รีวิว เขาเหมน | นครศรีธรรมราช

เขาเหมน หรือ เขาพระสุเมรุ
จังหวัด นครศรีธรรมราช
สวัสดีนักเดินทางทุกท่าน  เรากลับมาพร้อมกับการเดินทางครั้งใหม่ ครั้งนี้เราไป เขาเหมน หรือเขาพระสุเมรุ จังหวัดนครศรีธรรมราช  เขาเหมน หรือ เขาพระสุเมรุ ตามตำนานเรียกเขาลูกนี้ว่า "เขาพระสุเมรุ" เนื่องจากอดีต มีความเจริญรุ่งเรืองทางพราหมณ์-ฮินดู มีความเชื่อว่าเขาพระสุเมรุเป็นที่อยู่ของพระศิวะ แต่ชาวใต้นิยมเรียกชื่อสั้น ๆ เป็นเขาเมรุหรือเขาเหมน ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง สูงประมาณ 1,307 เมตร. 

ไปเขาเหมน ยังไง ?
การเดินทางครั้งนี้ของเราง่ายมากๆ เราจองทริปกับเพจ "เที่ยวววจนแม่ด่า" เป็นทริปที่ไปเจอหน้างาน ค่าทริป 2,500 บาท เราเดินทางจากหาดใหญ่ เช้าวันที 26/4/24 วันนี้ไม่ใช่วันขึ้นเขาแต่เราตั้งใจอยากจะแวะเก็บแต้มที่ อุทยานแห่งชาติ เขาปู-เขาย่า และอุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง 
หลังจากนั้นก็แวะไปพักที่ วังปริง แคมป์ ทุ่งสง บรรยากาศที่นี่คือดีมากๆ มีสายน้ำเล็กๆ ผ่านหน้าที่พัก ตอนเย็นก็ลงไปแช่น้ำเล่นกัน เจ้าของรีสอทก็พูดดีมากๆ แนะนำที่เที่ยวพูดคุยกันนานมากๆ ที่นี่คือแนะนำเลยค่ะ..... 

ตื่นเช้ามาวันที่ 27/4/24 เวลา  6.00 น. ออกจากที่พัก แวะหาข้าวเช้าและตุนน้ำ ขนม ช็อคโกแลต อื่นๆ ก่อนเดินทางไปยังจุดนัดพบคือ น้ำตกคลองจัง เรานัดไปถึงที่นั่นตอน 7.00 น.  จัดระเบียบกระเป๋า ชั่ง นน กระเป๋า  ทางทริปเขาจะมีการแจกข้าวเที่ยง และน้ำคนละ 3 ขวด ส่วนใครที่จะจ้างลูกหาบก็ KG ละ 100 บาท ค่ะ  หลังจากจัดแจงของและลงทะเบียนกันเสร็จแล้ว ประมาณ 8.30 น. เราก็ขึ้นรถกะบะไปจุดเริ่มเดินที่เนิน 499.... 
หลังจากจุดนี้จะเป็นการเดินเท้าแบบจริงจัง ระยะทางประมาณ 3 กม ซึ่งเป็นทางชัน ทางชันแบบชันมากๆ ดันเขาของจริง ใช้เวลาเดิน ประมาณ 4-5 ชม. แวะทานมื้อเที่ยง ตามจุดที่เขาให้พักก็ได้นะคะ แต่เราถึงจุดพักแล้วยังไม่ค่อยหิวเลยเดินต่อไป ภาพด่านล่างจะเป็นภาพระหว่างเดิน

ยันของแทร่....... แค่เนินแรก ก็หาหงส์ไทย แล้วจ้าาาาา
กินน้ำเยอะมากๆ เติมน้ำตลอดทางเลย อากาศค่อนข้างร้อน ลมไม่มีเลย อบอ้าวมากๆ ทริปนี้คือมั่นหน้ามากๆ อยากแบกเต็นท์ และน้ำเอง เป็นไงละ เข่าสั่นไหมก่อน 5555+ อย่าหาทำนะทุกคน !!!
เดินขึ้นไปเรื่อยๆ เลยค่ะ ทางเดินค่อนข้างเห็นชัดมากๆ จะมีด้ายเส้นสีขาวบอกทางตลอดเลย ไม่ต้องกลัวหลง อีกอย่างเจ้าหน้าที่บอกว่า เส้นทางที่เราเดินจะขึ้นตลอด ทางไหนที่เป็นทางลงคือไม่ใช่ !!! ระหว่างทางก็จะมีปีนท่อนไม้บ้าง ข้ามร่องน้ำบ้าง และจุดก่อนขึ้นลานกางเต็นท์คือต้องปีนหินขึ้นไปค่ะ ตรงนี้ค่อนข้างน่ากลัวนิดนึงสำหรับคนกลัวความสูง 
จะบอกว่าเราเดินถึงตรงนี้ตอน 11.30 น. ซึ่งร้อนมากๆ เลยค่ะ แต่วิวก็สวยมากๆเช่นกัน เฮ้ออออออ เจอวิวสวยๆ แล้วลืมอากาศร้อนเลย 
เราก็เดินทางต่อ ตอนแรกคิดว่าผ่านตรงนี้ก็เจอลานกางเต็นท์ ที่ไหนได้ เราต้องเดินผ่านป่า เหมือจจะคล้ายๆ ป่าโบราณค่ะ แต่ยังมีต้นไม้ใหญ่แทรกๆ อยู่สลับกับลานหิน ทางเดินในป่าโซนนี้จะนุ่มๆ เหมือนเดินอยู่บนหญ้าที่ฟูๆ บอกไม่ถูก เหมือนกัน 555+ เราเดินไปสักพัก ก็เริ่มหิวข้าว เลยจอดนั่งกินข้าวตรงทางเดิน ทางเนิน นี้แหละ ไม่ไหวละ เติมพลังก่อน...
เทอออออ!!!! คือฉัน หิว แต่ฉันกินไม่ลง สงสัยอากาศจะร้อนบวกกับเหนื่อย แน่ๆเลย กินองุ่นอย่างเดียว  กินเสร็จแล้วเราก็เดินกันต่อ อีกนิด ใกล้จะถึงแล้ว
เราเดินจากตรงนี้ ก็จะเจอลานหินอีกรอบ เดินๆ ปีนๆ ขึ้นไป เราก็ได้ยินเสียงคนคุยกันมาจาก ป่าใกล้ๆ คือดีใจมากๆ ตอนนั้นคือหายเหนื่อยเลย เพราะเราถึงลานกางเต็นท์แล้ว  เก่งมากๆเลย สุนิษา!!!! 
วิวตรงนี้คือสวยมากๆ เราแวะถ่ายก่อนเดินไปลานกางเต็นท์ 
สภาพคือ "ยม" มากๆ  เราถึงลานกางเต็นท์ประมาณ บ่ายโมง ระหว่างนี้ก็นั่งพัก กินน้ำ กินข้าว กินขนม แล้วกางเต็นท์ นอนเล่นกัน ด้านบนอากาศไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่ เพราะมีลมเย็นๆ มาตลอดเลย เรานั่งพักจนถึง 4 โมงเย็น ก็เริ่มเดินสำรวจพื้นที่นิดหน่อย, ถ่ายรูปเล่นกัน และขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตก เราต้องเดินขึ้นเขาไปอีก ชมภาพกันเลย....
ก่อนถึงจุดชมพระอาทิตย์ตก เราจะต้องเดินผ่านป่าโบราณนี้ไปค่ะ แต่ตอนที่เราไปฝนไม่ตกน้องก็เลยเหลืองๆ นิดหน่อย ตอนเดินไปมันก็สวยมากเลยนะ มีแสงลอดผ่านกิ่งไม้ ก็ดีมากๆ  วันนี้เราไม่เห็นพระอาทิตย์ตกเลยค่ะ น้องตกเมฆ แต่แสงสวยมากๆ
ดูพระอาทิตย์ตกเสร็จ เราก็กลับไปที่แคมป์ค่ะ กลับไปถึงก็มีอาหารรอเราเพียบเลย คือปลื้มทริปนี้มากๆ  แนะนำเลยค่ะ เพจ "เที่ยวววจนแม่ด่า"  นี่คืออาหารค่ำคืนนี้
**** ขออนุญาติ โฟกัสแต่เพียงอาหาร ****
มีคาวแล้วต้องมีของหวาน จะบอกว่าดิฉันถ่ายมาไม่หมด มีเมนู กุ้งแม่น้ำอบวุ้นเส้นด้วย อาหารคือเยอะแถมอร่อยอีกต่างหาก  เฮ้อออออ สุขใจ <3
จบค่ำคืนนี้ด้วยอาหารอร่อยๆ และยาคลายกล้ามเนื้อ 5555+

สวัสดีเช้าวันที่ 28/4/24  เวลา 5.30 น. ตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันค่าาาา ล้างหน้าแปรงฟัน หิ้วกระเป๋า ไฟฉาย เดินขึ้นเขา เลี้ยวขวาไปไม่กี่เมตร ก็ถึงจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว
คุ้มแล้ว คุ้มแล้วจริงๆ กับวิวแบบนี้ 
เพี้ยนหลงรักเพี้ยนหลงรักเพี้ยนหลงรัก
หลังจากดูพระอาทิตย์ขึ้น เราก็ลงไปทานอาหารเช้า และเก็บเต็นท์ เดินลงค่ะ เราใช้เวลาเดินลงน่าจะประมาณ 2 ชม. เดินไป เล่นไป ถ่ายรูปไป ขาลงก็คือระวังรากไม้ กับหินลอย เพราะเราลื่นล้มไปหนึ่งกรุบ ดีนะ ข้อเท้ายังปกติดีอยู่ 5555+  ขาลงค่อนข้างใช้เข่าเยอะหน่อยนะ กับนิ้วเท้า รัดเชือกรองเท้าให้แน่นๆกันด้วยละ....
สภาพแบบนี้ หาซื้อที่ไหนไม่ได้นะ ต้องเดินป่า อย่างเดียว 
เพี้ยนขำหนักมากเพี้ยนขำหนักมากเพี้ยนขำหนักมากเพี้ยนขำหนักมากเพี้ยนขำหนักมาก



เฮ้อออออ มันดีมากๆเลยใช่ไหมคะ ใครที่กำลังตัดสินใจอยู่ เราแนะนำว่า "ไปค่ะ"  แม้ว่าทางจะชันมากๆ ก็ตาม แต่มันก็เป็นเรื่องราวดีดีที่ให้จดจำนะ
อีกอย่าง ปลายทางมันโครตดีมากๆ แบบนี้ ไปเถอะค่ะ ไปลำบากกัน 
เพี้ยนจริงจังเพี้ยนจริงจัง
เตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง ?
เต็นท์, ถุงนอน, หมวก, แผ่นรองนอน, ทิชชู่เปียก, ยาสามัญ หรือประจำตัว, ไฟฉายม ช้อนประจำตัว, ถุงขยะ, เสื้อกันฝน และเตรียมใจ 555+

คำเตือน!!!!
กรุณาตุนน้ำไว้เยอะๆ ขาขึ้นเรากินน้ำไป 2 ลิตร เนื่องจากอากาศที่ร้อนมากๆ บวกกับไม่มีลมเลย









แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่