สวัสดีค่ะ ไม่รู้ทุกท่านจะงงมั้ย พอดีเรามีเหตุการณ์การทำงานที่เกิดขึ้นแล้วรู้สึกไม่โอเค เลยอยากขอแนะนำหรือเตือนสติ ในหลายๆด้านที่เราอาจจะไม่เข้าใจน่ะค่ะ
เราอยู่ออสเตรเลียค่ะ เพิ่งเริ่มงานกับร้านนวดไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยจะลงทำงานไว้สัปดาห์ละ 3 วัน ตั้งแต่ 11 เช้าถึง 3 ทุ่ม
- สัปดาห์ที่แล้ว วันแรกที่เริ่มงานก็ผ่านไปปกติค่ะ วันที่สองช่วง 5:30 เราปวดท้องเมนส์มาก เราเลยขอกลับก่อน และวันที่ 3 เราขอลาค่ะ เพราะเพลียมาก ไม่ไหว
- สัปดาห์นี้ เมื่อวานทำงานปกติค่ะ วันนี้มีปัญหาคือเราไปไม่ทันขึ้นรถไฟเพราะรถเมล์ที่เราขึ้นไปสถานีรถไฟมาสาย และวันนี้รถติดมาก จากที่ปกติเราไปทันรถไฟอยู่แล้ว แต่วันนี้สายไป 1 นาทีค่ะ รถไฟออกไปแล้ว เราเลยส่งข้อความเข้าไปในกลุ่มที่ทำงาน ว่าเราขอเข้าไป 11:30 ค่ะ (ตอนนั้นเราเครียดมากและไม่ได้อยากไปสายเลย) จากนั้นบทสนทนาประมาณนี้ค่ะ
Me: วันนี้เข้าสายนะคะ เข้าไป 11:30 ค่ะ
Them: เป็นอะไรครับ
Me: ตกรถไฟค่ะ
Them: มีรูปประกอบมั้ย บ้านอยู่ไหน?
หลังจากนั้นเรารู้สึกเหมือนถูกล้ำเส้น และรู้สึกแย่แบบบอกไม่ถูกอะค่ะ เราเลยส่งข้อความไปลาออกกับเจ้านายคนที่รับเราเข้าทำงาน เพราะถ้าทำต่อเรากลัวปสดค่ะ ทางเจ้านายก็ดูทรงไม่พอใจค่ะ และบอกว่ามันเป็นกฏเพื่อแสดงค.บริสุทธ์ใจ รับไม่ได้ก็ลาออก และบอกว่าจขกท.อาจจะไม่เคยทำงานร้านใหญ่ๆมาก่อนเลยไม่เข้าใจ ซึ่งการมาสายมันมีผลในการจัดคิว และจะไม่ยุติธรรมกับคนที่มาตรงเวลา ทางร้านอาจต้องเอาคนจากสาขาอื่นมาแทน และจขกท.ไม่เข้าใจในมุมธุรกิจของเขา แล้วก็ยกเรื่องที่เราปวดท้องเมนส์แล้วลากลับ (คือเราป่วยแล้วเราต้องทนทำงานหรอคะ) และยกเรื่องที่เราไม่ขอโทษคนจัดคิว ซึ่งเราเข้าใจว่ามันเป็นงานของเขาอยู่แล้ว และมันเกิดเหตุสุดวิสัยได้
สำหรับเรา เราเข้าใจว่าทุกที่มันมีกฏของมัน แต่ต้องขนาดส่งรูปเลย เรารู้สึกว่ามันมากเกินไปสำหรับสาย 30 นาทีค่ะ และบอกว่าให้ส่งรูปเพราะเขาจะดูว่าตกรถไฟบาดเจ็บหรือเปล่า ถ้าเราตกรถไฟจนบาดเจ็บจริง คนเรามันจะเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปหรอคะ และเขาบอกว่าให้ส่งรูปเพราะต้องคำนวณเวลาว่าจะไปถึงที่ทำงานกี่โมงฯลฯ
*แล้วเราไม่เข้าใจว่าถ้าเราไปสาย ก็จัดคิวให้เราตามเนื้อผ้าโดยให้คนอื่นก่อนก็ได้เพื่อเป็นการลงโทษ แล้วก็แจ้งเราดีๆก็ได้ ทำไมต้องมาพิสูจน์ค.บริสุทธิ์ใจกัน เรามองว่ามันมีวิธีที่ดีกว่านั้น จะโกหกหรือไม่ก็ตาม
เรารู้สึกไม่โอเค และเข้าใจว่าทางเจ้านายอยากให้เรารู้สึกผิด เราขอแนบบทสนทนาไว้ประกอบนะคะ ทุกอย่างที่เราพิมพ์คือความจริง จากมุมทางร้านที่พิมพ์มาด้วยค่ะ อยากให้ทุกท่านช่วยพิจารณา และมองยังไงกับเรื่องนี้ เราอยากได้หลายๆแง่คิดค่ะ เราไม่ได้มีเจตนาทางร้านมาแขวนใดๆ แต่สิ่งที่เราคิดและแสดงออกมันถูกต้องมั้ย หรือทุกท่านมีความเห็นว่าอย่างไร ก็ดึงสติเราได้ค่ะ
*ในเมื่อเขาถามว่าลาออกทำไม เราก็แค่ตอบไปตามนั้นเลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้me: พี่คะ ขอไม่ทำงานที่ xxx ดีกว่านะคะ เดี๋ยวเงินของเมื่อวาน อาทิตย์หน้าเดี๋ยวเข้าไปรับค่ะ
her: ทำไมคะ
me: *ส่งsceenshot แชตที่ทางเขาให้ส่งรูป* เหตุผลคือตรงนี้ค่ะ หนูว่ามันเกินไปหน่อย
her: พี่ขอชี้แจงนะคะ คนมาทำงานสายจะแจ้งว่า “สายนะคะ ขอโทษค่ะ” เพราะถ้าร้านยุ่งแบบปกติ การที่พนักงานมาสาย
ผลเสียที่ 1.ถ้ารับลูกค้ามาเท่ากับคิวหมอที่มีและหมอมาสาย ลูกค้าต้องรอหรือโดนยกเลิกเพราะรอไม่ได้ร้านเสียประโยชน์
ผลเสียที่2. รีต้องมานั่งวนเทรินดูคิวให้เป็นต่างหาก
และการที่ให้ส่งรูปถ่ายน้องบอกตกรถไฟ พี่เค้าเข้าใจว่า เกิดอุบัติเหตุเดินตกรถไฟ เป็นอะไรหรือป่าวกับ มีคนตกรถไฟ เพราะเด็กส่วนใหญ่ ทำงานมาลาตอนเช้าเพราะตื่นสาย ออกจากบ้านช้าแล้วเป็นความผิดของตัวเองแต่จะไม่ยอมวนเทริน มันเป็นระบบแสดงความบริสุทธิ์ใจ
แต่ถ้าสิ่งที่พี่เค้าทำตามระบบ น้องว่าเกินไปพี่เข้าใจนะคะ แต่ต้องเข้าใจสิ่งที่น้องผิดด้วยเหมือนกัน น้องไม่ทันรถไฟ เวลาที่น้องส่งมาให้ตอน8.45 ส่งรูปถ่ายตอน9.00 แล้วพร้อมด้วยส่งข้อความลาออก แบบนี้ถูกต้องใช่มั้ยค่ะ?
ยังไงถ้าคิดว่าไม่ผิดไม่เป็นไรค่ะ แต่ทุกที่มีกฎของมัน ถ้าน้องไม่ชอบพี่ก็เข้าใจได้ค่ะ ขอให้เจอร้านที่เหมาะสมกับน้องนะคะ
me: หนูอยากให้พี่เข้าใจในมุมหนู ขออธิบายนะคะ
ปกติหนูจะขึ้นรถไฟเที่ยว 8:44 ค่ะ วันนี้หนูไปถึง 8:45 กิ๊ฟก็รีบแจ้งบอกทันที พี่บอกให้แจ้งในกลุ่ม หนูก็แจ้งในกลุ่ม หนูตื่นเวลาปกติ ไม่สาย ออกเวลาเดิม แต่วันนี้มันมีปัจจัยนอกที่ควบคุมไม่ได้ค่ะ แล้วหนูคิดว่า 30 นาที ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร พี่ก็วนเทินไปปกติ หนูก็รับสภาพไป ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น
เมื่อวานหนูเข้างาน 10:41 สามวันที่ผ่านมาก็เข้าตรงเวลา ก็ทำดีที่สุดแล้วค่ะ ตอนขึ้นรถไฟไม่ทัน ก็เครียดมากแล้วค่ะ และไม่อยากไปสายเลยจริงๆ พอมาเห็นข้อความแบบนี้มันไม่โอเคเลย จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามมันก็เกินไป โทรมาถามดีๆส่วนตัวยังจะดีกว่า นี่ในกลุ่มอีก มันดูเหมือนคนไม่ได้คิดก่อนพิมพ์อะค่ะ เหมือนกำลังถูกแขวนค่ะ ต้องขอโทษด้วยที่บอกตรงๆ ค่ะ ในมุมพี่ หนูเป็นฝ่ายผิด แต่ในมุมหนู หนูรู้สึกเหมือนถูกล้ำเส้น ถูกจับผิดอะค่ะ
ถ้าจะบอกในแง่เป็นห่วงมันก็งงๆอยุ่ ถ้าตกรถไฟบาดเจ็บ ไม่น่ามีกะจิตกะใจเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป คงตกใจหรือรีบไปทำแผลก่อน มันคงทุลักทุเลอยู่นะคะ และคงไปทำงาน 11:30 ไม่ไหวค่ะ ถ้าหนูมีลูกน้องแล้วไม่เข้าใจก็จะถามว่าตกแบบไหน บาดเจ็บหรือมาทำงานไม่ทัน คงไม่บอกให้ส่งรูปพิสูจน์ความจริงทันที และคุยส่วนตัวค่ะ ไม่ใช่ในกลุ่ม ใจเขาใจเราค่ะ
ขอบคุณที่พี่ที่ให้โอกาศหนู ดีใจและหวังไว้ว่าจะได้เรียนรู้อะไรจากพี่อีกมาก อยากให้พี่ลองพิจารณาเรื่องนี้ดู เพราะไม่น่าจะมีใครชอบถ้าเจอแบบนี้ อันนี้ feedback ที่จริงใจค่ะ ต้องขออภัยจริงๆค่ะ
her: 1.เรามาสายเราไม่ขอโทษเลยที่คนจัดตารางเค้าต้องจัดคนใหม่ เพราะเราอาจจะไม่เคยอยู่ร้านที่มีพนักงานในร้านเกือบร้อยคน เค้าไม่รู้จักน้องไม่รู้ว่าน้องบ้านอยู่ไหน เพราะเค้าจะคำนวนว่าจากบ้านน้องเดินทางมาถึงร้านได้กี่โมง
2. ส่วนเรื่องถ่ายรูปบาดเจ็บหรือไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ แต่การที่บ้านไกล ไม่สามารถเดินทางมาได้ด้วยอะไรก็แล้วแต่ต้องพิมพ์คุยให้เคลียร์นะ เพราะการพิมพ์ที่อ่านและเข้าใจมันต้องพิมพ์ให้ละเอียด
3.ตั้งแต่น้องมาทำงาน น้องลงงานวีคละสามวัน แต่ทำงานอยู่กี่วันคะทั้งหมด ปวดท้องเมนส์ ขอกลับก่อน อีกวันยังไม่หายขอลา ครั้งนี้มาขึ้นรถไฟสาย เลยให้การมาถึงที่ทำงานล่าช้า
ส่วนที่ต้องล้ำเส้นพนักงานเรื่องถ่ายรูป (ถ้าไม่ใช่บาดเจ็บก็ถ่ายรูปเวลารถไฟหรืออะไรมาจะได้คำนวนกันว่าถึงได้กี่โมง จะต้องจับคนอื่นโยกสาขามาแทนมั้ย ถ้าน้องคิดว่าเหมือนจับผิดก็ไม่แปลกค่ะ เพราะมันมีคนเคยทำแบบนี้มาแล้ว ร้านก็ต้องอุดช่องโหว่เพื่อไม่ให้คนที่โกหกมาเอาเปรียบเทรินเพื่อน ถึงน้องจะไม่ได้โกหกก็ตามแต่นี้คือระบบที่ทุกคนต้องทำ ถ่ายรูปก่อนขึ้นรถแทรมหรือรถไฟว่ามาถึงกี่โมง ถ้าดีเลย์ทุกคนจะส่งให้คนจัดตารางว่าเค้ามาเวลานี้ออกมาเร็วแล้วแต่รถเสีย ดีเลย์คนโดนรถไฟ บลาๆ) เพราะบ้านน้องไกลคนจัดตารางเค้าไม่ได้มีเจรตนาอะไรหร่อกค่ะเพราะพนักงานมีเกือบร้อยคน ถ้าทำแบบน้องทุกคนร้านจะไปต่อยังไงในมุมร้านนะคะ และกฎพวกนี้น้องรับไม่ได้ ไม่เป็นไร อย่างที่พี่บอก เราต้องไปหาร้านที่เหมาะกับเรา ร้านนี้พอมันเป็นร้านใหญ่มายืนคิวกันเป็น10 คน ขั้นต่ำ กฎระเบียบมันมีหมดแค่เราทำตามได้มั้ย ถ้าไม่ได้ก็ลาออกก็ถูกต้องแล้วค่ะ ไม่ใช่คนเลือกร้านอย่างเดียว ร้านก็เลือกคนทำงานเหมือนกัน
ที่ต้องทำแบบนี้ถามแบบนี้ถูกใจหรือไม่ถูกใจคนจัดตารางเค้าก็ต้องทำเพราะมันคือแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะเรามาสมัครงาน มันไกล การเดิน ที่รถอาจจะดีเลย์ร้านก็ต้องเข้าใจ หรือ รถไฟมาก่อนเวลาปกติทำให้สายร้านก็ต้องเข้าใจ และมีใครเข้าใจร้านมั้งมัยคะ
และใช่ค่ะมาสายวนเทรินเค้าต้องวนแต่แบบนั้นน้องไม่คิดถึงเพื่อนร่วมงานแบบรีเซฟชั่นที่เค้าต้องคำนวนเทรินเพื่อไม่ให้คนที่มาตรงเวลาเสียผลประโยชน์ แต่เค้าต้องทำงานเพิ่มขึ้นในขณะที่น้องเข้าใจว่านวดเท่าไหร่ได้เท่านั้น คนจัดตารางโยกย้ายคน รีเซฟชั่น คำนวนเทรินให้หมอที่มาตรงเวลาไม่เสียเทริน หลายฝ่ายได้งานเพิ่มในขณะที่น้องก็หงุดหงิดตัวเองที่สาย แล้วพวกเค้าผิดไรคะ
ตามที่พี่บอกข้างต้นเลยคะ ไม่สบายใจก็ลาออก ไม่ชอบกฎร้านก็ลาออก หางานหาร้านให้เหมาะกับตัวเองค่ะ
[คิดอย่างไร] ไปทำงานสาย 30 นาที ที่ทำงานบอกให้ส่งรูปเป็นหลักฐาน
เราอยู่ออสเตรเลียค่ะ เพิ่งเริ่มงานกับร้านนวดไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยจะลงทำงานไว้สัปดาห์ละ 3 วัน ตั้งแต่ 11 เช้าถึง 3 ทุ่ม
- สัปดาห์ที่แล้ว วันแรกที่เริ่มงานก็ผ่านไปปกติค่ะ วันที่สองช่วง 5:30 เราปวดท้องเมนส์มาก เราเลยขอกลับก่อน และวันที่ 3 เราขอลาค่ะ เพราะเพลียมาก ไม่ไหว
- สัปดาห์นี้ เมื่อวานทำงานปกติค่ะ วันนี้มีปัญหาคือเราไปไม่ทันขึ้นรถไฟเพราะรถเมล์ที่เราขึ้นไปสถานีรถไฟมาสาย และวันนี้รถติดมาก จากที่ปกติเราไปทันรถไฟอยู่แล้ว แต่วันนี้สายไป 1 นาทีค่ะ รถไฟออกไปแล้ว เราเลยส่งข้อความเข้าไปในกลุ่มที่ทำงาน ว่าเราขอเข้าไป 11:30 ค่ะ (ตอนนั้นเราเครียดมากและไม่ได้อยากไปสายเลย) จากนั้นบทสนทนาประมาณนี้ค่ะ
Me: วันนี้เข้าสายนะคะ เข้าไป 11:30 ค่ะ
Them: เป็นอะไรครับ
Me: ตกรถไฟค่ะ
Them: มีรูปประกอบมั้ย บ้านอยู่ไหน?
หลังจากนั้นเรารู้สึกเหมือนถูกล้ำเส้น และรู้สึกแย่แบบบอกไม่ถูกอะค่ะ เราเลยส่งข้อความไปลาออกกับเจ้านายคนที่รับเราเข้าทำงาน เพราะถ้าทำต่อเรากลัวปสดค่ะ ทางเจ้านายก็ดูทรงไม่พอใจค่ะ และบอกว่ามันเป็นกฏเพื่อแสดงค.บริสุทธ์ใจ รับไม่ได้ก็ลาออก และบอกว่าจขกท.อาจจะไม่เคยทำงานร้านใหญ่ๆมาก่อนเลยไม่เข้าใจ ซึ่งการมาสายมันมีผลในการจัดคิว และจะไม่ยุติธรรมกับคนที่มาตรงเวลา ทางร้านอาจต้องเอาคนจากสาขาอื่นมาแทน และจขกท.ไม่เข้าใจในมุมธุรกิจของเขา แล้วก็ยกเรื่องที่เราปวดท้องเมนส์แล้วลากลับ (คือเราป่วยแล้วเราต้องทนทำงานหรอคะ) และยกเรื่องที่เราไม่ขอโทษคนจัดคิว ซึ่งเราเข้าใจว่ามันเป็นงานของเขาอยู่แล้ว และมันเกิดเหตุสุดวิสัยได้
สำหรับเรา เราเข้าใจว่าทุกที่มันมีกฏของมัน แต่ต้องขนาดส่งรูปเลย เรารู้สึกว่ามันมากเกินไปสำหรับสาย 30 นาทีค่ะ และบอกว่าให้ส่งรูปเพราะเขาจะดูว่าตกรถไฟบาดเจ็บหรือเปล่า ถ้าเราตกรถไฟจนบาดเจ็บจริง คนเรามันจะเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปหรอคะ และเขาบอกว่าให้ส่งรูปเพราะต้องคำนวณเวลาว่าจะไปถึงที่ทำงานกี่โมงฯลฯ
*แล้วเราไม่เข้าใจว่าถ้าเราไปสาย ก็จัดคิวให้เราตามเนื้อผ้าโดยให้คนอื่นก่อนก็ได้เพื่อเป็นการลงโทษ แล้วก็แจ้งเราดีๆก็ได้ ทำไมต้องมาพิสูจน์ค.บริสุทธิ์ใจกัน เรามองว่ามันมีวิธีที่ดีกว่านั้น จะโกหกหรือไม่ก็ตาม
เรารู้สึกไม่โอเค และเข้าใจว่าทางเจ้านายอยากให้เรารู้สึกผิด เราขอแนบบทสนทนาไว้ประกอบนะคะ ทุกอย่างที่เราพิมพ์คือความจริง จากมุมทางร้านที่พิมพ์มาด้วยค่ะ อยากให้ทุกท่านช่วยพิจารณา และมองยังไงกับเรื่องนี้ เราอยากได้หลายๆแง่คิดค่ะ เราไม่ได้มีเจตนาทางร้านมาแขวนใดๆ แต่สิ่งที่เราคิดและแสดงออกมันถูกต้องมั้ย หรือทุกท่านมีความเห็นว่าอย่างไร ก็ดึงสติเราได้ค่ะ
*ในเมื่อเขาถามว่าลาออกทำไม เราก็แค่ตอบไปตามนั้นเลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้