สวัสดีครับเนื่องจากผมมีเรื่องเครียดในชีวิตเยอะผมจึงหาช่องทางปรึกษากับ ผู้ที่พร้อมรับฟังแต่เนื่องจากผมไม่ได้มีทุนมากทำให้ผมต้องหาช่องทางการปรึกษากับผู้รับฟังที่ฟรีหรืออย่างมากก็เก็บเพียงค่าโทร ส่วนใหญ่แต่ละช่องทางผู้รับฟังจะได้รับการอบรมสำหรับการรับฟังมาแล้วนะครับเพราะอย่างนั้นพวกเขาจะรับฟังโดยไม่ตัดสินนะครับ โดยในช่องทางเกือบทั้งหมดข้อมูลที่ปรึกษาจะถูกเก็บเป็นความลับและ ผมเคยปรึกษากับตัวมาแล้วทั้งหมดและพบว่าช่วยทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นได้ผมจึงอยากแนะนำต่อนะครับ

 1 สายด่วนสุขภาพจิต (ไม่เสียค่าโทร) (เรื่องที่ปรึกษาจะถูกเก็บเป็นความลับ) (ผู้รับฟังผ่านการศึกษาด้านการให้คำปรึกษามาโดยตรง) ติดต่อ เบอร์ 1323
สายด่วนสุขภาพจิตนับว่าเป็นช่องทางที่น่าจะได้ยินกันบ่อยที่สุดและได้รับความนิยมที่สุด ผู้รับฟังจะเป็นนักจิตวิทยาที่จบจากหลักสูตรจิตวิทยาการให้คำปรึกษาหรือไม่ก็จิตวิทยาคลินิก ซึ่งเป็นสายเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาทั้งนั้นโดยหลักสูตร จะใช้เวลาเรียน 4 ปี จึงเป็นการรับประกันระดับนึงว่าผู้รับฟังจะมีความเป็นมืออาชีพ พึ่งพาได้ แถมยังมีการประเมินผู้รับฟังหลังจากปรึกษาเสร็จด้วยยิ่งเป็นการเพิ่มคุณภาพของผู้รับฟัง จากที่ผมปรึกษามาประมาณ 7 ครั้งผมประมาณ 5 ใน 7 ผมรู้สึกว่าผู้รับฟังเต็มใจรับฟังมาก โดยพูดด้วยความใจเย็น ไม่ตัดสิน ใช้คำพูดที่สุขภาพไม่ทำร้ายจิตใจ แต่บางครั้งผมรู้สึกว่าผู้ฟังเหนื่อยจากการรับฟังแล้วทำให้น้ำเสียงไม่ค่อยดีแล้ว รีบสรุปเรื่องทีปรึกษาไปหน่อยด้วยครับ โดยสายด่วนสุขภาพจิตสามารถโทรติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยครับ
แต่เนื่องจากเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมมากผู้รับฟัง จึงถูกกำหนดให้พยายามคุยให้จบภายในเวลา 30 นาทีจึงบาบครั้งจึงอาจทำให้ผู้ระบายรู้สึกว่ายังพูดไม่พอแต่ต้องหยุดการสนทนาแล้ว 
(ข้อดี) ผู้รับฟังผ่านการเรียนมาโดยเฉพาะ มีการเก็บเรื่องที่คุยเป็นความลับ มีการประเมินผู้รับฟังหลังจบการปรึกษา ไม่เก็บค่าโทร โทรได้ 24 ชั่วโมง
(ข้อเสีย) ใช้เวลาในการโทรนาน เพราะมีคนใช้บริการเยอะมาก ใช้เวลาโทรเฉลี่ย 30 นาทีถึงมีคนรับ เวลาคุย 30 นาที อาจน้อยไปสำหรับบางคน บางครั้งอาจเจอผู้รับฟังที่เหนื่อยจากการรับฟังคนอื่นมาจนรีบสรุปเรื่องที่ปรึกษาไปหน่อย

 2 สมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทย  (เสียค่าโทร) (เรื่องที่ปรึกษาจะถูกเก็บเป็นความลับ) (ผู้รับฟังได้รับการอบรมด้านการปรึกษามาโดยตรง) ติดต่อ เบอร์ 02 113 6789 โทรได้ทุกวัน
สมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทย เป็นสมาคมที่รับอาสาสมัครเข้ามาฝึกอบรมคอร์สสำหรับให้คำปรึกษา แล้วมาให้คำปรึกษาแต่เป็นคอร์สระยะสั้นนะครับ โดยเท่าที่ผมเข้าใจจะมีเวลาในการคุยมากกว่าสายด่วนสุขภาพจิต จึงทำให้คุยได้นาน โดยผู้ฟังจะให้อารมณ์ตอนคุยคล้ายเพื่อนที่คอยรับฟังมากกว่าคนแปลกหน้า เท่าที่ผมปรึกษามาประมาณ 6 ครั้ง ผมรู้สึกว่าคำพูดของผู้รับฟังอบอุ่น พยายามเข้าใจ ไม่ตัดสิน ให้กำลังใจดี แต่มีครั้งนึงที่ผมคุยกับผู้รับฟังอยู่แล้วเค้าก็บอกไม่ได้ยินเสียงของผมแล้วตัดสายไปเลย แต่มีแค่ครั้งเดียวที่เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นนะครับ โดยติดต่อได้เวลา 12:00-22:00 
(ข้อดี) ผู้รับฟังผ่านการอบรมมาโดยเฉพาะ มีการเก็บเรื่องที่คุยเป็นความลับ มีเวลาให้คุยนาน ได้อารมณ์เหมือนคุยกับเพื่อน ผู้รับฟังผู้น่ารัก เติมกำลังใจเก่ง
(ข้อเสีย) ไม่มีการคอสายถ้าเราโทรไปแล้วไม่ติดจะมีเสียงตอบกลับอัตโนมัติให้เราฝากเบอร์ของเราเอาไว้ เพื่อให้ผู้รับฟังที่ว่างโทรกลับแล้วระบบจะตัดสายไปเลย ถ้าต้องการคุยกับผู้รับฟังในชั่วโมงนั้นต้องโทรใหม่ไปเรื่อย ๆ จนกว่าผู้ฟังจะรับ โทรติดค่อนข้างยาก เนื่องจากผู้รับฟังผ่านการอบรมคอร์สที่ไม่ได้นานมากทำให้อาจมีประสบการณ์ในบางเรื่องที่น้อย (แต่ผมยังไม่เคยเจอจุดที่ผู้รับฟังมีประสบการณ์ในบางเรื่องน้อยนะครับ) โดยเสียค่าโทรด้วย
 3 แอพ SATI (ไม่เสียค่าโทรเพราะโทรด้วยเน็ตคล้าย ๆ โทรใน Line) (เรื่องที่ปรึกษาจะถูกเก็บเป็นความลับ) (ผู้รับฟังได้รับการอบรมด้านการปรึกษามาโดยตรง) ติดต่อปรึกษาผ่านแอพ โหลดแอพ Around สติ แอพ - แอปพลิเคชันใน Google PlayGoogle Playhttps://play.google.com › details › i...  IOS https://apps.apple.com/th/app/sati-app/id1521432838
แอพ SATI เป็นแอพที่ถูกสร้างมาเพื่อโทรพูดคุยกับผู้รับฟังโดยตรงเลย โดยผู้รับฟังในแอพจะเป็นอาสาสมัครที่ผ่านการอบรมด้านการปรึกษามาแล้วทำให้สามารถเป็นผู้รับฟังที่ดีได้ แต่เป็นหลักสูตรระยะสั้นนะครับแต่ เท่าที่ผมปรึกษามาประมาณ 3 ครั้งผมรู้สึกว่าผู้รับฟังทุกคนพูดจาน่ารักเป็นกันเองอารมณ์ตอนปรึกษาจะเหมือนคุนกับเพื่อน แต่ในบางครั้งสัญญาก็ขาด ๆ หาย ๆ ทำให้ผมต้องพูดซ้ำหรือพูดดังกว่าเดิม แต่มันก็เกิดขึ้นน้อยมาก ๆ โดยความพิเศษของแอพนี้คือจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้นในการปรึกษา โดย ตอนโทรก็จะเป็นระบบโทรแล้วรอสาย (แถมยังใช้เวลาโทรติดเร็วกว่าสายด่วนสุขภาพจิตด้วย) เท่าที่ผมเข้าใจผู้รับฟังจะมีเวลาในการคุยนานกว่าสายด่วนสุขภาพจิตด้วย แถมยังมีการประเมินผู้รับฟังหลังปรึกษาเสร็จยิ่งเป็นการเพิ่มคุณภาพของผู้รับฟังด้วย จริง ๆ แล้วแอพ SATI สามารถโทรได้ตลอด 24 ชั่วโมงแต่ช่วงตี 1 - 6 โมงเช้าก็แทบไม่มีคนรับแล้ว
(ข้อดี) ผู้รับฟังผ่านการอบรมด้านการปรึกษามาโดยตรง เรื่องที่ปรึกษาถูกเก็บเป็นความลับ ไม่เสียค่าโทร โดยเฉลี่ยติดต่อได้เร็วกว่าสายด่วนสุขภาพจิต
(ข้อเสีย)  ใช้เวลาโทรค่อนข้างนานกว่าจะมีคนรับ ประมาณ 10-15 นาที  เนื่องจากผู้รับฟังผ่านการอบรมระยะที่ไม่ได้ยาวมากทำให้ในบางเรื่องผู้รับฟังอาจไม่ชำนาญในการปรึกษา (แต่ผมไม่เคยเจอจุดที่ผู้รับฟังขาดประสบการณ์นะครับ)
 4 แอพ Alljit (จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ) (เรื่องที่ปรึกษา(อาจไม่)ถูกเก็บเป็นความลับ)  (ผู้ที่รับฟังอาจไม่ผ่านการผ่านการอบรมมาโดยตรง) ติดต่อปรึกษาผ่านแอพ โหลดแอพ Around  Alljit สุขภาพใจ - แอปพลิเคชันใน Google PlayGoogle Playhttps://play.google.com › details › i...  IOS https://apps.apple.com/th/app/alljit-ส-ขภาพใจ/id1549529345 แอพนี้จะเป็นแอพสำหรับให้ปรึกษาแบบแชตไลน์ 1 ต่อ 1 แต่แชตกลุ่มก็มี โดยผมจะขอพูดถึงแชต 1 ต่อ 1 เป็นหลักนะครับ เนื่องจากเป็นแชต 1 ต่อ 1 ทำให้ไม่เสียค่าโทรค่าบริการใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ผู้ฟังนั้นแอพจะให้ใครก็ได้มาเป็นผู้รับ ซึ่งเนื่องจากเป็นใครก็ได้เรื่องที่ปรึกษาอาจไม่ถูกเก็บเป็นความลับ แต่แอพมีระบบให้เราปรึกษาแบบไม่ระบุตัวตนเป็นการเข้าแชต 1 ต่อ 1 แบบไม่เปิดเผยชื่อและรูปโปรไฟล์ซึ่งก็น่าจะช่วยได้ระดับนึง แล้วการที่ใครก็สามารถเป็นผู้รับฟังได้ทำให้บางคนอาจยังไม่ผ่านการอบรมการปรึกษามาที นั้นอาจทำให้ได้ผลลัพธ์ในการปรึกษาไม่น่าพอใจมาก หรือบางครั้งอาจเจอจังหวะนรกพอเล่าเรื่องของตัวเองแล้วกลายเป็นว่าคนที่รับฟังเป็นคนรู้จักแต่โอกาสมันเกิดได้น้อยมาก ๆ ครับ จากที่ผมปรึกษาแบบ 1 ต่อ 1 มาประมาณ 8 ครั้งส่วนใหญ่ผมจะรู้สึกพอใจกับการปรึกษาโดยแต่ละครั้งผู้รับฟังจะพูดจาสุภาพ ไม่ตัดสินกัน พร้อมรับฟังเรื่องที่ผมเป็นทุกข์ แต่การที่ให้ใครก็ได้มาเป็นผู้ฟังก็เป็นข้อดีของแอพนี้ได้ด้วย เพราะเมื่อใครก็ได้เป็นผู้รับฟังจำรวนคนรับฟังก็จะเยอะทำให้ได้ปรึกษาเร็วมาก หลังจากเริ่มส่งข้อความในแชตไป ประมาณ 5 นาทีก็จะมีคนตอบกลับมาแล้วหรือถ้าไม่มีคนตอบกลับมาก็สามารถไปใช้บริการผู้รับฟังคนอื่นได้เลย โดยเราไม่ต้องเสียเงินให้ผู้รับฟังนะ ผู้รับฟังเป็นเหมือนอาสาสมัคร ที่เต็มใจมารับฟังเรื่องที่เราเป็นทุกข์ โดยในแอพจะมีคอร์สอบรมการปรึกษาฟรีให้เรียนอยู่ ด้วย เมื่อเรียนแล้วก็จะเข้าใจตัวเองและเป็นผู้ให้คำปรึกษาหรือให้กำลังใจได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
(ข้อดี) ไม่เสียค่าใช้จ่าย ติดต่อผู้รับฟังได้เร็วมาก
(ข้อเสีย) ผู้รับฟังบางคนอาจไม่ได้ผ่านการฝึกอบรมด้านการปรึกษามา ทำให้อาจให้คำปรึกษาได้ไม่ดีเท่าที่ควรแต่ส่วนใหญ่ผมรู้สึกโอเคกับการปรึกษานะครับ ข้อมูลการปรึกษาอาจไม่ถูกเก็บเป็นความลับจากผู้รับฟัง  ระบบประเมินผู้รับฟังบางครั้งใช้งานไม่ได้ เนื่องจากเป็นการคุยแบบแชตบางคนอาจไม่สะดวก 
ก็จบกันไปแล้วนะครับสำหรับช่องทางติดต่อหาผู้รับฟังจริง ๆ ที่ผมเขียนกระทู้  นี้มาก็เพราะผมอยากแนะนำช่องทางที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากอย่าง แอพ SATI และ แอพ Alljit ส่วนตัวผมค่อนข้างชอบแอพ Alljit ที่ทำให้ได้รับการปรึกษาเร็วมากครับ แต่ก็ต้องระวังเรื่องข้อมูลส่วนตัวนะครับ ผมอยากให้ใครก็ตามที่ รู้สึกแย่ เศร้า เหนื่อย อยากได้คนปรึกษาลองเปิดใจใช้แอพนี้ดูนะครับ