สวัสดีค่ะ เราเป็นเด็กอายุ13 เพิ่งเข้าม.1 เราอยากจะหาวิธีผ่อนคลายจากความเศร้าของเราในชีวิตประจำวันต่างๆแบบที่เด็กนักเรียนทำได้ ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้หาวิธีต่างๆในช่องทางที่เราพอจะรู้จักแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก (บางเนื้อหาที่เราไปหาวิธี"มัก"จะเป็นวิธีที่ใช้กับผู้ใหญ่) หลักๆที่เราจำได้คือ
1. พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ *เราพยายามแล้วแต่มันไม่สำเร็จจริงๆค่ะ(อีกอย่างพ่อ*(บุญธรรม)*ไม่อยากให้เราไปเล่าปัญหาในครอบครัวให้คนอื่นฟัง) ไม่ว่าจะกับเพื่อน ที่เรากำลังระบายความรู้สึกอยู่ดีๆเขาก็ไม่อ่านแชทอีกเลยจะว่าเรางี่เง่าหรืออะไรก็ได้นะคะแต่เราแค่รู้สึกเสียความรู้สึกนิดๆที่เราคอยอยู่ข้างๆมาตลอดในตอนที่เขาก็ต้องการระบายเลยไม่อยากจะระบายความรู้สึกต่อในแชตของเขา หรืออีกเหตุนึง เราเคยพยายามระบายความรู้สึกกับคนในครอบครัวแต่พวกเขาก็ดูเหมือนไม่ค่อยจะสนใจซักเท่าไหร่มินำซ้ำยังคิดว่าเราพูดตลกอีก บางคนอาจจะแนะนำให้ระบายกับสมุดหรือการวาดรูปต่างๆ ซึ่งมันก็ช่วยชั่วคราวไม่ถึง4วันถือว่าดีมากๆสำหรับเราเลย
2. ฝึกปล่อยวาง *สต.อันนี้เราว่ายากมากๆเลยค่ะสำหรับเรา เพราะในหัวเรามีแต่ความรู้สึกแย่ๆไปหมด ไม่ว่าจะพยายามฟังเพลงโปรด ฟังเขาเล่าเรื่อง แต่ก็จะมีความคิดแย่ๆอยู่ในหัวเราตลอดเลยค่ะ เราพยายามแล้ว อาจจะหายก็ตอนที่เราเรียนแต่พอในหัวว่างก็มักกลับมาวนอยู่แบบเดิม
2.1 ปล่อยวางอดีต *นี่ยิ่งเป็นปัญหาหนักพอสมควรเลยค่ะกับเรา เรามักจะนึกถึงอดีตน่าอายหรือการกระทำที่เราคิดว่าไม่เหมาะสมอยู่ทุกวัน โดยแต่ละวันขึ้นอยู่แต่กับว่าจะนึกถึงกี่เรื่องแต่ที่แน่ๆเราคิดทุกวันเลยค่ะ
3. ออกกำลังกาย *เราออกเกือบทุกวันเลยค่ะ ตอนบ่ายๆเย็นๆ แพลงก์อะไรพวกนี้ เราว่ามันก็ช่วยได้แหล่ะอย่างน้อยก็มั่นใจในรูปร่างตัวเองมากขึ้น
4. พักผ่อนให้เพียงพอ *เรานั่งรถไปรร.ซึ่งเวลาจะกลับบ้านรถก็จะมาถึงตอน 17:00น.up อาจจะมีเวลาพักผ่อนไม่มาก และอย่างนึงที่สำคัญคือเราเป็นคนหนึ่งที่เวลาหลับตาจะนอนมักจะมีรูปที่เรากลัวหรือสยองเข้ามาในหัวเราทุกทีเราเป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนเด็กประถมแล้วค่ะเลยชินอยู่บ้างแต่ถ้ามีภาพที่เกินไปจริงๆก็ทำให้เรานอนไม่หลับบางครั้ง มันว้าวุ่นอยู่ใจตลอด ปกติเราไม่นอนกลางวันแต่ถ้าวันไหนเรานอนจะถือว่าวันนั้นเราเหนื่อยสุดๆแบบที่สุดของชีวิตเลยค่ะ ทั้งจิตใจทั้งร่างกาย
******************************
ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็อยากจะระบายความรู้สึกเราซักนิดนึงให้เข้าถึงอารมณ์ของเราส่วนนึง หลักๆ ถึงแม้ว่า พ่อจะไม่อยากให้เราเล่าปัญหาภายในครอบครัวให้คนอื่นฟังก็จริงแต่เราก็ต้องการระบายบ้างแค่บางทีสักครั้งที่เราจะได้ระบายแบบหมดจด เราไม่เข้าใจอยู่อย่างนึงที่พ่อทำคือพ่อระบายปัญหาในครอบครัวให้เพื่อนของพ่อฟังซึ่งเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัว แต่เรากลับทำไม่ได้ถึงแม้ว่าเราจะอยากระบายมากแค่ไหน บางคนก็อาจจะว่าเพราะเพื่อนของพ่อเป็นผู้ใหญ่ เราก็เป็นแค่เด็ก แต่เราอยากจะได้ที่ระบายบ้าง ปัญหาในครอบครัวของเรา เราจะไม่เจาะจงมากเกินไป ครอบครัวของเราเป็นหนี้เยอะมาก(หลักล้าน) ทั้งในระบบและนอกระบบ ส่วนใหญ่แล้วจะมาจากแม่แท้ๆของเรา เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากที่แม่กู้ยืม คือ แม่ต้องการจะกู้อีกเจ้ามาจ่ายอีกเจ้า หรือกู้มาขายของ แต่เราขอบอกตรงนี้เลยว่าแม่เราไม่มีหัวการค้ามากๆเลยค่ะ ขายขาดทุนอยู่ตลอด โดยอ้างว่ากลัวลูกค้าไม่มีเงินซื้อ แม้ว่าคนในครอบครัวหรือรอบข้างจะบอกขนาดไหนแม่เราก็ไม่ฟัง แต่เลือกที่จะไปอยู่กับเพื่อนฟังเพื่อน เพื่อนบอกให้มาบ้านทำส้มตำให้แม่ก็รีบไปทันที แม้ตอนเราป่วยแม่ก็ยังไป ถามอาการเราไม่กี่ประโยคก็ไป เราเลยกลัวว่าหนี้จะตกไปที่พี่สาวของเราเสียก่อน เราไม่อยากให้พี่ต้องมาลำบาก พี่สาวของเรากำลังไปได้ดี(ตรงนี้ขอไม่บอกรายละเอียดมากนะคะ)
ทุกวันนี้เราคิดว่าพ่อกับแม่ควรหย่ากัน เนื่องจากหลายปัจจัยและจากปากของพ่อด้วย แต่พ่อกับแม่ก็ไม่หย่ากันซักที ทุกคนคงจะเข้าใจนะคะ ช่วงนี้เรารู้สึกดิ่งมากๆเลยค่ะ เป็นสัปดาห์แล้ว ตั้งแต่รร.เปิด(สงสัยอาจจะยังไม่ชินแต่เราก็จะพยายามปรับตัวนะคะ) และช่วงนี้เราก็คิดจะฆตต.บ่อยมากเลยค่ะช่วงนี้ แค่คิดเป็นภาพว่าถ้าเราต#ยจะเป็นยังไง เช่น ตอนเห็นมีดในหัวเราก็คิดขึ้นมา ไม่ว่าจะตอนเรียนอยู่บนตึกสูง เราก็จะคิด แต่เราควบคุมตรงนี้ได้ค่ะ แต่ปล่อยไปนานๆไม่ได้แน่ๆ จุดประสงค์ของเราจากที่พิมพ์มาทั้งหมด เราอยากจะได้วิธีผ่อนคลายจากความเศร้าฉบับเด็กนักเรียนหรือวิธีผ่อนคลายให้เข้ากับนิสัยเราก็ได้ค่ะ หากมีอะไรไม่ถูกใจใครหรือเราทำผิดใดๆ เราก็ขอโทษ ณ ตรงนี้เลยนะคะ🙏
แก้ปัญหาเศร้าแบบเด็กนักเรียนควรทำยังไง
1. พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ *เราพยายามแล้วแต่มันไม่สำเร็จจริงๆค่ะ(อีกอย่างพ่อ*(บุญธรรม)*ไม่อยากให้เราไปเล่าปัญหาในครอบครัวให้คนอื่นฟัง) ไม่ว่าจะกับเพื่อน ที่เรากำลังระบายความรู้สึกอยู่ดีๆเขาก็ไม่อ่านแชทอีกเลยจะว่าเรางี่เง่าหรืออะไรก็ได้นะคะแต่เราแค่รู้สึกเสียความรู้สึกนิดๆที่เราคอยอยู่ข้างๆมาตลอดในตอนที่เขาก็ต้องการระบายเลยไม่อยากจะระบายความรู้สึกต่อในแชตของเขา หรืออีกเหตุนึง เราเคยพยายามระบายความรู้สึกกับคนในครอบครัวแต่พวกเขาก็ดูเหมือนไม่ค่อยจะสนใจซักเท่าไหร่มินำซ้ำยังคิดว่าเราพูดตลกอีก บางคนอาจจะแนะนำให้ระบายกับสมุดหรือการวาดรูปต่างๆ ซึ่งมันก็ช่วยชั่วคราวไม่ถึง4วันถือว่าดีมากๆสำหรับเราเลย
2. ฝึกปล่อยวาง *สต.อันนี้เราว่ายากมากๆเลยค่ะสำหรับเรา เพราะในหัวเรามีแต่ความรู้สึกแย่ๆไปหมด ไม่ว่าจะพยายามฟังเพลงโปรด ฟังเขาเล่าเรื่อง แต่ก็จะมีความคิดแย่ๆอยู่ในหัวเราตลอดเลยค่ะ เราพยายามแล้ว อาจจะหายก็ตอนที่เราเรียนแต่พอในหัวว่างก็มักกลับมาวนอยู่แบบเดิม
2.1 ปล่อยวางอดีต *นี่ยิ่งเป็นปัญหาหนักพอสมควรเลยค่ะกับเรา เรามักจะนึกถึงอดีตน่าอายหรือการกระทำที่เราคิดว่าไม่เหมาะสมอยู่ทุกวัน โดยแต่ละวันขึ้นอยู่แต่กับว่าจะนึกถึงกี่เรื่องแต่ที่แน่ๆเราคิดทุกวันเลยค่ะ
3. ออกกำลังกาย *เราออกเกือบทุกวันเลยค่ะ ตอนบ่ายๆเย็นๆ แพลงก์อะไรพวกนี้ เราว่ามันก็ช่วยได้แหล่ะอย่างน้อยก็มั่นใจในรูปร่างตัวเองมากขึ้น
4. พักผ่อนให้เพียงพอ *เรานั่งรถไปรร.ซึ่งเวลาจะกลับบ้านรถก็จะมาถึงตอน 17:00น.up อาจจะมีเวลาพักผ่อนไม่มาก และอย่างนึงที่สำคัญคือเราเป็นคนหนึ่งที่เวลาหลับตาจะนอนมักจะมีรูปที่เรากลัวหรือสยองเข้ามาในหัวเราทุกทีเราเป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนเด็กประถมแล้วค่ะเลยชินอยู่บ้างแต่ถ้ามีภาพที่เกินไปจริงๆก็ทำให้เรานอนไม่หลับบางครั้ง มันว้าวุ่นอยู่ใจตลอด ปกติเราไม่นอนกลางวันแต่ถ้าวันไหนเรานอนจะถือว่าวันนั้นเราเหนื่อยสุดๆแบบที่สุดของชีวิตเลยค่ะ ทั้งจิตใจทั้งร่างกาย
******************************
ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็อยากจะระบายความรู้สึกเราซักนิดนึงให้เข้าถึงอารมณ์ของเราส่วนนึง หลักๆ ถึงแม้ว่า พ่อจะไม่อยากให้เราเล่าปัญหาภายในครอบครัวให้คนอื่นฟังก็จริงแต่เราก็ต้องการระบายบ้างแค่บางทีสักครั้งที่เราจะได้ระบายแบบหมดจด เราไม่เข้าใจอยู่อย่างนึงที่พ่อทำคือพ่อระบายปัญหาในครอบครัวให้เพื่อนของพ่อฟังซึ่งเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัว แต่เรากลับทำไม่ได้ถึงแม้ว่าเราจะอยากระบายมากแค่ไหน บางคนก็อาจจะว่าเพราะเพื่อนของพ่อเป็นผู้ใหญ่ เราก็เป็นแค่เด็ก แต่เราอยากจะได้ที่ระบายบ้าง ปัญหาในครอบครัวของเรา เราจะไม่เจาะจงมากเกินไป ครอบครัวของเราเป็นหนี้เยอะมาก(หลักล้าน) ทั้งในระบบและนอกระบบ ส่วนใหญ่แล้วจะมาจากแม่แท้ๆของเรา เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากที่แม่กู้ยืม คือ แม่ต้องการจะกู้อีกเจ้ามาจ่ายอีกเจ้า หรือกู้มาขายของ แต่เราขอบอกตรงนี้เลยว่าแม่เราไม่มีหัวการค้ามากๆเลยค่ะ ขายขาดทุนอยู่ตลอด โดยอ้างว่ากลัวลูกค้าไม่มีเงินซื้อ แม้ว่าคนในครอบครัวหรือรอบข้างจะบอกขนาดไหนแม่เราก็ไม่ฟัง แต่เลือกที่จะไปอยู่กับเพื่อนฟังเพื่อน เพื่อนบอกให้มาบ้านทำส้มตำให้แม่ก็รีบไปทันที แม้ตอนเราป่วยแม่ก็ยังไป ถามอาการเราไม่กี่ประโยคก็ไป เราเลยกลัวว่าหนี้จะตกไปที่พี่สาวของเราเสียก่อน เราไม่อยากให้พี่ต้องมาลำบาก พี่สาวของเรากำลังไปได้ดี(ตรงนี้ขอไม่บอกรายละเอียดมากนะคะ)
ทุกวันนี้เราคิดว่าพ่อกับแม่ควรหย่ากัน เนื่องจากหลายปัจจัยและจากปากของพ่อด้วย แต่พ่อกับแม่ก็ไม่หย่ากันซักที ทุกคนคงจะเข้าใจนะคะ ช่วงนี้เรารู้สึกดิ่งมากๆเลยค่ะ เป็นสัปดาห์แล้ว ตั้งแต่รร.เปิด(สงสัยอาจจะยังไม่ชินแต่เราก็จะพยายามปรับตัวนะคะ) และช่วงนี้เราก็คิดจะฆตต.บ่อยมากเลยค่ะช่วงนี้ แค่คิดเป็นภาพว่าถ้าเราต#ยจะเป็นยังไง เช่น ตอนเห็นมีดในหัวเราก็คิดขึ้นมา ไม่ว่าจะตอนเรียนอยู่บนตึกสูง เราก็จะคิด แต่เราควบคุมตรงนี้ได้ค่ะ แต่ปล่อยไปนานๆไม่ได้แน่ๆ จุดประสงค์ของเราจากที่พิมพ์มาทั้งหมด เราอยากจะได้วิธีผ่อนคลายจากความเศร้าฉบับเด็กนักเรียนหรือวิธีผ่อนคลายให้เข้ากับนิสัยเราก็ได้ค่ะ หากมีอะไรไม่ถูกใจใครหรือเราทำผิดใดๆ เราก็ขอโทษ ณ ตรงนี้เลยนะคะ🙏