คนในบ้านเป็นญาติผู้น้องค่ะ ปัจจุบันเป็นวัยรุ่น ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวลมาหลายปี ชอบทำร้ายตัวเอง กินยาเยอะๆ ขู่จะฆ่าตัวตาย
ทุกวันนี้รักษาตามสิทธิ์ไม่เคยขาด เพราะแม่เขาพาไปจัดการเอง แต่แม่เขาแก่แล้ว เงินทองก็ไม่ค่อยมี
ตัวเด็กยังพอจะเรียนได้บ้าง แต่อาการคุ้มดีคุ้มร้าย
บ้านที่อยู่กันนี้ เป็นบ้านของเราเอง และเราส่งเสียค่าเทอม+ค่ากินให้เด็ก และส่งเสียให้แม่เขาด้วย
เราเองไม่ได้คุยกับเด็กมาก เพราะแม่เขาบอกว่าเราเป็นคนพูดจาแรง (แต่ที่พูดคือความจริงทั้งนั้น เช่นเราจะส่งเสียให้จบป.ตรี 4 ปีเท่านั้น ถ้าซิ่วคือจะส่งแค่ตามปีที่เหลือเช่นซิ่วปี 3 เราจะจะค่าเทอมที่ใหม่แค่ 1 ปี ที่เหลือหาเรียนเอง, ถ้าเรียนจบแล้วจะไม่ให้เงินแล้วต้องทำงานหาเงินเอง ประมาณนี้)
ปกติแม่เขาจะพานั่งรถเมล์ไปหาหมอ แต่ช่วงหลังมานี้อาการเด็กเป็นแต่ตอนกลางคืน ตัวเราเองต้องเป็นคนพาขับรถเข้ารพ.ฉุกเฉิก
ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่ารพ.ฉุกเฉินทั้งรัฐและเอกชน เราออกให้เพราะสงสารแม่เด็ก
ซึ่ง 2 เดือนมานี่หมดหลักหมื่นแล้วค่ะ
ตอนนี้เรื่องเงินตอนนี้เราก็ติดขัด แถมขับรถไปรพ.ดึกๆบ่อยๆ เราก็ทั้งเหนื่อยและเครียด กระทบกับการทำงานเราเอง
พอเราเหนื่อยกลับบ้านมาเจอเด็กบ้าๆบอๆ เราก็พยายามเก็บอารมณ์ เดินหนี ไม่พูดคุยอะไร แต่แม่เด็กก็บอกว่าเราทำให้น้องเครียดเพราะน้องกลัวเรา เพราะเราเงียบหน้าบึ้งเลยดูหน้ากลัว!!
กลายเป็นตอนนี้เราจะกิน จะพูด จะทำไรต้องระวังไปกระทบใจคนป่วยไปหมด เราโคตรเครียดเลยจะบ้าตายแล้ว
เราทำทั้งงานหลักและงานเสริม ตอนกลางคืนคุยงานกับลูกค้า น้องก็มาแอบฟังไปเล่าให้แม่เขาฟังว่าเขาเครียด กลัวจะเก่งไม่ได้เท่าเรา อยากตายๆให้หลุดพ้น!?!
อย่างเดือนเมษาที่ผ่านมามันร้อนมาก เราบอกให้ที่บ้านเปิดแอร์ได้เลยเราจ่ายได้ ซึ่งค่าไฟมา 7,000++ เราก็จ่ายไป แต่พอน้องรู้ น้องเครียดอีกกลัวอีกหน่อยไม่มีเราส่งเสีย น้องจะลำบาก!! น้องกลัวไม่มีตังค์จ่ายค่าไฟ น้องไม่อยากลำบาก! โอ๊ยยยยยยย!!!
ปรึกษาค่ะ จะทำไงต่อไปดีคะ ไม่อยากจะเป็นบ้าตามไปอีกคน
คือเราสามารถใช้ชีวิตปกติโดยไม่สนเขาได้มั้ย? หรือถ้าเขาลาโลกไปเองจริงๆจะเป็นความผิดเรามั้ยอ่ะ
เพราะทุกวันนี้เราเงียบน้องก็เครียด พูดน้องก็เครียด ไม่รู้จะเอาใจมันยังไงแล้วค่ะ!
คือไม่อยากจะทนแล้วบอกตรงๆ คิดในใจทุกวันอยากให้มันทำจริงๆเถอะชั้นเหนื่อยมากๆ
ถ้าไม่ต้องส่งเสียคนนี้เราเหลือเงินเพียบเลย รู้ว่าความคิดนี่มันไม่ดี แต่เราเริ่มคิดบ่อยขึ้นๆค่ะ กลัวตัวเองจะไปทำร้ายเขาซักวันค่ะ
มีคนป่วยในบ้านที่เป็นโรคซึมเศร้า แล้วเราจะบ้าตายเองแล้วทำไงดี
ทุกวันนี้รักษาตามสิทธิ์ไม่เคยขาด เพราะแม่เขาพาไปจัดการเอง แต่แม่เขาแก่แล้ว เงินทองก็ไม่ค่อยมี
ตัวเด็กยังพอจะเรียนได้บ้าง แต่อาการคุ้มดีคุ้มร้าย
บ้านที่อยู่กันนี้ เป็นบ้านของเราเอง และเราส่งเสียค่าเทอม+ค่ากินให้เด็ก และส่งเสียให้แม่เขาด้วย
เราเองไม่ได้คุยกับเด็กมาก เพราะแม่เขาบอกว่าเราเป็นคนพูดจาแรง (แต่ที่พูดคือความจริงทั้งนั้น เช่นเราจะส่งเสียให้จบป.ตรี 4 ปีเท่านั้น ถ้าซิ่วคือจะส่งแค่ตามปีที่เหลือเช่นซิ่วปี 3 เราจะจะค่าเทอมที่ใหม่แค่ 1 ปี ที่เหลือหาเรียนเอง, ถ้าเรียนจบแล้วจะไม่ให้เงินแล้วต้องทำงานหาเงินเอง ประมาณนี้)
ปกติแม่เขาจะพานั่งรถเมล์ไปหาหมอ แต่ช่วงหลังมานี้อาการเด็กเป็นแต่ตอนกลางคืน ตัวเราเองต้องเป็นคนพาขับรถเข้ารพ.ฉุกเฉิก
ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่ารพ.ฉุกเฉินทั้งรัฐและเอกชน เราออกให้เพราะสงสารแม่เด็ก
ซึ่ง 2 เดือนมานี่หมดหลักหมื่นแล้วค่ะ
ตอนนี้เรื่องเงินตอนนี้เราก็ติดขัด แถมขับรถไปรพ.ดึกๆบ่อยๆ เราก็ทั้งเหนื่อยและเครียด กระทบกับการทำงานเราเอง
พอเราเหนื่อยกลับบ้านมาเจอเด็กบ้าๆบอๆ เราก็พยายามเก็บอารมณ์ เดินหนี ไม่พูดคุยอะไร แต่แม่เด็กก็บอกว่าเราทำให้น้องเครียดเพราะน้องกลัวเรา เพราะเราเงียบหน้าบึ้งเลยดูหน้ากลัว!!
กลายเป็นตอนนี้เราจะกิน จะพูด จะทำไรต้องระวังไปกระทบใจคนป่วยไปหมด เราโคตรเครียดเลยจะบ้าตายแล้ว
เราทำทั้งงานหลักและงานเสริม ตอนกลางคืนคุยงานกับลูกค้า น้องก็มาแอบฟังไปเล่าให้แม่เขาฟังว่าเขาเครียด กลัวจะเก่งไม่ได้เท่าเรา อยากตายๆให้หลุดพ้น!?!
อย่างเดือนเมษาที่ผ่านมามันร้อนมาก เราบอกให้ที่บ้านเปิดแอร์ได้เลยเราจ่ายได้ ซึ่งค่าไฟมา 7,000++ เราก็จ่ายไป แต่พอน้องรู้ น้องเครียดอีกกลัวอีกหน่อยไม่มีเราส่งเสีย น้องจะลำบาก!! น้องกลัวไม่มีตังค์จ่ายค่าไฟ น้องไม่อยากลำบาก! โอ๊ยยยยยยย!!!
ปรึกษาค่ะ จะทำไงต่อไปดีคะ ไม่อยากจะเป็นบ้าตามไปอีกคน
คือเราสามารถใช้ชีวิตปกติโดยไม่สนเขาได้มั้ย? หรือถ้าเขาลาโลกไปเองจริงๆจะเป็นความผิดเรามั้ยอ่ะ
เพราะทุกวันนี้เราเงียบน้องก็เครียด พูดน้องก็เครียด ไม่รู้จะเอาใจมันยังไงแล้วค่ะ!
คือไม่อยากจะทนแล้วบอกตรงๆ คิดในใจทุกวันอยากให้มันทำจริงๆเถอะชั้นเหนื่อยมากๆ
ถ้าไม่ต้องส่งเสียคนนี้เราเหลือเงินเพียบเลย รู้ว่าความคิดนี่มันไม่ดี แต่เราเริ่มคิดบ่อยขึ้นๆค่ะ กลัวตัวเองจะไปทำร้ายเขาซักวันค่ะ