เที่ยวอ่าวคราม พักโฮมสเตย์
.
อิ่มอาหารทะเล ในราคาหลักร้อย
.
#ชุมพร #สวี #ประเทศไทย

อ่าวคราม คือ ที่ตั้งของชุมชนชาวประมงขนาดเล็ก ในอำเภอสวี จังหวัดชุมพร ซึ่งชุมชนดังกล่าวตั้งอยู่ริมทะเลท่ามกลางธรรมชาติอันแสนสงบ โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าพักแบบโฮมสเตย์ เรียนรู้วิถีชุมชน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง หาปลา ปลาหมึก กุ้ง






ึ

มาที่นี่เสมือนได้มาอยู่อีกโลกหนึ่งที่ผู้คนในชุมชนยังคงใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม ได้ดื่มด่ำกับการบรรยากาศของการพักผ่อนแบบโฮมสเตย์ริมเล ที่มีลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวัน ได้อิ่มอร่อยกับอาหารทะเลสดๆ แบบจัดเต็ม
มาถึงเราก็ถ่ายรูปโฮมสเตย์ก่อนเลย บรรยากาศที่นี่ ลมเย็น สบายมาก ที่พักของพวกเราเป็นแบบบ้านๆมาก มีพัดลม 1 ตัว ห้องน้ำรวมค่ะ แต่ขอบอก "สะอาดมาก"




เรานอนห้องนี้ มองออกมาทางหน้าต่างเห็นทะเล และที่สำคัญ เห็นพระอาทิตย์ตกดินพอดี
ภายในบ้านพัก มีห้องพักเล็ก ๆ ประมาณ 5 ห้อง พักได้ห้องละ 2 คน และยังมีห้องโถงที่เป็นห้องดูทีวี ก็ยังสามารถพักได้อีก มีเครื่องนอน ผ้าห่มและพัดลมให้เยอะมาก บ้านพักของอ่าวคราม โฮมสเตย์สามารถรองรับได้น่าจะประมาณ 30 คน ส่วนห้องน้ำ เป็นห้องน้ำรวม มีห้องอาบน้ำ 1 ห้อง และห้องสุขา 2 ห้อง คือ หากมาเป็นหมู่คณะ ลากเครื่องนอนมาปูนอนข้างนอกรับลมทะเลกันได้ ตอนกลางคืน แทบไม่มียุงและอากาศเย็นสบายมากจนต้องลุกขึ้นปิดพัดลมยามดึก (ปกติราคาจะคิดที่คนละ 800 บาท 2 คืน 1 วัน อาหาร 3 มื้อ) แต่ของเรามากันแค่ 2 คน ป้ากับลุง คิดหัวละ 1,000 บาท แต่ก็ถือว่าไม่แพงเลย
.
ถ่ายรูปพอสมควรล่ะค่ะ เดียวไปดูเมนูอาหารกันนะคะ เรารวมภาพอาหาร 3 มื้อที่ทานที่เลยนะคะ ไปดูหน้าตากันเลยว่าน่ากินขนาดไหน
.


ปูสดมาค่ะ และที่เด็ดก็คือน้ำจิ้มฝีมือป้าแกนี่แหละ







อาหาร 3 มื้อที่ได้มากิน บอกเลยว่าอร่อยเด็ดทุกเมนูจริงๆ
.
กินข้าวเสร็จหนังตาก็เริ่มหย่อนๆ เดินเก็บภาพอีกนิด แล้วเดวไปนั่งเล่นรอพระอาทิตย์ตกดินกันค่ะ เรามาถึงที่อ่าวครามเกือบบ่าย 3 เย็นนิดนึง เพราะเราลงเครื่องจากสุราษ-ต่อรถประจำทางมาลงตลาดเกษตร-ต่อรถตู้ไปสวี-รอคนรถจากโฮมสเตย์เพื่อพาไปที่พัก การมาที่นี่ค่อนข้างยากนิดนึงนะคะ แต่ถ้าแลกกับวิวแบบนี้ อากาศแบบนี้ ถือว่าคุ้มค่ามากที่ได้มาค่ะ
.








.
นอนดูทะเล ฟังเสียงคลื่นไปเรื่อยๆ ฟ้าเริ่มเป็นสีส้มจางๆ จนเข้มขึ้นเรื่อยๆ ชอบสีธรรมชาติแบบนี้จัง ใครเป็นแบบเรามั้งนะ
.




...#ทะเลคือผู้ให้อย่างล้นเหลือ #คือขุมทรัพย์ของชาวประมงหาปลาที่นี่
.
ความสมบูรณ์ของท้องทะเลที่นี่ ทำให้สถานที่แห่งนี้ไม่เคยหลับไหลจากการแวะเวียนมาของนักท่องเที่ยว
.







สวยจริงๆด้วย..
.
ยามค่ำคืนมีกิจกรรมพาไปชมการยกบาม หรืออวนหมึกที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของ บ้านอ่าวคราม แถมยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวยังเกาะใกล้เคียง คือ เกาะกุลา ที่เรียกได้ว่าน้ำทะเลสวยใส สามารถมองเห็นแนวปะการังได้จากหน้าหาด เลอเลิศขนาดนี้มาหลบหนีความวุ่นวายจากป่าคอนกรีต มาใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายที่ อ่าวคราม โฮมสเตย์
.
มาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ "ครั้งหนึ่งในชีวิต" บามหมึก
.
ใกล้เวลาไปบามหมึกล่ะ 3 ทุ่ม คือ เวลานัดออกเรือไปบามหมึก ซึ่งจะเรียกว่าเป็นกิจกรรมก็คงจะไม่ใช่ซะทีเดียวเพราะนี่คือ วิถีชีวิตของชาวชุมชน ที่ชาวบ้านจะต้องออกเรือไปหาปลาหมึกในช่วงค่ำเป็นประจำทุกวัน และจะพานักท่องเที่ยวที่สนใจชมการบามหมึก ว่ามีวิธีการอย่างไรไปชมด้วยกันเลยค่ะ

การบามหมึก เป็นวิธีการจับปลาหมึกโดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งชาวประมงแต่ละครอบครัวจะมีวิธีการต่างกันไป พี่เจ้าของโฮมสเตย์บอกว่า มีที่อ่าวครามเพียงที่เดียวที่ใช้วิธีการจับปลาหมึกแบบนี้
.




บาม เป็นวิธีการจับสัตว์ทะเลของชาวบ้านอ่าวครามแบบพอเพียง ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยใช้ไม้มาปักในทะเลริม 4 เสา ด้านบนเสาพาดไม้ไผ่เอาไว้ แล้วผูกเชือกยึดอวนขนาดตาไม่ถี่มากไว้เหนือผิวดิน กลางบามมีพาดไม้ไผ่เป็นคานไว้สำหรับผูกเชือกวางตะเกียง ในช่วงเย็นชาวบ้านจะนำตะเกียงแก๊สไปผูกเชือกที่คานกลาง ให้ตะเกียงลอยอยู่เหนือน้ำเล็กน้อย แต่แสงสว่างส่องถึงพื้นน้ำ เพื่อให้หมึก กุ้ง ปู ปลา อื่นๆ มาว่ายเล่นไฟ แล้วทิ้งแสงไฟจากตะเกียงแก๊ส รอเวลายกบาม โดยคืนหนึ่งจะทำการยกบามประมาณ 2-5 ครั้ง/คืน ขึ้นอยู่กับสภาพน้ำ ข้างขึ้น ข้างแรม ที่ต้องอาศัยประสบการณ์ของชาวประมงแต่ละคน พี่เจ้าของบอกเราว่า บางวันโชคดีปลาหมึกเป็นร้อยๆ กิโลเลยทีเดียว


นี่ค่ะผลงานของพวกเรา.. ปลาหมึกใสมาก




ได้มาเพี๊ยบเลยค่ะ คุณลุงบอกว่า หมึกเพิ่งเริ่มเข้าเดือนมีนาคมนี้เอง และจะมาเรื่อยๆ หลังจากนี้อีก 5-6 เดือน เราโชคดีนะเนี้ยเลือกมาเดือนมีนาคม เลยได้ปลาหมึกเพี๊ยบเลยค่ะ เดี๋ยวกลับคุณป้าจะทำให้กิน จะแบบสด หรือ ต้มน้ำดำ แล้วแต่สะดวกกันนะคะ
.

ไฮไลท์! ได้กุ้งลายมา 1 ตัว เบ่อเลิ้มเลยค่ะ
.
เตรียมกลับเข้าฝั่ง กินมื้อดึกกันอีกรอบ
มื้อนี้คอเรสเตอรอลเต็มๆ แต่ต้องยอม 555
.


เข้ามาวุ่นวายกับป้าแกในครัวเลยทีเดียว


.
หลังจากได้ปลาหมึกมาแล้ว ก็นำมาประกอบอาหารจะหั่นทานกันสดๆ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดหรือเตรียมซอสวาซาบิมาด้วยย่อมได้ หรือถ้าใครไม่ชอบทานสด ก็นำไปปิ้งย่างได้ แต่การทานสดๆ นั้นเนื้อกรุบกรอบหวานยิ่งนัก
.
เราลองกินแบบสด ทีแรกว่าจะชิมคำเดียว พอรู้ ไปๆมาๆกินหมดชามเลยค่ะ 5555 สดและหวานมาก ไม่คาวเลย
.

ปลาหมึกอีกส่วนนำมาทำหมึกต้มหวาน หรือบางคนเรียกหมึกน้ำดำนั่นแหละ


นั่งกินหมึกกัน ท่ามลมทะเลพัดโชยมาเอื่อยๆ พร้อมเสียงคลื่นกระทบฝั่งเบาๆ คอยขับกล่อมชวนให้เคลิ้มหลับ ความสุขความผ่อนคลายที่เราได้รับจากการมาเที่ยวอ่าวครามในครั้งนี้ เป็นความสุขในราคาหลักร้อย แต่สิ่งที่ได้รับนั้นคุ้มค่าเกินราคา หากกำลังอยากไปเที่ยวทางทะเลซักแห่ง ไม่ติดกับความสะดวกสบายจนเกินไปเน้นพักผ่อนจริงๆ รีบยกป้ายไฟเชียร์อ่าวคราม แบบรัวๆ หากใครที่ชอบเที่ยวแบบนี้มากกว่าที่จะแสวงหาความสะดวกสบาย ที่นี่ มีความบริสุทธิ์แบบไม่ได้ปรุงแต่ง ทั้งบรรยากาศและผู้คนที่เป็นมิตรจริงใจ ” ซึ่งเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่มีความคิดแบบนี้ "เหมือนกับพวกเรา"
.
คืนนี้หลับฝันดีกันนะคะ
.

ขอขอบคุณสายการบินนกแอร์ ที่ให้ความสะดวกสบายในทริปนี้ของพวกเรานะคะ
การเดินทางมาโฮมสเตย์
อ่าวครามโฮมสเตย์ ค่าบริการคิดราคาคนละ 1,000 บาท สำหรับ 2 ท่าน รวมที่พัก 1 คืน และอาหาร 3 มื้อ พร้อมชมการบามหมึก เบอร์โทร 084 745 5278 (ถ้ามาเป็นหมู่คณะ 5 คนขึ้นไป คิดค่าบริการาคาคนละ 800 บาท กิจกรรมท่องเที่ยวเกาะกุลา คิดค่าบริการเพิ่มเรือลำละ 1,000 บาท พร้อมเสื้อชูชีพและสนอกเกิ้ล
พวกเราขอขอบคุณที่ติดตามอ่านรีวิวจนจบนะคะ
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
รีวิวโดย : เขมณัฏฐ์ ศรีตุลวรรธนะ
บันทึกไว้วันที่ 5 มีนาคม 2561
[CR] หลงรัก"อ่าวครามโฮมสเตย์" เมืองต้องห้าม(พลาด)
.
อิ่มอาหารทะเล ในราคาหลักร้อย
.
#ชุมพร #สวี #ประเทศไทย
อ่าวคราม คือ ที่ตั้งของชุมชนชาวประมงขนาดเล็ก ในอำเภอสวี จังหวัดชุมพร ซึ่งชุมชนดังกล่าวตั้งอยู่ริมทะเลท่ามกลางธรรมชาติอันแสนสงบ โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าพักแบบโฮมสเตย์ เรียนรู้วิถีชุมชน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง หาปลา ปลาหมึก กุ้ง
มาที่นี่เสมือนได้มาอยู่อีกโลกหนึ่งที่ผู้คนในชุมชนยังคงใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม ได้ดื่มด่ำกับการบรรยากาศของการพักผ่อนแบบโฮมสเตย์ริมเล ที่มีลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวัน ได้อิ่มอร่อยกับอาหารทะเลสดๆ แบบจัดเต็ม
มาถึงเราก็ถ่ายรูปโฮมสเตย์ก่อนเลย บรรยากาศที่นี่ ลมเย็น สบายมาก ที่พักของพวกเราเป็นแบบบ้านๆมาก มีพัดลม 1 ตัว ห้องน้ำรวมค่ะ แต่ขอบอก "สะอาดมาก"
ภายในบ้านพัก มีห้องพักเล็ก ๆ ประมาณ 5 ห้อง พักได้ห้องละ 2 คน และยังมีห้องโถงที่เป็นห้องดูทีวี ก็ยังสามารถพักได้อีก มีเครื่องนอน ผ้าห่มและพัดลมให้เยอะมาก บ้านพักของอ่าวคราม โฮมสเตย์สามารถรองรับได้น่าจะประมาณ 30 คน ส่วนห้องน้ำ เป็นห้องน้ำรวม มีห้องอาบน้ำ 1 ห้อง และห้องสุขา 2 ห้อง คือ หากมาเป็นหมู่คณะ ลากเครื่องนอนมาปูนอนข้างนอกรับลมทะเลกันได้ ตอนกลางคืน แทบไม่มียุงและอากาศเย็นสบายมากจนต้องลุกขึ้นปิดพัดลมยามดึก (ปกติราคาจะคิดที่คนละ 800 บาท 2 คืน 1 วัน อาหาร 3 มื้อ) แต่ของเรามากันแค่ 2 คน ป้ากับลุง คิดหัวละ 1,000 บาท แต่ก็ถือว่าไม่แพงเลย
.
ถ่ายรูปพอสมควรล่ะค่ะ เดียวไปดูเมนูอาหารกันนะคะ เรารวมภาพอาหาร 3 มื้อที่ทานที่เลยนะคะ ไปดูหน้าตากันเลยว่าน่ากินขนาดไหน
.
.
กินข้าวเสร็จหนังตาก็เริ่มหย่อนๆ เดินเก็บภาพอีกนิด แล้วเดวไปนั่งเล่นรอพระอาทิตย์ตกดินกันค่ะ เรามาถึงที่อ่าวครามเกือบบ่าย 3 เย็นนิดนึง เพราะเราลงเครื่องจากสุราษ-ต่อรถประจำทางมาลงตลาดเกษตร-ต่อรถตู้ไปสวี-รอคนรถจากโฮมสเตย์เพื่อพาไปที่พัก การมาที่นี่ค่อนข้างยากนิดนึงนะคะ แต่ถ้าแลกกับวิวแบบนี้ อากาศแบบนี้ ถือว่าคุ้มค่ามากที่ได้มาค่ะ
.
.
นอนดูทะเล ฟังเสียงคลื่นไปเรื่อยๆ ฟ้าเริ่มเป็นสีส้มจางๆ จนเข้มขึ้นเรื่อยๆ ชอบสีธรรมชาติแบบนี้จัง ใครเป็นแบบเรามั้งนะ
.
.
ความสมบูรณ์ของท้องทะเลที่นี่ ทำให้สถานที่แห่งนี้ไม่เคยหลับไหลจากการแวะเวียนมาของนักท่องเที่ยว
.
.
ยามค่ำคืนมีกิจกรรมพาไปชมการยกบาม หรืออวนหมึกที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของ บ้านอ่าวคราม แถมยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวยังเกาะใกล้เคียง คือ เกาะกุลา ที่เรียกได้ว่าน้ำทะเลสวยใส สามารถมองเห็นแนวปะการังได้จากหน้าหาด เลอเลิศขนาดนี้มาหลบหนีความวุ่นวายจากป่าคอนกรีต มาใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายที่ อ่าวคราม โฮมสเตย์
.
มาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ "ครั้งหนึ่งในชีวิต" บามหมึก
.
ใกล้เวลาไปบามหมึกล่ะ 3 ทุ่ม คือ เวลานัดออกเรือไปบามหมึก ซึ่งจะเรียกว่าเป็นกิจกรรมก็คงจะไม่ใช่ซะทีเดียวเพราะนี่คือ วิถีชีวิตของชาวชุมชน ที่ชาวบ้านจะต้องออกเรือไปหาปลาหมึกในช่วงค่ำเป็นประจำทุกวัน และจะพานักท่องเที่ยวที่สนใจชมการบามหมึก ว่ามีวิธีการอย่างไรไปชมด้วยกันเลยค่ะ
.
.
.
เตรียมกลับเข้าฝั่ง กินมื้อดึกกันอีกรอบ
มื้อนี้คอเรสเตอรอลเต็มๆ แต่ต้องยอม 555
.
หลังจากได้ปลาหมึกมาแล้ว ก็นำมาประกอบอาหารจะหั่นทานกันสดๆ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดหรือเตรียมซอสวาซาบิมาด้วยย่อมได้ หรือถ้าใครไม่ชอบทานสด ก็นำไปปิ้งย่างได้ แต่การทานสดๆ นั้นเนื้อกรุบกรอบหวานยิ่งนัก
.
เราลองกินแบบสด ทีแรกว่าจะชิมคำเดียว พอรู้ ไปๆมาๆกินหมดชามเลยค่ะ 5555 สดและหวานมาก ไม่คาวเลย
.
นั่งกินหมึกกัน ท่ามลมทะเลพัดโชยมาเอื่อยๆ พร้อมเสียงคลื่นกระทบฝั่งเบาๆ คอยขับกล่อมชวนให้เคลิ้มหลับ ความสุขความผ่อนคลายที่เราได้รับจากการมาเที่ยวอ่าวครามในครั้งนี้ เป็นความสุขในราคาหลักร้อย แต่สิ่งที่ได้รับนั้นคุ้มค่าเกินราคา หากกำลังอยากไปเที่ยวทางทะเลซักแห่ง ไม่ติดกับความสะดวกสบายจนเกินไปเน้นพักผ่อนจริงๆ รีบยกป้ายไฟเชียร์อ่าวคราม แบบรัวๆ หากใครที่ชอบเที่ยวแบบนี้มากกว่าที่จะแสวงหาความสะดวกสบาย ที่นี่ มีความบริสุทธิ์แบบไม่ได้ปรุงแต่ง ทั้งบรรยากาศและผู้คนที่เป็นมิตรจริงใจ ” ซึ่งเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่มีความคิดแบบนี้ "เหมือนกับพวกเรา"
.
คืนนี้หลับฝันดีกันนะคะ
.
การเดินทางมาโฮมสเตย์
อ่าวครามโฮมสเตย์ ค่าบริการคิดราคาคนละ 1,000 บาท สำหรับ 2 ท่าน รวมที่พัก 1 คืน และอาหาร 3 มื้อ พร้อมชมการบามหมึก เบอร์โทร 084 745 5278 (ถ้ามาเป็นหมู่คณะ 5 คนขึ้นไป คิดค่าบริการาคาคนละ 800 บาท กิจกรรมท่องเที่ยวเกาะกุลา คิดค่าบริการเพิ่มเรือลำละ 1,000 บาท พร้อมเสื้อชูชีพและสนอกเกิ้ล
พวกเราขอขอบคุณที่ติดตามอ่านรีวิวจนจบนะคะ
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
รีวิวโดย : เขมณัฏฐ์ ศรีตุลวรรธนะ
บันทึกไว้วันที่ 5 มีนาคม 2561
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น