ทุเรียน ราชาผลไม้
ทุเรียน ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติอันหอมหวาน เนื้อนุ่มละมุนลิ้น แต่การจะได้ทุเรียนที่อร่อยถูกใจนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หลายคนมักประสบปัญหากับการเลือกทุเรียน บ้างก็ได้ทุเรียนอ่อน บ้างก็ได้ทุเรียนแก่จัดจนเนื้อเละ
บทความนี้ เราจะมาแนะนำวิธีเลือกทุเรียนง่ายๆ เพื่อให้ทุกท่านได้ทุเรียนที่อร่อยถูกใจ ทานแล้วฟินแน่นอน!
วิธีเลือกทุเรียน
1. สังเกตจากก้าน
* ก้านทุเรียนที่ดีควรมีสีเข้ม แข็งแรง และสากมือ
* ปลายก้านแห้งสนิท ไม่มีความชื้น
* รอยแผลที่ก้านควรมีสีน้ำตาลหรือสีดำ แสดงว่าทุเรียนแก่จัด
* ก้านทุเรียนที่หลุดง่าย แสดงว่าทุเรียนสุกเกินไป
2. ดูจากหนาม
* ทุเรียนที่สุกกำลังดี หนามจะเรียงเป็นระเบียบ ปลายหนามจะทู่และมีสีน้ำตาล
* หนามทุเรียนอ่อนจะมีสีเขียว ปลายหนามแหลมชิดกัน
* หนามทุเรียนแก่จัดจะมีสีดำ ปลายหนามจะบานออก
3. ลองเคาะฟังเสียง
* ใช้ปลายนิ้วเคาะเปลือกทุเรียนเบาๆ เสียงที่ได้ควรเป็นเสียงโปร่ง
* ถ้าเคาะแล้วได้ยินเสียงแน่น แสดงว่าทุเรียนยังอ่อน
* ถ้าเคาะแล้วได้ยินเสียงดังก้อง แสดงว่าทุเรียนแก่จัด
4. ดมกลิ่น
* ทุเรียนที่สุกกำลังดีจะมีกลิ่นหอมฟุ้ง
* ทุเรียนอ่อนจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ
* ทุเรียนแก่จัดจะมีกลิ่นเหม็น
5. ดูจากรอยปริ
* ทุเรียนที่สุกกำลังดีจะมีรอยปริเล็กน้อยบริเวณร่องหนาม
* ทุเรียนอ่อนจะไม่มีรอยปริ
* ทุเรียนแก่จัดจะมีรอยปริแตก
6. เลือกซื้อจากร้านที่ไว้ใจได้
* เลือกร้านขายทุเรียนที่มีชื่อเสียง น่าเชื่อถือ
* สังเกตว่ามีทุเรียนหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือกซื้อหรือไม่
* สอบถามพ่อค้าแม่ค้าเกี่ยวกับทุเรียนแต่ละลูก
7. เลือกซื้อทุเรียนตามความชอบ
* ทุเรียนหมอนทอง: เนื้อสีเหลืองอร่าม เนื้อนุ่ม หวานมัน
* ทุเรียนก้านยาว: เนื้อสีเหลืองอ่อน เนื้อแห้ง หวานมัน
* ทุเรียนนวล: เนื้อสีเหลืองอ่อน เนื้อนุ่ม ฉ่ำน้ำ
* ทุเรียนครอก: เนื้อสีเหลืองอมส้ม เนื้อแห้ง หวานมัน
**ข้อควรระวัง**
* ระวังทุเรียนหมกยาเร่งสุก
* ระวังทุเรียนอ่อน
* ระวังทุเรียนแก่จัด
* เทคนิคการเก็บรักษาทุเรียน
* เก็บทุเรียนไว้ในอุณหภูมิห้อง
* เมื่อทุเรียนเริ่มสุก ให้แช่ในตู้เย็น
* ทุเรียนที่แช่ตู้เย็นสามารถเก็บไว้ได้นาน 3-4 วัน
หวังว่า วิธีเลือกทุเรียนที่เราแนะนำไปนี้ จะช่วยให้ทุกท่านได้ทุเรียนที่อร่อยถูกใจ ทานแล้วฟินแน่นอน!
วิธีเลือกทุเรียน
ทุเรียน ราชาผลไม้
ทุเรียน ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติอันหอมหวาน เนื้อนุ่มละมุนลิ้น แต่การจะได้ทุเรียนที่อร่อยถูกใจนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หลายคนมักประสบปัญหากับการเลือกทุเรียน บ้างก็ได้ทุเรียนอ่อน บ้างก็ได้ทุเรียนแก่จัดจนเนื้อเละ
บทความนี้ เราจะมาแนะนำวิธีเลือกทุเรียนง่ายๆ เพื่อให้ทุกท่านได้ทุเรียนที่อร่อยถูกใจ ทานแล้วฟินแน่นอน!
วิธีเลือกทุเรียน
1. สังเกตจากก้าน
* ก้านทุเรียนที่ดีควรมีสีเข้ม แข็งแรง และสากมือ
* ปลายก้านแห้งสนิท ไม่มีความชื้น
* รอยแผลที่ก้านควรมีสีน้ำตาลหรือสีดำ แสดงว่าทุเรียนแก่จัด
* ก้านทุเรียนที่หลุดง่าย แสดงว่าทุเรียนสุกเกินไป
2. ดูจากหนาม
* ทุเรียนที่สุกกำลังดี หนามจะเรียงเป็นระเบียบ ปลายหนามจะทู่และมีสีน้ำตาล
* หนามทุเรียนอ่อนจะมีสีเขียว ปลายหนามแหลมชิดกัน
* หนามทุเรียนแก่จัดจะมีสีดำ ปลายหนามจะบานออก
3. ลองเคาะฟังเสียง
* ใช้ปลายนิ้วเคาะเปลือกทุเรียนเบาๆ เสียงที่ได้ควรเป็นเสียงโปร่ง
* ถ้าเคาะแล้วได้ยินเสียงแน่น แสดงว่าทุเรียนยังอ่อน
* ถ้าเคาะแล้วได้ยินเสียงดังก้อง แสดงว่าทุเรียนแก่จัด
4. ดมกลิ่น
* ทุเรียนที่สุกกำลังดีจะมีกลิ่นหอมฟุ้ง
* ทุเรียนอ่อนจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ
* ทุเรียนแก่จัดจะมีกลิ่นเหม็น
5. ดูจากรอยปริ
* ทุเรียนที่สุกกำลังดีจะมีรอยปริเล็กน้อยบริเวณร่องหนาม
* ทุเรียนอ่อนจะไม่มีรอยปริ
* ทุเรียนแก่จัดจะมีรอยปริแตก
6. เลือกซื้อจากร้านที่ไว้ใจได้
* เลือกร้านขายทุเรียนที่มีชื่อเสียง น่าเชื่อถือ
* สังเกตว่ามีทุเรียนหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือกซื้อหรือไม่
* สอบถามพ่อค้าแม่ค้าเกี่ยวกับทุเรียนแต่ละลูก
7. เลือกซื้อทุเรียนตามความชอบ
* ทุเรียนหมอนทอง: เนื้อสีเหลืองอร่าม เนื้อนุ่ม หวานมัน
* ทุเรียนก้านยาว: เนื้อสีเหลืองอ่อน เนื้อแห้ง หวานมัน
* ทุเรียนนวล: เนื้อสีเหลืองอ่อน เนื้อนุ่ม ฉ่ำน้ำ
* ทุเรียนครอก: เนื้อสีเหลืองอมส้ม เนื้อแห้ง หวานมัน
**ข้อควรระวัง**
* ระวังทุเรียนหมกยาเร่งสุก
* ระวังทุเรียนอ่อน
* ระวังทุเรียนแก่จัด
* เทคนิคการเก็บรักษาทุเรียน
* เก็บทุเรียนไว้ในอุณหภูมิห้อง
* เมื่อทุเรียนเริ่มสุก ให้แช่ในตู้เย็น
* ทุเรียนที่แช่ตู้เย็นสามารถเก็บไว้ได้นาน 3-4 วัน
หวังว่า วิธีเลือกทุเรียนที่เราแนะนำไปนี้ จะช่วยให้ทุกท่านได้ทุเรียนที่อร่อยถูกใจ ทานแล้วฟินแน่นอน!