หลัง “กองสลากพลัส” ปิดฉากไป ในยุครัฐบาลลุงตู่
ยุคนี้ แพลตฟอร์มขายลอตเตอรี่อย่าง “ลอตเตอรี่พลัส” กำลังเบ่งบานสุดขีด ยอดขายหลายล้านใบต่องวด ประกาศระดมทุนผ่านเฟซบุ๊ก ทุ่มเงินทำโฆษณาประชาสัมพันธ์การตลาดครึกโครม มีคนดังมาช่วยประชาสัมพันธ์จูงใจให้คนมาซื้อลอตเตอรี่ผ่านแพลตฟอร์ม ฯลฯ
ผู้ที่ปรากฏกายขับเคลื่อนหน้าฉากคนเดิม คือ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ (นอท พันธ์ธวัช) หรือ นอท กองสลากพลัส เจ้าของแพลตฟอร์มกองสลากพลัสที่ถูกปิดไปก่อนหน้านี้นั่นเอง
1. เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2566 ศาลอาญาได้พิจารณาคดีเสร็จสิ้นและมีคำสั่งให้ปิดเว็บไซต์กองสลากพลัส ศาลชี้ว่า ข้ออ้างของบริษัทที่อ้างว่า ส่วนเกินจากราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล คือ ค่าบริการต่างๆ นั้น ฟังไม่ขึ้น ถือเป็นการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ในสลากฯ ขัดต่อกฎหมาย และเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลาย หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวออกจากระบบคอมพิวเตอร์ พูดง่ายๆ ว่า คำแก้ตัวที่กองสลากพลัสเคยอ้างว่า ขายลอตเตอรี่ราคาตามกฎหมาย 80 บาท เพียงแต่มีค่าบริการอีก 20 บาทนั้น ฟังไม่ขึ้น พฤติการณ์แท้จริงก็คือการขายสลากราคาเกินกว่ากฎหมายกำหนดนั่นเอง จะเห็นว่า แอปเป๋าตังขายสลากถูกต้องตามราคากฎหมายกำหนด คือ 80 บาท ไม่ว่ากี่ใบก็ใบละ 80 บาท ขณะที่กองสลากพลัสเคยขายสลาก+ค่าบริการอีก 20 บาท รวมเป็นใบละ 100 บาท ผิดกฎหมาย ถูกปรับ และถูกศาลสั่งปิดแพลตฟอร์มไปในที่สุด
2. ปัจจุบัน นอท พันธ์ธวัช ออกหน้านำทัพขายลอตเตอรี่ผ่านแพลตฟอร์มชื่อ “ลอตเตอรี่พลัส” โดยแฟนเพจลอตเตอรี่พลัสมีผู้ติดตาม 2.4 ล้านคน ทำการจำหน่ายลอตเตอรี่ผ่านช่องทาง
https://lotteryplus.co.th มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างครึกโครม มีการแชร์คลิปและภาพนักร้อง ดารา เชิญชวนให้ประชาชนมาซื้อลอตเตอรี่มีการทำกิจกรรมการส่งเสริมการขาย ตั้งโต๊ะ ออกร้านร่วมกิจกรรมช่วงสงกรานต์อย่างคึกคัก จัดงานรื่นเริง จัดรถขบวนแห่ รถฉีดน้ำ จ้างพริตตี้มาใส่ชุดที่มีโลโก้ลอตเตอรี่พลัส ฯลฯ เพื่อประโยชน์ในทางธุรกิจการค้าอย่างโจ่งแจ้ง ในความเป็นจริง การประชาสัมพันธ์ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อสาธารณประโยชน์ สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย แต่การโฆษณาขายหวยโดยแพลตฟอร์มเอกชน เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจเอกชน ไม่สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย
2.1 ลอตเตอรี่พลัส อ้างว่าขายสลากในราคา 80 บาท ตามกฎหมาย แต่มีค่าบริการอีก ได้แก่ ค่าเช่าเซฟเก็บสลาก 25 บาทต่อใบ หรือไม่ ก็ต้องมีค่าจัดส่ง 50 บาทต่อใบ มิฉะนั้น ก็ไม่สามารถซื้อสลากในราคา 80 บาทได้
ตามภาพข้างบน... ถ้าซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับลอตเตอรี่พลัส 1 ใบ จะต้องยอมเสียค่าเช่าพื้นที่จัดเก็บ 25 บาท รวมเป็น 105 บาท ถ้าซื้อสลาก 7 ใบ ก็ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่จัดเก็บใบละ 25 บาท รวมเป็น 735 บาท ถ้าไม่ยอมจ่ายค่าเช่าพื้นที่เก็บ ก็ต้องเสียค่าจัดส่งใบละ 50 บาท มิฉะนั้น ก็ไม่สามารถซื้อสลากในราคา 80 บาทได้ เท่ากับว่า ในความเป็นจริง ผู้ซื้อจะต้องจ่ายเฉลี่ย 105 บาท เพื่อซื้อลอตเตอรี่ที่กฎหมายกำหนดให้ขายในราคา 80 บาทเท่านั้น
สมมุติ... ถ้ามีปั๊มน้ำมันกำหนดราคาขายบนหัวจ่ายตามกฎหมายกำหนด แต่กำหนดค่าบริการให้บังคับจ่ายเพิ่มเติมขึ้นมาอีก เช่น ค่าน้ำมันดีเซล 30 บาทต่อลิตร แต่จะต้องจ่ายค่าเด็กปั๊มอีกลิตรละ 5 บาท หรือค่าเหยียบแผ่นดินปั๊มลิตรละ 5 บาท ได้หรือไม่ ถามว่า กรณี “ลอตเตอรี่พลัส” ต่างอะไรกับที่ “กองสลากพลัส” เคยขายลอตเตอรี่อ้างว่า 80 บาท แต่มีค่าบริการอีก 20 บาทต่อใบ ซึ่งศาลยุติธรรมได้ชี้ว่าเป็นการขายเกินกว่าราคาที่กฎหมายกำหนด และมีคำสั่งปิดแพลตฟอร์มไปก่อนหน้านี้ ?
2.2 ปัจจุบัน ลอตเตอรี่พลัสใช้ระบบการชำระเงินที่เรียกว่า “นกแคช” โดยผู้ซื้อจะต้องเติมเงินเข้าไปในระบบ “นกแคช” เสียก่อนแล้วจึงจะเลือกลอตเตอรี่ที่ต้องการ หักเงินค่าลอตเตอรี่บวกค่าบริการ ไม่ต้องแนบสลิปการโอนอีก ลอตเตอรี่เข้าตู้เซฟทันที เรียกว่า จัดทำระบบชำระเงินของตนเองขึ้นมาด้วย
3. พระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลฯ มีกำหนดโทษสำหรับความผิดในกรณีการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยมีโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท มาตรา 39 ผู้ใดเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ และยังไม่ได้ออกรางวัล ในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่ง 10,000 บาท ทั้งยังกำหนดเพิ่มเติมความผิดในกรณีการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในสถานศึกษา และการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลแก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ น่าคิดว่า การขายสลากผ่านแพลตฟอร์มนั้น ขายให้แก่ผู้ซื้อรายคน แต่ละคนแยกเป็นแต่ละธุรกรรม แยกจากกันไปเพราะบางคนซื้อครั้งเดียว 1 ใบ, บางคนซื้อครั้งเดียว 10 ใบ ฯลฯ
กรณีเช่นนี้ หากถือเป็นการขายเกินราคาตามกฎหมายกำหนด จะคิดค่าปรับอย่างไร? จึงจะเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการห้ามปรามลงโทษมิให้มีใครบังอาจขายเกินราคาที่กำหนดตามกฎหมาย จะคิดค่าปรับเป็นครั้งเดียวต่องวด หรือต่อจำนวนธุรกรรมที่ขาย ? หรือต่อจำนวนใบสลากที่ขาย?
น่าสนใจว่า นายนอท พันธ์ธวัช เคยโพสต์ข้อมูลยอดขายแต่ละงวด อันน่าจะหมายถึงยอดขายลอตเตอรี่พลัส ว่ามีงวดละกว่า 940,000 ธุรกรรม (ไม่ทราบว่าธุรกรรมละกี่ใบ) จึงเป็นเหตุอันควรสงสัยและตรวจสอบต่อไปว่า ขายจริงกี่ล้านใบต่องวด? การขายด้วยวิธีดังกล่าวนั้น ถือว่าเกินราคาที่กำหนดตามกฎหมายหรือไม่? ควรจะถูกดำเนินคดีและถูกปรับตามกฎหมาย มูลค่าเท่าใด?
4. สลากกินแบ่งรัฐบาลงวดละหลายล้านใบนั้น ลอตเตอรี่พลัส นำมาจากไหน? ซื้อมาจากใคร? เพราะลอตเตอรี่พลัสไม่ได้เป็นคู่สัญญาซื้อลอตเตอรี่จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลโดยตรงในจำนวนนับล้านใบต่องวด ผู้ได้สลากมาจากสำนักงานสลากกินแบ่งฯ แล้วนำมาขายต่อ ย่อมผิดเงื่อนไข ผู้นั้นจะต้องถูกสนง.สลากฯเพิกถอนสิทธิที่จะได้รับการจัดสรรสลาก เพื่อนำสิทธินั้นไปจัดสรรให้ประชาชนที่พร้อมเคารพกฎกติกา หากแพลตฟอร์มใดก็ตาม ทำธุรกิจนำลอตเตอรี่มาขายต่อ โดยกว้านซื้อมาในราคาสูงกว่ากฎหมายกำหนด ก็ยิ่งสะท้อนเจตนาว่า ต้องการกว้านซื้อมาในราคาแพงกว่ากฎหมายกำหนดตั้งแต่ต้น เพื่อมาขายผู้บริโภคในราคาแพงกว่าที่ซื้อมาและแพงกว่ากฎหมายกำหนด โดยพลิกแพลงอำพรางการกระทำผิด ด้วยการขายผ่านแพลตฟอร์ม ใช้กลวิธีการตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ อ้างค่าบริการ ค่าฝาก ค่าจัดส่ง (เป็นบริการกึ่งบังคับ) การกระทำเช่นนี้ อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายร้ายแรงหรือไม่? ยังไม่ต้องกล่าวถึงเส้นทางการเงิน ว่าแหล่งเงินทุนมาจากที่ใด เงินแบ่งผลกำไรไปที่ใด ฯลฯ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ตำรวจ ดีเอสไอ สคบ. ไม่ควรเพิกเฉย จะต้องเข้าไปตรวจสอบค้นหาความจริง และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
หากทำแบบนี้ได้ไม่ผิดกฎหมาย เชื่อแน่ว่าจะมีเอกชนทุนใหญ่ๆๆ อีกหลายราย พร้อมทุ่มเงินทุนสีเทาสีดำ เพื่อฮุบการขายลอตเตอรี่เข้ามาในอาณาจักรของตนเองโดยพฤตินัย แฝงฟอกเป็นเงินขาวสะอาดจากการขายลอตเตอรี่ถูกกฎหมาย แต่ถ้าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย แล้วยังปล่อยปละละเลย ก็คงจะต้องมีคนถูกดำเนินคดี 157 แน่นอน
สันติสุข มะโรงศรี
https://www.naewna.com/politic/columnist/58786
ลอตเตอรี่พลัส หวยแพลตฟอร์มคืนชีพ หลัง “กองสลากพลัส” ปิดฉากไป ในยุครัฐบาลลุงตู่
ยุคนี้ แพลตฟอร์มขายลอตเตอรี่อย่าง “ลอตเตอรี่พลัส” กำลังเบ่งบานสุดขีด ยอดขายหลายล้านใบต่องวด ประกาศระดมทุนผ่านเฟซบุ๊ก ทุ่มเงินทำโฆษณาประชาสัมพันธ์การตลาดครึกโครม มีคนดังมาช่วยประชาสัมพันธ์จูงใจให้คนมาซื้อลอตเตอรี่ผ่านแพลตฟอร์ม ฯลฯ
ผู้ที่ปรากฏกายขับเคลื่อนหน้าฉากคนเดิม คือ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ (นอท พันธ์ธวัช) หรือ นอท กองสลากพลัส เจ้าของแพลตฟอร์มกองสลากพลัสที่ถูกปิดไปก่อนหน้านี้นั่นเอง
1. เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2566 ศาลอาญาได้พิจารณาคดีเสร็จสิ้นและมีคำสั่งให้ปิดเว็บไซต์กองสลากพลัส ศาลชี้ว่า ข้ออ้างของบริษัทที่อ้างว่า ส่วนเกินจากราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล คือ ค่าบริการต่างๆ นั้น ฟังไม่ขึ้น ถือเป็นการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ในสลากฯ ขัดต่อกฎหมาย และเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลาย หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวออกจากระบบคอมพิวเตอร์ พูดง่ายๆ ว่า คำแก้ตัวที่กองสลากพลัสเคยอ้างว่า ขายลอตเตอรี่ราคาตามกฎหมาย 80 บาท เพียงแต่มีค่าบริการอีก 20 บาทนั้น ฟังไม่ขึ้น พฤติการณ์แท้จริงก็คือการขายสลากราคาเกินกว่ากฎหมายกำหนดนั่นเอง จะเห็นว่า แอปเป๋าตังขายสลากถูกต้องตามราคากฎหมายกำหนด คือ 80 บาท ไม่ว่ากี่ใบก็ใบละ 80 บาท ขณะที่กองสลากพลัสเคยขายสลาก+ค่าบริการอีก 20 บาท รวมเป็นใบละ 100 บาท ผิดกฎหมาย ถูกปรับ และถูกศาลสั่งปิดแพลตฟอร์มไปในที่สุด
2. ปัจจุบัน นอท พันธ์ธวัช ออกหน้านำทัพขายลอตเตอรี่ผ่านแพลตฟอร์มชื่อ “ลอตเตอรี่พลัส” โดยแฟนเพจลอตเตอรี่พลัสมีผู้ติดตาม 2.4 ล้านคน ทำการจำหน่ายลอตเตอรี่ผ่านช่องทาง https://lotteryplus.co.th มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างครึกโครม มีการแชร์คลิปและภาพนักร้อง ดารา เชิญชวนให้ประชาชนมาซื้อลอตเตอรี่มีการทำกิจกรรมการส่งเสริมการขาย ตั้งโต๊ะ ออกร้านร่วมกิจกรรมช่วงสงกรานต์อย่างคึกคัก จัดงานรื่นเริง จัดรถขบวนแห่ รถฉีดน้ำ จ้างพริตตี้มาใส่ชุดที่มีโลโก้ลอตเตอรี่พลัส ฯลฯ เพื่อประโยชน์ในทางธุรกิจการค้าอย่างโจ่งแจ้ง ในความเป็นจริง การประชาสัมพันธ์ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อสาธารณประโยชน์ สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย แต่การโฆษณาขายหวยโดยแพลตฟอร์มเอกชน เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจเอกชน ไม่สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย
2.1 ลอตเตอรี่พลัส อ้างว่าขายสลากในราคา 80 บาท ตามกฎหมาย แต่มีค่าบริการอีก ได้แก่ ค่าเช่าเซฟเก็บสลาก 25 บาทต่อใบ หรือไม่ ก็ต้องมีค่าจัดส่ง 50 บาทต่อใบ มิฉะนั้น ก็ไม่สามารถซื้อสลากในราคา 80 บาทได้
ตามภาพข้างบน... ถ้าซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับลอตเตอรี่พลัส 1 ใบ จะต้องยอมเสียค่าเช่าพื้นที่จัดเก็บ 25 บาท รวมเป็น 105 บาท ถ้าซื้อสลาก 7 ใบ ก็ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่จัดเก็บใบละ 25 บาท รวมเป็น 735 บาท ถ้าไม่ยอมจ่ายค่าเช่าพื้นที่เก็บ ก็ต้องเสียค่าจัดส่งใบละ 50 บาท มิฉะนั้น ก็ไม่สามารถซื้อสลากในราคา 80 บาทได้ เท่ากับว่า ในความเป็นจริง ผู้ซื้อจะต้องจ่ายเฉลี่ย 105 บาท เพื่อซื้อลอตเตอรี่ที่กฎหมายกำหนดให้ขายในราคา 80 บาทเท่านั้น
สมมุติ... ถ้ามีปั๊มน้ำมันกำหนดราคาขายบนหัวจ่ายตามกฎหมายกำหนด แต่กำหนดค่าบริการให้บังคับจ่ายเพิ่มเติมขึ้นมาอีก เช่น ค่าน้ำมันดีเซล 30 บาทต่อลิตร แต่จะต้องจ่ายค่าเด็กปั๊มอีกลิตรละ 5 บาท หรือค่าเหยียบแผ่นดินปั๊มลิตรละ 5 บาท ได้หรือไม่ ถามว่า กรณี “ลอตเตอรี่พลัส” ต่างอะไรกับที่ “กองสลากพลัส” เคยขายลอตเตอรี่อ้างว่า 80 บาท แต่มีค่าบริการอีก 20 บาทต่อใบ ซึ่งศาลยุติธรรมได้ชี้ว่าเป็นการขายเกินกว่าราคาที่กฎหมายกำหนด และมีคำสั่งปิดแพลตฟอร์มไปก่อนหน้านี้ ?
2.2 ปัจจุบัน ลอตเตอรี่พลัสใช้ระบบการชำระเงินที่เรียกว่า “นกแคช” โดยผู้ซื้อจะต้องเติมเงินเข้าไปในระบบ “นกแคช” เสียก่อนแล้วจึงจะเลือกลอตเตอรี่ที่ต้องการ หักเงินค่าลอตเตอรี่บวกค่าบริการ ไม่ต้องแนบสลิปการโอนอีก ลอตเตอรี่เข้าตู้เซฟทันที เรียกว่า จัดทำระบบชำระเงินของตนเองขึ้นมาด้วย
3. พระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลฯ มีกำหนดโทษสำหรับความผิดในกรณีการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยมีโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท มาตรา 39 ผู้ใดเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ และยังไม่ได้ออกรางวัล ในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่ง 10,000 บาท ทั้งยังกำหนดเพิ่มเติมความผิดในกรณีการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในสถานศึกษา และการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลแก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ น่าคิดว่า การขายสลากผ่านแพลตฟอร์มนั้น ขายให้แก่ผู้ซื้อรายคน แต่ละคนแยกเป็นแต่ละธุรกรรม แยกจากกันไปเพราะบางคนซื้อครั้งเดียว 1 ใบ, บางคนซื้อครั้งเดียว 10 ใบ ฯลฯ
กรณีเช่นนี้ หากถือเป็นการขายเกินราคาตามกฎหมายกำหนด จะคิดค่าปรับอย่างไร? จึงจะเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการห้ามปรามลงโทษมิให้มีใครบังอาจขายเกินราคาที่กำหนดตามกฎหมาย จะคิดค่าปรับเป็นครั้งเดียวต่องวด หรือต่อจำนวนธุรกรรมที่ขาย ? หรือต่อจำนวนใบสลากที่ขาย?
น่าสนใจว่า นายนอท พันธ์ธวัช เคยโพสต์ข้อมูลยอดขายแต่ละงวด อันน่าจะหมายถึงยอดขายลอตเตอรี่พลัส ว่ามีงวดละกว่า 940,000 ธุรกรรม (ไม่ทราบว่าธุรกรรมละกี่ใบ) จึงเป็นเหตุอันควรสงสัยและตรวจสอบต่อไปว่า ขายจริงกี่ล้านใบต่องวด? การขายด้วยวิธีดังกล่าวนั้น ถือว่าเกินราคาที่กำหนดตามกฎหมายหรือไม่? ควรจะถูกดำเนินคดีและถูกปรับตามกฎหมาย มูลค่าเท่าใด?
4. สลากกินแบ่งรัฐบาลงวดละหลายล้านใบนั้น ลอตเตอรี่พลัส นำมาจากไหน? ซื้อมาจากใคร? เพราะลอตเตอรี่พลัสไม่ได้เป็นคู่สัญญาซื้อลอตเตอรี่จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลโดยตรงในจำนวนนับล้านใบต่องวด ผู้ได้สลากมาจากสำนักงานสลากกินแบ่งฯ แล้วนำมาขายต่อ ย่อมผิดเงื่อนไข ผู้นั้นจะต้องถูกสนง.สลากฯเพิกถอนสิทธิที่จะได้รับการจัดสรรสลาก เพื่อนำสิทธินั้นไปจัดสรรให้ประชาชนที่พร้อมเคารพกฎกติกา หากแพลตฟอร์มใดก็ตาม ทำธุรกิจนำลอตเตอรี่มาขายต่อ โดยกว้านซื้อมาในราคาสูงกว่ากฎหมายกำหนด ก็ยิ่งสะท้อนเจตนาว่า ต้องการกว้านซื้อมาในราคาแพงกว่ากฎหมายกำหนดตั้งแต่ต้น เพื่อมาขายผู้บริโภคในราคาแพงกว่าที่ซื้อมาและแพงกว่ากฎหมายกำหนด โดยพลิกแพลงอำพรางการกระทำผิด ด้วยการขายผ่านแพลตฟอร์ม ใช้กลวิธีการตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ อ้างค่าบริการ ค่าฝาก ค่าจัดส่ง (เป็นบริการกึ่งบังคับ) การกระทำเช่นนี้ อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายร้ายแรงหรือไม่? ยังไม่ต้องกล่าวถึงเส้นทางการเงิน ว่าแหล่งเงินทุนมาจากที่ใด เงินแบ่งผลกำไรไปที่ใด ฯลฯ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ตำรวจ ดีเอสไอ สคบ. ไม่ควรเพิกเฉย จะต้องเข้าไปตรวจสอบค้นหาความจริง และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
หากทำแบบนี้ได้ไม่ผิดกฎหมาย เชื่อแน่ว่าจะมีเอกชนทุนใหญ่ๆๆ อีกหลายราย พร้อมทุ่มเงินทุนสีเทาสีดำ เพื่อฮุบการขายลอตเตอรี่เข้ามาในอาณาจักรของตนเองโดยพฤตินัย แฝงฟอกเป็นเงินขาวสะอาดจากการขายลอตเตอรี่ถูกกฎหมาย แต่ถ้าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย แล้วยังปล่อยปละละเลย ก็คงจะต้องมีคนถูกดำเนินคดี 157 แน่นอน
สันติสุข มะโรงศรี
https://www.naewna.com/politic/columnist/58786