เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2567 ผมเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ a จำได้ว่าเคยทำประกันภัย IPD กับ opd กับบริษัทประกันภัยบริษัทหนึ่ง ขึ้นต้นด้วย ตัว Pทำมา 2 ปี เข้าปีที่ 2 เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ a ตอนนั้นรู้สึกว่าร่างกาย ไม่ไหวจริงฝืนไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเนื่องจากคิดได้ว่าเรามีประกันอยู่ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เอกชนแห่งหนึ่ง แถว พรานนก ไข้ขึ้น 40 องศา คุณหมอได้แอดมิด เพราะที่บ้านมีเบบี๋กับ คุณแม่อยู่ด้วยเกรงว่าเดี๋ยวจะติดไข้หวัดไปด้วยกันทั้งหมด อีกทั้งตอนนั้นร่างกายก็คือไข้ขึ้นอย่างสูง พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลประมาณ 3 วัน ตอนเข้ารักษาได้แจ้งเรื่องสิทธิ์การใช้ประกันทุกอย่างกับโรงพยาบาลไป ว่าเรามีประกันอะไรบ้าง
แต่พอใช้จริงไม่สามารถที่จะใช้ได้เนื่อง ตอนที่จะออกจากโรงพยาบาล โรงพยาบาลได้ ทำเรื่องกับประกัน จากนั้น ได้รับแจ้งจากประกันว่า ไม่สามารถแฟกซ์เคลมได้ ให้สำรองเงินไปก่อน ทำให้ผมคิดว่าตอนนั้นถ้าผมไม่มีเงินสำรองอยู่เลย ยอดเงินการรักษาประมาณ 37,000 กว่าบาท ผมจะทำยังไง ออกจากโรงพยาบาลก็ไม่ได้ เขาไม่สามารถหาเงินมาจ่ายชำระได้ เนื่องจากประกันแจ้งว่าไม่สามารถแฟกซ์เคลมให้ได้ต้องสำรองเงินจ่าย พอตรวจพบว่า ระหว่างทำการรักษาไข้หวัดสายพันธุ์ a มีการให้ยา ความดันด้วย ซึ่งโรคความดันนี้เป็นโรคประจำตัวซึ่งเป็นมา 2-3 ปี ระหว่างที่เข้าแอดมิดวันแรกคุณหมอได้ถามว่ามีโรคประจำตัวอะไรหรือเปล่า เราก็ได้แจ้งไปว่าเรามีโรคประจำตัวดังนี้ ต้องทานยาประมาณ 2 ตัว ทางโรงพยาบาลนี้แจ้งว่าให้หยุดทานยาเดี๋ยวทางโรงพยาบาล จะดำเนินการเรื่องการให้ยาเอง พร้อมกับยารักษา ผมนอนรักษาตัวโดยให้น้ำเกลือฆ่าเชื้ออยู่ 2 วัน วันที่ 3 อาการค่อยๆดีขึ้น จากนั้นก็คือขอคุณหมอกลับบ้าน ระหว่างทำการรักษา ก็บอกก็ให้ยาลดไข้ยาฆ่าเชื้อและยาความดันมากิน ที่ผมให้ตัวอย่างไป แต่ตอนออกโรงพยาบาลแจ้งว่าไม่สามารถแฟกซ์เคลมได้ เนื่องจากบริษัทประกันไม่อนุมัติ ต้องสำรองจ่าย ถ้าเรารู้อย่างนี้เราจะมารักษาหรือทำประกันทำไม ยังงั้นเรารู้ว่ามีปัญหาแบบนี้เราไปใช้สิทธิ์ประกันสังคมของเราดีกว่า ผมได้รับคำตอบจากบริษัทประกันว่าต้องขอตรวจสอบ ย้อนหลังเกี่ยวกับโรคประจำตัว แต่เรามีความสงสัยว่า ก็เมื่อเรา ประกันภัยไป แจ้งว่าสามารถรักษาได้ต่างๆทุกโรค โดยไม่ต้องสำรองเงินจ่าย เพียงมีแค่บัตรแคร์การ์ด แต่ทำไม พอถึงเหตุการณ์จริงๆแล้วต้องหาเงินมาสำรองจ่ายผมต้องไปหาเงินกู้หนี้ยืม คนอื่นมาจ่ายเพื่อที่จะเอาตัวออกจากโรงพยาบาล แล้วระหว่างดำเนินการจนปัจจุบันนี้ เข้าเดือนพฤษภาคมแล้วก็ยังไม่ได้เงินเคลมประกันแต่อย่างใด ตอนที่เอกสารต่างๆก็รีบทำส่งให้ตั้งแต่วันที่ออกจากโรงพยาบาลทันที
มีใครเคยเจอปัญหาแบบที่ผมเจอบ้างหรือเปล่าครับกับบริษัทประกันอื่นๆ
ใครเคยเจอแบบนี้บ้าง ทำประกัน สุขภาพ แล้วเคลม บอกว่าต้องตรวจสอบประวัติ ทั้งๆที่บอกว่า เคลมได้มีแค่บัตร แคร์การ์ด
แต่พอใช้จริงไม่สามารถที่จะใช้ได้เนื่อง ตอนที่จะออกจากโรงพยาบาล โรงพยาบาลได้ ทำเรื่องกับประกัน จากนั้น ได้รับแจ้งจากประกันว่า ไม่สามารถแฟกซ์เคลมได้ ให้สำรองเงินไปก่อน ทำให้ผมคิดว่าตอนนั้นถ้าผมไม่มีเงินสำรองอยู่เลย ยอดเงินการรักษาประมาณ 37,000 กว่าบาท ผมจะทำยังไง ออกจากโรงพยาบาลก็ไม่ได้ เขาไม่สามารถหาเงินมาจ่ายชำระได้ เนื่องจากประกันแจ้งว่าไม่สามารถแฟกซ์เคลมให้ได้ต้องสำรองเงินจ่าย พอตรวจพบว่า ระหว่างทำการรักษาไข้หวัดสายพันธุ์ a มีการให้ยา ความดันด้วย ซึ่งโรคความดันนี้เป็นโรคประจำตัวซึ่งเป็นมา 2-3 ปี ระหว่างที่เข้าแอดมิดวันแรกคุณหมอได้ถามว่ามีโรคประจำตัวอะไรหรือเปล่า เราก็ได้แจ้งไปว่าเรามีโรคประจำตัวดังนี้ ต้องทานยาประมาณ 2 ตัว ทางโรงพยาบาลนี้แจ้งว่าให้หยุดทานยาเดี๋ยวทางโรงพยาบาล จะดำเนินการเรื่องการให้ยาเอง พร้อมกับยารักษา ผมนอนรักษาตัวโดยให้น้ำเกลือฆ่าเชื้ออยู่ 2 วัน วันที่ 3 อาการค่อยๆดีขึ้น จากนั้นก็คือขอคุณหมอกลับบ้าน ระหว่างทำการรักษา ก็บอกก็ให้ยาลดไข้ยาฆ่าเชื้อและยาความดันมากิน ที่ผมให้ตัวอย่างไป แต่ตอนออกโรงพยาบาลแจ้งว่าไม่สามารถแฟกซ์เคลมได้ เนื่องจากบริษัทประกันไม่อนุมัติ ต้องสำรองจ่าย ถ้าเรารู้อย่างนี้เราจะมารักษาหรือทำประกันทำไม ยังงั้นเรารู้ว่ามีปัญหาแบบนี้เราไปใช้สิทธิ์ประกันสังคมของเราดีกว่า ผมได้รับคำตอบจากบริษัทประกันว่าต้องขอตรวจสอบ ย้อนหลังเกี่ยวกับโรคประจำตัว แต่เรามีความสงสัยว่า ก็เมื่อเรา ประกันภัยไป แจ้งว่าสามารถรักษาได้ต่างๆทุกโรค โดยไม่ต้องสำรองเงินจ่าย เพียงมีแค่บัตรแคร์การ์ด แต่ทำไม พอถึงเหตุการณ์จริงๆแล้วต้องหาเงินมาสำรองจ่ายผมต้องไปหาเงินกู้หนี้ยืม คนอื่นมาจ่ายเพื่อที่จะเอาตัวออกจากโรงพยาบาล แล้วระหว่างดำเนินการจนปัจจุบันนี้ เข้าเดือนพฤษภาคมแล้วก็ยังไม่ได้เงินเคลมประกันแต่อย่างใด ตอนที่เอกสารต่างๆก็รีบทำส่งให้ตั้งแต่วันที่ออกจากโรงพยาบาลทันที
มีใครเคยเจอปัญหาแบบที่ผมเจอบ้างหรือเปล่าครับกับบริษัทประกันอื่นๆ