กระทู้นี้ผมอยากมาแชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นข้อมูลและแนวทางสำหรับคนที่มีอาการเท้าแบน(ไม่มีช่องว่างตรงอุ้งเท้า) เท้าล้มและมีกระดูกงอกตรงอุ้งเท้า(มีตาตุ่มด้านใน2อัน) แล้วส่งผลต่อชีวิตประจำวัน ว่าจริงๆภาวะเหล่านี้สามารถรักษาให้เท้ากลับมาเป็นปกติได้ คือเท้ากลับมามีอุ้ง กลับมาอยู่ในรูปทรงที่ถูกต้อง
—เกริ่น—
เราเป็นคนที่เท้าแบนมาตั้งแต่กำเนิด(กรรมพันธุ์)เพราะญาติพี่น้องเป็นกันเกือบครึ่ง แต่เราไม่สังเกตและไม่รู้จักภาวะนี้เลย ตอนเรียนประถม-มัธยม เพื่อนๆชอบล้อเราว่าเราเดินเหมือนเป็ด เดินบิดก้น ทำให้เราเสียความมั่นใจมากแต่ตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่าสาเหตุมาจากเท้าแบน ตอนม.ปลายเวลาเราเรียน รด เรารู้สึกว่าเราไม่สามารถยืน หรือเดินนานๆเหมือนคนอื่นได้ แต่เราก็คิดว่าอาจจะเป็นเพราะเราไม่มีความอดทนเองเลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก จนกระทั้งเข้ามหาลัยอาการก็เริ่มรุนแรงมากขึ้เวลายืนนานๆแล้วจะปวดทั้งอุ้งเท้า ตาตุ่มด้านนอก ถ้ายืนนานมากขึ้นไปอีก ก็จะปวดเมื่อยไปถึงสันหลังเลย เราจึงต้องไปหาหมอที่รพ.รัฐแห่งหนึ่ง คุณหมอบอกว่าเราเป็นเท้าแบนและเท้าล้ม เพราะกระดูกมันอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องตามที่ตำแหน่งที่ควรจะอยู่ ส่งผลให้เส้นเอ็นทำงานหนักจนอักเสบ
**วิธีสังเกตภาวะเท้าแบนเบื้องต้น ให้สังเกตจากรอยเท้าตัวเองหลังอาบน้ำดูครับ ถ้ารอยเท้าเป็นรอยเต็มไม่มีส่วนเว้าให้สันนิษฐานไว้ได้เลยครับว่าอาจจะเป็นเท้าแบน**
คุณหมอเลยทำช็อคเวฟให้,ให้ยามา,ทำกายภาพ,และให้เราไปทำแผ่นรองรองเท้าเฉพาะบุคคล(Insole) ซึ่งแผ่นรองรองเท้านี้จะหล่อขึ้นมาสำหรับรูปทรงเท้าของเราโดยเฉพาะ ตัวแผ่นก็จะดันตัวอุ้งเท้าให้เท้ากลับมาอยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็น ต้องใส่กับรองเท้าผ้าใบเท่านั้น แต่การใส่แผ่นรองรองเท้าจะไม่ได้ทำให้กลับมามีอุ้งเท้า (ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนการใส่แว่นตา ที่รักษาที่ปลายเหตุ) โดยคุณหมอบอกว่าเราต้องใส่รองเท้าผ้าใบให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ไอ้เราก็คนเอเชียซะด้วยสิ ตอนอยู่บ้านก็ต้องถอดรองเท้าอยู่ดี
จนแล้วจนรอดอาการไม่ดีขึ้น เรารักษาตั้งแต่เรียนมหาลัยยันเรียนจบ พอเริ่มทำงานอาการก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น เราปวดเท้ามากขึ้น โดยเฉพาะตรงอุ้งเท้าและตาตุ่มข้างนอก) ปวดหลังมากขึ้น เพราะต้องยืนเกือบทั้งวัน พอกลับบ้านแล้วเราเดินเท้าเปล่าแทบไม่ได้ โดยเฉพาะเวลาลุกจากเตียงหลังตื่นนอน แฟนต้องมาประคองเวลาจะลุกไปห้องน้ำ
เราจึงตัดสินใจไปรักษากับ รพ.อีกแห่ง จึงได้ทำ MRI ผลปรากฎว่า เรามีกระดูกงอกตรงอุ้งเท้าด้วย (accessory navicular) ซึ่งกระดูกงอกนี้จะพบในคนเท้าแบน ลักษณะจะเหมือนมีตาตุ่มนูนๆบริเวณอุ้งเท้า
รูปตัวอย่าง แต่ของเราชิ้นใหญ่กว่านี้มาก
กระดูกชิ้นนี้ทำให้เส้นเอ็นอักเสบง่าย ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เราปวดอุ้งเท้า และทำให้เวลาเราใส่รองเท้าผ้าใบแล้วเสียดสี (เราเป็นคนที่ใส่รองเท้า crocs แล้วรองเท้าจะชอบกัดตรงบริเวณบริเวณกระดูกงอก) คุณหมอเลยบอกว่าจะผ่าแค่เอากระดูกชิ้นนี้ออก แต่ก็ยังคงต้องใช้แผ่นรองรองเท้าอยู่ เพราะของเรายังไม่จำเป็นต้องถึงขั้นผ่ารักษาเท้าแบน แต่ถ้ายังมีอาการปวดอยู่คุณหมอจะผ่ารักษาเท้าแบนให้ (สรุปคือเจ็บตัวหลายรอบ) และการผ่าเท้าแบนต้องเชื่อมข้อ ผลข้างเคียงคือจำทำให้ข้อต่อบางข้อเราขยับได้ไม่เหมือนเดิม เราเลยกลับไปหาข้อมูลเพิ่มเติมจนได้เจอกับคุณหมอกฤษฎิ์ พฤกษะวัน แพทย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อ เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการผ่าตัดเท้าและข้อเท้า จากสื่อต่างๆและรีวิว ซึ่งแพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องเท้าแบนมีไม่กี่คนในประเทศไทย เราจึงหาโอกาสไปตรวจกับคุณหมอ คุณหมอบอกว่าสามารถผ่าตัดจัดปรับแนวกระดูกให้กลับมาใกล้เคียงเหมือนเท้าคนปกติได้ ไม่ต้องถึงขั้นเชื่อมข้อเพราเพราะเราเป็นเท้าแบนชนิดยืดหยุ่น ไม่ใช่ชนิดติดแข็ง(เวลาเขย่งหรือเวลานั่งอุ้งเท้าจะกลับมา) ซึ่งหลังจากผ่าตัดก็สามารถทำกิจกรรมหนักๆได้เหมือนคนปกติ ซึ่งการผ่าตัดจะเป็นการรักษาที่ต้นเหตุเลย(ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนการทำเลสิค) หากเราไม่รักษาจะทำให้เราข้อเสื่อมในอนาคตได้
จริงๆเท้าแบนมีโอกาสกลับมามีอุ้งได้หากเริ่มรักษาตั้งแต่เด็กเล็ก (จำไม่ได้แล้วว่ากี่ขวบถึงกี่ขวบ) เพราะฉะนั้นควรสังเกตลูกหลาน เพราะพอเป็นแล้วมันไม่ตลกเลย เราเสียโอกาสในการทำงานที่ต่างประเทศ ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ต้องใช้เวลาพักฝื้นอย่างน้อยครึ่งปี+ (3เดือน ต่อข้าง)
รายละเอียดการรักษาจะมาเล่าทีหลัง
เล่าประสบการณ์รักษาเท้าแบน รักษาให้หายได้ด้วยการผ่าตัด
—เกริ่น—
เราเป็นคนที่เท้าแบนมาตั้งแต่กำเนิด(กรรมพันธุ์)เพราะญาติพี่น้องเป็นกันเกือบครึ่ง แต่เราไม่สังเกตและไม่รู้จักภาวะนี้เลย ตอนเรียนประถม-มัธยม เพื่อนๆชอบล้อเราว่าเราเดินเหมือนเป็ด เดินบิดก้น ทำให้เราเสียความมั่นใจมากแต่ตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่าสาเหตุมาจากเท้าแบน ตอนม.ปลายเวลาเราเรียน รด เรารู้สึกว่าเราไม่สามารถยืน หรือเดินนานๆเหมือนคนอื่นได้ แต่เราก็คิดว่าอาจจะเป็นเพราะเราไม่มีความอดทนเองเลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก จนกระทั้งเข้ามหาลัยอาการก็เริ่มรุนแรงมากขึ้เวลายืนนานๆแล้วจะปวดทั้งอุ้งเท้า ตาตุ่มด้านนอก ถ้ายืนนานมากขึ้นไปอีก ก็จะปวดเมื่อยไปถึงสันหลังเลย เราจึงต้องไปหาหมอที่รพ.รัฐแห่งหนึ่ง คุณหมอบอกว่าเราเป็นเท้าแบนและเท้าล้ม เพราะกระดูกมันอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องตามที่ตำแหน่งที่ควรจะอยู่ ส่งผลให้เส้นเอ็นทำงานหนักจนอักเสบ
**วิธีสังเกตภาวะเท้าแบนเบื้องต้น ให้สังเกตจากรอยเท้าตัวเองหลังอาบน้ำดูครับ ถ้ารอยเท้าเป็นรอยเต็มไม่มีส่วนเว้าให้สันนิษฐานไว้ได้เลยครับว่าอาจจะเป็นเท้าแบน**
คุณหมอเลยทำช็อคเวฟให้,ให้ยามา,ทำกายภาพ,และให้เราไปทำแผ่นรองรองเท้าเฉพาะบุคคล(Insole) ซึ่งแผ่นรองรองเท้านี้จะหล่อขึ้นมาสำหรับรูปทรงเท้าของเราโดยเฉพาะ ตัวแผ่นก็จะดันตัวอุ้งเท้าให้เท้ากลับมาอยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็น ต้องใส่กับรองเท้าผ้าใบเท่านั้น แต่การใส่แผ่นรองรองเท้าจะไม่ได้ทำให้กลับมามีอุ้งเท้า (ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนการใส่แว่นตา ที่รักษาที่ปลายเหตุ) โดยคุณหมอบอกว่าเราต้องใส่รองเท้าผ้าใบให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ไอ้เราก็คนเอเชียซะด้วยสิ ตอนอยู่บ้านก็ต้องถอดรองเท้าอยู่ดี
จนแล้วจนรอดอาการไม่ดีขึ้น เรารักษาตั้งแต่เรียนมหาลัยยันเรียนจบ พอเริ่มทำงานอาการก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น เราปวดเท้ามากขึ้น โดยเฉพาะตรงอุ้งเท้าและตาตุ่มข้างนอก) ปวดหลังมากขึ้น เพราะต้องยืนเกือบทั้งวัน พอกลับบ้านแล้วเราเดินเท้าเปล่าแทบไม่ได้ โดยเฉพาะเวลาลุกจากเตียงหลังตื่นนอน แฟนต้องมาประคองเวลาจะลุกไปห้องน้ำ
เราจึงตัดสินใจไปรักษากับ รพ.อีกแห่ง จึงได้ทำ MRI ผลปรากฎว่า เรามีกระดูกงอกตรงอุ้งเท้าด้วย (accessory navicular) ซึ่งกระดูกงอกนี้จะพบในคนเท้าแบน ลักษณะจะเหมือนมีตาตุ่มนูนๆบริเวณอุ้งเท้า
รูปตัวอย่าง แต่ของเราชิ้นใหญ่กว่านี้มาก
กระดูกชิ้นนี้ทำให้เส้นเอ็นอักเสบง่าย ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เราปวดอุ้งเท้า และทำให้เวลาเราใส่รองเท้าผ้าใบแล้วเสียดสี (เราเป็นคนที่ใส่รองเท้า crocs แล้วรองเท้าจะชอบกัดตรงบริเวณบริเวณกระดูกงอก) คุณหมอเลยบอกว่าจะผ่าแค่เอากระดูกชิ้นนี้ออก แต่ก็ยังคงต้องใช้แผ่นรองรองเท้าอยู่ เพราะของเรายังไม่จำเป็นต้องถึงขั้นผ่ารักษาเท้าแบน แต่ถ้ายังมีอาการปวดอยู่คุณหมอจะผ่ารักษาเท้าแบนให้ (สรุปคือเจ็บตัวหลายรอบ) และการผ่าเท้าแบนต้องเชื่อมข้อ ผลข้างเคียงคือจำทำให้ข้อต่อบางข้อเราขยับได้ไม่เหมือนเดิม เราเลยกลับไปหาข้อมูลเพิ่มเติมจนได้เจอกับคุณหมอกฤษฎิ์ พฤกษะวัน แพทย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อ เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการผ่าตัดเท้าและข้อเท้า จากสื่อต่างๆและรีวิว ซึ่งแพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องเท้าแบนมีไม่กี่คนในประเทศไทย เราจึงหาโอกาสไปตรวจกับคุณหมอ คุณหมอบอกว่าสามารถผ่าตัดจัดปรับแนวกระดูกให้กลับมาใกล้เคียงเหมือนเท้าคนปกติได้ ไม่ต้องถึงขั้นเชื่อมข้อเพราเพราะเราเป็นเท้าแบนชนิดยืดหยุ่น ไม่ใช่ชนิดติดแข็ง(เวลาเขย่งหรือเวลานั่งอุ้งเท้าจะกลับมา) ซึ่งหลังจากผ่าตัดก็สามารถทำกิจกรรมหนักๆได้เหมือนคนปกติ ซึ่งการผ่าตัดจะเป็นการรักษาที่ต้นเหตุเลย(ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนการทำเลสิค) หากเราไม่รักษาจะทำให้เราข้อเสื่อมในอนาคตได้
จริงๆเท้าแบนมีโอกาสกลับมามีอุ้งได้หากเริ่มรักษาตั้งแต่เด็กเล็ก (จำไม่ได้แล้วว่ากี่ขวบถึงกี่ขวบ) เพราะฉะนั้นควรสังเกตลูกหลาน เพราะพอเป็นแล้วมันไม่ตลกเลย เราเสียโอกาสในการทำงานที่ต่างประเทศ ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ต้องใช้เวลาพักฝื้นอย่างน้อยครึ่งปี+ (3เดือน ต่อข้าง)
รายละเอียดการรักษาจะมาเล่าทีหลัง