เลี้ยงลูกอย่างไร ให้มีความมั่นใจในตัวเอง กล้าลองผิดลองถูก

หลายคนคงรู้จักนิทานเรื่อง กระต่ายกับเต่า  กันเป็นอย่างดี ที่เต่าน้อยท้าชนกระต่ายจอมเก๋าประชันความเร็ว ถึงแม้จะรู้ตัวว่าวิ่งช้ากว่ากระต่ายมาก แต่ด้วย ความมั่นใจ และมุ่งมั่น ส่งผลให้เต่าเป็นฝ่ายชนะในที่สุด นี่คือบทเรียน การเลี้ยงลูก ที่ช่วยปลูกฝังให้ลูกกล้าลองผิดลองถูก ไม่กลัวความล้มเหลว พร้อมลุกขึ้นสู้ใหม่เสมอ
 
ความมั่นใจเป็นรากฐานสำคัญที่พ่อแม่ควร สร้างให้ลูก ตั้งแต่เล็ก เพื่อให้เขากล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ อย่าปล่อยให้ลูกขาดความเชื่อมั่น กลัวการถูกตำหนิจนไม่กล้าแสดงออก ซึ่งจะส่งผลเสียในระยะยาว ดังนั้นพ่อแม่ควรทำตามเคล็ดลับเหล่านี้

1. ชื่นชมและให้กำลังใจลูกเสมอ แม้จะทำผิดพลาดก็ตาม ให้มองว่าเป็นโอกาสในการเรียนรู้พัฒนาตัวเอง อย่าตำหนิหรือลงโทษเกินเหตุ
หมั่นถามความเห็นลูก ฟังในสิ่งที่เขาพูด แสดงให้เขารู้ว่าคุณให้คุณค่ากับความคิดของเขา จะช่วยสร้างความภาคภูมิใจและมั่นใจในตัวเอง
ฝึกให้ลูกกล้าตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เช่น จะรับประทานอาหารอะไรดี จะใส่เสื้อผ้าแบบไหน เพื่อให้เขารู้สึกว่าสามารถควบคุมและจัดการสถานการณ์ได้
 
2. ไม่ตัดสินลูกด้วยคำพูดในแง่ลบ เช่น “ทำไมลูกถึงทำแบบนี้นะ” “แย่จัง ลูกทำได้แค่นี้เอง” ให้เปลี่ยนเป็น “ลูกลองทำแบบนี้ดูสิ” หรือ “ลูกพยายามได้ดีมากแล้ว”

3. กระตุ้นให้ลูกลองทำสิ่งใหม่ๆ เสียบ้าง แม้อาจล้มเหลวก็ไม่เป็นไร เพราะเป็น ประสบการณ์ สำคัญที่จะทำให้เขาเติบโตและเข้มแข็งขึ้น
 
4. เป็นแบบอย่างที่ดี โดยทำตัวให้ลูกเห็นว่าเรากล้าตัดสินใจ ไม่กลัวความผิดพลาด จะช่วยสร้างบรรยากาศในบ้านให้ลูกซึมซับและเลียนแบบพฤติกรรมเราได้  ถึงแม้ลูกจะทำอะไรพลาดพลั้งบ้าง เราต้องให้เขารู้ว่า ความล้มเหลว ไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย แต่เป็นบทเรียนสอนให้เราปรับปรุงและเก่งขึ้นได้ในอนาคต สิ่งสำคัญคือเราต้องเชื่อมั่นในตัวลูก ให้โอกาสเขาได้ลองผิดลองถูกอย่างอิสระ ไม่ตัดสินหรือด่วนสรุป แต่คอยให้การสนับสนุน ให้กำลังใจ เป็นที่ปรึกษาเมื่อลูกต้องการ จะช่วยให้ลูกเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง และพร้อมเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ในชีวิตได้อย่างมั่นใจ
 
ดังนั้น ในการเลี้ยงลูกให้มีความมั่นใจและกล้าคิดกล้าทำนั้น พ่อแม่มีบทบาทสำคัญในการสร้างพื้นฐานตั้งแต่เยาว์วัย ด้วยการชื่นชมและสนับสนุนลูกอย่างเต็มที่ เป็นที่พึ่งให้คำปรึกษา ไม่ตัดสินเมื่อลูกทำผิดพลาด แต่ให้มองเป็นโอกาสในการเรียนรู้ จะช่วยหล่อหลอมให้ลูกเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เชื่อมั่นในตัวเอง พร้อมลุกขึ้นสู้ได้เสมอ เหมือนดั่งเต่าน้อยตัวอย่างในนิทานที่เราเห็นกัน
 
*สำหรับคุณแม่แล้วกิจกรรมเสริมฝึกลูกให้มีความมั่นใจในตัวเองสามารถทำได้ดังนี้



1. การชื่นชมและให้กำลังใจ
การชื่นชมและให้กำลังใจลูกเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตนเอง เมื่อเห็นความพยายามของลูกในการทำสิ่งต่าง ๆ แม้ผลลัพธ์จะไม่เป็นไปตามที่หวัง เราควรชื่นชมและให้กำลังใจเขา เช่น “ลูกพยายามได้ดีมากแล้ว” การชื่นชมไม่ควรมุ่งเน้นที่ผลลัพธ์เพียงอย่างเดียว แต่ควรเน้นที่กระบวนการและความพยายามที่ลูกทำ การให้กำลังใจเมื่อลูกเผชิญกับความล้มเหลว เช่น “ไม่เป็นไรนะลูก เราลองใหม่ได้” จะช่วยให้เขามองว่าความล้มเหลวเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง พ่อแม่ควรหลีกเลี่ยงการตำหนิหรือลงโทษเกินเหตุ ซึ่งอาจทำให้ลูกสูญเสียความมั่นใจและกลัวการทำผิดพลาด การสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสนับสนุนจะช่วยให้ลูกเติบโตขึ้นอย่างมั่นใจและพร้อมเผชิญกับความท้าทายในชีวิต

2. การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
การให้ลูกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเป็นวิธีที่ดีในการเสริมสร้างความมั่นใจในตนเอง ให้ลูกได้เลือกทำกิจกรรมที่ต้องการ เช่น การเลือกหนังสือที่จะอ่าน การเลือกของเล่น หรือการตัดสินใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน การที่ลูกได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจจะทำให้เขารู้สึกว่ามีคุณค่าและความสำคัญในครอบครัว เช่น ให้ลูกเลือกเสื้อผ้าที่ต้องการใส่เอง การให้ลูกเลือกทำกิจกรรมต่าง ๆ ยังช่วยพัฒนาทักษะการตัดสินใจและการแก้ไขปัญหา พ่อแม่ควรให้คำแนะนำและสนับสนุนลูกในกระบวนการนี้ แต่ไม่ควรควบคุมหรือบังคับให้ลูกทำตามความคิดเห็นของเราเสมอไป การให้ลูกมีโอกาสในการตัดสินใจจะช่วยให้เขารู้สึกว่ามีความสามารถในการควบคุมและจัดการสถานการณ์ต่าง ๆ ได้

3. การทำกิจกรรมใหม่ ๆ
การฝึกให้ลูกทำกิจกรรมใหม่ ๆ เป็นวิธีที่ดีในการเสริมสร้างความมั่นใจและการเรียนรู้ เช่น การปั่นจักรยานในพื้นที่ปลอดภัย เป็นกิจกรรมที่สนุกและท้าทาย ซึ่งจะช่วยให้ลูกได้พัฒนาทักษะทางกายและความมั่นใจในการลองสิ่งใหม่ ๆ นอกจากนี้ การวาดรูปยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ลูกได้แสดงความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึก การให้ลูกได้ลองทำกิจกรรมที่ไม่เคยทำมาก่อน เช่น การเล่นเกมส์ปริศนา การแก้ปัญหา จะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการตัดสินใจ พ่อแม่ควรให้กำลังใจและสนับสนุนลูกในการลองทำกิจกรรมใหม่ ๆ และไม่ควรตำหนิหากลูกทำผิดพลาด การที่ลูกได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ จะช่วยให้เขามีประสบการณ์ที่หลากหลายและเติบโตขึ้นอย่างมั่นใจ

4. การแสดงออกทางคำพูดและการแสดง
การฝึกให้ลูกแสดงออกทางคำพูดและการแสดงเป็นวิธีที่ดีในการเสริมสร้างความมั่นใจในตนเอง ให้ลูกได้เล่านิทานให้พ่อแม่ฟังเป็นการฝึกการแสดงออกและความมั่นใจในการพูด การที่ลูกได้เล่านิทานจะช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารและการคิดอย่างสร้างสรรค์ นอกจากนี้ การเล่นบทบาทสมมติ เช่น การสวมบทบาทเป็นคุณหมอหรือคุณครู จะช่วยให้ลูกได้ฝึกการแสดงออกและการตัดสินใจ การที่ลูกได้ลองเล่นบทบาทต่าง ๆ จะช่วยให้เขาเรียนรู้การแก้ไขปัญหาและการทำงานร่วมกับผู้อื่น พ่อแม่ควรสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสนับสนุนการแสดงออกของลูก โดยไม่ควรตำหนิหรือวิพากษ์วิจารณ์เกินควร การให้ลูกได้แสดงออกอย่างอิสระจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตนเองและความสามารถในการสื่อสาร
 
5. การฝึกให้มีความรับผิดชอบ
การฝึกให้ลูกมีความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า การมอบหมายงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ลูกทำ เช่น การเก็บของเล่น การรดน้ำต้นไม้ จะช่วยให้ลูกได้ฝึกความรับผิดชอบและรู้สึกภูมิใจในตนเอง นอกจากนี้ การให้ลูกมีส่วนร่วมในการดูแลสัตว์เลี้ยง เช่น การให้อาหาร หรือการทำความสะอาดที่นอนของสัตว์เลี้ยง จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการดูแลและรับผิดชอบสิ่งต่าง ๆ พ่อแม่ควรให้คำแนะนำและสนับสนุนลูกในการทำงานบ้านและการดูแลสัตว์เลี้ยง โดยไม่ควรทำแทนหรือควบคุมเกินไป การให้ลูกได้ฝึกทำงานที่มีความรับผิดชอบจะช่วยให้เขามีทักษะในการจัดการและการดูแลตนเอง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตในอนาคต

6. การส่งเสริมกิจกรรมกลุ่ม
การให้ลูกได้ทำกิจกรรมกลุ่มเป็นวิธีที่ดีในการเสริมสร้างความมั่นใจและทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น ส่งเสริมให้ลูกเล่นกับเพื่อน ๆ ในกิจกรรมที่มีการแบ่งหน้าที่กัน จะช่วยให้ลูกเรียนรู้การทำงานเป็นทีมและเพิ่มความมั่นใจในการทำงานร่วมกับผู้อื่น เช่น การเล่นกีฬา การเข้าร่วมงานเทศกาล นอกจากนี้ การพาลูกเข้าร่วมกิจกรรมในชุมชน เช่น งานเทศกาล กิจกรรมกีฬา จะช่วยให้ลูกได้มีโอกาสพบปะและทำความรู้จักกับคนใหม่ ๆ การที่ลูกได้ทำกิจกรรมกลุ่มจะช่วยให้เขามีทักษะในการสื่อสารและการทำงานร่วมกับผู้อื่น พ่อแม่ควรสนับสนุนและให้กำลังใจลูกในการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม และไม่ควรบังคับให้ลูกทำในสิ่งที่ไม่ชอบ การให้ลูกมีโอกาสในการทำกิจกรรมกลุ่มจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและทักษะทางสังคม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่