คบกับแฟนมา 3 ปี มีช่วงที่แฟนไม่ใส่ใจ ยังโทรหา ยังเจอบ้าง แต่ลดลงจากเดิมเยอะ ไม่มีเวลาสวีท ไม่ได้เติมความหวานให้กันเหมือนเดิม และเดิมรอบแรกเคยจะแต่งงานกันแต่ต้องเลื่อนเพราะปัญหาส่วนตัวของแฟน ทำให้เวลาเราถามเค้าว่าเมื่อไหร่จะได้อยู่ด้วยกัน อยากแต่งงานแล้ว เค้าก็จะตอบรับคำแบบ "อื้อ" "ครับ" "ค่ะ" โดยระยะเวลาประมาณ 4-5 เดือน เรามีพูดเปรยๆ เพราะรู้ว่าเค้าทำงาน ไม่อยากงี่เง่า ชวนไปไหนก็ไม่ไป เช่น ชวนไปวิ่งเทรล บอกวิ่งพื้นถนนให้ได้ก่อน ชวนไปตีแบท บอกไกล เราเลยบอกเลิกเค้า แต่เค้าก็พูดง้อเรา โดยให้เหตุผลว่า ที่เกิดแบบนี้เพราะทำงานเก็บเงิน จะขอเราแต่งงาน จนเราใจอ่อนและคบต่อ และสักพักเค้าก็มาขอเรากับแม่รอบที่2 (รอบแรกเราเป็นคนบอกแม่เอง) แต่เรายังความรู้สึกไม่เหมือนเดิมเลยเกิดเหตุการณ์โกหกเกิดขึ้น
เหตุการณ์แรก : วิ่งเทรล
- ชวนเค้าไปแต่เค้าไม่ไป ให้เราไปวิ่งพื้นถนนให้ได้ก่อน ชวนอยู่ 2 ครั้ง จนคิดว่าเค้าคงไม่ไป เราเลยชวนเพื่อนไป ตอนแรกมีสมาชิก 5 คน พอเค้ารู้เค้าบอกว่าคนไปเยอะอะ น่าสนุกจัง ขอไปด้วย ตอนนั้นเราก็ไม่อยากให้เค้าไปแล้ว เพราะเหมือนเค้าแค่อยากไปเพราะมีหลายคน ไม่ได้อยากไปกับเรา ต่อมามีสมาชิกเพิ่มอีก 1 คน และเป็นผู้ชาย ซึ่งเป็นเพื่อนรู้จักมานานแล้ว แต่เราไม่ได้บอกแฟนว่ามีสมาชิกเพิ่ม เพราะกลัวเค้าจะน้อยใจว่าอีกคนไปได้ ทำไมเค้าไปไม่ได้
- โกหกว่าไป 5 แต่จริงๆไป 6
เหตุการณ์ทีสอง : ตีแบท
- เราเคยชวนเค้าตีแบทแล้ว แต่เค้าก็บอกไกล ไม่สะดวก พอเราไปตีและกลับมาเล่าให้เค้าฟังว่ามันสนุกมาก บลาๆ เค้าก็บอกว่า คนเยอะดีอะ น่าสนุกจัง ขอไปด้วย แต่เราก็รู้สึกน้อยใจอีกว่า แล้วถ้าไม่มีคนเยอะๆ เค้าก็ไม่ไปหรอ ไปกับเราสองคนไม่ไปหรอ เราเลยไม่ให้เค้าไปและไปกับเพื่อน ซึ่งกลุ่มที่ไปตีจะมีคนประมาณ 10-15 คนต่อครั้ง และก็มีเพื่อนกลุ่มที่ไปวิ่ง รวมถึงมีเพื่อนผู้ชายคนนั้นด้วย
เหตุการณ์ที่สาม : ไปกินส้มตำ
- หลังจากตีแบทไปกินส้มตำ บอกแฟนว่าไปกับเพื่อน ผญ และแฟนเพื่อน ผญ แต่ไม่ได้บอกว่ามีเพื่อนผช ที่ไปวิ่งด้วยกันไปด้วย
เหตุการณ์ที่สี่ : ไปดูหนัง
-เราไปดูหนังกับเพื่อนผู้ชายแล้วไม่ได้บอกแฟน (เพื่อนที่คือเพื่อนจริงๆ)
3 หัวข้อคือเหตุการหลักๆที่เกิดช่วง 1 เดือนที่เราไม่รู้สึกรักเค้าเท่าเดิม แต่กำลังทำให้มันเหมือนเดิม ซึ่งเราก็กลับมารุ้สึกเหมือนเดิมในเดือนต่อมา และเราก็เลยไม่ได้ย้อนบอกอะไรกับแฟน และเราก็คุยกันเรื่องงานแต่งงาน เดิมทีคุยว่าอีก 2ปีจะแต่ง แต่พอความรู้สึกเรากลับมาเป็นเหมือนเดิม เราเลยตกลงว่าเราจะแต่งงานกันช่วงต้นปีหน้า แต่ก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น คือเพื่อนเค้ามาเห็นเราทั้ง 4 เหตุการณ์
วันนั้นเราไปเที่ยวกับแฟนเรา นาง E โทรมาถามว่าอยู่กับเราไม๊ พอรู้ว่าอยู่นาง E ก็วาง วันถัดมาก็โทรอีกรอบ และพอรู้ว่าอยู่กับเราก็วางไปอีกเหมือนเดิม
จนมีวันนึงที่นาง E ได้คุยกับแฟนเรา ก็เกิดการบอกเรื่องราวเกิดขึ้น
สายแรก บอกเหตุการดูหนัง : ตอนเช้านาง E ให้แฟนเราโทรหานาง D เพราะนาง D มีเรื่องจะบอก
สายที่สอง บอกเหตุการณ์วิ่ง+ตีแบท : นาง B โทรมาแฮปปี้เบิดร์เดย์แฟนเรา ละส่งมือถือให้นาย A เล่าเรื่องต่อ นายเอบอกว่าไม่ได้บอกตั้งแต่งานวิ่งเพราะคิดว่าไม่มีอะไร แต่พอมาที่คอร์ดแบทแล้วรู้สึกแปลกๆ เลยโทรมาบอก
รอบที่ 3 : แฟนเราไปกินข้าวที่ร้านส้มตำที่เราไป ละเพื่อนก็พูดว่า ร้านนี้แฟนเคยมากินหนิ เห็นมาเป็นคู่
- เรื่องทั้ง 4 เหตุการเกิดเดือน มกราคม แต่เพื่อนทุกคนมาบอกเดือนเมษายน
เหตุการณ์ที่ 1 : กูเห็นแฟนมืงไปวิ่งอะ แต่ไม่เห็นไปด้วยเลย
บุคลที่เห็น : นาย A (แฟนของนาง B เพื่อนของแฟนเรา) แล้วนายA ก็ไปเล่าให้นาง B ฟัง
(วิ่งเป็นกลุ่ม!!!)
เหตุการณ์ที่ 2 : กูเห็น ผช คนเดิมไปตีแบทกับแฟนมืงอะ นั่งข้างกันด้วย เดินกลับด้วยกันด้วย
บุคคลที่เห็น : นาย A
(ไปตีกันหลายคนมาก / เรานั่งที่ประจำ นั่งแบบที่คนทั่วไปนั่งข้างกัน แบบที่เพื่อนนั่งข้างกัน / มันต้องเดินออกทางนั้น เพราะประตูอยู่ตรงนั้น ที่จอดรถจอดมันต้องออกประตูนั้น)
เหตุการณ์ที่ 3 : กูเห็นแฟนมืงไปกินส้มตำกันเป็นคู่อะ 2คู่ กินเบียร์ด้วย2ขวด
บุคลที่เห็น : นาย C
(เอาจริงเรายังจำไม่ได้เลยว่ากินเบียร์ไม๊ เพราะมันผ่านไป3เดือนแล้ว / ทำไมใช้คำว่าคู่ ในเมื่อมันคือกลุ่มเพื่อน / ที่เราไม่บอกเพราะแฟนชอบประชดว่าไปกับเพื่อนกลุ่มนี้คงมีความสุขเนอะ ขนาดหลุด IF ได้)
เหตุการณ์ที่ 4 : เพื่อนเอารูปโปสเตอร์หนังให้แฟนดู ละบอกว่า มืงเอาไปถามแฟนมืงดูนะ
บุคคลที่เห็น : นาง D (เพื่อนของนาง E เพื่อนสนิทแฟนเรา) โดยนาง E เป็นคนโทรบอกให้แฟนเราโทรหานาง D นาง D มีเรื่องจะคุย
(อันนี้ไม่ได้บอก เราไปเลย กลับมาก็คุยกับแฟนปกติ ไม่ได้บอก)
แฟนเรารู้เรื่อง 3 เรื่องก่อน (เหตุการณ์ 1,2,4) และเราก็เคลียร์กัน และเข้าใจกันดีแล้ว ผ่านไปประมาณ 1 อาทิตย์ นาย C ก็มาเล่าต่อทำให้ทะเลาะกันอีก และแฟนมองว่าเราโกหกซ้ำซ้อน จนตอนนี้แฟนเรารู้สึกว่า
1. เราไม่ใช่เซฟโซน
2. ความสัมพันธ์แบบนี้ไม่โอเค
3. เค้าขอยกเลิกงานแต่งไปแบบไม่ม่กำหนด
4.เค้าขอลดสถานะเหลือเป็นเพื่อนกัน แต่ก็ไม่อยากให้เรามีใคร เพราะจะได้ปรับปรุงตัวเองทั้งคู่
*** แฟนเราเคยรับปากว่าจะช่วยเหลือเรา แต่พอถึงเวลาที่รับปากไว้ และเกิดเรื่องนี้ขึ้น แฟนเราก็บอหว่าไม่สะดวกใจจะช่วยแล้ว***
แฟนเราบอกไม่โกรธ และให้อภัย แต่มันลืมเรื่องนี้ไม่ได้ ถ้าเป็นแฟนอยู่เค้าจะคาดหวัง กลัวจะงี่เง่า กลัวจะทำให้อึดอัดใจกัน
อยากถามว่า...
- เราควรยอมลดสถานะ หรือต่างคนต่างอยู่
-เพื่อนของแฟนทำแบบนี้คือเค้าต้องการอะไร เค้าเป็นห่วงเพื่อนเค้าหรอ
-เรารักแฟน แต่เหมือนแฟนยอมปล่อยความสัมพันธ์แล้ว เราควรยื้อไม๊
*** แฟนเราอายุ 43 เราอายุ 34 ***
ลืมบอกไปค่ะ : เคยคุยเรื่องจะแต่งงานก่อนหน้ารอบนี้ไปแล้ว แต่ต้องเลื่อนเพราะเกิดปัญหาส่วนตัวของฝั่งแฟน ถ้าเลื่อนรอบนี้ก็จะเป็นการเลื่อนรอบที่ 2 ค่ะ เพราะแฟนบอกพื้นฐานเรายังไม่แน่น ต้องปรับจูนกันอีก ถ้าแต่งไปแบบนี้เดี๋ยวก็หย่า และตอนนี้ก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่อยากแต่งงาน
แฟนขอลดสถานะ แต่อยากให้ทำตัวเหมือนตอนเป็นแฟน ควรไปต่อหรือพอแค่นี้
เหตุการณ์แรก : วิ่งเทรล
- ชวนเค้าไปแต่เค้าไม่ไป ให้เราไปวิ่งพื้นถนนให้ได้ก่อน ชวนอยู่ 2 ครั้ง จนคิดว่าเค้าคงไม่ไป เราเลยชวนเพื่อนไป ตอนแรกมีสมาชิก 5 คน พอเค้ารู้เค้าบอกว่าคนไปเยอะอะ น่าสนุกจัง ขอไปด้วย ตอนนั้นเราก็ไม่อยากให้เค้าไปแล้ว เพราะเหมือนเค้าแค่อยากไปเพราะมีหลายคน ไม่ได้อยากไปกับเรา ต่อมามีสมาชิกเพิ่มอีก 1 คน และเป็นผู้ชาย ซึ่งเป็นเพื่อนรู้จักมานานแล้ว แต่เราไม่ได้บอกแฟนว่ามีสมาชิกเพิ่ม เพราะกลัวเค้าจะน้อยใจว่าอีกคนไปได้ ทำไมเค้าไปไม่ได้
- โกหกว่าไป 5 แต่จริงๆไป 6
เหตุการณ์ทีสอง : ตีแบท
- เราเคยชวนเค้าตีแบทแล้ว แต่เค้าก็บอกไกล ไม่สะดวก พอเราไปตีและกลับมาเล่าให้เค้าฟังว่ามันสนุกมาก บลาๆ เค้าก็บอกว่า คนเยอะดีอะ น่าสนุกจัง ขอไปด้วย แต่เราก็รู้สึกน้อยใจอีกว่า แล้วถ้าไม่มีคนเยอะๆ เค้าก็ไม่ไปหรอ ไปกับเราสองคนไม่ไปหรอ เราเลยไม่ให้เค้าไปและไปกับเพื่อน ซึ่งกลุ่มที่ไปตีจะมีคนประมาณ 10-15 คนต่อครั้ง และก็มีเพื่อนกลุ่มที่ไปวิ่ง รวมถึงมีเพื่อนผู้ชายคนนั้นด้วย
เหตุการณ์ที่สาม : ไปกินส้มตำ
- หลังจากตีแบทไปกินส้มตำ บอกแฟนว่าไปกับเพื่อน ผญ และแฟนเพื่อน ผญ แต่ไม่ได้บอกว่ามีเพื่อนผช ที่ไปวิ่งด้วยกันไปด้วย
เหตุการณ์ที่สี่ : ไปดูหนัง
-เราไปดูหนังกับเพื่อนผู้ชายแล้วไม่ได้บอกแฟน (เพื่อนที่คือเพื่อนจริงๆ)
3 หัวข้อคือเหตุการหลักๆที่เกิดช่วง 1 เดือนที่เราไม่รู้สึกรักเค้าเท่าเดิม แต่กำลังทำให้มันเหมือนเดิม ซึ่งเราก็กลับมารุ้สึกเหมือนเดิมในเดือนต่อมา และเราก็เลยไม่ได้ย้อนบอกอะไรกับแฟน และเราก็คุยกันเรื่องงานแต่งงาน เดิมทีคุยว่าอีก 2ปีจะแต่ง แต่พอความรู้สึกเรากลับมาเป็นเหมือนเดิม เราเลยตกลงว่าเราจะแต่งงานกันช่วงต้นปีหน้า แต่ก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น คือเพื่อนเค้ามาเห็นเราทั้ง 4 เหตุการณ์
วันนั้นเราไปเที่ยวกับแฟนเรา นาง E โทรมาถามว่าอยู่กับเราไม๊ พอรู้ว่าอยู่นาง E ก็วาง วันถัดมาก็โทรอีกรอบ และพอรู้ว่าอยู่กับเราก็วางไปอีกเหมือนเดิม
จนมีวันนึงที่นาง E ได้คุยกับแฟนเรา ก็เกิดการบอกเรื่องราวเกิดขึ้น
สายแรก บอกเหตุการดูหนัง : ตอนเช้านาง E ให้แฟนเราโทรหานาง D เพราะนาง D มีเรื่องจะบอก
สายที่สอง บอกเหตุการณ์วิ่ง+ตีแบท : นาง B โทรมาแฮปปี้เบิดร์เดย์แฟนเรา ละส่งมือถือให้นาย A เล่าเรื่องต่อ นายเอบอกว่าไม่ได้บอกตั้งแต่งานวิ่งเพราะคิดว่าไม่มีอะไร แต่พอมาที่คอร์ดแบทแล้วรู้สึกแปลกๆ เลยโทรมาบอก
รอบที่ 3 : แฟนเราไปกินข้าวที่ร้านส้มตำที่เราไป ละเพื่อนก็พูดว่า ร้านนี้แฟนเคยมากินหนิ เห็นมาเป็นคู่
- เรื่องทั้ง 4 เหตุการเกิดเดือน มกราคม แต่เพื่อนทุกคนมาบอกเดือนเมษายน
เหตุการณ์ที่ 1 : กูเห็นแฟนมืงไปวิ่งอะ แต่ไม่เห็นไปด้วยเลย
บุคลที่เห็น : นาย A (แฟนของนาง B เพื่อนของแฟนเรา) แล้วนายA ก็ไปเล่าให้นาง B ฟัง
(วิ่งเป็นกลุ่ม!!!)
เหตุการณ์ที่ 2 : กูเห็น ผช คนเดิมไปตีแบทกับแฟนมืงอะ นั่งข้างกันด้วย เดินกลับด้วยกันด้วย
บุคคลที่เห็น : นาย A
(ไปตีกันหลายคนมาก / เรานั่งที่ประจำ นั่งแบบที่คนทั่วไปนั่งข้างกัน แบบที่เพื่อนนั่งข้างกัน / มันต้องเดินออกทางนั้น เพราะประตูอยู่ตรงนั้น ที่จอดรถจอดมันต้องออกประตูนั้น)
เหตุการณ์ที่ 3 : กูเห็นแฟนมืงไปกินส้มตำกันเป็นคู่อะ 2คู่ กินเบียร์ด้วย2ขวด
บุคลที่เห็น : นาย C
(เอาจริงเรายังจำไม่ได้เลยว่ากินเบียร์ไม๊ เพราะมันผ่านไป3เดือนแล้ว / ทำไมใช้คำว่าคู่ ในเมื่อมันคือกลุ่มเพื่อน / ที่เราไม่บอกเพราะแฟนชอบประชดว่าไปกับเพื่อนกลุ่มนี้คงมีความสุขเนอะ ขนาดหลุด IF ได้)
เหตุการณ์ที่ 4 : เพื่อนเอารูปโปสเตอร์หนังให้แฟนดู ละบอกว่า มืงเอาไปถามแฟนมืงดูนะ
บุคคลที่เห็น : นาง D (เพื่อนของนาง E เพื่อนสนิทแฟนเรา) โดยนาง E เป็นคนโทรบอกให้แฟนเราโทรหานาง D นาง D มีเรื่องจะคุย
(อันนี้ไม่ได้บอก เราไปเลย กลับมาก็คุยกับแฟนปกติ ไม่ได้บอก)
แฟนเรารู้เรื่อง 3 เรื่องก่อน (เหตุการณ์ 1,2,4) และเราก็เคลียร์กัน และเข้าใจกันดีแล้ว ผ่านไปประมาณ 1 อาทิตย์ นาย C ก็มาเล่าต่อทำให้ทะเลาะกันอีก และแฟนมองว่าเราโกหกซ้ำซ้อน จนตอนนี้แฟนเรารู้สึกว่า
1. เราไม่ใช่เซฟโซน
2. ความสัมพันธ์แบบนี้ไม่โอเค
3. เค้าขอยกเลิกงานแต่งไปแบบไม่ม่กำหนด
4.เค้าขอลดสถานะเหลือเป็นเพื่อนกัน แต่ก็ไม่อยากให้เรามีใคร เพราะจะได้ปรับปรุงตัวเองทั้งคู่
*** แฟนเราเคยรับปากว่าจะช่วยเหลือเรา แต่พอถึงเวลาที่รับปากไว้ และเกิดเรื่องนี้ขึ้น แฟนเราก็บอหว่าไม่สะดวกใจจะช่วยแล้ว***
แฟนเราบอกไม่โกรธ และให้อภัย แต่มันลืมเรื่องนี้ไม่ได้ ถ้าเป็นแฟนอยู่เค้าจะคาดหวัง กลัวจะงี่เง่า กลัวจะทำให้อึดอัดใจกัน
อยากถามว่า...
- เราควรยอมลดสถานะ หรือต่างคนต่างอยู่
-เพื่อนของแฟนทำแบบนี้คือเค้าต้องการอะไร เค้าเป็นห่วงเพื่อนเค้าหรอ
-เรารักแฟน แต่เหมือนแฟนยอมปล่อยความสัมพันธ์แล้ว เราควรยื้อไม๊
*** แฟนเราอายุ 43 เราอายุ 34 ***
ลืมบอกไปค่ะ : เคยคุยเรื่องจะแต่งงานก่อนหน้ารอบนี้ไปแล้ว แต่ต้องเลื่อนเพราะเกิดปัญหาส่วนตัวของฝั่งแฟน ถ้าเลื่อนรอบนี้ก็จะเป็นการเลื่อนรอบที่ 2 ค่ะ เพราะแฟนบอกพื้นฐานเรายังไม่แน่น ต้องปรับจูนกันอีก ถ้าแต่งไปแบบนี้เดี๋ยวก็หย่า และตอนนี้ก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่อยากแต่งงาน