ชวนไปบามหมึกแบบโบราณสไตล์ ณ บ้านอ่าวคราม จ.ชุมพร (2-3 พ.ค.67)

นี่มันทริปเดจาวูชัด ๆ ...เพี้ยนหืม
วันเดย์ทริปบ้านอ่าวครามแบบฟินเฟร่อ..ติดใจจนต้องกลับไปซ้ำ แต่รอบนี้พิเศษหน่อย ซึ่งถ้าอยากรู้ต้องติดตามอ่านกันต่อจ้า

เข้าเรื่องเลยจะได้ไม่เสียเวลาจ้า..เพี้ยนแคปเจอร์
กิจกรรมที่บ้านอ่าวครามโฮมสเตย์ในแบบที่เรามักได้ยินหนาหูคือการบามหมึกในแบบโบราณ ไม่อยากเคลมว่าเป็นแห่งเดียวในไทยเพราะยังไม่มีข้อมูลชี้ชัดว่าชุมชนชาวเลอื่นจะไม่มีการบามหมึกในลักษณะเดียวกัน แต่เชื่อว่าหลายคนก็อาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าบางพื้นที่เค้าก็มีวิธีการจับปลาหมึกที่แตกต่างออกไป อย่างเช่นการ “บามหมึก” ซึ่งนกอีก๋อยก็เพิ่งเคยได้ยินเมื่อไม่นานนี้เองจ้า 

พาพันปั่นจักรยาน


ชุมพร จังหวัดประตูสู่ภาคใต้ที่มีสเน่ห์เหลือหลาย ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ เพียง 6 ชั่วโมง และจากชุมพรไปบ้านอ่าวครามก็ต้องขับต่อไปอีก 65 กม. หรือประมาณ 1 ชั่วโมง รวมแล้วก็จะใช้เวลาไม่ถึง 8 ชั่วโมง จะให้ดีก็ลองเสิร์ชหาร้านข้าวสำหรับมื้อเที่ยงเผื่อจะได้แวะชิมอาหารในพื้นที่อย่างเช่นร้านนี้ “ยิ้มโภชนา” ที่ได้ไกด์เด็กฝึกงานพาไปกิน อร่อยจริงจังจนเผลอเรอเบา ๆ บรรยากาศร้านดีเพราะอยู่ติดริมน้ำที่ส่องดูก็จะคล้ายๆ ปากน้ำที่มีทางออกทั้งสองด้านเป็นทะเล (เดาล้วนๆ จากสิ่งที่ตาเห็น..อิอิ) 



อาหารที่นี่อร่อย สะอาด ไซส์บิ๊ก..ราคาก็ตามความสดใหม่เลยจ้า เราสั่งหอยแครงลวกกึ่งดิบ, ไข่เจียวหอยนางรม, ต้มยำปลากะพง กับกุ้งกระเทียมหา ร้านจะเสิร์ฟน้ำจิ้มมา 4 แบบ ให้เลือกจุ่มตามใจชอบ

ที่บ้านอ่าวครามหลายครัวเรือนโดยเฉพาะที่มีทำเลติดกับหาดก็จะเปิดเป็นโฮมสเตย์ให้คนที่มีใจรักวิถีธรรมชาติได้เข้ามาเรียนรู้ชีวิตชาวประมงในพื้นที่ ซึ่งขึ้นชื่อมากๆ ก็คือการบามหมึกแบบดั้งเดิมนั่นเอง

การบามหมึกจากที่นกอีก๋อยได้สอบถามจากน้องผึ้งเจ้าของโฮมสเตย์แบบย่อๆ ก็คือชาวบ้านเค้าจะเอาเสาไม้ไผ่ไปตั้งกลางทะเล ทำแบบเป็นคอกเพื่อแขวนอวนโยงไว้ ช่วงเย็นก็จะออกเรือเอาถังแก๊สปิกนิกไปแขวนไว้กลางระหว่างเสา และเริ่มจุดไฟตะเกียงตอนพลบค่ำเพื่อล่อแมลงมาเล่นไฟ เมื่อถึงเวลาบามหมึกสักประมาณ 2-3 ทุ่ม (ตามโปรแกรมของโฮมสเตย์) ชาวบ้านก็จะออกไปดึงอวนซึ่งก็จะมีทั้งปลา ปลาหมึก กุ้ง ปู ขึ้นมากินแมลงบนพื้นน้ำ (ใครมีข้อมูลอธิบายได้ละเอียดกว่าแชร์ได้นะจ๊ะ)..อันนี้คร่าวๆ 
++ การเที่ยวบ้านอ่าวคราม นอกจากกิจกรรมบามหมึกแล้วก็ยังมีพายเรือคายัค แพเปียก ดำน้ำเกาะกุลา ซึ่งก็จะเตรียมแพ็คเกจไว้สำหรับคนที่มาเที่ยวและมีเวลาพอเหลือสักครึ่งวัน อย่างนกอีก๋อยที่มาถึงที่พักประมาณบ่ายสองโมงกว่าๆ ก็เลือกที่จะหากิจกรรมที่ได้ออกแรงสักหน่อยอย่างพายเรือคายัค แต่จะได้พายได้จริงแบบไม่ร้อนก็ราว 4 โมงเย็น ดังนั้นสำหรับคนที่คิดว่าจะมาแค่บามหมึกก็แนะนำว่าเข้าไปที่โฮมสเตย์สักช่วง 4 – 5 โมงเย็นจะกำลังดี เพราะเป็นช่วงที่อากาศจะไม่ค่อยร้อนแล้ว และใกล้เวลาอาหารค่ำด้วยจ้า ++
++ ราคาค่าใช้จ่ายสำหรับที่พักที่นกอีก๋อยเลือกไปนอนคือที่อ่าวครามโฮมสเตย์ (มารอบสองก็ได้นอนห้องเดิมคือห้องหมายเลข 3 ที่บ้านหลังเดิม) โดยค่าใช้จ่ายต่อคนคือ 1,200 บาท (ไม่มีแอร์) แต่ได้ข่าวว่าที่พักเพิ่งเปิดให้บริการห้องแอร์แบบพัก 4 คน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 500 บาท/ ห้อง ทั้งนี้ยังไม่รวมราคาต่อหัวนะจ๊ะ (ลองโทรสอบถามกันดูได้จ้า) ++


 พาพันอาบน้ำ
/// เซ็ทนี้เป็นภาพบ้านพักอีกโซนหนึ่งของโฮมสเตย์ที่ขยับขยายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มจำนวนขึ้น ///
  
+++ ค่าใช้จ่ายต่อคน 1,200 บาท บ้างว่าแพง แต่จริงๆ ไม่เลยนะ นอกจากที่พัก เราก็จะได้กินอาหารถึง 2 มื้อ คือมื้อเย็นในวัน Check-in กับมื้อที่ 2 เช้าวัน Check-out และสำคัญคือมื้อพิเศษ (อันนี้โฮมสเตย์ไม่ได้กล่าวไว้) จะเป็นการกินเมนูหมึกที่เราไปบามมาได้ในคืนที่เราไปพัก ซึ่งสามารถนำไปประกอบเมนูได้ 3 เมนูหลักที่นิยมกันมากคือ หมึกซาชิมิ หมึกต้มน้ำดำ และหมึกย่าง น้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติจัดจ้านเสิร์ฟให้พร้อมแบบไม่ต้องร้องขอหรือบางคืนก็ยังมีวาซาบิแนมมาในจานซาชิมิด้วย +++



ปล. อันนี้ส่วนตัวนะคืออ้ายกากจะเอาหมึกซาชิมิชุบโซดาก่อนจิ้มน้ำจิ้ม อันเป็นการเพิ่มความดึ๋งดั๋งให้กับเนื้อปลาหมึก..เรียกว่าหวาน กรอบ อร่อยสุดๆ 

พาพันอิ่มมาก

 ++ส่วนกิจกรรมที่รวมอยู่ในแพ็คเกจราคา 1,200 บาท คือพายเรือคายัค 1 ชั่วโมง (ชูชีพมีให้บริการฟรี) แต่ที่แพ็คเกจไม่ได้กล่าวถึงคือการดื่มด่ำกับวิวพระอาทิตย์ตกหน้าโฮมสเตย์..ไม่ต้องจ่ายเพิ่มถ่ายได้เท่าไหร่มันคือกำไรล้วนๆ จ้า (ขอนำภาพในครั้งแรกมาประกอบด้วยเพราะชอบมากจริงๆ )+++
++ วิวที่นี่สวยมากนะ..โดยเฉพาะช่วงที่ดวงอาทิตย์กำลังโบกมือลาท้องฟ้า ++ 
++ ไฮไลท์ของที่นี่คือการบามหมึกแบบโบราณสไตล์ ไปชมภาพกันยาวๆ จ้า ตั้งแต่น้องผึ้งเตรียมเรือที่มีเสื่อปูมาอย่างดี โฮมสเตย์ที่นี่ดูแลแขกดีมาก ๆ ไม่มีเหนื่อย ไม่มีบ่น มีแต่ถามว่าพี่เป็นยังงัย พี่อยากกินเมนูอะไร เอาซาชิมิอีกมั้ย..นี่คือประทับใจความใส่ใจของน้องผึ้งจริง ๆ ++

พาพันซนพาพันซนพาพันซน

++ เมื่อล่องเรือมาสักพักก็ได้เวลาบามหมึก พ่อใหญ่ดับเครื่องเรือและจอดเพื่อให้น้องผึ้งเตรียมขึ้นไปดึงอวนบนร้านไม้ไผ่กลางทะเล..ช็อตเด็ดอยู่ตรงที่เราได้เอ่ยปากถามว่าเราอยากลองขึ้นไปดึงอวนบ้างได้มั้ย..มีหรือน้องผึ้งจะขัดใจ “ถ้าพี่มั่นใจก็ได้นะ” เท่านั้นแหละอ้ายกากเลิ่กลั่กเลยแต่ก็คงเปลี่ยนใจไม่ทันแล้ว...สำหรับการขึ้นไปดึงอวนต้องอาศัยร่างกายที่แข็งแรงและต้องเป็นคนที่ว่ายน้ำเก่งหน่อยนะเพราะจะต้องทั้งปีนและลากอวนด้วย และอยากแนะนำให้สอบถามกับทางโฮมสเตย์ถึงความเป็นไปได้ในการปีนขึ้นไปดึงอวนด้วยจ้า ++
เพี้ยนลอย

-มีต่ออีกเล็กน้อย-
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่