ในการลงทุน ผมเชื่อว่ามีสิ่งที่เรียกว่า ทุนด้านจิตใจ
ที่เราจำเป็นต้องมี ควบคู่ไปกับความรู้ด้านการลงทุน
ลองคิดดูเล่นๆว่า นักลงทุนออกจากตลาดไปเพราะเงินหมด
ในทุกกรณีจริงๆหรือ? มีบางส่วนออกไปเพราะเหนื่อยใจหรือเปล่า
หรือเราหมดไฟในการเทรด เพราะทุนด้านจิตใจเราหมดนั่นเอง
ไม่ใช่เงินทุนอย่างเดียวที่เราใส่ลงไป เราใส่จิตใจของเราลงไป
ในการเทรดด้วย ดังนั้นเราต้องดูแลให้เขาเติบโตไปพร้อมๆกัน
แล้วทุนด้านจิตใจคืออะไรกันแน่ เรามานิยามกันครับ
มันคือความสามารถที่จะยืนหยัดจากผลกระทบด้านจิตใจ
ที่เกิดจากสภาพตลาดนั่นเอง ปริมาณทุนด้านจิตใจที่มากหรือน้อย
ของเราจะบอกระดับความอดทนในการอยู่ต่อในตลาดได้หรือไม่?
โปรดระลึกอยู่เสมอว่าการเทรดที่ย่ำแย่
จะบั่นทอนทุนด้านจิตใจของเรา
การเทรดที่แย่ ไม่ได้หมายถึงเพียงการขาดทุนเท่านั้น
ทั้งการขาดทุน หรือได้กำไร
ก็สามารถกัดเซาะทุนด้านจิตใจได้เช่นกัน
เช่นหลังจากได้กำไรจากการเทรดครั้งล่าสุด เราอาจจะมั่นใจเกินไป
เราอาจจะมองตลาดง่ายๆ จนลืมวางจุดคัทลอสที่เหมาะสม
ในการเทรดครั้งต่อไป เป็นต้น
ในอีกด้านหนึ่ง หากเราขาดทุนหนัก เราอาจจะซึมเศร้า
ปฏิเสธที่จะมองย้อนหลังเพื่อเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้นๆ
นักลงทุนจึงต้องคอยดูแลทุนด้านจิตใจ ควบคู่ไปกับเงินทุนในพอร์ต
มากกว่านั้นคือ เราต้องเรึยนรู้ที่จะเพิ่มขนาดกองทุนด้านจิตใจให้เติบใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆทั้งจากการได้กำไรและขาดทุน
เมื่อเราขาดทุนก็แยกวิเคราะห์เป็นครั้งๆไป
ไม่เอามาเป็นผลกระทบในการเทรดครั้งต่อไป
เมื่อได้กำไรก็วิเคราะห์หาสาเหตุที่เราได้กำไร
เราจะค่อยๆเรียนรู้การเทรดที่เหมาะสมกับเราในที่สุด
ทุนด้านจิตใจอาจจะสำคัญมากกว่าเงินทุนในพอร์ตเราด้วยซ้ำ
เราจึงจำเป็นต้องเพิ่มขนาดอยู่เสมอสำหรับความสำเร็จที่ยั่งยืน
ไม่ว่าตลาดจะผันผวนอย่างไร หากเรามีทุนด้านจิตใจที่ใหญ่พอ
เราก็จะทนต่อสภาพตลาดได้นั่นเองครับ
เครดิต babypips.com อนุสรณ์ จ.
ทุนด้านจิตใจคืออะไร? ทำไมเราจำเป็นต้องมี?
ที่เราจำเป็นต้องมี ควบคู่ไปกับความรู้ด้านการลงทุน
ลองคิดดูเล่นๆว่า นักลงทุนออกจากตลาดไปเพราะเงินหมด
ในทุกกรณีจริงๆหรือ? มีบางส่วนออกไปเพราะเหนื่อยใจหรือเปล่า
หรือเราหมดไฟในการเทรด เพราะทุนด้านจิตใจเราหมดนั่นเอง
ไม่ใช่เงินทุนอย่างเดียวที่เราใส่ลงไป เราใส่จิตใจของเราลงไป
ในการเทรดด้วย ดังนั้นเราต้องดูแลให้เขาเติบโตไปพร้อมๆกัน
แล้วทุนด้านจิตใจคืออะไรกันแน่ เรามานิยามกันครับ
มันคือความสามารถที่จะยืนหยัดจากผลกระทบด้านจิตใจ
ที่เกิดจากสภาพตลาดนั่นเอง ปริมาณทุนด้านจิตใจที่มากหรือน้อย
ของเราจะบอกระดับความอดทนในการอยู่ต่อในตลาดได้หรือไม่?
โปรดระลึกอยู่เสมอว่าการเทรดที่ย่ำแย่
จะบั่นทอนทุนด้านจิตใจของเรา
การเทรดที่แย่ ไม่ได้หมายถึงเพียงการขาดทุนเท่านั้น
ทั้งการขาดทุน หรือได้กำไร
ก็สามารถกัดเซาะทุนด้านจิตใจได้เช่นกัน
เช่นหลังจากได้กำไรจากการเทรดครั้งล่าสุด เราอาจจะมั่นใจเกินไป
เราอาจจะมองตลาดง่ายๆ จนลืมวางจุดคัทลอสที่เหมาะสม
ในการเทรดครั้งต่อไป เป็นต้น
ในอีกด้านหนึ่ง หากเราขาดทุนหนัก เราอาจจะซึมเศร้า
ปฏิเสธที่จะมองย้อนหลังเพื่อเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้นๆ
นักลงทุนจึงต้องคอยดูแลทุนด้านจิตใจ ควบคู่ไปกับเงินทุนในพอร์ต
มากกว่านั้นคือ เราต้องเรึยนรู้ที่จะเพิ่มขนาดกองทุนด้านจิตใจให้เติบใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆทั้งจากการได้กำไรและขาดทุน
เมื่อเราขาดทุนก็แยกวิเคราะห์เป็นครั้งๆไป
ไม่เอามาเป็นผลกระทบในการเทรดครั้งต่อไป
เมื่อได้กำไรก็วิเคราะห์หาสาเหตุที่เราได้กำไร
เราจะค่อยๆเรียนรู้การเทรดที่เหมาะสมกับเราในที่สุด
ทุนด้านจิตใจอาจจะสำคัญมากกว่าเงินทุนในพอร์ตเราด้วยซ้ำ
เราจึงจำเป็นต้องเพิ่มขนาดอยู่เสมอสำหรับความสำเร็จที่ยั่งยืน
ไม่ว่าตลาดจะผันผวนอย่างไร หากเรามีทุนด้านจิตใจที่ใหญ่พอ
เราก็จะทนต่อสภาพตลาดได้นั่นเองครับ
เครดิต babypips.com อนุสรณ์ จ.