กระทู้นี้ตั้งโดยได้รับคำปรึกษา คำแนะนำจาก จนท ตำรวจที่จบนิติศาสตร์ ที่รับแจ้งความแล้ว ว่าสามารถตั้งได้ ไม่ผิดกฏหมาย พรบ คอมฯ ไม่หมิ่นประมาท
เพราะไม่ได้ตั้งด้วยเจตนาที่จะดิสเครดิตศูนย์การค้า ไม่ได้เอารูปใครมาลงประจาน แต่ตั้งขึ้นเพื่อเตือนภัยสังคม ให้สาธารณะชนรับรู้ ตระหนัก

และ ได้ปรึกษากับนักข่าว ของบางสำนักข่าวใหญ่มีชื่อเสียงแล้วด้วยเช่นกัน ว่าควรตั้งเพื่อเตือนภัยสังคม เพื่อความปลอดภัย

สืบเนื่องจากเจ้าของกระทู้ (ขอย่อว่า จขกท) ไปเดินศูนย์การค้าย่านธุรกิจที่สำคัญแห่งหนึ่ง (ขอย่อว่า ศูนย์ฯ) แห่งนี้เป็นประจำ
เป็นลูกค้าประจำตั้งแต่ศูนย์ฯ เริ่มเปิดให้บริการ จนถึงปัจจุบัน

เมื่อคืนวันหนึ่ง ตอนศูนย์การค้ากำลังปิด ตอนประมาณ 4 ทุ่ม จขกท เดินออกมาจากศูนย์ฯ เดินไปบนสกายวอล์ค มุ่งหน้าไปทางสถานีบีทีเอสที่เชื่อม
กับศูนย์ฯ แห่งนี้ได้ด้วยสกายวอล์ค

ปรากฏว่า มี รปภ ของศูนย์การค้า เดินตาม จขกท ออกมาที่สกายวอล์ค ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ รปภ ได้มาพูดจาคุกคามข่มขู่ กล่าวหา จขกท
ว่า ไปถ่ายรูปเขา ซึ่งผิดกฏหมาย และ บังคับให้ จขกท เปิดมือถือให้เขาดูรูปที่ จขกท ถ่าย

แต่ จขกท ไม่ได้สนใจ รปภ เพราะเขามาแบบไม่เป็นมิตร มาลักษณะข่มขู่ คุกคาม กล่าวหา จขกท จึงไม่ได้หยุดเดิน และ ไม่ได้พูดอะไรตอบ รปภ คนนั้นแม้แต่คำเดียว เพราะ จขกท ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตอบคำถามเขา และ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จขกท ไม่ได้เจาะจงถ่ายรูปของเขา
หรือ ที่สำคัญ ศูนย์การค้าเป็นพื้นที่สาธารณะอยู่แล้ว (จัดอยู่ในหมวดพื้นที่สาธารณะที่เป็นของเอกชน ประชาชนทุกคนสามารถไปเดินได้
ถ้าใครที่ไม่ได้ทำผิดอะไรไปเดินไม่ได้ แปลว่าถูกเลือกปฏิบัติ หรือ ถูก Discrimination) 

ใครไปเดินห้าง เดินศูนย์การค้า ลูกค้าเขาก็ถ่ายรูปกันทั้งนั้น การถ่ายรูปในห้าง ในศูนย์การค้า ไม่ผิดกฏหมาย ไม่ว่าจะที่ประเทศไทย
หรือ ที่ประเทศไหน หรือถ้าถ่าย ถ้าแชร์ เช็คอินทางโซเชี่ยล ศูนย์การค้าเขายิ่งชอบ เพราะในหลายๆ กรณีมันคือการโฆษนาประชาสัมพันธ์ให้เขาฟรีๆ 

หรือ การถ่ายรูปในศูนย์การค้า หรือ ในสถานที่สาธารณะ ในหลายๆ กรณีมันต้องมี รูป รปภ หรือ พนักงาน หรือ คนทั่วไป ติดมาอยู่แล้ว
มันไม่ผิดกฏหมาย ส่วนการถ่ายรูปคนอื่น แล้วผิดกฏหมาย พรบ คอมฯ ตามที่ รปภ ศูนย์การค้าหรูกล่าวหาปรักปรำ จขกท ในที่สาธารณะ 
จะผิดก็ต่อเมื่อ เอาไปลงโซเชี่ยล ลงในที่สาธารณะเพื่อเป็นการประจานหรือการหมิ่นประมาท

แต่ รปภ ก็ยังเดินตาม จขกท ไม่หยุด ข่มขู่ไม่หยุด พร้อมเปิดมือถือของเขาไปด้วย (ซึ่ง จขกท คาดว่า เขาเปิดถ่ายไลฟ์สดให้พวกทีม รปภ ที่อยู่ในศูนย์การค้าดูไปด้วย หรือ อาจจะเปิดมือถือถ่ายคลิปเพราะเห็นมีถ่ายแล้วมีกดๆ ในมือถือด้วย คงกดส่งคลิปไปให้ทีมฯ ดู) 

จขกท จึงถ่ายรูปของเขาที่สถานีบีทีเอสแห่งนั้น เพื่อเป็นหลักฐานว่า เขาใส่ชุดยูนิฟอร์มของเขาออกมานอกศูนย์การค้า มาในพื้นที่นอกที่ทำงานของเขา
ตามมาคุกคามข่มขู่กล่าวหาปรักปรำ จขกท ซึ่งเป็นลูกค้าถึงสถานีบีทีเอส ซึ่งที่นั่นไม่ใช่ที่ทำงานของเขา แต่เป็นพื้นที่สาธารณะ (ของเอกชนรายอื่น ซึ่ง
จัดอยู่ในหมวดพื้นที่สาธารณะที่เป็นของเอกชนที่ประชาชนทุกคนมีสิทธิที่จะไปใช้บริการได้เช่นกัน ตราบใดที่ไม่ได้ทำอะไรผิดกฏหมาย
หรือ ผิดกฏของบีทีเอส (เช่น จะเอาของที่ทางบีทีเอสห้ามเอาเข้าสถานีเข้าไป หรือ ใช้บัตรโดยสารผิดประเภทแล้วถูกจับปรับ เป็นต้น) 

เมื่อเกิดเหตุกาณ์นี้แล้ว จขกท จึงได้รีบไปที่สถานีตำรวจ (ขอย่อว่า สน) ของท้องที่ที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าระหว่างที่เล่าให้คุณตำรวจฟังอยู่ในห้องด้านใน
พอออกมา เห็น รปภ คนนี้มาที่สถานีตำรวจด้วย 

ขอเล่าย่อๆ ว่าตอนที่ จขกท ไปแจ้งความ สารวัตร และ ร้อยเวร งานยุ่งมาก มีต้องออกไปทำคดีที่เกิดเหตุที่ข้างนอกด้วย แต่ จขกท ก็รอถึง 3 ชั่วโมง รอให้คุณตำรวจกลับมา คุณตำรวจก็รับแจ้งความจาก จขกท เพราะ จขกท เป็นเจ้าทุกข์ที่ถูกข่มขู่คุกคามโดนว่ากล่าวปรักปรำในที่สาธารณะ ส่วน รปภ ของห้างชื่อดังแห่งนั้น ทาง จนท ตำรวจ บอกให้เขากลับบ้านไปได้ตั้งแต่เขามาได้ประมาณชั่วโมงนึง เพราะตำรวจไม่มีเรื่องอะไรให้เขาแจ้งความ เพราะทาง จขกท ซึ่งเป็นเจ้าทุกข์ไม่ได้ถ่ายรูปเขา

จขกท ให้คุณตำรวจดูภาพในมือถือ ว่ามีถ่ายภาพที่ศูนย์การค้าจริงแต่เน้นถ่ายตรงอื่น มี รปภ ติดในภาพ แต่ภาพไม่ชัด และ ไม่เห็นหน้า คุณตำรวจบอก
รปภ ของศูนย์การค้านี้ว่า ภาพที่ถ่าย จขกท ไม่ได้เอาไปลงโซเชี่ยลที่ไหน แต่อยู่ในมือถือของ จขกท และ จขกท ไม่ได้เอาลงประจานในโซเชี่ยล
จขกท ไม่ได้ทำผิดอะไร ในตอนท้ายๆ จขกท จะมีอธิบายให้สมาชิกพันทิปผู้อ่านฟังว่า จขกท ถ่ายรูปนั้นไปทำไม ถ่ายเพื่ออะไร จะถ่ายส่งให้ใคร ตอนที่ จขกท เอาภาพในมือถือให้คุณตำรวจดู รปภ พูดจาก้าวร้าวมาก มอง จขกท แบบอาฆาต และ เขาบอกคุณตำรวจหลายคน เขาบอกต่อหน้าคนอื่นๆ อีกหลายคน
ที่นั่งอยู่ใน สน ว่า จขกท โกหกทุกอย่างเลย 

การที่ จขกท ต้องนำเรื่อง รปภ ศูนย์การค้าหรูคุกคามข่มขู่ปรักปรำลูกค้า ออกมาเตือนภัยสังคม เพราะว่า จขกท โดนทีม รปภ ของศูนย์การค้านี้ 
เฝ้าจับตามองใกล้ชิด เลือกปฏิบัติ มาเป็นเวลาอย่างน้อยๆ 7-8 เดือนก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ ที่หนึ่งใน ทีม รปภ นี้ตามออกมาคุกคามข่มขู่
จขกท ถึงสถานีบีทีเอส เมื่อคืนวันนั้นแล้ว 

โดยที่ จขกท ได้ทำการให้ฟี๊ดแบ๊คร้องเรียนคอมเพลนไปยังผู้จัดการแผนกต้อนรับดูแลลูกค้าของศูนย์การค้าแห่งนี้ (ขอเรียกแผนกนี้ว่า คอนเซียร์จ
เพราะแผนกนี้นั่งที่เคาน์เต้อร์คอนเซียร์จ) ร้องเรียนไปทางอีเมล ทางโทรศัพท์ หรือ ไปแจ้งที่คอนเซียร์จด้วยตนเอง นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ทุกครั้งที่แจ้งไปทางศูนย์การค้าตอบมาว่า มิได้นิ่งนอนใจ มีการนำเข้าที่ประชุม แจ้งความคืบหน้า และ ทุกครั้งที่ จขกท แจ้งคอนเซียร์จ ทีม รปภ ก็ยิ่งถอยห่าง เพราะยิ่งคุกคาม
จขกท เท่าไหร่ ทางศูนย์การค้า หรือ ทางหัวหน้า รปภ ก็ทราบดีอยู่แล้ว ว่า ทางทีม รปภ ขาดความชอบธรรมในการเลือกปฏิบัติต่อ จขกท เพราะ จขกท เป็นลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการตามปกติเหมือนลูกค้าคนอื่นๆ จขกท ไม่ได้ทำอะไรผิด 

ช่วงที่ จขกท โดนคุกคามที่ศูนย์การค้าแห่งนี้ หนักๆ โดยเฉพาะช่วงแรกๆ ถึงขนาดที่ว่า ทีม รปภ เคยยกพวก 2-3 คน เดินเข้าไปในร้าน
อาหารที่ จขกท ไปนั่งรับประทานมาแล้ว ทำมากกว่า 1 ครั้ง และ รปภ บางคนไปนั่งที่โต๊ะของลูกค้า(โต๊ะที่ว่าง)ด้วย หรือ ตอนที่ จขกท เคยไปทานอาหารที่อีกร้านหนึ่งรปภ ก็ไปนั่งดักรอที่เก้าอี้สำหรับให้ลูกค้านั่งรอโต๊ะด้วย หรือ ร้านอาหารบางร้านที่ศูนย์การค้านี้ มีที่นั่งด้านนอก (ที่ยังอยู่ในบริเวณห้องแอร์ของศูนย์ฯ) เวลาที่ จขกท ไปนั่งรับประทานอาหาร รปภ ก็มาเดินวนรอบๆ บริเวณนี้ 

พอ จขกท คอมเพลนเรื่องถูกตามคุกคามในร้านอาหาร หรือ การที่ รปภ มาเดินวนรอบร้านอาหารที่ศูนย์การค้านี้ หรือ เคยถูกเดินตามเสมอ เมื่อทางคอนเซียร์จจัดการดูซีซีทีวีให้ รปภ ก็เปลี่ยนแทคติกในการตามเรื่อยๆ ปรับเปลี่ยนใช้แทคติกไปตามการคอมเพลนของ จขกท ที่ จขกท เก็บข้อมูล และ สังเกตเห็น

หรือ การที่ทีม รปภ เคยยกพวกออกมายืนสแตนด์บายตามบันไดเลื่อนทุกชั้น เวลาที่ จขกท ไป อารมณ์ประมาณมารอกดดัน หรือ มาคอยหาเรื่องจับผิด
แล้วไปสแตนด์บายตามบันไดเลื่อนเพื่อที่จะได้ดักจับทัน หากหาเรื่องจับผิด จขกท ได้ นี่คือการตั้งข้อสังเกตในเรื่องความปลอดภัยของตนเอง
การที่เห็นสิ่งที่ผิดปกติ ไม่ชอบมาพากล แล้วตั้งสมมติฐาน เพื่อแจ้งศูนย์การค้า มิใช่การปรักปรำ และ เพราะทางศูนย์การค้าเคยแจ้งว่า ได้เห็น
ในซีซีทีวีตามที่ จขกท แจ้งหลายหนแล้ว และ บอกให้หัวหน้า รปภ อบรมลูกน้องในเรื่องมารยาท เรื่องการที่ให้ปล่อยให้ลูกค้า(จขกท)มาเดินที่ศูนย์การค้าแห่งนี้ได้อย่างสบายใจ ไร้กังวล

ตลอด 7-8 เดือนที่ผ่านมา ที่ จขกท เพียรเฝ้าถามทางศูนย์การค้าแห่งนี้ว่า จขกท ทำผิดอะไร ทำไมบ่อยครั้งที่มาใช้บริการต้องโดน รปภ เลือกปฏิบัติ
แบบนี้ และ ทำไมไม่ยอมเลิกรา แต่ยังคงทำการกระทำที่เป็นการคุกคาม อาฆาต ข่มขู่ อยู่ร่ำไป หรือ เป็นเพราะมีการเลือกปฏิบัติ หรือ ถ้าจะมาเดิน
ที่ศูนย์การค้าต้องดูเป็นลุคไฮโซ มีชื่อเสียง ต้องดูรวย ต้องใส่แบรนด์เนมไหม ต้องมารถหรูมีคนขับไหม เป็นต้น 

หรือ การที่บ่อยๆ ครั้งเวลาที่ จขกท ไปที่ศูนย์การค้าแห่งนี้ จะมี รปภ มายืนคุมเชิง สอดส่องเสมอ เคยแม้กระทั่งมายืนส่องเข้าไปในร้านอาหาร
ส่องแบบจงใจส่องระยะประชิดเท่าที่จะเข้าถึงได้ แล้วฟังคำสั่งทางหูฟัง โดยมี รปภ อีกคนยืนอยู่อีกชั้นนึงคอยคุมเชิง แล้วสั่งงานกันทางวิทยุ
จขกท เคยเจอ พอเดินเข้าไปใกล้ๆ รปภ สะดุ้งเฮือก ร้องดังมากกกก เพราะเขาไปส่อง จขกท แต่ จขกท เดินออกไปห้องน้ำ แล้วตอนจะกลับเข้า
ไปในร้านอาหาร เห็นพอดี ว่ามาสอดส่องสอดแนมจ้องหาเรื่องจับผิด จขกท อีกแล้ว จขกท เลยเดินไปดูใกล้ๆ พร้อมกับคุยโทรศัพท์แจ้งให้
ทางบ้าน และ เพื่อน ทั้งที่ไทยและ ตปท ทราบด้วย รปภ ตกใจแทบสิ้นสติ แล้วคนที่ซุ่มสั่งงานอยู่บริเวณอื่น (รวมทั้งดูทางซีซีทีวี) ก็สั่งให้คนที่มา ตามสอดส่อง จขกท สลายตัว 

ทุกครั้งที่ จขกท เพียรถามมาเป็นสิบเป็นร้อยครั้ง ว่าทำไม โดยเฉพาะการถามมาทาง ผจก แผนกคอนเซียร์จของศูนย์การค้า แต่ทางศูนย์การค้าไม่เคยตอบคำถามของ จขกท ว่าทำไม รปภ ทำแบบนี้ แต่บอกว่า ยินดีต้อนรับลูกค้าทุกคน ให้มาเดินได้ และ เวลาที่ จขกท แจ้งเรื่อง รปภ ตาม จขกท ทางศูนย์การค้าบอกว่าทาง รปภ ลาดตระเวณ ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ แต่ทุกครั้งหลังจากที่ทาง จขกท คอมเพลนไป ทางทีม รปภ มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการติดตาม จขกท เสมอ ทาง จขกท จึงแย้งไปว่า ถ้าปฏิบัติงานตาม ปกติ ทำไมต้องเปลี่ยนวิธีไปเรื่อยๆ เพราะการทำงานตามปกติ มันต้องมีมาตรฐาน
ไม่ควรจะมีการเลือกปฏิบัติ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ 

และ ได้รับการบอกจากทางศูนย์ฯ เสมอมาว่า ทางทีม รปภ ไม่ใช่คนของทางศูนย์การค้า แต่เป็นพนักงานบริษัทอื่น เอ๊าท์ซอร์ส ต้องแจ้งหัวหน้า
รปภ แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้ จขกท ได้รับการบอกว่า ทางทีม รปภ เป็นลูกจ้างของทางศูนย์การค้า หลังจากที่ จขกท คอมเพลนไปว่า ทางศูนย์ฯ ควรจัดการ
ปรับปรุงควบคุมแผนก รปภ ไม่ให้มาคุกคามลูกค้าได้ เพราะถึง รปภ จะเป็นคนของบริษัทอื่น แต่ทางศูนย์การค้าจ้างเขามา ข้อมูลที่ศูนย์แจ้ง จขกท
สามารถเปลี่ยนกลับไปกลับมาได้เรื่อยๆ

ที่จริง ทาง จขกท เคยขอประชุมกับทางศูนย์ฯ ทางผู้บริหาร ทางคอนเซียร์จ ทางหัวหน้า รปภ ขอไปหลายครั้งมากๆ จนทางศูนย์ตกลง
แต่ทางครอบครัว หรือ ผู้ใหญ่ของ จขกท สั่งห้าม เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย  บอกว่าเสียเวลา ที่สำคัญที่สุดคือ ไม่เคยมีลูกค้าที่ไหน
ต้องมาประชุมกับทางศูนย์ฯการค้า เพื่อขอร้องให้ตนเองที่เป็นลูกค้ามาเดินจับจ่ายใช้สอยกินอาหารมาทำธุระได้อย่างสบายใจ ไร้การคุกคามกดดัน

จขกท อดทนมาตลอดเวลาหลายเดือน และ บอกกับทาง ผจก แผนกคอนเซียร์จ ว่า เห็นแก่ ผจก และ ผู้บริหารที่คอยรับฟัง
พยายามแก้ไขปรับปรุงมาตลอดหลายเดือน แต่ทางทีม รปภ ก็ยังคงหาทางสอดส่องจับตาหาเรื่องจับผิด จขกท อยู่เสมอ 

จขกท พยายามหาสาเหตุที่น่าจะเป็นหลายอย่าง ที่โดน รปภ คุกคามแล้วแจ้งทางศูนย์การค้าไป แต่ทางศูนย์การค้าก็ไม่มีคำตอบใดๆ เช่น ทางทีม รปภ อาจจะไม่พอใจ ที่ จขกท คอมเพลนเรื่องกลิ่นบุหรี่ ที่ทีม รปภ ชอบปล่อยให้ลูกค้าต่างชาติสูบที่ประตูทางเข้าออก แล้วชอบเปิดประตูทิ้งไว้ เวลา จขกท ไปรอรถ
กลิ่นบุหรี่มันรบกวน จขกท แพ้กลิ่นบุหรี่ ไม่ต้องการให้กลิ่นบุหรี่ทำร้ายปอดของ จขกท กลิ่นมันเร่งโควิด ทำให้โควิดแย่กว่าเดิมได้ถ้าเป็น
จขกท อายุไม่น้อยแล้ว กลุ่มเสี่ยง

หรือ การที่ลูกค้าถ่ายรูปตรงทางเข้าออกเมื่อคืนวันก่อน ที่โดน รปภ ออกมาคุกคามที่สถานีบีทีเอส ที่สกายวอล์คนอกศูนย์ฯ เพราะ จขกท 
ต้องการถ่ายภาพผ้าห่มสีเทา ที่ทางศูนย์การค้าฯ ชอบเอามาวางในวันฝนตกตอนหน้าฝน ผ้าที่ว่านี้ ที่จริงคือผ้าห่ม ไม่ใช่ผ้าเช็ดเท้า เป็น
ผ้าห่มใยสังเคราะห์ลื่นๆ จขกท เดินผ่านทีไร ลื่นทุกครั้ง ยังไม่ลื่นล้ม แต่วันหน้าอาจจะลื่นเกิดอุบัติเหตุได้ หรือ อาจจะมีลูกค้าคนอื่นลื่น ไม่ปลอดภัย

จขกท เดินศูนย์การค้าห้างร้านไฮโซ แพงหรู ย่านใจกลางกรุงฯ ของ ปท ไทยทุกแห่ง มานานหลายสิบปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์เหล่านี้มาก่อน เจอที่นี่ที่แรกที่เดียวในโลก จากการบริการที่หละหลวม ละเลยความปลอดภัยส่วนรวม พอลูกค้าแจ้ง ก็เกิดอันตรายเพราะลูกค้าถูกข่มขู่ คุกคาม