4 ข้อวัดคุณภาพสภาพคล่องโบรกที่ใช้อยู่

สิ่งที่จะสะท้อนว่าสภาพคล่องของแพลตฟอร์มต้องดู 4 ข้อนี้ คือ ความเร็ว ความกว้าง ความลึก และความยืดหยุ่น

1. ความเร็ว
ความเร็วในการออกออเดอร์กับสภาพคล่องเป็นของคู่กัน การออกคำสั่งและการยอมรับคำสั่งผ่านเซิร์ฟเวอร์ MT4 คำสั่งจะส่งไปยังผู้ให้บริการสภาพคล่องและส่งคืนไปยังเซิร์ฟเวอร์ อันนี้คือขั้นตอนที่สมบูรณ์
ดังนั้นสิ่งสำคัญในระหว่างขั้นตอนก่อนหน้านี้ ถ้าแพลตฟอร์ม MT4 ของโบรกที่ใช้ได้จับคู่สภาพคล่องเรียบร้อยแล้ว ทำให้รู้ว่าความเร็วการจับคู่สภาพคล่องจะที่เร็วหรือช้านั้นจะส่งผลโดยตรงต่อความเร็วของทำธุรกรรมให้สำเร็จเหมือนกัน
ความเร็วในการทำธุรกรรมของโบรกเกอร์ที่ดัง ได้แก่
XM    386.1 มิลลิวินาที
Exness  386.1 มิลลิวินาที 
EBC Financial Group 292-312 มิลลิวินาที 
ICMarkets  410.1 มิลลิวินาที 

2. ความกว้าง
ต้องเข้าใจว่าความกว้าง คือ ส่วนต่างของราคาเสนอซื้อ-ถาม มันจะเกี่ยวกับค่าสเปรด ซึ่งเราไม่สามารถเทียบสเปรดกับความกว้างได้ แล้วสเปรดคือะไร?หล่ะ 
'สเปรด' คือ ราคาเสนอซื้อ ส่วนความกว้าง คือ ช่วงของค่ากระจายราคาเสนอซื้อซึ่งเป็นช่วงของต้นทุนนั่นเอง
ยิ่งสเปรดเล็กลง เราก็บอกว่ามีความกว้าง ไม่อย่างนั้นก็จะขาดความกว้าง ทำไมต้องเน้นขอบเขตของเสปรด? เพราะว่าสภาพคล่องของตลาดมีจำกัด แต่ละคำสั่งจึงมีสภาพคล่องที่แตกต่างกัน และค่าสเปรดก็แตกต่างกันด้วย ดังนั้น แพลตฟอร์มมักจะมีราคาหลายระดับตามขนาดของค่าสเปรด
ตัวอย่างค่าเสปรด XAUUSD ของโบรกเกอร์ที่ดัง ได้แก่เช่น 
XM    ต่ำสุด ต่ำสุด 2.0 pips
Exness ต่ำสุด 20.0 pips
EBC Financial Group ต่ำสุด 2.0 pips
ICMarkets  ต่ำสุด 1.9 pips

3. ความลึก
ความลึก หมายถึง คำสั่งซื้อทั้งหมดที่สามารถชำระบัญชีและเติมได้ 
โดยทั่วไป ยิ่งระดับใบเสนอราคามากเท่าใด คำสั่งซื้อก็ยิ่งสามารถกรอกได้มากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากยิ่งระดับใบเสนอราคาสูงเท่าใด จำนวนคำสั่งซื้อที่สามารถระบุได้ก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น เหตุผลนั้นง่ายมาก ใบเสนอราคาระดับบนสุด คือ ราคาเดิมของสถาบัน โดยพื้นฐานแล้วไม่มีสเปรด แต่สภาพคล่องจะต้องมีผลกำไรด้วย ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีการให้ใบเสนอราคาระดับบนสุด เมื่อราคาแตกต่างกันมากขึ้น ปริมาณที่มีอยู่จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น มีจุดน่าสังเกตอย่างนึงว่าภายใต้สถานการณ์ตลาดปกติ ความลึกและความกว้างไม่สามารถมีทั้งสองอย่างได้ ยิ่งความกว้างดีเท่าไรก็ยิ่งสามารถเสนอราคาได้น้อยลงเท่านั้น และความลึกจะไม่สูงโดยธรรมชาติ เมื่อเปรียบเทียบความกว้างและความลึกของสภาพคล่องของแพลตฟอร์ม ต้องคำนึงถึงจำนวนระดับการเสนอราคาที่สม่ำเสมอ 

4. ความยืดหยุ่น
ความยืดหยุ่น หมายถึง สภาพคล่องที่สอดคล้องกันหรือไม่เมื่อราคามีความผันผวนผิดปกติ
เข้าใจง่ายๆ คือ หากราคาผันผวนอย่างมากเนื่องจากสภาวะตลาดนอกเกษตรราคานี้จะมีคำสั่งซื้อไม่มากนักเนื่องจากไม่มีสต็อกและหลุดลอยได้ง่าย ในกรณีนี้ แพลตฟอร์มสามารถให้สภาพคล่องที่เพียงพอ อย่างน้อยก็สูงกว่าสภาพคล่องของอุตสาหกรรมมาก นั่นหมายความว่าการเสนอราคาสภาพคล่องของแพลตฟอร์มมีความยืดหยุ่น พูดง่ายๆ ก็คือ ราคาจะไม่มีการคลาดเคลื่อนไม่ว่าในกรณีใดๆ สำหรับเหตุผลว่าทำไมความยืดหยุ่นด้านสภาพคล่องของแพลตฟอร์มที่แตกต่างกันทำให้แต่ละโบรกมีจุดเด่นที่ต่างกันด้วย ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสภาพคล่องที่สามารถเข้าถึงได้

*ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงการสรุปเบื่องต้นจาก ปสก.ปละอยากจะแชร์เพื่อเป็นความรู้แก่ผู้นักลงทุนมือใหม่ 
*คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยงสูงต้องมีความรู้พื้นฐานในการลงทุนแล้วแพลตฟอร์มเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียเงินทุนของคุณ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่