จุดประสงค์ของการตั้งกระทู้ขึ้นมา คือ เพื่อเป็นแนวทางหรือทางเลือกในการรักษาของผู้ที่มีภาวะกระดูกเท้าแบนผิดรูป เพราะ ก่อนผ่าตัดเราหาข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาด้วยการผ่าตัดแก้ปัญหากระดูกเท้าแบนไม่เจอเลยในประเทศไทย เจอแค่เพียงแนวทางการรักษาที่เขียนขึ้นจากแพทย์กระดูกและข้อของโรงพยาบาลใหญ่ๆเท่านั้น แต่จะพบข้อมูลมากในต่างประเทศที่รักษาภาวะเท้าแบนด้วยการผ่าตัด จึงอยากเล่าแบบละเอียดๆเลย กระทู้อาจจะยาว ข้ามไปอ่านย่อหน้าท้ายๆได้เลยค่ะ

จุดเริ่มต้นของเรา คือว่า เมื่อ 3 ปีก่อน ชอบวิ่งมากๆ ลงงานวิ่งทุกสัปดาห์ แต่ทุกครั้งที่วิ่งจบไม่ว่าจะระยะเท่าไหร่ 3กิโล 5กิโล 10กิโล จน21กิโล มันจะจบด้วยการปวดข้อเท้าด้านใน ปวดฝ่าเท้าทุกครั้ง ปวดและมีอาการมากที่สุดที่เท้าด้านซ้าย ทั้งที่คิดว่ายืดกล้ามเนื้อดีแล้วทุกครั้งทั้งก่อนและหลังวิ่ง เริ่มเป็นมากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ หลังๆมาวิ่งจบต้องกินยาคลายกล้ามเนื้อและยาแก้ปวดทุกครั้ง ก็หายไปแต่วิ่งอีกก็เป็นอีก สายวิ่งแล้วเป็นคนเท้าแบนจะรู้จักปัญหานี้ดี จนวันหนึ่งเดินๆอยู่ข้อเท้าด้านซ้ายพลิกค่ะ แต่ของเรามันพลิกออกด้านนอกและเจ็บปวดมากๆที่ข้อเท้าด้านใน ซึ่งส่วนมากข้อเท้าพลิกจะพลิกเข้าด้านในและปวดทางด้านนอก (ตามรูปด้านล่างนี้ของเราจะเป็นตามด้านขวาค่ะ)

การที่ข้อเท้าพลิกในครั้งนั้นยังไม่ได้ไปพบแพทย์ในทันที เพราะ คิดว่ากินยาก็ดีขึ้นและสักพักมันน่าจะหายเองได้ จนผ่านไปประมาณ 3 เดือน มันก็ยังปวดอยู่และก็บวมด้วย ที่ข้อเท้าด้านใน มันจะปวดแป๊บๆ เริ่มส่งผลต่อชีวิตประจำวันและทรมานมากขึ้นเวลาเดิน คิดว่าไปหาหมอดีกว่า ที่โรงพยาบาลเวชธานี ที่นี่เป็นโรงพยาบาลที่มารักษาเป็นประจำอยู่แล้ว คุณหมอส่ง X-Ray ไม่มีกระดูกหัก แต่เอ็นอักเสบ การรักษาในตอนนั้นก็คือ ใส่เฝือกอ่อน 2 สัปดาห์ กินยา ก็ดีขึ้นนิดหน่อย แต่เวลาผ่านไป 6-7 เดือน ก็ยังปวดอยู่เหมือนเดิม บวมเหมือนเดิม คุณหมอเลยให้ทำกายภาพสัปดาห์ละ 3 ครั้ง 1 เดือน ก็ดีขึ้นบ้างแต่ไม่หาย ยังบวมอยู่มาก และ ข้อเท้าข้างซ้ายก็พลิกซ้ำเรื่อยๆ แต่ไม่พลิกแรงเท่ารอบแรก คุณหมอเลยมีทางเลือกในการรักษาเพิ่มเติม คือ ฉีด PRP (Platelet Rich Plasma) ตรงนี้ขอไม่ลงรายละเอียดเยอะนะคะ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ
https://www.vejthani.com/th/2016/02/%E0%B8%89%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%99/
คือ เจาะเลือดเราไปปั่นจะได้ส่วน Plasma สีเหลืองๆ แล้วคุณหมอจะเอาส่วนสีเหลืองๆมาฉีดตรงจุดที่เราปวดที่ข้อเท้าด้านใน เจ็บมากๆ ความเจ็บเต็ม10 คืออยู่ในระดับ10 เลยฉีดเข็มแรกดีขึ้นมากๆ ถัดมาอีก 1 เดือน ฉีดอีก 1 เข็ม แต่เข็มที่สองไม่เจ็บเท่าเข็มแรก ไม่รู้ว่าชินหรืออะไร 555 ดีขึ้นพอๆกับเข็มแรก แต่ก็ยังไม่หายขาดยังเจ็บยังปวดอยู่ที่จุดเดิมๆเวลาเดิน ตอนนั้นเวลาผ่านมา 9 เดือนที่เท้าพลิก ก็ไม่มีท่าทีว่าจะหาย แถมยังเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ จนใส่ส้นสูงไม่ได้ มันเริ่มกระทบกับชีวิตประจำมากขึ้นๆเรื่อยๆ วันไหนเดินเยอะก็จะปวดและบวมเยอะ ตลอดการรักษาก็มีนัด Follow up ตลอดทุกๆ 2-3 สัปดาห์ แต่มันก็ไม่ค่อยมีอะไรดีขึ้นเลย คุณหมอเลยให้ทำ MRI เพื่อดูเส้นเอ็นและกระดูกอ่อนที่อยู่ด้านในลึกๆ ผล MRI คือ เอ็นไม่มีการฉีกหรือขาดเลย คุณหมอท่านแรกจึงแนะนำให้ไปพบกับ นพ.กฤษฎิ์ พฤกษะวัน ซึ่งเป็นแพทย์เฉพาะทาง "ศัลยศาสตร์กระดูกและข้อเฉพาะทางเท้าและข้อเท้า" ของโรงพยาบาลเวชธานี คุณหมอใจดีม๊ากกกกกกกกกกก
คุณหมอถามอาการที่เป็นทั้งหมดและดูที่เท้าเรา คุณหมอบอกว่าที่เราปวดไม่หายซักที อาการปวดที่ข้อเท้าด้านใน และ ข้อเท้าพลิกออกด้านนอกบ่อยๆ ที่เป็นอยู่ทั้งหมดนี้ เพราะ ว่าเราเป็นคน "เท้าแบน" กระดูกเท้าผิดรูป ไม่มีอุ้งเท้า เท้าไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้ง สังเกตง่ายๆเลย คือ คนเท้าแบนจะใส่รองเท้าแล้วสึกเป็นจุดๆที่รองเท้าด้านใน(ด้านนิ้วโป้ง) รองเท้าจะเสียรูปทรง และ พังเร็ว เพราะ เวลาเดินข้อเท้าเราจะบิดและลงน้ำหนักที่ข้อเท้าด้านในแค่จุดเดียวเท่านั้น คนที่มีเท้าปกติเวลาเดินจะลงน้ำหนักกระจายไปทั่วเท้า (ขออ้างอิงรายละเอียดเรื่องเท้าแบนจากลิ้งค์ของโรงพยาบาลแล้วกันนะคะ)
https://www.vejthani.com/th/2021/02/%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%99-%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b9%87%e0%b8%81%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%81/ แรกๆที่ไปรักษากับคุณหมอกฤษฎิ์ คุณหมอแนะนำให้ใส่แผ่น Insole ก่อน แต่เจ้า Insole นี้มันก็ต้องใส่กับรองเท้าผ้าใบเท่านั้นอีกเราก็ไม่ค่อยโอเคกับมันเท่าไหร่มันแน่นๆที่เท้าไปหมดก็ใส่บ้างไม่ใส่บ้าง ก็รักษาแบบประคับประคองอาการ Follow up การรักษาต่อเนื่องมาตลอดอีกประมาณ 9 เดือน

ก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นเลย X-Ray กี่รอบๆก็แบนมากขึ้นเรื่อยๆ วันไหนเดินเยอะก็ต้องกินยาแก้ปวด ไม่อย่างนั้นจะปวดจนนอนไม่ได้เลย กินยาแก้ปวดมากๆก็จะมีผลต่อกระเพาะอาหารไปอีก กินติดต่อกันไปเรื่อยๆก็อาจจะตามมาด้วยโรคตับ โรคไต เพิ่มมาอีกหลายๆโรค คุณหมอเลยต้องคุยถึงวิธีการรักษาใน Step ต่อไป
การรักษา ณ จุดนี้ คือ ถ้าจะให้เท้าเรามีรูปเท้าที่ปกติ มีอุ้งเท้า มีส่วนเว้าส่วนโค้งที่เท้า ข้อเท้าไม่บิดเอียงเข้าด้านในเวลาเดิน ก็คือ "การผ่าตัด" ทางเดียวเท่านั้น เพราะ อาการปวดและการอักเสบที่เป็นอยู่ได้เรื้อรังไปแล้ว และ การรักษาที่เราทำมาทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นปีๆ ทั้งกายภาพบำบัด และ การฉีด PRP นั้นช่วยเรื่องลดการอักเสบและลดความเจ็บปวดระยะสั้นๆเท่านั้น ไม่ทำให้เรากลับมามีรูปเท้าเหมือนคนปกติ จึงเหลืออย่างเดียว คือ การผ่าตัด ซึ่งวิธีการผ่าตัดของคุณหมอ คือ ผ่าตัดเปิดเข้าไปตัดและปรับแนวกระดูกใหม่ ยืดกระดูกออกไป 6-8 มิลลิเมตร ช่องว่างที่ถูกยืดออกจะต้องเสริมกระดูกเทียมเข้าไป และ ยึดด้วยไทเทเนี่ยมตรงกระดูกส่วนที่เป็นช่องระหว่างกระดูกเทียมกับกระดูกจริงของเรา และ หลังผ่าตัดต้องงดลงน้ำหนักที่เท้าข้างซ้ายเลย 6 สัปดาห์ ต้องใช้ไม้ค้ำยันในการเดิน เป็นวิธีการผ่าตัดและการพักฟื้นหลังผ่าตัดที่ฟังดูน่ากลัวและเป็นท้อมากๆ แต่เราก็ทรมานอยู่กับความเจ็บปวดมา 1 ปีครึ่งแล้ว และ Lifestyle ของเราต้องเดินทางไปโน่นนี่นั่นตลอด Activity แต่ละวันมากมายอยู่นิ่งไม่ได้ มันส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก แต่ก็กังวลและแอบเครียดอยู่ไม่น้อยถ้าจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัด เพราะ เป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างใหญ่ และ ใช้เวลาพักฟื้นหลังผ่าตัดค่อนข้างนานสำหรับเรา อีกอย่างเลย คือ เราหาข้อมูลการผ่าตัดแก้ไขเท้าแบนแทบไม่เจอเลยในไทย แต่จะพบมากในต่างประเทศที่ทำการรักษาด้วยวิธีนี้ ก็สองจิตสองใจ ความปวดบวมก็มากขึ้นทุกวัน แต่ทุกๆครั้งที่ไป Follow up กับคุณหมอกฤษฎิ์ การพูดคุยของคุณหมอจะทำให้เราได้รับความสบายใจกลับมาทุกครั้ง คุณหมอตอบคำถามตอบทุกข้อสงสัยของเราได้หมดอย่างมีความมั่นใจ ไม่เคยรำคาญหรือเบื่อที่จะตอบคำของเราเลยซักครั้ง บางครั้งก็เป็นคำถามซ้ำๆเดิมๆ คุณหมอก็ตอบเราด้วยความใจเย็นและตอบอย่างละเอียดทุกครั้ง ให้คำแนะนำที่เป็นบวกเสมอ เราเลยโอเคและมั่นใจในตัวคุณหมอมากๆ ร่วมทั้งคุณแม่ก็มั่นใจในตัวคุณหมอมากๆ ที่จะสามารถผ่าตัดในเคสของเราได้ เราจะต้องหาย คุณหมอคลายความกังวลทั้งหมดที่มีให้กับเราจึงตัดสินใจผ่าตัดกับคุณหมออย่างไม่มีความลังเลใดๆแล้ว มั่นใจคุณหมอมากขนาดที่ว่าเคลียร์งานตัวเองแค่ 6 สัปดาห์จริงๆ มั่นใจในมาตรฐานของโรงพยาบาลเวชธานี ที่มีชื่อเสียงเรื่องการรักษาโรคกระดูกและข้อ ตรงนี้ไม่กังวลเรื่องการผ่าตัดเท่าไหร่แล้ว แต่กังวลและกลัวเรื่องความเจ็บปวดหลังผ่าตัดแทน คิดว่าต้องเจ็บปวดแน่นอนหลังผ่าตัดเพราะต้องทำเยอะ เมื่อตกลงที่จะผ่าตัดแล้วก็เลือกวันที่จะผ่า ส่วนเวลาให้คุณหมอเลือกให้ 555 สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ประเมินราคาค่าผ่าตัดทั้งหมดและส่งเรื่องเช็คกับประกันสุขภาพที่เรามี ตรงนี้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลและตัวแทนประกันของเราเป็นคนจัดการให้ทั้งหมด ประมาณ 3 วัน บริษัทประกันก็ตอบกลับมาที่ตัวแทนและทางโรงพยาบาลว่า Cover ค่าผ่าตัดค่ารักษาพยาบาลครั้งนี้ทั้งหมด ความตื่นเต้นมาเยือนตั้งแต่ประกันตอบรับ เป็นผ่าตัดใหญ่ครั้งแรกในชีวิต เลือกวันผ่าตัดเป็นวันที่ 3 กันยายน 2563 คุณหมอเลือกเวลาผ่าให้เป็นตอนบ่ายโมงครึ่ง แต่ต้องไปถึงโรงพยาบาลตอน 8 โมงเช้า และต้องงดน้ำงดอาหารตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเป็นต้นไป ไปถึงที่แผนกกระดูกและข้อคุณหมอกฤษฎิ์ก็ขอคุยด้วยว่าจะใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 2-3 ชั่วโมง จะมีแผลผ่าตัดทั้งหมด 2 แผล ทั้งข้อเท้าด้านนอกและข้อเท้าด้านในเลย ที่ต้องผ่าข้อเท้าด้านในด้วยก็เนื่องจากผล MRI ที่ข้อเท้าด้านในมีจุดที่เป็นเงาๆอยู่ที่เส้นเอ็นซึ่งผิดปกติ คุณหมอเลยขอผ่าเข้าไปดูว่าเงานั้นมันคืออะไร ยิ่งกลัวเจ็บปวดเข้าไปใหญ่เลยทีนี้ แต่คุณหมอก็บอกว่าไม่ต้องกังวลน๊า คงไม่กังวลไม่ได้แล้วค่ะ5555 ก่อนผ่าตัดก็ทั่วๆไป มีการเจาะเลือดและก็คาเข็มไว้เลย โดนเจาะไป 2 รอบเพราะ หาเส้นไม่เจอ อ้วนแหล่ะ 555 X-Ray ปอด ตรวจคลื่นหัวใจ พบแพทย์อายุรกรรม ทุกอย่างแข็งแรงดี ก็ไม่มีอะไรสามารถผ่าตัดได้ไม่มีความเสี่ยง ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จสิ้นเข้าไปรอเวลาผ่าตัดที่ห้องพักพยาบาลประจำวอร์ดให้การต้อนรับที่ดีมาก เนื่องจากประกันที่ถืออยู่มีวงเงินค่าห้องค่อนข้างสูง เลยได้อยู่ห้องใหญ่กว้างมาก
เป็นห้องแบบวิว Panorama ได้อยู่ชั้น9 วิวเลยยิ่งดีไปอีก ทางโรงพยาบาลเพิ่งจะ Renovate ห้องใหม่ ทุกอย่างในห้องเลยดูใหม่ไปหมด ห้องดูดีมาก ชอบมากๆเลยค่ะ เหมือนอยู่โรงแรมเลย ระบบปิดเปิดไฟ ปรับอุณหภูมิแอร์ ด้วย iPad ล้ำมาก

รูปจาก Website ของโรงพยาบาล แต่ห้องจริงๆก็แบบนี้เลยเป๊ะๆ

รูปนี้ถ่ายเอง กลับมาที่เรื่องการผ่าตัด ซักพักพยาบาลก็เอาน้ำเกลือมาให้ และ คุณหมอวิสัญญาคนสวยก็มาหาที่ห้อง แจ้งว่าการผ่าตัดวันนี้คุณหมอจะใช้วิธีการบล็อกหลังและตอนผ่าเราจะหลับ วิธีบล็อกหลังจะช่วยเรื่องความเจ็บปวดหลังผ่าตัดได้ดีกว่าดมยาสลบ พร้อมกับแจ้งว่าเราจะต้องเจออะไรบ้างในห้องผ่าตัด และ หลังผ่าตัดเราจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เช่น ท่อนล่างจะขยับไม่ได้ ฉี่ไม่ออกหลังผ่าตัด แต่คุณหมอก็ให้กำลังใจดีมากๆ ไม่ทำให้เรากลัวหรือมีความกังวล การบล็อกหลังวิธีของคุณหมอจะไม่เจ็บคุณหมอจะให้หลับก่อน แต่ก็กลัวเจ็บอยู่ดีแหล่ะ เพราะ อ่านมาเยอะว่าเจ็บ ใกล้ๆบ่ายโมงครึ่งเจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดก็มารับไปที่ห้องผ่าตัด คือ เจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดที่นี่น่ารักมากๆค่ะ พูดให้กำลังใจเราเยอะจนลืมความกลัวที่มีอยู่ทั้งหมดเลย เข้าไปถึงห้องผ่าตัดก็ต้องย้ายเตียงซึ่งมันเล็กมากพอดีตัวเรา นอนกางเขนออก พยาบาลก็เอาอะไรมาติดที่ตัวเยอะไปหมดอย่างรวดเร็ว ได้ยินเสียงไม่รู้ว่าคุณหมอหรือพยาบาลบอกว่า อันนี้ให้ดมออกซิเจนนะคะ คนไข้ตะแคงตัวไปทางซ้ายนะคะ จะฉีดยาให้หลับแล้วนะคะ จะแสบๆที่เส้นนิดนึงนะคะ แสบจริงตรงที่ให้น้ำเกลือนั่นแหล่ะ แต่รู้สึกแค่แป๊บเดียว ตั้งแต่เข้าไปถึงห้องผ่าตัดทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่ถึง 5 นาทีทุกอย่างก็ตัดไปหมดเลย บล็อกหลังตอนไหนไม่รู้ ไม่เจ็บจริงๆ ไม่รู้สึกเลย สิ่งที่เห็นและจำได้คือ อุปกรณ์และเจ้าหน้าที่เยอะมากๆ และก็หนาวมากด้วย ตื่นมาสะลึมสะลืออารมณ์ประมาณนาฬิปลุกแล้วเรายังอยากหลับต่อ ได้ยินเสียง จนท.พูดว่าเสร็จแล้วนะคะเดี๋ยวย้ายเตียงนะคะ ภาพแรกที่เห็นอยู่รอบตัวก็คือ หมอ และ จนท.กำลังช่วยกันย้ายเราไปอีกเตียงนึง ซึ่งคนเยอะมาก เยอะกว่าตอนแรกที่เข้าไปอีก อ้วนอ่ะเนาะเลยต้องใช้คนเยอะ 5555 ออกจากห้องผ่าตัดมาอยู่ที่ห้องพักฟื้นเริ่มมีสติมากขึ้นมองนาฬิกา 16.30 น.ใช้เวลาผ่าตัดไปทั้งหมด 3 ชม. คุณหมอกฤษฎิ์ก็มาบอกว่า หมอยืดกระดูกอกไป 6 มิลลิเมตร (ต่อความคิดเห็นที่1)
แชร์ประสบการณ์รักษากระดูกเท้าแบนผิดรูป (Flat foot) ด้วยการผ่าตัด
คือ เจาะเลือดเราไปปั่นจะได้ส่วน Plasma สีเหลืองๆ แล้วคุณหมอจะเอาส่วนสีเหลืองๆมาฉีดตรงจุดที่เราปวดที่ข้อเท้าด้านใน เจ็บมากๆ ความเจ็บเต็ม10 คืออยู่ในระดับ10 เลยฉีดเข็มแรกดีขึ้นมากๆ ถัดมาอีก 1 เดือน ฉีดอีก 1 เข็ม แต่เข็มที่สองไม่เจ็บเท่าเข็มแรก ไม่รู้ว่าชินหรืออะไร 555 ดีขึ้นพอๆกับเข็มแรก แต่ก็ยังไม่หายขาดยังเจ็บยังปวดอยู่ที่จุดเดิมๆเวลาเดิน ตอนนั้นเวลาผ่านมา 9 เดือนที่เท้าพลิก ก็ไม่มีท่าทีว่าจะหาย แถมยังเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ จนใส่ส้นสูงไม่ได้ มันเริ่มกระทบกับชีวิตประจำมากขึ้นๆเรื่อยๆ วันไหนเดินเยอะก็จะปวดและบวมเยอะ ตลอดการรักษาก็มีนัด Follow up ตลอดทุกๆ 2-3 สัปดาห์ แต่มันก็ไม่ค่อยมีอะไรดีขึ้นเลย คุณหมอเลยให้ทำ MRI เพื่อดูเส้นเอ็นและกระดูกอ่อนที่อยู่ด้านในลึกๆ ผล MRI คือ เอ็นไม่มีการฉีกหรือขาดเลย คุณหมอท่านแรกจึงแนะนำให้ไปพบกับ นพ.กฤษฎิ์ พฤกษะวัน ซึ่งเป็นแพทย์เฉพาะทาง "ศัลยศาสตร์กระดูกและข้อเฉพาะทางเท้าและข้อเท้า" ของโรงพยาบาลเวชธานี คุณหมอใจดีม๊ากกกกกกกกกกก
คุณหมอถามอาการที่เป็นทั้งหมดและดูที่เท้าเรา คุณหมอบอกว่าที่เราปวดไม่หายซักที อาการปวดที่ข้อเท้าด้านใน และ ข้อเท้าพลิกออกด้านนอกบ่อยๆ ที่เป็นอยู่ทั้งหมดนี้ เพราะ ว่าเราเป็นคน "เท้าแบน" กระดูกเท้าผิดรูป ไม่มีอุ้งเท้า เท้าไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้ง สังเกตง่ายๆเลย คือ คนเท้าแบนจะใส่รองเท้าแล้วสึกเป็นจุดๆที่รองเท้าด้านใน(ด้านนิ้วโป้ง) รองเท้าจะเสียรูปทรง และ พังเร็ว เพราะ เวลาเดินข้อเท้าเราจะบิดและลงน้ำหนักที่ข้อเท้าด้านในแค่จุดเดียวเท่านั้น คนที่มีเท้าปกติเวลาเดินจะลงน้ำหนักกระจายไปทั่วเท้า (ขออ้างอิงรายละเอียดเรื่องเท้าแบนจากลิ้งค์ของโรงพยาบาลแล้วกันนะคะ) https://www.vejthani.com/th/2021/02/%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%99-%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b9%87%e0%b8%81%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%81/ แรกๆที่ไปรักษากับคุณหมอกฤษฎิ์ คุณหมอแนะนำให้ใส่แผ่น Insole ก่อน แต่เจ้า Insole นี้มันก็ต้องใส่กับรองเท้าผ้าใบเท่านั้นอีกเราก็ไม่ค่อยโอเคกับมันเท่าไหร่มันแน่นๆที่เท้าไปหมดก็ใส่บ้างไม่ใส่บ้าง ก็รักษาแบบประคับประคองอาการ Follow up การรักษาต่อเนื่องมาตลอดอีกประมาณ 9 เดือน
การรักษา ณ จุดนี้ คือ ถ้าจะให้เท้าเรามีรูปเท้าที่ปกติ มีอุ้งเท้า มีส่วนเว้าส่วนโค้งที่เท้า ข้อเท้าไม่บิดเอียงเข้าด้านในเวลาเดิน ก็คือ "การผ่าตัด" ทางเดียวเท่านั้น เพราะ อาการปวดและการอักเสบที่เป็นอยู่ได้เรื้อรังไปแล้ว และ การรักษาที่เราทำมาทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นปีๆ ทั้งกายภาพบำบัด และ การฉีด PRP นั้นช่วยเรื่องลดการอักเสบและลดความเจ็บปวดระยะสั้นๆเท่านั้น ไม่ทำให้เรากลับมามีรูปเท้าเหมือนคนปกติ จึงเหลืออย่างเดียว คือ การผ่าตัด ซึ่งวิธีการผ่าตัดของคุณหมอ คือ ผ่าตัดเปิดเข้าไปตัดและปรับแนวกระดูกใหม่ ยืดกระดูกออกไป 6-8 มิลลิเมตร ช่องว่างที่ถูกยืดออกจะต้องเสริมกระดูกเทียมเข้าไป และ ยึดด้วยไทเทเนี่ยมตรงกระดูกส่วนที่เป็นช่องระหว่างกระดูกเทียมกับกระดูกจริงของเรา และ หลังผ่าตัดต้องงดลงน้ำหนักที่เท้าข้างซ้ายเลย 6 สัปดาห์ ต้องใช้ไม้ค้ำยันในการเดิน เป็นวิธีการผ่าตัดและการพักฟื้นหลังผ่าตัดที่ฟังดูน่ากลัวและเป็นท้อมากๆ แต่เราก็ทรมานอยู่กับความเจ็บปวดมา 1 ปีครึ่งแล้ว และ Lifestyle ของเราต้องเดินทางไปโน่นนี่นั่นตลอด Activity แต่ละวันมากมายอยู่นิ่งไม่ได้ มันส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก แต่ก็กังวลและแอบเครียดอยู่ไม่น้อยถ้าจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัด เพราะ เป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างใหญ่ และ ใช้เวลาพักฟื้นหลังผ่าตัดค่อนข้างนานสำหรับเรา อีกอย่างเลย คือ เราหาข้อมูลการผ่าตัดแก้ไขเท้าแบนแทบไม่เจอเลยในไทย แต่จะพบมากในต่างประเทศที่ทำการรักษาด้วยวิธีนี้ ก็สองจิตสองใจ ความปวดบวมก็มากขึ้นทุกวัน แต่ทุกๆครั้งที่ไป Follow up กับคุณหมอกฤษฎิ์ การพูดคุยของคุณหมอจะทำให้เราได้รับความสบายใจกลับมาทุกครั้ง คุณหมอตอบคำถามตอบทุกข้อสงสัยของเราได้หมดอย่างมีความมั่นใจ ไม่เคยรำคาญหรือเบื่อที่จะตอบคำของเราเลยซักครั้ง บางครั้งก็เป็นคำถามซ้ำๆเดิมๆ คุณหมอก็ตอบเราด้วยความใจเย็นและตอบอย่างละเอียดทุกครั้ง ให้คำแนะนำที่เป็นบวกเสมอ เราเลยโอเคและมั่นใจในตัวคุณหมอมากๆ ร่วมทั้งคุณแม่ก็มั่นใจในตัวคุณหมอมากๆ ที่จะสามารถผ่าตัดในเคสของเราได้ เราจะต้องหาย คุณหมอคลายความกังวลทั้งหมดที่มีให้กับเราจึงตัดสินใจผ่าตัดกับคุณหมออย่างไม่มีความลังเลใดๆแล้ว มั่นใจคุณหมอมากขนาดที่ว่าเคลียร์งานตัวเองแค่ 6 สัปดาห์จริงๆ มั่นใจในมาตรฐานของโรงพยาบาลเวชธานี ที่มีชื่อเสียงเรื่องการรักษาโรคกระดูกและข้อ ตรงนี้ไม่กังวลเรื่องการผ่าตัดเท่าไหร่แล้ว แต่กังวลและกลัวเรื่องความเจ็บปวดหลังผ่าตัดแทน คิดว่าต้องเจ็บปวดแน่นอนหลังผ่าตัดเพราะต้องทำเยอะ เมื่อตกลงที่จะผ่าตัดแล้วก็เลือกวันที่จะผ่า ส่วนเวลาให้คุณหมอเลือกให้ 555 สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ประเมินราคาค่าผ่าตัดทั้งหมดและส่งเรื่องเช็คกับประกันสุขภาพที่เรามี ตรงนี้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลและตัวแทนประกันของเราเป็นคนจัดการให้ทั้งหมด ประมาณ 3 วัน บริษัทประกันก็ตอบกลับมาที่ตัวแทนและทางโรงพยาบาลว่า Cover ค่าผ่าตัดค่ารักษาพยาบาลครั้งนี้ทั้งหมด ความตื่นเต้นมาเยือนตั้งแต่ประกันตอบรับ เป็นผ่าตัดใหญ่ครั้งแรกในชีวิต เลือกวันผ่าตัดเป็นวันที่ 3 กันยายน 2563 คุณหมอเลือกเวลาผ่าให้เป็นตอนบ่ายโมงครึ่ง แต่ต้องไปถึงโรงพยาบาลตอน 8 โมงเช้า และต้องงดน้ำงดอาหารตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเป็นต้นไป ไปถึงที่แผนกกระดูกและข้อคุณหมอกฤษฎิ์ก็ขอคุยด้วยว่าจะใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 2-3 ชั่วโมง จะมีแผลผ่าตัดทั้งหมด 2 แผล ทั้งข้อเท้าด้านนอกและข้อเท้าด้านในเลย ที่ต้องผ่าข้อเท้าด้านในด้วยก็เนื่องจากผล MRI ที่ข้อเท้าด้านในมีจุดที่เป็นเงาๆอยู่ที่เส้นเอ็นซึ่งผิดปกติ คุณหมอเลยขอผ่าเข้าไปดูว่าเงานั้นมันคืออะไร ยิ่งกลัวเจ็บปวดเข้าไปใหญ่เลยทีนี้ แต่คุณหมอก็บอกว่าไม่ต้องกังวลน๊า คงไม่กังวลไม่ได้แล้วค่ะ5555 ก่อนผ่าตัดก็ทั่วๆไป มีการเจาะเลือดและก็คาเข็มไว้เลย โดนเจาะไป 2 รอบเพราะ หาเส้นไม่เจอ อ้วนแหล่ะ 555 X-Ray ปอด ตรวจคลื่นหัวใจ พบแพทย์อายุรกรรม ทุกอย่างแข็งแรงดี ก็ไม่มีอะไรสามารถผ่าตัดได้ไม่มีความเสี่ยง ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จสิ้นเข้าไปรอเวลาผ่าตัดที่ห้องพักพยาบาลประจำวอร์ดให้การต้อนรับที่ดีมาก เนื่องจากประกันที่ถืออยู่มีวงเงินค่าห้องค่อนข้างสูง เลยได้อยู่ห้องใหญ่กว้างมาก
เป็นห้องแบบวิว Panorama ได้อยู่ชั้น9 วิวเลยยิ่งดีไปอีก ทางโรงพยาบาลเพิ่งจะ Renovate ห้องใหม่ ทุกอย่างในห้องเลยดูใหม่ไปหมด ห้องดูดีมาก ชอบมากๆเลยค่ะ เหมือนอยู่โรงแรมเลย ระบบปิดเปิดไฟ ปรับอุณหภูมิแอร์ ด้วย iPad ล้ำมาก