ข่าวว่า.... "แอปเปิลไซเดอร์" ช่วยลดความอยากอาหาร และลดน้ำหนักได้


28 พฤษภาคม 2567
หมอหมู หรือ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง แอปเปิลไซเดอร์ ช่วยลดความอยากอาหาร และลดน้ำหนัก

โดยหมอหมูได้โพสต์ระบุข้อความว่า ผลการศึกษาพบว่า โดยเฉลี่ยแล้วคนที่รับประทาน แอปเปิลไซเดอร์ (Apple Cider Vinegar (ACV)) หรือ น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล ช่วงเช้า 1 ช้อนโต๊ะ จะทำให้ปริมาณแคลอรี่ทั้งหมดลดลงได้ถึง 275 แคลอรี่ในช่วงเวลา 1 วัน

- จากการศึกษาโดยใช้หนูพบว่าการให้น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิล สามารถลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีและเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดีได้ นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ด้วย และการทดลองทางคลินิกที่ตีพิมพ์ในปี 2021 พบว่า “การบริโภคน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิล ช่วยลดคอเลสเตอรอลรวมในเลือดได้อย่างมีนัยสำคัญ”

- จากการศึกษาใน Journal of Cosmetic Dermatology พบว่า การใช้น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิลเป็นเวลา 3 เดือน จะช่วยรักษาสิว รวมถึงทำให้เนื้อผิวสัมผัส  สีผิว และรูปลักษณ์ของผิวดีขึ้น เนื่องจากน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิล มีส่วนผสมของ กรดอะซิติก กรดแลคติค กรดซัคซินิก และกรดซิตริก ซึ่งมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว และเพิ่มโปรไบโอติกให้กับผิว

- จากการศึกษาของญี่ปุ่น ในปี 2021 พบว่า น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิลยังมีประโยชน์ต่อหัวใจและช่วยลดความดันโลหิต โดยน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิลขัดขวางการทำงานของเอนไซม์จำเพาะที่เพิ่มความดันโลหิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปริมาณที่แนะนำให้รับประทานต่อวัน คือ 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน ด้วยการผสมกับน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้

ข้อควรระวัง:
1. ไม่ควรรับประทานแบบโดยตรงไม่ผสมกับน้ำหรือเครื่องดื่มอื่นๆ เพราะ น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิลมีฤทธิ์เป็นกรดสูง หากรับประทานเข้าไปโดยตรงอาจจะ  ทำลายเนื้อเยื่อปากและลำคอได้
2. ควรบ้วนปากด้วยทุกครั้งหลังทาน เนื่องจากความเป็นกรดจะทำให้ฟันเราสึกกร่อน ทำลายสารเคลือบฟันเราได้
3. การรับประทานน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิลติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้ระดับของธาตุโพแทสเซียมต่ำลง และกระดูกบางได้
4. ผู้ที่เป็นโรคไทรอยด์ โรคเบาหวาน และโรคไต ไม่ควรรับประทาน

ที่มาข่าว : https://news.ch7.com/detail/729729
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่