จากปัญหาพระเรียกเงินงานบวช 10000 บาท ที่เป็นข่าว แน่นอนตามพระวินัยคืออาบัติอยู่แล้ว เลยอยากแนะวิธีการแก้ปัญหาเผื่อผู้ใหญ่ในบ้านเมืองได้มาเห็นกระทู้นี้ เผื่อท่านจะนำไปพิจารณา
เป็นไปได้ไหมที่จะตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลเงินบริจาคของวัด และค่าใช้จ่ายของวัดรวมถึงค่าใช้จ่ายของพระ โดยอาจตั้งหน่วยงานขึ้นมาชื่อว่า
"สำนักงานบริหารจัดการเงินบริจาคเพื่อพระพุทธศาสนา"
โดยให้หน่วยงานนี้มีอำนาจหน้าที่ในการเปิดรับบริจาค และจัดสรรค่าใช้จ่ายของวัดและพระทั่วประเทศ รวมทั้งมีอำนาจหน้าที่ในการจัดสรรหาพนักงานหรือเจ้าหน่ที่ไปประจำวัดเพื่อดำเนินการจัดการเงินบริจาคและค่าใช้จ่ายต่างๆของวัดและของพระ รวมทั้งมีอำนาจหน้าที่ในการจัดส่งเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบการบริหารจัดการเงินวัดของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
โดยเงินเดือนหรือค่าจ้างเหล่านั้นมาจากเงินบริจาคที่ได้มาที่เหลือจากการจัดการค่าใช้จ่ายของวัดและของพระ แต่หากไม่เพียงพอค่อยใช้เงินสนับสนุนจากรัฐบาลอีกทีมาเป็นเงินเดือนของพนักงานเหล่านี้
และอาจแก้กฎหมายให้วัดเป็นสถาบันหนึ่งในสังกัดของรัฐ
ทีนี้เวลาจะบวชพระ หรือทำกิจกรรมต่างๆของวัดที่มีค่าใช้จ่าย เจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็จะมีอำนาจในการพิจารณาความเหมาะสมตามงบประมาณที่มีอยู่
แค่นี้ก็จะสิ้นปัญหาที่พระจะต้องอาบัติพระวินัยข้อนี้แล้ว เวลาพระจะไปเรียน ไปทำกิจธุระต่างๆก็จะมีเจ้าหน้าจัดการให้ พระก็จะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเงินอีกต่อไป หรือขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนพระปริญัติก็มีเจ้าหน้าดูแลจัดสรรหาให้
ผมมองว่าหากเหล่าพุทธบริษัททั้งหลายต้องการรักษาพระพุทธศาสนาให้มั่นคงสืบไป และปกป้องพระวินัยอันพระพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวกทั้งหลายได้บรรญัติไว้ ไม่ให้เสื่อมสลายไป นี่ก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่ง เพราะประเทศไทยเราเป็นประเทศที่คนนับถือศาสนาพุทธถึง 90% ของประกรทั้งหมด
หวังว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะมาเห็นกระทู้นี้และนำไปพิจารณานะครับ
เป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนหากจะตั้งหน่วยงานภาครัฐขึ้นมาดูแลเงินบริจาคของวัดทั่วประเทศ
เป็นไปได้ไหมที่จะตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลเงินบริจาคของวัด และค่าใช้จ่ายของวัดรวมถึงค่าใช้จ่ายของพระ โดยอาจตั้งหน่วยงานขึ้นมาชื่อว่า
"สำนักงานบริหารจัดการเงินบริจาคเพื่อพระพุทธศาสนา"
โดยให้หน่วยงานนี้มีอำนาจหน้าที่ในการเปิดรับบริจาค และจัดสรรค่าใช้จ่ายของวัดและพระทั่วประเทศ รวมทั้งมีอำนาจหน้าที่ในการจัดสรรหาพนักงานหรือเจ้าหน่ที่ไปประจำวัดเพื่อดำเนินการจัดการเงินบริจาคและค่าใช้จ่ายต่างๆของวัดและของพระ รวมทั้งมีอำนาจหน้าที่ในการจัดส่งเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบการบริหารจัดการเงินวัดของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
โดยเงินเดือนหรือค่าจ้างเหล่านั้นมาจากเงินบริจาคที่ได้มาที่เหลือจากการจัดการค่าใช้จ่ายของวัดและของพระ แต่หากไม่เพียงพอค่อยใช้เงินสนับสนุนจากรัฐบาลอีกทีมาเป็นเงินเดือนของพนักงานเหล่านี้
และอาจแก้กฎหมายให้วัดเป็นสถาบันหนึ่งในสังกัดของรัฐ
ทีนี้เวลาจะบวชพระ หรือทำกิจกรรมต่างๆของวัดที่มีค่าใช้จ่าย เจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็จะมีอำนาจในการพิจารณาความเหมาะสมตามงบประมาณที่มีอยู่
แค่นี้ก็จะสิ้นปัญหาที่พระจะต้องอาบัติพระวินัยข้อนี้แล้ว เวลาพระจะไปเรียน ไปทำกิจธุระต่างๆก็จะมีเจ้าหน้าจัดการให้ พระก็จะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเงินอีกต่อไป หรือขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนพระปริญัติก็มีเจ้าหน้าดูแลจัดสรรหาให้
ผมมองว่าหากเหล่าพุทธบริษัททั้งหลายต้องการรักษาพระพุทธศาสนาให้มั่นคงสืบไป และปกป้องพระวินัยอันพระพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวกทั้งหลายได้บรรญัติไว้ ไม่ให้เสื่อมสลายไป นี่ก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่ง เพราะประเทศไทยเราเป็นประเทศที่คนนับถือศาสนาพุทธถึง 90% ของประกรทั้งหมด
หวังว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะมาเห็นกระทู้นี้และนำไปพิจารณานะครับ