สวัสดีค่ะขอเกริ่นก่อนว่าที่บ้านอยู่ด้วยกัน3คน มีเรา พ่อและแม่ อยู่ด้วยกันแบบนี้มาตั้งแต่เราเกิดตอนนี้เรากำลังเรียนอยู่ค่ะ ป้าคนนี้คือพี่สาวของแม่เรา เราเจอหน้าเขานับครั้งได้คือตอนที่ตาเป็นมะเร็งตอนปี59และหลังจากนั้นโควิดป้าตกงานจึงกลับมาจังหวัดบ้านเกิด ป้าเขาตัวคนเดียวค่ะหย่ากับสามี เป็นคนไม่ได้จนมีเงินเก็บครึ่งล้านได้ค่ะเห็นแม่พูด พอป้าตกงานช่วงโควิดเราทั้งสามคนพ่อแม่ลูกเลยช่วยไปขนของจากนครสวรรค์มาจังหวัดบ้านเกิดตั้งแต่ตี3 ข้าวเช้าก็ไม่ได้กินไปถึงตอน10โมงก็ขนเลยกินอีกทีตอนบ่าย(พ่อแม่จ่ายค่าอาหารเองต่างคนต่างจ่ายป้าออกแค่ค่าน้ำมัน) ป้าขออาศัยบ้านอยู่ก่อนตอนช่วงโควิดแรกๆ อาศัยได้ไม่กี่เดือนจนป้าได้งานแม่บ้านในตัวเมืองก็ต้องขนของอีกครั้ง ตอนที่ป้าไปสมัครงานเจ้านายถามว่าอะไรสักอย่างกับเราและแม่ไม่รู้จะไม่ได้แต่จำคำตอบของป้าได้ขึ้นใจว่า "สองคนนี้มันไม่รู้หรอกอยู่แต่ในถ้ำ" เรากับแม่มองหน้ากันแบบไม่ได้นัดหมายต่างคนต่างทำตัวไม่ถูก ป้าพูดไปก็หัวเราะกับเจ้านายไป ตัดมาปัจจุบันนะคะ ป้าทำงานแม่บ้านที่นั่นค่ะทำได้4-5ปีจนเมื่อไม่กี่วันธุรกิจเจ้านายป้ามีปัญหาจนต้องเลิกจ้างป้า ป้าโทรมาร้องไห้กับแม่ พ่อ น้า และตาของเรา ตาของเราคือคนเดียวกับที่บอกว่าเป็นมะเร็งนะคะตอนนี้หายดีแล้วค่ะ แต่ตาเป็นโรคกระเพาะตามภาษาคนอายุ80 ตาเราเครียดมากค่ะจนปวดท้อง น้าเราเองก็โมโหป้ามากเพราะหลายครั้งป้าไม่เคยจัดการอะไรเลยแม้กระทั่งตอนยายติดเตียงก็มีแค่น้ากับแม่เราที่ดูแล ตอนตาเป็นมะเร็งก็มาเฝ้าโรงบาลแค่3หน ลืมบอกค่ะว่าปัจจุบันน้าโสดนะคะและน้าอยู่กับตาสองคน(ยายเสียหลังจากติดเตียงได้3เดือน) ส่วนครอบครัวเราก็ไปมาหาสู่ตาตลอดทุกเดือนค่ะไปกลับประมาณ40โลแต่ก็ไปหาตลอดเพราะคิดถึง แต่ป้านานๆไปทีค่ะ3-4เดือนครั้งแม้ว่าจะไปกลับบ้านตาแค่12โลเท่านั้น ที่น้าโกรธไม่ใช่แค่เพราะทำตาเครียดแต่ป้าบังคับให้ตาไปยืนรอลูกผู้ใหญ่หลายชม.เพื่อขอเบอร์ติดต่อเผื่อมีงานที่ไหนว่าง ตอนนั้นน้ารู้น้าร้องไห้เลยค่ะเรารู้ทีหลังว่าป้าทำแบบนี้ก็ร้องเหมือนกันสงสารตามากๆค่ะท่านขาไม่ค่อยดี นั่งนานยืนนานก็จะบวม เราโมโหมากได้แต่ร้องไห้กับแม่และน้าแค่นั้นพูดอะไรไม่ได้เพราะยังเด็ก ป้าเขาขอมาอยู่กับครอบครัวเรา น้าเรารู้เลยบอกว่ามาอยู่กับเขาก็ได้เพราะว่าต่างคนต่างตัวคนเดียวจะได้ดูแลยามแก่ตอนพ่อไม่อยู่แล้ว อีกอย่างน้ามีบ้าน2หลังติดกันเลยค่ะเลยจะแบ่งคนละหลัง น้ารู้ว่าป้าเป็นคนขี้เหนียวมากน้าบอกว่าไม่ต้องห่วงเรื่องตาน้าจะดูแลเองคนเดียวจนตาจากไป และจะให้ป้าอยู่ฟรีๆไม่ต้องจ่ายอะไรเลย แต่ป้าไม่เอาเพราะป้าบอกไม่ค่อยถูกกับน้า(แต่น้าไม่เคยติดใจอะไรกับป้าเลย) น้าเลยหมดคำจะพูดและปล่อยให้อยู่กับครอบครัวเรา ปัจจุบันยังไม่ได้ขนของมานะคะแต่อีกไม่กี่วันจะขนแล้ว ไม่ได้อยากใจร้ายเลยแต่ว่าไม่อยากให้อยู่จริงๆ เมื่อวันก่อนป้าก็โทรมาเป็น10สายเพราะแม่ไม่ยอมรับสายแม่เหนื่อยจะพูดกับป้าแล้ว พอแม่ยอมรับสายป้าก็ทำน้ำเสียงโมโห แถมบังคับให้แม่ลางานมาช่วยขนของแต่ครั้งนี้แม่เสียงแข็งบอกลาบ่อยๆไม่ได้เพราะเราเรียนอยู่ต้อฃเก็บเวลาไว้ลายามจำเป็นเมื่อมีธุระกับเรา ป้าถึงจะยอมเมื่อพูดแบบนี้ และย้ายมาครั้งนี้คาดว่าจะอยู่ยาวๆจนกว่าจะขายไร่นาของป้าเขาได้และเขาถึงจะปลูกบ้านเป็นของตนเอง เราต้องทำตัวยังไงดีคะ ในสายตาเราป้ากลายเป็นคนเห็นแก่ตัวไปแล้ว แม้จะเจอกันไม่กี่ครั้งก็ไม่เคยอะไรเลยที่จะถามหาสารทุกข์สุขดิบกัน แต่ทำไมเวลาเดือดร้อนต้องนึกถึงครอบครัวเราตลอดเลย ควรเปลี่ยนความคิดที่ทีต่อป้ายังไงดีคะ ปล.ขออภัยที่พูดยาวค่ะ
ป้ามาขออาศัยบ้านอยู่ แต่รู้สึกอึดอัด