จากกระทู้เดิม ทริปสงกรานต์ Bangkok - Tokyo - Mt.Fuji - Ho Chi Minh 7 วัน 6 คืน แห่งความสุข ของผมและภรรยาครับ - Pantip ภรรยาและผมพาเที่ยว ฟูจิกันมา แล้ว
วันนี้มาต่อกระทู้ 2 กันครับ
เริ่มต้นเช้าวันนี้ด้วยการเห็นโพสต์ขอความช่วยเหลือจากกลุ่มท่องเที่ยวในญี่ปุ่น คือมีเพื่อนสมาชิก เก๊าท์กำเริบ แต่ไม่มียา ผมมียา Gofen อยู่ และคิดว่าไม่ไกลเท่าไรจากที่พัก เลยเดินเอาไปให้ แต่พอไปถึงโรงแรม ปรากฎว่า ผิดสาขา เป็นคนละสาขาโรงแรมกัน ก็ขอโทษเพื่อนสมาชิกท่านนั้นไปครับ แต่ก็ทราบว่า สมาชิกท่านนั้น ได้ยาจากเพื่อนคนไทยในกลุ่มแล้วเช่นกัน คนไทยดีๆ มีเยอะ ที่ไม่ทิ้งกันครับ พวกไปทำเรื่องเสื่อมๆ ในต่างประเทศ นั้นแค่ส่วนน้อย เพียงแต่เป็นส่วนน้อยที่เสียงดัง ต่างหาก
มาครับ เข้าเรื่องเราต่อเลยครับ วันนี้ หลังจากได้เดินแล้ว รู้สึกติดใจ บรรยากาศการเดินในโตเกียวมาก แดดไม่ร้อน อากาศกำลังดี เลยชวนภรรยาเดินชิลๆ ต่อ ไปจนถึงสถานี้เริ่มต้นของเรา
Ueno Station ครับ
รวมแล้วแค่เริ่มต้นก็เดินเกือบ 2 Km แล้วครับ 55555
การเดินทางของเราวันนี้ เรานั่งรถไฟใต้ดินมาที่สถานี Ofuna (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) แล้วนั่ง Monorail ต่อมาที่ Enoshima และเดินอีกประมาณกิโลกว่าๆ (เดินอีกแล้ว) มาเกาะแมวครับ
สิ่งนึงในญี่ปุ่นที่ผมชอบมากๆ คือ บรรยากาศในสถานีรถไฟใต้ดิน มันดูพลุกพล่าน สับสน วุ่นวาย แต่ในความสับสนวุ่นวายนั้น เรากลับรู้สึกตื่นเต้น สนุก และท้าทายสำหรับการเดินทางมากๆครับ
หลังจากเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ในที่สุดเราก็มาถึงเกาะแมวกันแล้วครับ ด้วยความที่ภรรยาผม รักแมวมากๆ เกาะนี้จึงเป็น Landmark สำคัญที่ต้องมาให้ได้
มาถึงแล้ว อย่างแรกที่จะทำคือ เดินหาแมว
ปล๊าววววว ไม่ใช่ครับ
กินก่อนครับ 55555 ท้องร้องจ๊อกๆ กันแล้ว ขอแนะนำเพื่อนๆนิดนึงนะครับ อาหารบนเกาะ ราคาค่อนข้างสูงกว่าฝั่งแผ่นดิน ถ้าหิว ทานร้านแถวทางที่เดินมาก่อนได้ครับ มีร้านน่ากิน น่านั่งเยอะแยะเลยครับ ส่วนเรากะว่าจะมากินบนเกาะ พอเห็นราคา เลยเดินหา ร้าน Food Truck ง่ายๆ ราคาเบาๆ ทานกันครับ อร่อยมาก และที่สำคัญ คุณพนักงานน่ารักและใจดีมากๆเลยครับ มาถ่ายรูปกับเราสองคนด้วยครับ
หลังจากอิ่มหนำสำราญ เรานั่งพักพาย่อยกันสักแปบ ก็ได้เวลาเดินครับ คือภรรยาผมคาดหวังว่า จะเจอแมวจร เต็มเกาะ แต่ในความเป็นจริง ด้วยความที่นักท่องเที่ยวเยอะแยะมากมาย น้องคงจะหลบครับ ไม่เจอเลย ภาพชุดต่อไป ขออนุญาตพาเพื่อนๆ เดินชมศาลเจ้า และการตามหาน้องแมวของภรรยาผมครับ
หลังจากเดินหา เดินไหว้พระ ทั้งขึ้นบันได ขึ้นเขา เดินไปชายหาด ก็ยังไม่เจอสักตัว เราก็เดินต่อไปจนถึงจุดชมวิว ทะเล ด้านบน และตรงนี้เอง เราก็เจอน้องแมวตัวแรก ภรรยาผมยิ้มกว้างด้วยความดีใจทันที น้องน่ารักมาก ตัวอ้วน อุ๊ปุ๊ อุ๊ปุ๊ เลย ผมเลยขอตั้งชื่อให้น้องว่า น้อง " Happy อุ๊ปุ๊ " เพราะน้องทำให้ภรรยาและผมมีความสุข อิอิอิ มาพบกับน้องกันครับ
หลังจากถ่ายรูปน้องจนฉ่ำ (เราถ่ายรูป แต่ไม่ได้ไปจับ ไปแตะน้องนะครับ พยายามรบกวนน้องให้น้อยที่สุด เพราะคิดว่าน้องน่าจะรำคาญแหละ 55555)
เราเดินมาถึงจุดชมวิว จุดนี้ดีครับ มีที่ตั้งกล้องให้ ตั้งเวลาถ่ายรูปได้ เราเลยมีรูปคู่กันบนเกาะแมวครับ
หลังจากเจอน้อง "Happy อุ๊ปุ๊" เราก็มีกำลังใจเดินต่อ ปะครับ ลุยหาน้องแมวบนเกาะแมวกัน
เราเดินไปเรื่อยๆ แล้วก็มาเจอพี่ผู้ชายท่านนี้กำลังเล่นกับน้องอยู่ครับ
ดูท่าแกจะมาบ่อย เพราะในกระเป๋าแกมีขนมไว้ให้น้องๆทานด้วย พอเห็นเรายืนมอง แกก็เชิญให้เราไปถ่ายรูปกับน้องครับ
แล้วเราก็เดินต่อกันอีกพักใหญ่ๆ เจอน้องๆอีกพอสมควรเลยครับ เกือบๆ 10 ตัวเลย ภรรยาผม Happy มากกกกกกกกก
เท่าที่เราสังเกตุดู บนเกาะน่าจะมีแมวจรเยอะจริงๆแหละครับ เพียงแต่นักท่องเที่ยวเยอะ น้องเลยหลบๆ เพราะผมเห็น ทุกๆบ้าน มีชามใส่อาหารไว้ให้แมวมาทานทุกบ้านเลย แมวจรบนเกาะนี้ถึงอวบ อ้วน ทุกตัว เพราะอาหารการกินสมบูรณ์เหลือเกิน
หลังจากนั้น เราก็กลับเพราะนี่รวมๆก็เดินกันน่าจะเกิน 10 Km แล้ว แต่ก่อนกลับ ผมขอภรรยาไปตามสถานที่แห่งความฝัน ในวัยมัธยมผมก่อนสักนิดนึง
เพื่อนๆอาจจะคิดว่า ตามรอย Slam Dunk แน่ๆ
ปล่าวครับ ไม่ใช่ครับ แต่เป็นการตามรอย Music Video เพลงนี้ครับ
https://youtu.be/gavcjNniIvk?si=_fdGLCXvbOn-10lQ
สถานที่ใน Music Video คือความฝันของผมตั้งแต่มัธยม ผมชอบเพลงนี้มาก และชอบชิงช้าสวรรค์ใน Music มาก บอกตัวเองตั้งแต่เด็กว่า จะมาตรงนี้ให้ได้ ผ่านมากว่า 20 ปี ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง
พอออกจากสถานี ผมมองไปรอบๆ ไม่เจออะไรเจอแต่ตึก เลยเดินแกมวิ่ง หาไปเรื่อยๆ แบบลืมความเมื่อยไปเลย จนในที่สุด ผมก็เห็นชิงช้ามาแต่ไกลๆ
ตอนนั้นขนเริ่มลุก ความรู้สึกแบบปลื้มใจสุดๆ กลั้นเต็มที่ เพราะไม่อยากร้องไห้ พอหันหลังกลับไปมองภรรยา ที่กำลังเดินตามมาเพื่อจะบอกว่า พี่ทำความฝันของเด็กคนนึงเป็นจริงแล้ว ปรากฎว่า พอเห็นหน้าภรรยา ร้องเลยจ้า ร้องแบบร้องจริงๆ จนภรรยาตกใจ ผมดื่มด่ำกับความรู้สึกนั้นอยู่พักใหญ่ๆ ขอบคุณตัวเอง ขอบคุณภรรยา แล้วผมก็ได้ภาพนี้มาครับ (ไม่ต้องไปนั่ง ไม่ต้องไปใกล้ แค่ได้เห็นก็สุขสุดๆแล้วครับ)
แล้วเราก็กลับมาถึงโตเกียว วันนี้ เต็มที่แล้วครับ พลังหมดกันเลยทีเดียว
ปิดท้ายด้วยอาหารชุดใกล้ๆโรงแรม ราคา Set ละ ประมาณ 700 Yen ครับ ( 170 บาทโดยประมาณ )
และเดี๋ยวกระทู้ถัดไป Day 3 เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยว Disneyland กันนะครับ
ขอบคุณครับ
Day 2 In Japan เกาะแมว Enoshima ของภรรยาและการเก็บ Gimmick เล็กๆ ตามความฝันวัยมัธยม ของผม
วันนี้มาต่อกระทู้ 2 กันครับ
เริ่มต้นเช้าวันนี้ด้วยการเห็นโพสต์ขอความช่วยเหลือจากกลุ่มท่องเที่ยวในญี่ปุ่น คือมีเพื่อนสมาชิก เก๊าท์กำเริบ แต่ไม่มียา ผมมียา Gofen อยู่ และคิดว่าไม่ไกลเท่าไรจากที่พัก เลยเดินเอาไปให้ แต่พอไปถึงโรงแรม ปรากฎว่า ผิดสาขา เป็นคนละสาขาโรงแรมกัน ก็ขอโทษเพื่อนสมาชิกท่านนั้นไปครับ แต่ก็ทราบว่า สมาชิกท่านนั้น ได้ยาจากเพื่อนคนไทยในกลุ่มแล้วเช่นกัน คนไทยดีๆ มีเยอะ ที่ไม่ทิ้งกันครับ พวกไปทำเรื่องเสื่อมๆ ในต่างประเทศ นั้นแค่ส่วนน้อย เพียงแต่เป็นส่วนน้อยที่เสียงดัง ต่างหาก
มาครับ เข้าเรื่องเราต่อเลยครับ วันนี้ หลังจากได้เดินแล้ว รู้สึกติดใจ บรรยากาศการเดินในโตเกียวมาก แดดไม่ร้อน อากาศกำลังดี เลยชวนภรรยาเดินชิลๆ ต่อ ไปจนถึงสถานี้เริ่มต้นของเรา
Ueno Station ครับ
รวมแล้วแค่เริ่มต้นก็เดินเกือบ 2 Km แล้วครับ 55555
การเดินทางของเราวันนี้ เรานั่งรถไฟใต้ดินมาที่สถานี Ofuna (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) แล้วนั่ง Monorail ต่อมาที่ Enoshima และเดินอีกประมาณกิโลกว่าๆ (เดินอีกแล้ว) มาเกาะแมวครับ
สิ่งนึงในญี่ปุ่นที่ผมชอบมากๆ คือ บรรยากาศในสถานีรถไฟใต้ดิน มันดูพลุกพล่าน สับสน วุ่นวาย แต่ในความสับสนวุ่นวายนั้น เรากลับรู้สึกตื่นเต้น สนุก และท้าทายสำหรับการเดินทางมากๆครับ
หลังจากเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ในที่สุดเราก็มาถึงเกาะแมวกันแล้วครับ ด้วยความที่ภรรยาผม รักแมวมากๆ เกาะนี้จึงเป็น Landmark สำคัญที่ต้องมาให้ได้
มาถึงแล้ว อย่างแรกที่จะทำคือ เดินหาแมว
ปล๊าววววว ไม่ใช่ครับ
กินก่อนครับ 55555 ท้องร้องจ๊อกๆ กันแล้ว ขอแนะนำเพื่อนๆนิดนึงนะครับ อาหารบนเกาะ ราคาค่อนข้างสูงกว่าฝั่งแผ่นดิน ถ้าหิว ทานร้านแถวทางที่เดินมาก่อนได้ครับ มีร้านน่ากิน น่านั่งเยอะแยะเลยครับ ส่วนเรากะว่าจะมากินบนเกาะ พอเห็นราคา เลยเดินหา ร้าน Food Truck ง่ายๆ ราคาเบาๆ ทานกันครับ อร่อยมาก และที่สำคัญ คุณพนักงานน่ารักและใจดีมากๆเลยครับ มาถ่ายรูปกับเราสองคนด้วยครับ
หลังจากอิ่มหนำสำราญ เรานั่งพักพาย่อยกันสักแปบ ก็ได้เวลาเดินครับ คือภรรยาผมคาดหวังว่า จะเจอแมวจร เต็มเกาะ แต่ในความเป็นจริง ด้วยความที่นักท่องเที่ยวเยอะแยะมากมาย น้องคงจะหลบครับ ไม่เจอเลย ภาพชุดต่อไป ขออนุญาตพาเพื่อนๆ เดินชมศาลเจ้า และการตามหาน้องแมวของภรรยาผมครับ
หลังจากเดินหา เดินไหว้พระ ทั้งขึ้นบันได ขึ้นเขา เดินไปชายหาด ก็ยังไม่เจอสักตัว เราก็เดินต่อไปจนถึงจุดชมวิว ทะเล ด้านบน และตรงนี้เอง เราก็เจอน้องแมวตัวแรก ภรรยาผมยิ้มกว้างด้วยความดีใจทันที น้องน่ารักมาก ตัวอ้วน อุ๊ปุ๊ อุ๊ปุ๊ เลย ผมเลยขอตั้งชื่อให้น้องว่า น้อง " Happy อุ๊ปุ๊ " เพราะน้องทำให้ภรรยาและผมมีความสุข อิอิอิ มาพบกับน้องกันครับ
หลังจากถ่ายรูปน้องจนฉ่ำ (เราถ่ายรูป แต่ไม่ได้ไปจับ ไปแตะน้องนะครับ พยายามรบกวนน้องให้น้อยที่สุด เพราะคิดว่าน้องน่าจะรำคาญแหละ 55555)
เราเดินมาถึงจุดชมวิว จุดนี้ดีครับ มีที่ตั้งกล้องให้ ตั้งเวลาถ่ายรูปได้ เราเลยมีรูปคู่กันบนเกาะแมวครับ
หลังจากเจอน้อง "Happy อุ๊ปุ๊" เราก็มีกำลังใจเดินต่อ ปะครับ ลุยหาน้องแมวบนเกาะแมวกัน
เราเดินไปเรื่อยๆ แล้วก็มาเจอพี่ผู้ชายท่านนี้กำลังเล่นกับน้องอยู่ครับ
ดูท่าแกจะมาบ่อย เพราะในกระเป๋าแกมีขนมไว้ให้น้องๆทานด้วย พอเห็นเรายืนมอง แกก็เชิญให้เราไปถ่ายรูปกับน้องครับ
แล้วเราก็เดินต่อกันอีกพักใหญ่ๆ เจอน้องๆอีกพอสมควรเลยครับ เกือบๆ 10 ตัวเลย ภรรยาผม Happy มากกกกกกกกก
เท่าที่เราสังเกตุดู บนเกาะน่าจะมีแมวจรเยอะจริงๆแหละครับ เพียงแต่นักท่องเที่ยวเยอะ น้องเลยหลบๆ เพราะผมเห็น ทุกๆบ้าน มีชามใส่อาหารไว้ให้แมวมาทานทุกบ้านเลย แมวจรบนเกาะนี้ถึงอวบ อ้วน ทุกตัว เพราะอาหารการกินสมบูรณ์เหลือเกิน
หลังจากนั้น เราก็กลับเพราะนี่รวมๆก็เดินกันน่าจะเกิน 10 Km แล้ว แต่ก่อนกลับ ผมขอภรรยาไปตามสถานที่แห่งความฝัน ในวัยมัธยมผมก่อนสักนิดนึง
เพื่อนๆอาจจะคิดว่า ตามรอย Slam Dunk แน่ๆ
ปล่าวครับ ไม่ใช่ครับ แต่เป็นการตามรอย Music Video เพลงนี้ครับ
https://youtu.be/gavcjNniIvk?si=_fdGLCXvbOn-10lQ
สถานที่ใน Music Video คือความฝันของผมตั้งแต่มัธยม ผมชอบเพลงนี้มาก และชอบชิงช้าสวรรค์ใน Music มาก บอกตัวเองตั้งแต่เด็กว่า จะมาตรงนี้ให้ได้ ผ่านมากว่า 20 ปี ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง
พอออกจากสถานี ผมมองไปรอบๆ ไม่เจออะไรเจอแต่ตึก เลยเดินแกมวิ่ง หาไปเรื่อยๆ แบบลืมความเมื่อยไปเลย จนในที่สุด ผมก็เห็นชิงช้ามาแต่ไกลๆ
ตอนนั้นขนเริ่มลุก ความรู้สึกแบบปลื้มใจสุดๆ กลั้นเต็มที่ เพราะไม่อยากร้องไห้ พอหันหลังกลับไปมองภรรยา ที่กำลังเดินตามมาเพื่อจะบอกว่า พี่ทำความฝันของเด็กคนนึงเป็นจริงแล้ว ปรากฎว่า พอเห็นหน้าภรรยา ร้องเลยจ้า ร้องแบบร้องจริงๆ จนภรรยาตกใจ ผมดื่มด่ำกับความรู้สึกนั้นอยู่พักใหญ่ๆ ขอบคุณตัวเอง ขอบคุณภรรยา แล้วผมก็ได้ภาพนี้มาครับ (ไม่ต้องไปนั่ง ไม่ต้องไปใกล้ แค่ได้เห็นก็สุขสุดๆแล้วครับ)
แล้วเราก็กลับมาถึงโตเกียว วันนี้ เต็มที่แล้วครับ พลังหมดกันเลยทีเดียว
ปิดท้ายด้วยอาหารชุดใกล้ๆโรงแรม ราคา Set ละ ประมาณ 700 Yen ครับ ( 170 บาทโดยประมาณ )
และเดี๋ยวกระทู้ถัดไป Day 3 เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยว Disneyland กันนะครับ
ขอบคุณครับ