สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอเกริ่นนำเรื่องก่อนจะเขเข้าสู่คำถามนะเมื่อประมารต้นปี 67
เราได้ทำการจองคอนโดแห่งหนึ่งจากบริษัทค่อนข้างและมีชื่อเสียงระดับแนวหน้าของประเทศไทย ด้วยราคาในใบจองคือ 2.4 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ห้องคือ 29.25 ตร.ม. โดยวางเงินมัดจำ 5,000 บาทเท่านั้น ตามรูปแนบเลยค่ะ โดยโปรโมชั่นต่างๆเลยทำให้ได้ส่วนลดเยอะ แต่ตอนนั้นคอนโดยังสร้างไม่เสร็จจึงยังไม่สามารถระบุขนาดห้องที่ชัดเจนได้ ซึ่งทางฝ่ายขายได้แจ้งให้เราทราบแล้วว่าขนาดห้องอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยหลังจากที่คอนโดได้สร้างเสร็จแล้ว
หลังจากคอนโดสร้างเสร็จทางบริษัทได้เรียกตัวเราให้ไปทำสัญญาจะซื้อจะขายเมื่อไม่นานมานี้โดยวันนัดทำสัญญาได้มีการแจ้งว่าเราได้ขนาดห้องเพิ่มขึ้นมาจากเดิมเป็น 29.39 ตร.ม.นะ ทางบริษัทไม่ได้คิดราคาเพิ่มจากเดิม ซึ่งในวันนั้นเราไม่ได้นำหนังสือการจองไปด้วย แต่จำได้คร่าวๆว่าประมาณ 2.4 ล้าน จึงไม่ได้เช็คราคาในสัญญาจะซื้อจะขาย ซึ่งปกติราคาในใบจองและในสัญญาจะซื้อจะขายมักจะตรงกัน (ตามความเข้าใจของเราเอง ซึ่งยอมรับว่าคิดผิด) ทางโครงการแจ้งว่าราคาในสัญญาจะซื้อจะขายอยู่ที่ 2,441,631 บาทนะที่ต้องชำระในวันโอน ทางเราเข้าใจว่าน่าจะรวมค่าโอนใดๆไปด้วยแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดจึงลงนามในสัญญาจะซื้อจะขายไป แต่ก็เอ๊ะใจว่าทำไมน้องคนขายแจ้งหลังจากลงนามแล้ว หลังจากนี้จะมีทีมงานอีกทีมโทรหาเพื่อแจ้งยอดโอนอีกครั้งนะคะ แล้วเราจึงแยกย้ายกันไป
ซึ่งหลังจากเคลียร์งานต่างๆเรียบร้อยแล้วจึงได้มีโอกาสกลับมาอ่านสัญญาจะซื้อจะขายและหนังสือการจองอีกครั้งซึ่งพบว่า ราคา 41,631 บาทที่เพิ่มขึ้นในสัญญาจะซื้อจะขายนั้นไม่รู้ว่าเป็นค่าอะไรที่เพิ่มขึ้นมาเพราะในสัญญาบอกให้เราหารกันคนละครึ่งกับทางโครงการเรื่องค่าโอนห้องชุด จึงได้ทำการสอบถามเบื้องต้นกับน้องคนขายได้ข้อมูลมาว่าเป็นค่าเนื้อที่ห้องที่เพิ่มมาจากในตอนแรกคือ 29.25 -29.39 = 0.14 ตร.ม. ในราคาที่เพิ่มขึ้นมา 41,631 บาท ซึ่งหากเราคิดค่าส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นจากราคาประเมินในใบจองนั้นราคาที่เพิ่มขึ้นควรจะเป็น 11,488 บาทโดยประมาณ ซึ่งราคาที่ทางโครงการคิดเพิ่มขึ้นมานั้นมากกว่าครึ่งของราคาประเมินที่แจ้งในใบจอง และในสัญญาจะซื้อจะขายไม่ได้มีการระบุราคาประเมินที่ใช้ในการคิดราคาฟ้องชุดมาด้วย
เราจึงได้ทำการทักทวงกับทางฝ่ายขายว่าราคาในสัญญานั้นมีความผิดพลาดหรือไม่ เนื่องจากเราพบว่าราคาห้องชุดในใบจองและในสัญญาจะซื้อจะขายนั้นไม่ตรงกันนะ ราคาที่ทางโครงการเพิ่มมานั้นมากเกินจากราคาที่กำหนดไว้ในหนังสือการจองอีก น้องฝ่ายขายใช้เวลาตรวจสอบค่อนข้างนาน และได้ให้คำตอบในเวลาต่อมาว่า หัวหน้าบอกปิดดีลไปแล้วไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ และราคาที่เราได้ไปนั้นถือว่าถูกมากแล้ว ลูกค้าคนอื่นก็โดนขึ้นราคาเหมือนกันแต่เค้าไม่ได้เดือดร้อนอะไรนะ อีกทั้งราคาตอนที่เราจองมันถูก แต่ตอนนี้โครงการใกล้เสร็จแล้วราคาที่ใช้คิดจึงแพงขึ้น ซึ่งเป็นคำตอบที่ทำให้เราอึ้งมากๆๆ เราจึงได้ถามกลับไปอีกว่าถ้าคุณตั้งราคาขึ้นมาเองแบบนี้ แล้วจะมีราคาประเมินในหนังสือสัญญาจองไว้เพื่ออะไรในเมื่อคุณอยากขายเท่าไหร่คุณก็เขียนมาในสัญญาจะซื้อจะขายแบบนี้ โดยที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่า 41,631 บาทนั้นมันมีทางมาอย่างไร
ในฐานะลูกค้า และผู้บริโภครายหนึ่งเมื่อเราลงนามในสัญญาแล้วเราจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลยหรือ ? หากเราตรวจสอบแล้วพบข้อผิดพลาดในสัญญานั้น และเราเป็นฝ่ายเสียเปรียบให้กับทางโครงการ เราจะไม่สามรถโต้แย้ง หรือแก้ไขข้อผิดพลาดนั้นได้จริงๆใช่มั๊ย? ซึ่งในวันลงนามในสัญญาจะซื้อจะขาย เราเชื่อว่าคงไม่มีใครไม่นั่งจิ้มเครื่องคิดเลขเพื่อคำนวณหาราคาห้องที่เพิ่มขึ้นหรือลด หรือเราอาจจะเป็นฝ่ายผิดเองที่ไม่เตรียมตัวไปให้ดี เราขอน้อมรับความผิดพลาดในการทำสัญญาครั้งถึงแม้จะเป็นจำนวนเงินหลักหมื่น แต่ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้เรายังเสียดายเงินส่วนต่างนี้อยู่ดีค่ะ (ชาวพันทิปสามารถตำหนิและสมน้ำหน้าได้ แต่อย่าแรงมากนะ เพราะแค่นี้ก็เครียดมากพออยู่แล้วค่ะ)
หลังจากนี้เราพยายามติดต่อทางฝ่ายขายเพื่อขอคำชี้แจ้งว่าราคา 41,631 บาทที่เพิ่มมานั้นเค้าคิดคำนวณมาอย่างไร จึงอยากขอถามพี่ๆน้องๆในที่นี้ว่าถ้าในสถานการณ์แบบนี้เราควรไปต่อ หรือขอยกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายได้หรือไม่ หรือเราจะสามารถขอให้ทางบริษัทคิดค่าคอนโดใหม่อีกครั้งตามราคาในหนังสือการจอง แล้วความสำคัญของหนังสือการจองคืออะไร หากทางโครงการคิดราคาขึ้นๆลงๆแบบนี้โดยที่ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าให้เราทราบก่อน
และอยากจะเตือนทุกๆคนว่าไม่ว่าโครงการหรือบริษัทจะเล็กหรือจะใหญ่เราควรตรวจสอบข้อมูลและราคาก่อนลงนามเสมอ จิ้มเครื่องคิดเลขและหนังสือการไปด้วยค่ะตอนเห็นราคาจะได้จิ้มๆต่อหน้ากันไป อย่าไปเชื่อใจว่าเค้าจะขายเราถูกๆๆ
ขอน้อมรับทุกความคิดเห็นค่ะ ขอบคุณค่ะ
หากราคาห้องชุดในสัญญาจะซื้อจะขายไม่ตรงกับในหนังสือการจองห้องชุดสามารถยกเลิกหนังสือสัญญาหรือแก้ไขสัญญาได้หรือไม่?
เราได้ทำการจองคอนโดแห่งหนึ่งจากบริษัทค่อนข้างและมีชื่อเสียงระดับแนวหน้าของประเทศไทย ด้วยราคาในใบจองคือ 2.4 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ห้องคือ 29.25 ตร.ม. โดยวางเงินมัดจำ 5,000 บาทเท่านั้น ตามรูปแนบเลยค่ะ โดยโปรโมชั่นต่างๆเลยทำให้ได้ส่วนลดเยอะ แต่ตอนนั้นคอนโดยังสร้างไม่เสร็จจึงยังไม่สามารถระบุขนาดห้องที่ชัดเจนได้ ซึ่งทางฝ่ายขายได้แจ้งให้เราทราบแล้วว่าขนาดห้องอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยหลังจากที่คอนโดได้สร้างเสร็จแล้ว
หลังจากคอนโดสร้างเสร็จทางบริษัทได้เรียกตัวเราให้ไปทำสัญญาจะซื้อจะขายเมื่อไม่นานมานี้โดยวันนัดทำสัญญาได้มีการแจ้งว่าเราได้ขนาดห้องเพิ่มขึ้นมาจากเดิมเป็น 29.39 ตร.ม.นะ ทางบริษัทไม่ได้คิดราคาเพิ่มจากเดิม ซึ่งในวันนั้นเราไม่ได้นำหนังสือการจองไปด้วย แต่จำได้คร่าวๆว่าประมาณ 2.4 ล้าน จึงไม่ได้เช็คราคาในสัญญาจะซื้อจะขาย ซึ่งปกติราคาในใบจองและในสัญญาจะซื้อจะขายมักจะตรงกัน (ตามความเข้าใจของเราเอง ซึ่งยอมรับว่าคิดผิด) ทางโครงการแจ้งว่าราคาในสัญญาจะซื้อจะขายอยู่ที่ 2,441,631 บาทนะที่ต้องชำระในวันโอน ทางเราเข้าใจว่าน่าจะรวมค่าโอนใดๆไปด้วยแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดจึงลงนามในสัญญาจะซื้อจะขายไป แต่ก็เอ๊ะใจว่าทำไมน้องคนขายแจ้งหลังจากลงนามแล้ว หลังจากนี้จะมีทีมงานอีกทีมโทรหาเพื่อแจ้งยอดโอนอีกครั้งนะคะ แล้วเราจึงแยกย้ายกันไป
ซึ่งหลังจากเคลียร์งานต่างๆเรียบร้อยแล้วจึงได้มีโอกาสกลับมาอ่านสัญญาจะซื้อจะขายและหนังสือการจองอีกครั้งซึ่งพบว่า ราคา 41,631 บาทที่เพิ่มขึ้นในสัญญาจะซื้อจะขายนั้นไม่รู้ว่าเป็นค่าอะไรที่เพิ่มขึ้นมาเพราะในสัญญาบอกให้เราหารกันคนละครึ่งกับทางโครงการเรื่องค่าโอนห้องชุด จึงได้ทำการสอบถามเบื้องต้นกับน้องคนขายได้ข้อมูลมาว่าเป็นค่าเนื้อที่ห้องที่เพิ่มมาจากในตอนแรกคือ 29.25 -29.39 = 0.14 ตร.ม. ในราคาที่เพิ่มขึ้นมา 41,631 บาท ซึ่งหากเราคิดค่าส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นจากราคาประเมินในใบจองนั้นราคาที่เพิ่มขึ้นควรจะเป็น 11,488 บาทโดยประมาณ ซึ่งราคาที่ทางโครงการคิดเพิ่มขึ้นมานั้นมากกว่าครึ่งของราคาประเมินที่แจ้งในใบจอง และในสัญญาจะซื้อจะขายไม่ได้มีการระบุราคาประเมินที่ใช้ในการคิดราคาฟ้องชุดมาด้วย
เราจึงได้ทำการทักทวงกับทางฝ่ายขายว่าราคาในสัญญานั้นมีความผิดพลาดหรือไม่ เนื่องจากเราพบว่าราคาห้องชุดในใบจองและในสัญญาจะซื้อจะขายนั้นไม่ตรงกันนะ ราคาที่ทางโครงการเพิ่มมานั้นมากเกินจากราคาที่กำหนดไว้ในหนังสือการจองอีก น้องฝ่ายขายใช้เวลาตรวจสอบค่อนข้างนาน และได้ให้คำตอบในเวลาต่อมาว่า หัวหน้าบอกปิดดีลไปแล้วไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ และราคาที่เราได้ไปนั้นถือว่าถูกมากแล้ว ลูกค้าคนอื่นก็โดนขึ้นราคาเหมือนกันแต่เค้าไม่ได้เดือดร้อนอะไรนะ อีกทั้งราคาตอนที่เราจองมันถูก แต่ตอนนี้โครงการใกล้เสร็จแล้วราคาที่ใช้คิดจึงแพงขึ้น ซึ่งเป็นคำตอบที่ทำให้เราอึ้งมากๆๆ เราจึงได้ถามกลับไปอีกว่าถ้าคุณตั้งราคาขึ้นมาเองแบบนี้ แล้วจะมีราคาประเมินในหนังสือสัญญาจองไว้เพื่ออะไรในเมื่อคุณอยากขายเท่าไหร่คุณก็เขียนมาในสัญญาจะซื้อจะขายแบบนี้ โดยที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่า 41,631 บาทนั้นมันมีทางมาอย่างไร
ในฐานะลูกค้า และผู้บริโภครายหนึ่งเมื่อเราลงนามในสัญญาแล้วเราจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลยหรือ ? หากเราตรวจสอบแล้วพบข้อผิดพลาดในสัญญานั้น และเราเป็นฝ่ายเสียเปรียบให้กับทางโครงการ เราจะไม่สามรถโต้แย้ง หรือแก้ไขข้อผิดพลาดนั้นได้จริงๆใช่มั๊ย? ซึ่งในวันลงนามในสัญญาจะซื้อจะขาย เราเชื่อว่าคงไม่มีใครไม่นั่งจิ้มเครื่องคิดเลขเพื่อคำนวณหาราคาห้องที่เพิ่มขึ้นหรือลด หรือเราอาจจะเป็นฝ่ายผิดเองที่ไม่เตรียมตัวไปให้ดี เราขอน้อมรับความผิดพลาดในการทำสัญญาครั้งถึงแม้จะเป็นจำนวนเงินหลักหมื่น แต่ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้เรายังเสียดายเงินส่วนต่างนี้อยู่ดีค่ะ (ชาวพันทิปสามารถตำหนิและสมน้ำหน้าได้ แต่อย่าแรงมากนะ เพราะแค่นี้ก็เครียดมากพออยู่แล้วค่ะ)
หลังจากนี้เราพยายามติดต่อทางฝ่ายขายเพื่อขอคำชี้แจ้งว่าราคา 41,631 บาทที่เพิ่มมานั้นเค้าคิดคำนวณมาอย่างไร จึงอยากขอถามพี่ๆน้องๆในที่นี้ว่าถ้าในสถานการณ์แบบนี้เราควรไปต่อ หรือขอยกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายได้หรือไม่ หรือเราจะสามารถขอให้ทางบริษัทคิดค่าคอนโดใหม่อีกครั้งตามราคาในหนังสือการจอง แล้วความสำคัญของหนังสือการจองคืออะไร หากทางโครงการคิดราคาขึ้นๆลงๆแบบนี้โดยที่ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าให้เราทราบก่อน
และอยากจะเตือนทุกๆคนว่าไม่ว่าโครงการหรือบริษัทจะเล็กหรือจะใหญ่เราควรตรวจสอบข้อมูลและราคาก่อนลงนามเสมอ จิ้มเครื่องคิดเลขและหนังสือการไปด้วยค่ะตอนเห็นราคาจะได้จิ้มๆต่อหน้ากันไป อย่าไปเชื่อใจว่าเค้าจะขายเราถูกๆๆ
ขอน้อมรับทุกความคิดเห็นค่ะ ขอบคุณค่ะ