ไม่กล้าขอคำปรึกษาแม่จนไม่ค่อยเล่าอะไรให้แม่ฟังเลย หนูเคยไปบอกแม่เรื่องชอบผู้หญิงค่ะ หนูร้อวไห้ในตอนนั้นเพราะหนูกลัวมาก หนูกลัวแม่จะคาดหวังอยากให้นูมีลูกมีหลานให้แม่เพราะว่าแม่มีหนูเป้นลูกคนเดียวค่ะ แล้วก้เคยมีคนในบ้านพุดแซว ๆ ว่าขายลายแบบนี้จะหาผัวได้ยังไงหนูก้เลยค่ะมากค่ะ ในเหตุการณ์นี้ทำให้หนูรู้ว่าหนูกลัวที่จะเล่าอะไรให้แม่ฟังจริง ๆ ค่ะ 

ตอนนี้หนูพึ่งขึ้นม.3 แม่หนูมากดดันหนูแล้วถามหนูว่าอยากเป้นไร อยากเรียนที่ไหม หนูตัดสินใจรวบรวมความกล้าเพื่อบอกสิ่งที่อยากเรัยนไปค่ะ แล้วแม่หนูก้พังความฝันหนูลงทันตาเลยค่ะ ตอนนั้นหนูใจสลายมาก ๆ หนูเป้นแค่เด้กคนนึ่งที่อยากจะเรัยนคณะวิทค่ะ หนูอยากเรียนเพราะความรู้สึกอยากรู้อยากเห้รล้วน ๆ แม่อยากมห้หนูเรียนหมอเภสัชไม่ก้ไปส่ยกฎหมายค่ะเพราะงานมันมั่นคง ในส่วนนี้หนูเข้าใจค่ะ เพราะฐานะที่บ้านหนูที่มีหนี้สินกับหนูมีลูกพี่ลูกน้องที่ห่างกัน10ปีค่ะ ทำให้หนูพอทำใจที่จะเรียนในสิ่งที่แม่อยากเรียนได้ค่ะ วันต่อมาพ่อหนูมาถามว่าหนูอยากเรียนไร หนูยังไม่อยากทิ้งความฝันค่ะเลยตัดสินใจบอกพ่อไป แต่เหมือนพ่อกับแม่หนูก้อปวางคำพูดเลยค่ะ เจ็บไปอี้กกก โดนตอกย้ำความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง 

อันด้านบนคือส่วนที่ทำให้หนูไม่ค่อยกล้าเล่าไรให้แม่ฟังค่ะ มาส่วนที่ทำให้หนูอยากฆตต.ดีกว่า 

ชีวิตหนูมันเริ่มเคว้งค่ะ หนูไม่มีเป้าหมาย ไม่มีงานอดิเรก ไม่มีอะไรที่ชอบ ไม่มีอะไรที่อยากทำเลยค่ะในช่วงนึ่ง ไปรร. เล่นกับเพื่อนร่าเริง กลับบ้านมาซึมค่ะ แง หนูติดอยู่อย่างงี้มาตลอดช่วงม.ต้นหนูเลยค่ะ บวกกับเรื่องด้านบนด้วยทำให้หนูมีความคิดที่อยากจะตายค่ะ ด้วยเหตุผลคือหนูไม่มีเป้าหมาย มีเพียงกายเนื้อที่ยังใช้ชีวิต แต่หนูไม่ทำร้ายร่างกายตัวเองค่ะเพราะหนูไม่ได้อยากจะทรมานกับการเสียเลือด แค่หนูใช้ชีวิตแบบไม่เห้นแสงสว่างมันก้ทรมาณเกินพอแล้วค่ะ ช่วงแรก ๆ ที่หนูเป้นมันเป้นแค่ความคิดช้ิงลบที่ทำให้หนูรู้ว่าจัวเองพร้อมตายแล้วพร้อมตายตลอดเวลา แต่ช่วงหลัง ๆ มานี้หนูเริ่มมีความคิดที่จะฆตต.จริง ๆ ค่ะ ทำให้หนูเริ่มกลัวตัวเองทุกครั้งที่จับอะไรที่คิดว่าจะทำให้ตัวเองตุยได้ค่ะ หนูกลัวว่าในสักวันที่หนูมีปากเสียงกับแม่ หนูจะสติแตกแล้ววิ่งไปเอามีดมาแทงตัวเองค่ะ(หนูคิดไว้แล้วว่าถ้าทำให้เสียเยอะ ๆ ได้อาจจะตายจริง)

ประมาณนี้ค่ะ หนูอยากขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดการอารมและความคิดของตัวเองค่ะ ความคิดเล็กคิดน้อยของหนูมันเป้นปันหาหลายเรื่องแล้วค่ะ แล้วหนูควรจะเปิดใจยังไงให้กับคนอื่นคะ ความคิดที่อยากจจะฆตต.หนูควรจะทำยังไงกับมัน ช่วยหน่อยนะคะ

หนูทิ้งความฝันของหนูไปแล้ว ขอแค่หนูใช้ชีวิตต่อได้ค่ะ ถึงหนูจะไม่ได้เรียนคณะวิด แต่หนูขอเป้นหมอที่รวยก้พอค่ะ

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ หนูพิมพ์ตรงไหนแปลก ๆ สอบถามได้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่