เริ่มเรื่องคือเราได้หาธนาคารเพื่อที่จะรีไฟแนนซ์บ้านและคอนโด...และมาจบที่ ททบ โดยเจ้าหน้าที่เสนอว่า มีส่วนลดค่าประเมินค่าจดจำนองโดยมีสัญญา 5 ปีเราต้องไม่ไถ่ถอนก่อน...แต่สามารถตัดต้นได้ตลอดให้เหลือยอดเกิน 3 ปีแล้วปล่อยทิ้งไว้ก็จะไม่เสียค่าปรับ...4 ปีต่อมาเราขายคอนโดให้หลาน ธนาคารเก็บค่าปรับบอกว่าเป็นการซื้อขาย เราก็ยอมเสีย ส่วนบ้านก็หักรายเดือนและตัดต้นมาตลอดจนปลายปี 2566 เอาเงินสดจะไปปิดบัญชีพนักงานบอกต้องเสียค่าปรับนะ เราก็ให้คำนวณค่าปรับว่า เท่าไร(เพราะไม่มีหลักฐานที่พนักงานคนแรกพูด) พนักงานคนที่ 2 ที่จะเอาเงินไปปิดยอดคำนวณว่า ยอดหนี้เหลือไม่กี่เดือนคำนวณแล้วถูกกว่าค่าปรับที่ต้องเสีย และแนะนำว่า ให้ทิ้งยอดไว้ให้ตัดจนหมดแล้วปล่อยลอยไว้ค่อยทำเรื่องไถ่ถอนตอนครบกำหนด...เราก็โอเครเพราะไม่ได้เดือดร้อนอะไรปล่อยก็ปล่อยไม่อยากเสียค่าปรับ จนบัญชีถูกตัดเดือนสุดท้ายมีนา 67 เราก็รอถึง พ.ค.67 ครบ 5 ปี ไปแจ้งทำเรื่องกับธนาคารเดิม ซึ่งพนักงานคนแรกไม่อยู่แล้ว เราได้ถามพนักงานคนที่ 3 ที่ไปแจ้งเรื่องไถ่ถอนว่ามีค่าปรับมั๊ยคะ (ยังกังวลตลอดจากสิ่งที่เจอมา)พนักงานบอกว่าไม่มีให้ทำเรื่องได้เลย...ผ่านมาอีก 1 อาทิตย์คนจากสำนักงานใหญ่โทรมาให้ไปเสียค่าปรับผิดสัญญา จำนวนเท่ากับที่พนักงานคนที่ 2 คำนวณให้ตอนที่นำเงินไปปิดแล้วพนักงานแนะนำให้รอ....เราก็จะแจ้งเรื่องเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่พนักงานของธนาคารแนะนำ แล้วต่อด้วยคำพูดว่า ถ้าคิดว่าจะเสียค่าปรับคงยอมปิดไปตั้งแต่ปลายปี 66 จะยอมเสียดอกรายเดือนทำไม เหมือนโง่เลยเสีย 2 เด้ง เจ้าที่ได้ฟังบอกจะทำเรื่องยกเว้นให้ มาวันนี้ 13 พ.ค.67 เจ้าหน้าที่โทรมาให้ไปเสียค่าปรับโดยให้เหตุผลว่า ไม่ใช่รายได้ธนาคารลดหย่อนไม่ได้😭😭😭 ดูโง่ดีเนอะเรา เรียนมาก็สูงไม่คิดว่าจะเจอเทคนิคอะไรแบบนี้ ที่เขียนเพราะอยากเตือนเพื่อนๆว่า เดี๋ยวนี้จะทำอะไรคงต้องมีการอัดเสียงเตรียมหลักฐานไว้ในกรณีคดีพลิก เพราะเราไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ทำอะไรไม่ได้เลย ดอกเบี้ยก็เสียค่าปรับก็เสีย เจ็บใจมากลาขาดกับธนาคารนี้เลย...
ขอเตือนเรื่องการทำสินเชื่อกับธนาคาร ททบ.