ทองรูปพรรณ คือ “ทองคำ” ที่นำมาขึ้นรูปเป็นรูปแบบลักษณะต่างๆ นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องประดับ เพื่อทำการสวมใส่ เพื่อความสวยงาม อาทิ สร้อยคอ, แหวน, กำไลข้อมือ และ สร้อยข้อมือ ซึ่งทองรูปพรรณแต่ละแบบนั้นจะมีค่ากำเหน็จ หรือค่าแรง ของช่างทอง ที่ทำการออกแบบขึ้นรูปทองในแต่ละลวดลาย จากทองคำแท่งมาเป็นทองรูปพรรณนั่นเอง โดยค่ากำเหน็จจะขึ้นอยู่กับความยากง่ายของทองรูปพรรณแต่ละแบบ สำหรับประเทศไทยนั้นใช้มาตรฐานความบริสุทธิ์ของทองคำที่ 96.5 เปอร์เซ็นต์ หากจะเทียบเป็นกะรัตแล้ว จะได้ประมาณ 23.16 K ซึ่งคนในสมัยก่อนนิยมเรียกกันว่า ทองร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือ ทอง 23K น้ำหนักทองคำมาตรฐานของไทย มีหน่วยน้ำหนักเป็นบาท
ใน 1 บาท จะมีน้ำหนักเท่ากับ 15.16 กรัม ในหน่วยสลึงก็จะเป็น 1 บาท มี 4 สลึง ยิ่งช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีน และวันวาเลนไทน์ ทองคำถือเป็นของขวัญล้ำค่า และทองคำคือสัญลักษณ์ของความมั่นคง จึงมีการซื้อเป็นของขวัญพิเศษให้แก่กัน
ดังนั้น เพื่อประโยชน์แก่การเลือกซื้อและเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค คณะกรรมการว่าด้วยฉลาก
จึงกำหนดให้ทองรูปพรรณเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ฉบับที่ ๖ (พ.ศ. ๒๕๔๔) เรื่อง ให้ทองรูปพรรณเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก และให้ระบุข้อความดังต่อไปนี้ไว้ในฉลากด้วย (๑) ชื่อประเภทหรือชนิดของทองรูปพรรณ ในกรณีที่เป็นทองรูปพรรณที่สั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย ให้ระบุชื่อประเทศที่ผลิตด้วย (๒) ชื่อและสถานที่ประกอบการหรือเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนในประเทศไทยของผู้ผลิตเพื่อขายหรือของผู้สั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขายแล้วแต่กรณี (๓) ปริมาณความบริสุทธิ์ของทองรูปพรรณ โดยระบุหน่วยเป็นกะรัต หรือเปอร์เซ็นต์ หรือร้อยละ หรือใช้สัญลักษณ์ K หรือ % แทนก็ได้ (๔) น้ำหนักทองรูปพรรณ โดยระบุหน่วยเป็นกรัม หรือใช้สัญลักษณ์ ก. หรือ g แทนก็ได้ (๕) ราคาให้ระบุเป็นเงินสกุลไทย และจะระบุเป็นเงินสกุลอื่น หรือใช้สัญลักษณ์ของสกุลเงินแทนก็ได้ และประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ฉบับที่ ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๔๖) เรื่อง ให้ทองรูปพรรณเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก (ฉบับที่ ๒) ให้เพิ่มข้อความต่อไปนี้ เป็น (๖) ราคารับซื้อคืนทองรูปพรรณขั้นต่ำ ตามที่สมาคมค้าทองคำประกาศ
ทั้งนี้ หากผู้ใดขายสินค้าทองรูปพรรณโดยไม่มีฉลากหรือมีฉลาก แต่การแสดงฉลากไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด จะมีโทษจำคุกไม่เกิน ๖ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ผลิต ผู้สั่งหรือผู้นำเข้า มีโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าดังกล่าวสามารถร้องเรียนผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางแอปพลิเคชั่น OCPB Connect พูดคุยสอบถามกับ Chat Bot พี่ปกป้องได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมงทางเว็บไซต์ www.ocpb.go.th โดยผู้บริโภคสามารถร้องเรียนออนไลน์ได้สะดวก ประหยัดเวลา หรือโทรมาสอบถามข้อมูลที่สายด่วน สคบ. ๑๑๖๖ หรือมาด้วยตนเองที่ศูนย์ราชการฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี หรืออาคารบี ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หรือต่างจังหวัดสามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด ทุกจังหวัด
ทองรูปพรรณเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก
ใน 1 บาท จะมีน้ำหนักเท่ากับ 15.16 กรัม ในหน่วยสลึงก็จะเป็น 1 บาท มี 4 สลึง ยิ่งช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีน และวันวาเลนไทน์ ทองคำถือเป็นของขวัญล้ำค่า และทองคำคือสัญลักษณ์ของความมั่นคง จึงมีการซื้อเป็นของขวัญพิเศษให้แก่กัน
ดังนั้น เพื่อประโยชน์แก่การเลือกซื้อและเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค คณะกรรมการว่าด้วยฉลาก
จึงกำหนดให้ทองรูปพรรณเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ฉบับที่ ๖ (พ.ศ. ๒๕๔๔) เรื่อง ให้ทองรูปพรรณเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก และให้ระบุข้อความดังต่อไปนี้ไว้ในฉลากด้วย (๑) ชื่อประเภทหรือชนิดของทองรูปพรรณ ในกรณีที่เป็นทองรูปพรรณที่สั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย ให้ระบุชื่อประเทศที่ผลิตด้วย (๒) ชื่อและสถานที่ประกอบการหรือเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนในประเทศไทยของผู้ผลิตเพื่อขายหรือของผู้สั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขายแล้วแต่กรณี (๓) ปริมาณความบริสุทธิ์ของทองรูปพรรณ โดยระบุหน่วยเป็นกะรัต หรือเปอร์เซ็นต์ หรือร้อยละ หรือใช้สัญลักษณ์ K หรือ % แทนก็ได้ (๔) น้ำหนักทองรูปพรรณ โดยระบุหน่วยเป็นกรัม หรือใช้สัญลักษณ์ ก. หรือ g แทนก็ได้ (๕) ราคาให้ระบุเป็นเงินสกุลไทย และจะระบุเป็นเงินสกุลอื่น หรือใช้สัญลักษณ์ของสกุลเงินแทนก็ได้ และประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ฉบับที่ ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๔๖) เรื่อง ให้ทองรูปพรรณเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก (ฉบับที่ ๒) ให้เพิ่มข้อความต่อไปนี้ เป็น (๖) ราคารับซื้อคืนทองรูปพรรณขั้นต่ำ ตามที่สมาคมค้าทองคำประกาศ
ทั้งนี้ หากผู้ใดขายสินค้าทองรูปพรรณโดยไม่มีฉลากหรือมีฉลาก แต่การแสดงฉลากไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด จะมีโทษจำคุกไม่เกิน ๖ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ผลิต ผู้สั่งหรือผู้นำเข้า มีโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าดังกล่าวสามารถร้องเรียนผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางแอปพลิเคชั่น OCPB Connect พูดคุยสอบถามกับ Chat Bot พี่ปกป้องได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมงทางเว็บไซต์ www.ocpb.go.th โดยผู้บริโภคสามารถร้องเรียนออนไลน์ได้สะดวก ประหยัดเวลา หรือโทรมาสอบถามข้อมูลที่สายด่วน สคบ. ๑๑๖๖ หรือมาด้วยตนเองที่ศูนย์ราชการฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี หรืออาคารบี ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หรือต่างจังหวัดสามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด ทุกจังหวัด