การเลือกตั้งทั่วไปของอินเดียที่จะมีขึ้นในห้วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2567 จะส่งผลให้ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งอาจหน้าเดิม? โดยนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี คนปัจจุบันดำรงตำแหน่งนี้มาแล้วถึง 2 สมัย ช่วงปี 2557 – 2567 และขณะนี้นายโมดีกำลังเตรียมตัวหาเสียงเลือกตั้งครั้งใหม่นี้อยู่ โดยนายโมดีนั้นมีฐานเสียงจำนวนมากที่เป็นทั้งชาวอินเดียคนรุ่นเก่า คนรุ่นกลาง และคนรุ่นใหม่
นเรนทรา โมดี มีดีอย่างไร ถึงครองใจประชาชนอินเดียยาวนานกว่าทศวรรษ นายนเรนทรา ดาโมดาร์ดาส โมดี (Narendra Damodardas Modi) เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศอินเดีย ประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นหัวหน้าพรรคภารตียชนตา หรือ Bharatiya Janata Party (BJP) พรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย อีกทั้งโมดียังเป็นผู้นำคนแรกของอินเดียที่นำศาสนาและความรักชาติมาผนวกกัน ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญของอินเดียนั้นระบุอย่างชัดเจนว่าอินเดียเป็นประเทศที่ไม่มีศาสนาประจำชาติ (secular state) ทำให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ จนสังคมอินเดียในยุคก่อนโมดีและหลังโมดีแตกต่างกันอย่างมาก ไม่ว่าในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความคิดของคนในชาติ และเป็นสิ่งที่ยากที่จะหาผู้นำประเทศที่มีความเด็ดขาดในการใช้อำนาจ การออกกฎหมาย และมีบารมีที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกด้านเช่นในขณะนี้
นเรนทรา โมดี แถลงต่อประชาชนในวันฉลองครบรอบ 75 ปี การประกาศเอกราชจากอังกฤษ (15 สิงหาคม 2566) โดยประกาศว่า อินเดียตั้งเป้าที่จะเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในอีก 25 ปีข้างหน้า ด้วยนโยบายส่งเสริมการผลิตภายในประเทศ ทั้งด้านวัฒนธรรม ความบันเทิง พลังงาน การป้องกันประเทศและเทคโนโลยีดิจิทัล รัฐบาลโมดีใช้นโยบาย ชาตินิยมนำเสรีนิยม หล่อหลอมรวมสังคมพหุวัฒนธรรมของอินเดียเข้าด้วยกัน….จนเกิดเป็นกระแสชาตินิยมเข้มข้นขึ้น ด้วยความหวังว่าจะมีการพัฒนาประเทศอินเดียขนานใหญ่ให้เจริญก้าวหน้าเป็นประเทศพัฒนาแล้วทัดเทียมประเทศสหรัฐอเมริกาและจีน
วงการบันเทิงของอินเดีย มีอิทธิพลอย่างไรต่อสังคมอินเดีย วงการบันเทิงอินเดีย หรือบอลลีวูด (Bollywood) นับว่าเป็นอุตสาหกรรมบันเทิงหลักของประเทศและมีฐานคนดูจำนวนมากที่สุดในเอเชีย จัดได้ว่าเป็นวงการบันเทิงขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว บอลลีวูดนั้นแผ่ขยายอิทธิพลครอบคลุมทั้งทวีปเอเชียใต้ เอเชียกลาง อาเซียน แอฟริกา และอเมริกาเหนือ รวมถึงยุโรปตะวันออก
อุตสาหกรรมบันเทิงอินเดียยังได้สร้างวัฒนธรรม “ดาราชูโรง” ที่ถูกใช้เป็นจุดขายของสื่อเรียกคนดูด้วย หรือในวงการบันเทิงเรียกว่านักแสดงระดับ A-List อาทิเช่น Amitabh Bachchan, Shah Rukh Khan, Aamir Khan, Salman Khan, Alia Bhatt, Priyanka Chopra Jonas, Deepika Padukone, Katrina Kaif, Aishwarya Rai Bachchan เป็นต้น ถ้ามีดารากลุ่มนี้มาร่วมแสดงภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ ดนตรี ก็รับประกันว่าผลผลิตชิ้นนั้นจะทำรายได้ดีและมีชื่อเสียงโด่งดัง รวมทั้งยังเป็นแหล่งกำเนิดเทรนด์ต่างๆ ในสังคมอินเดีย ไม่ว่าจะเป็นดนตรี แฟชั่นต่างๆ ที่ได้แรงบันดาลใจจากบอลลีวูด จึงเป็นที่ทราบกันดีว่าดาราระดับซูเปอร์สตาร์แทบจะมีสถานะเป็น “เทพเจ้า”ในสังคมอินเดีย ถึงกับเคยมีคำกล่าวว่า “คนอินเดียคนไหนไม่รู้จัก Shah Rukh Khan (ชาห์รุก ข่าน) แสดงว่าคน ๆ นั้นไม่ใช่คนอินเดีย”…..
สำหรับการสัมพัทธ์ทางวัฒนธรรม (Cultural Relativism) ก็คือ การที่วัฒนธรรมของแต่ละสังคมมีลักษณะเฉพาะตัว จึงมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ที่ไม่เหมือนของสังคมอื่น การมองวัฒนธรรมในขอบข่ายของสิ่งแวดล้อมและความสัมพันธ์ของโครงสร้างของมันเอง ทุกขนบธรรมเนียมและทุกจริยธรรมนั้นสัมพันธ์กับแต่ละบุคคลภายในบริบททางสังคมของคน ๆ นั้น ซึ่งสังคมอินเดียก็มีลักษณะเฉพาะที่ชื่นชม หลงไหล ปลาบปลื้มดาราบอลลีวูดกันเป็นชีวิตและจิตใจของคนอินเดีย ถือเป็นผู้ทรงอิทธิพลในสังคมอินเดียทีเดียว
ที่น่าสนใจและสำคัญคือ……เหล่าดาราสามารถแสดงความชื่นชอบทางการเมืองได้อย่างเปิดเผย แล้วส่วนใหญ่ในวงการบันเทิงอินเดียก็ให้การสนับสนุน นเรนทรา โมดี โดยแสดงออกผ่านการโพสต์ข้อความชื่นชอบทางโซเชียลมีเดีย การเข้าพบปะนายกรัฐมนตรี การให้ความร่วมมือต่อนโยบายภาครัฐ หรือการช่วยหาเสียงเลือกตั้ง เป็นต้น
ดังนั้นคงไม่น่ามองพลาด…หากจะประเมินว่า เมื่อดาราบอลลีวูดซึ่งเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางวัฒนธรรมอินเดียได้แสดงจุดยืนทางการเมืองสนับสนุนนายโมดี ย่อมต้องส่งผลให้ประชาชนชาวอินเดียจำนวนมากคล้อยตามพลังวาทศิลป์และเห็นดีเห็นงามตามเหล่าดารา ที่จะสนับสนุนให้นายโมดีและพรรค BJP ให้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ประกอบกับพื้นฐานคนอินเดียรุ่นใหม่มีความทะเยอทะยานในการที่จะเป็นพลเมืองชั้นนำของโลก พวกเขามีอัตตาสูงที่จะขับเคลื่อนพลวัตรสังคมให้อินเดียหลุดพ้นจากความเป็นประเทศด้อยพัฒนา ดังนั้นจึงมีแนวโน้มที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี และพรรคของตนจะชนะการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้านี้
มุมมองจขกท. ก็เห็นด้วยกับบทความนี้ คนอินเดียคลั่งไคล้ดารามาก ชาตินิยมมาก กองเชียร์ดารานี่ล่ะที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกตั้งนายกฯอินเดีย
และสำหรับประเทศไทย หากโมดีชนะ นโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดีมายาวนานก็จะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะอุตสาหกรรมบันเทิง
ท่องเที่ยว อาหาร ยา และธุรกิจอื่น ๆ เป็นต้น เพราะตลาดอินเดียกำลังซื้อสูงและมาแรงในประเทศไทย
สัมพัทธ์วัฒนธรรมบอลลีวูด (Bollywood Cultural Relativism) เส้นทางสู่ชัยชนะของ นเรนทรา โมดี
นเรนทรา โมดี มีดีอย่างไร ถึงครองใจประชาชนอินเดียยาวนานกว่าทศวรรษ นายนเรนทรา ดาโมดาร์ดาส โมดี (Narendra Damodardas Modi) เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศอินเดีย ประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นหัวหน้าพรรคภารตียชนตา หรือ Bharatiya Janata Party (BJP) พรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย อีกทั้งโมดียังเป็นผู้นำคนแรกของอินเดียที่นำศาสนาและความรักชาติมาผนวกกัน ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญของอินเดียนั้นระบุอย่างชัดเจนว่าอินเดียเป็นประเทศที่ไม่มีศาสนาประจำชาติ (secular state) ทำให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ จนสังคมอินเดียในยุคก่อนโมดีและหลังโมดีแตกต่างกันอย่างมาก ไม่ว่าในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความคิดของคนในชาติ และเป็นสิ่งที่ยากที่จะหาผู้นำประเทศที่มีความเด็ดขาดในการใช้อำนาจ การออกกฎหมาย และมีบารมีที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกด้านเช่นในขณะนี้
นเรนทรา โมดี แถลงต่อประชาชนในวันฉลองครบรอบ 75 ปี การประกาศเอกราชจากอังกฤษ (15 สิงหาคม 2566) โดยประกาศว่า อินเดียตั้งเป้าที่จะเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในอีก 25 ปีข้างหน้า ด้วยนโยบายส่งเสริมการผลิตภายในประเทศ ทั้งด้านวัฒนธรรม ความบันเทิง พลังงาน การป้องกันประเทศและเทคโนโลยีดิจิทัล รัฐบาลโมดีใช้นโยบาย ชาตินิยมนำเสรีนิยม หล่อหลอมรวมสังคมพหุวัฒนธรรมของอินเดียเข้าด้วยกัน….จนเกิดเป็นกระแสชาตินิยมเข้มข้นขึ้น ด้วยความหวังว่าจะมีการพัฒนาประเทศอินเดียขนานใหญ่ให้เจริญก้าวหน้าเป็นประเทศพัฒนาแล้วทัดเทียมประเทศสหรัฐอเมริกาและจีน
วงการบันเทิงของอินเดีย มีอิทธิพลอย่างไรต่อสังคมอินเดีย วงการบันเทิงอินเดีย หรือบอลลีวูด (Bollywood) นับว่าเป็นอุตสาหกรรมบันเทิงหลักของประเทศและมีฐานคนดูจำนวนมากที่สุดในเอเชีย จัดได้ว่าเป็นวงการบันเทิงขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว บอลลีวูดนั้นแผ่ขยายอิทธิพลครอบคลุมทั้งทวีปเอเชียใต้ เอเชียกลาง อาเซียน แอฟริกา และอเมริกาเหนือ รวมถึงยุโรปตะวันออก
อุตสาหกรรมบันเทิงอินเดียยังได้สร้างวัฒนธรรม “ดาราชูโรง” ที่ถูกใช้เป็นจุดขายของสื่อเรียกคนดูด้วย หรือในวงการบันเทิงเรียกว่านักแสดงระดับ A-List อาทิเช่น Amitabh Bachchan, Shah Rukh Khan, Aamir Khan, Salman Khan, Alia Bhatt, Priyanka Chopra Jonas, Deepika Padukone, Katrina Kaif, Aishwarya Rai Bachchan เป็นต้น ถ้ามีดารากลุ่มนี้มาร่วมแสดงภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ ดนตรี ก็รับประกันว่าผลผลิตชิ้นนั้นจะทำรายได้ดีและมีชื่อเสียงโด่งดัง รวมทั้งยังเป็นแหล่งกำเนิดเทรนด์ต่างๆ ในสังคมอินเดีย ไม่ว่าจะเป็นดนตรี แฟชั่นต่างๆ ที่ได้แรงบันดาลใจจากบอลลีวูด จึงเป็นที่ทราบกันดีว่าดาราระดับซูเปอร์สตาร์แทบจะมีสถานะเป็น “เทพเจ้า”ในสังคมอินเดีย ถึงกับเคยมีคำกล่าวว่า “คนอินเดียคนไหนไม่รู้จัก Shah Rukh Khan (ชาห์รุก ข่าน) แสดงว่าคน ๆ นั้นไม่ใช่คนอินเดีย”…..
สำหรับการสัมพัทธ์ทางวัฒนธรรม (Cultural Relativism) ก็คือ การที่วัฒนธรรมของแต่ละสังคมมีลักษณะเฉพาะตัว จึงมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ที่ไม่เหมือนของสังคมอื่น การมองวัฒนธรรมในขอบข่ายของสิ่งแวดล้อมและความสัมพันธ์ของโครงสร้างของมันเอง ทุกขนบธรรมเนียมและทุกจริยธรรมนั้นสัมพันธ์กับแต่ละบุคคลภายในบริบททางสังคมของคน ๆ นั้น ซึ่งสังคมอินเดียก็มีลักษณะเฉพาะที่ชื่นชม หลงไหล ปลาบปลื้มดาราบอลลีวูดกันเป็นชีวิตและจิตใจของคนอินเดีย ถือเป็นผู้ทรงอิทธิพลในสังคมอินเดียทีเดียว
ที่น่าสนใจและสำคัญคือ……เหล่าดาราสามารถแสดงความชื่นชอบทางการเมืองได้อย่างเปิดเผย แล้วส่วนใหญ่ในวงการบันเทิงอินเดียก็ให้การสนับสนุน นเรนทรา โมดี โดยแสดงออกผ่านการโพสต์ข้อความชื่นชอบทางโซเชียลมีเดีย การเข้าพบปะนายกรัฐมนตรี การให้ความร่วมมือต่อนโยบายภาครัฐ หรือการช่วยหาเสียงเลือกตั้ง เป็นต้น
ดังนั้นคงไม่น่ามองพลาด…หากจะประเมินว่า เมื่อดาราบอลลีวูดซึ่งเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางวัฒนธรรมอินเดียได้แสดงจุดยืนทางการเมืองสนับสนุนนายโมดี ย่อมต้องส่งผลให้ประชาชนชาวอินเดียจำนวนมากคล้อยตามพลังวาทศิลป์และเห็นดีเห็นงามตามเหล่าดารา ที่จะสนับสนุนให้นายโมดีและพรรค BJP ให้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ประกอบกับพื้นฐานคนอินเดียรุ่นใหม่มีความทะเยอทะยานในการที่จะเป็นพลเมืองชั้นนำของโลก พวกเขามีอัตตาสูงที่จะขับเคลื่อนพลวัตรสังคมให้อินเดียหลุดพ้นจากความเป็นประเทศด้อยพัฒนา ดังนั้นจึงมีแนวโน้มที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี และพรรคของตนจะชนะการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้านี้