เรื่ิองมีอยู่ว่า  มีพี่ที่ออฟฟิศคนหนึ่ง  เค้ามีลักษณะอย่างนั้น   อยู่มาวันหนึ่งน้องคือเรานั่นแหละมีคำถาม  ประมาณว่าขอคำปรึกษากับพี่เค้า  แต่เค้าแสดงอาการหวงความรู้ให้เราเห็น   ตั้งแต่นั้นมาเวลาเรามีอะไรเราก็เลยไม่เคย  ปรึกษาเค้าอีกเลย   ทุกเรื่อง    จนมาวันหนึ่งพอเค้ารู้ว่าเราและแฟนซื้อบ้าน   เค้าก็มาถามว่า  ใครแนะนำให้ไปซื้อบ้าน  เหมือนประมาณว่า  ทำไมไม่ถามเค้า  ไม่ปรึกษาเค้าเรื่องซื้อบ้าน เพราะเค้าเคยซื้อบ้านมาก่อน ประมาณนั้น  คือเราฟังแล้วก็ไม่เข้าใจในตัวพี่เค้าว่าเกิดอะไรขึ้น  ในเมื่อตัวตนที่แท้ของเค้าเป็นอย่างนั้นมาตั้งแต่แรก   และเรื่องอีกเรื่องหนึ่งก็คือ  ออใช่เค้าได้พูดคำหนึ่งระหว่างสนทนากันสองคนกับเราซึ่งเป็นรุ่นน้อง  ก็พี่ไม่สามีเหมือนเรานี่   จำไม่ค่อยได้แล้วคุยเรื่องอะไรกันอยู่แต่จู่ๆพี่เค้าก็พูดคำนี้ออกมา   แล้วเราก็นิ่งไปเลย  ภาษาอีสาน   ประมาณว่า  เบิดคำสิเว้าเลยตู คือพี่เค้าคงคิดว่ารุ่นน้องคิดไม่ทัน    บางอย่างที่เค้าพูด เค้าไม่กระดากปากเลยอะ ก็รู้แหละว่าอาบน้ำร้อนมาก่อน  แต่เรื่องบางเรืองเค้าควรระวังพูดปะ  กับน้องที่ทำงานเจอหน้ากันทุกวัน    แต่ก็นั่นแหละนะ   ทำงานมาด้วยกันหลายปีมากๆ  ทำไมเราจะไม่รู้ว่าพี่เค้าเป็นคนขี้อิจฉา  อันนี้เรารู้มานานมากแล้ว  เรารู้ว่าเค้าโตมาแบบขาดความอบอุ่นครอบครัวพ่อและแม่ของเค้าแยกทางกัน    อ้อเราทำงานที่นี่มานานหลายปีมากๆ เรียกว่าอึดทนเลยแหละ   ที่ทำงานตอนนี้มีแค่เรากับพี่เค้า2คนที่ยังทำยู่  คนอื่นๆทยอยออกกันไปหมดแล้ว  สำหรับสาวออฟิศ    แค่นี้ก่อนไว้วันหลังจะมาเล่าใหม่ค่ะ