สวัสดีครับทุกท่าน ผมพฤตเอง ด้วยความที่หมู่นี้แถวบ้านอากาศร้อนจัด เมื่อวานนี้ผมก็เลยหาเรื่องขับมอไซค์ไปเขาใหญ่มา หลังจากที่ไม่ได้ไปซะนาน ก็เล่นไปแต่ทะเลนี่นะ 555 อยากรู้ว่าบนเขาใหญ่อากาศจะยังเย็นอยู่ไหม และอยากจะลองขับทะลุไปฝั่งปากช่องภายในวันเดียวมานานแล้วด้วย ทริปนี้จะเป็นยังไง ตามมาชมกันเลยครับ
กระทู้นี้รูปไม่เยอะมากครับ ไม่ค่อยได้ถ่ายระหว่างทาง เน้นถ่ายตอนไปถึงที่หมายมากกว่า
เด้งจากเตียงตอนตี 3 นิด ๆ ออกจากบ้านตอนตี 4 บิดไปตามทางเรื่อย ๆ ตอนนี้เส้นกาญจนาภิเษกหมายเลข 9 ช่วงสามโคก-บางไทรเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว บางส่วนก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่เปิดไฟริมทางล่ะครับท่าน มืดตึ้บเลย ยังดีที่ผิวถนนเสร็จแล้วก็เลยอาศัยเปิดไฟสูงเอา เหลือส่วนที่ยังก่อสร้างกันอยู่ไม่มากนัก ซึ่งเมื่อพ้นมาก็โล่งแล้วครับ บิดไปเรื่อย ๆ ก่อนเลี้ยวเข้าหินกอง บิดไปทะลุวงเวียนนเรศวร และเลี้ยวซ้ายบิดขึ้นเขาใหญ่ เดี๋ยวคราวหน้าผมต้องลองวิ่งไปเส้นรังสิตซะหน่อยแล้ว เช้ามืดแบบนั้นเส้นรังสิตน่าจะโล่ง เพราะถ้าวิ่งเส้นนั้นได้จริง ๆ จะลดระยะทางได้มากอยู่
มาถึงแล้ว เย่ ~ ด้วยความที่ตอนนี้ผมใส่ท่อเดิมอยู่ ก็เลยไม่ต้องตรวจระดับเสียง คิดว่านะครับ จ่ายค่าเข้าแล้วไปกันเลย
ไปกันเลย ~
บนเขาใหญ่อากาศยามเช้ายังเย็นสบายอยู่ แต่ตกบ่ายก็คงจะร้อนใช้ได้
ทริปนี้ผมคิดว่าจะไม่แวะเหวนรก เพราะไม่งั้นจะเสียเวลาเดินไปมากโข จะไปแวะอีกทีก็คือจุดชมวิวผาตรอมใจ ไม่งั้นอาจจะไม่มีเวลามากพอที่จะแวะหลาย ๆ ที่ฝั่งปากช่อง
มาดูรูปฟิล์มกันหน่อยดีกว่า ทริปนี้ผมเอากล้องมา 3 ตัวเหมือนเดิม 1300D เป็นกล้องหลัก FTB พร้อมฟิล์ม Colorplus 200 เป็นกล้องอาร์ท และ IXUS 185 เป็นกล้องสแน็ป
และแล้วเราก็มาถึงเหวนรก แต่อย่างที่ได้บอกไปครับว่าวันนี้ผมจะไม่เข้าไป แวะเข้าห้องน้ำแป้บนึง แล้วไปต่อ
แล้วเราก็มาถึงคลองที่ออกมาจากน้ำตกเหวนรก ตอนนี้หน้าแล้ง น้ำน้อยและนิ่งเชียว แต่ตอนนี้แสงกำลังสวย ไม่แวะก็ยังไง ๆ อยู่ แวะถ่ายรูปซะหน่อย
สวยงาม
ตาดีจัดครับ ระหว่างที่บิดไปตามทางเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ นี่คือเรื่อย ๆ จริง ๆ นะครับ เพราะผีเสื้อเยอะมาก ไม่อยากชน สายตาผมก็ไปสะดุดกับพวกของเหล่านี้ที่ตกอยู่ข้างทาง ผมก็แวะเก็บไปเรื่อย อย่างที่ผมเคยได้บอกไว้ในหลายครั้งที่ผ่านมา เรามาป่า เรามาเที่ยว เราอยากเห็นต้นไม้ใบหญ้า ไม่ใช่ของพวกนี้ ในป่าเขาเอาถังขยะมาตั้งไม่ได้ ไม่งั้นสัตว์ป่าจะมาคุ้ย เพราะงั้นเราต้องช่วยกันครับ เก็บขยะให้มิดชิด แล้วเอาไปทิ้งในที่ ๆ เขาจัดไว้ให้ หรือก็คือทิ้งให้ลงถังนั่นแหละ
ส่วนนึงที่ขยะเริ่มมีก็คงเพราะมีผู้คนใช้ถนนเส้นนี้มากขึ้นครับ เพราะคนที่อยากจะวิ่งข้ามไปฝั่งปากช่อง ก็แค่จ่ายค่าเข้าแล้วก็วิ่งรถเข้าไปได้เลย แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าทุกที่เข้ามา เขาจะเข้ามาเที่ยว หลังจากที่บิดมาเอื่อย ๆ ชมนกชมไม้ไปตามเรื่อง ก็มีกระบะคันนึงมาจี้ผม จี้เลยครับ ระยะไม่เกิน 3 เมตรด้วยซ้ำจากที่หันมาดู จี้อยู่อย่างนั้น จี้ ๆ ๆ ๆ จนผมเบื่อ ก็เลยเทโค้งเพื่อจะสลัดให้หลุด สุดท้ายเขาคงรำคาญ เขาก็เลยเหยียบปื้ดดดดด ควันคลุ้งแซงออกไป แล้วก็ไปจี้รถเก๋งที่อยู่ข้างหน้า ควันคลุ้งไปทั้งแถบ ผมก็เลยควักกล้องออกมาถ่าย ได้ภาพตามที่เห็นนี่แหละครับ เสียดายถ่ายไม่ติดกระบะคันนั้น ติดมาแต่รถเก๋งคันข้างหน้ากับควันที่ยังคลุ้งอยู่ ผมถือว่าช่วยไม่ได้นะ ผมมาเที่ยว ผมก็บิดเอื่อย ๆ ชมนกชมไม้ไปเรื่อย ๆ น่ะสิ ถ้าคุณรีบจริง ทำไมคุณไม่วิ่งเข้าข้างนอกล่ะ คุณจะได้เหยียบจมไมล์สมใจอยากเลยแหละ แต่ในนี้ ส่วนใหญ่เขาก็มาเที่ยวกันทั้งนั้น คุณจะไม่พอใจไม่ได้นะ เอาล่ะ ๆ มาเที่ยว ๆ ใจเย็น ๆ แล้วไปกันต่อ
แล้วเราก็มาถึงดงเฟิร์นในตำนาน แวะซะหน่อย
เช็กอินเล็กน้อย
เฟิร์นเป็นพืชที่ชอบอากาศเย็นและชื้น เพราะบนเขาใหญ่อากาศเย็น เฟิร์นก็เลยอยู่ได้
สวยงาม ไปกันต่อดีกว่า
ผ่านดงต้นยางใหญ่ แวะซะหน่อย
สงสัยวัดแสงเจ้า FTB จะเพี้ยน เคยส่งซ่อมไปแล้วแต่ก็ยังสว่างเกินอยู่ดี FTB ตัวที่แล้วก็เป็น ซึ่งพอเทียบกันแล้ว Canonet แม่นกว่า สงสัยต้องอาศัยตั้ง ISO สูงชดเชยซะแล้ว
แล้วผมก็เลี้ยวเข้าทางขึ้นเขาเขียว แน่นอนว่าต้องผ่านโซนโป่งกับทุ่งหญ้า แวะซะหน่อย
หญ้าเหลืองแห้งตามสภาพอากาศ ไม่รู้เหมือนกันว่าทุกวันนี้ทางเขาใหญ่เขายังใช้การชิงเผาเพื่อกันไฟป่าอยู่หรือเปล่า ซึ่งถ้าไม่มีแล้วจะดีมาก เพราะแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ส่วนไฟป่านั้น ผมเชื่อว่ามันมีวิธีป้องกันที่ดีกว่าการชิงเผานะครับ
เช็กอินซะหน่อย
หันไปดูฝั่งตรงข้าม ป่ายังอุ้มความเย็นเก็บความชื้นอยู่ ก็เลยเห็นไปหมอกอยู่ในดงไม้ ไปกันต่อดีกว่า
ผ่านศาลเจ้าพ่อเขาเขียว แวะซะหน่อย ไหว้มือเปล่าครับ ไม่ได้มีอะไรตติดไม้ติดมือมาด้วย
ออกจากศาลมาก็บิดขึ้นไปเรื่อย ๆ จนมาถึงจุดหมายแรกของวันนี้ ผาตรอมใจ
สูดอากาศลึก ๆ สดชื่นนนนนนนนนนน
เช็กอินเล็กน้อย
มาดูรูปฟิล์มกันหน่อย
เช้านี้บนผาตตรอมใจ มีร้านลูกชิ้นเพิ่มมา 1 ร้านตรงข้ามกับร้านเดิมที่ตั้งอยู่ อย่างน้อยก็มีอะไรกินเพิ่ม แต่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะไปแวะหามื้อเช้าที่ศูนย์อาหาร ก็เลยไม่ได้ซื้ออะไร
จับยัดเลนซ์ซูม ส่องนั่นส่องนี่ซะหน่อย
เลนซ์ซูมตัวนี้คือ Canon EF 75-300 ราคาไม่แรง แต่ประสิทธิภาพก็ตามราคาที่จ่ายนั่นแหละครับ ไม่ได้คมโหดอะไรขนาดนั้น แถมยังเบลอง่ายมากด้วย สั่นแค่นิดเดียวก็เบลอแล้ว แต่ถึงแบบนั้นมันก็ใช้ได้ดี เอาล่ะ ไปกันต่อดีกว่า
ขากลับลงมา ก็ต้องผ่านผาปูนใกล้ ๆ กับผาเดียวดาย ว่าจะไม่แวะแล้วนะ แวะซะหน่อยละกัน ไม่ได้มาบ่อย ๆ
จุดนี้อยู่ต่ำกว่าที่ผาตรอมใจ วิวที่เห็นก็เลยชัดกว่า สวยกว่าด้วยนะถ้าจะว่ากันตามตรง แต่ตรงนี้ไม่มีที่นั่ง ไม่มีที่จอดรถ ผมอาศัยลักไก่จอดมอไซค์เข้าข้างทาง ก็เลยแวะได้
มาดูรูปฟิล์มกันหน่อย เลนซ์ที่ใช้เป็น FD 50 f1.8 ร้านเขาก็แนะนำครับว่า 35 เหมาะกว่า แต่ผมเฉย ๆ นะ ชอบ 50 มากกว่า เพราะว่ามุมที่ได้มันควบคุมง่ายกว่า เวลาที่ผมถ่ายวิว ผมจะพยายามยังคับให้ขอบฟ้ามันตรง เป็นระนาบเดียวกับขอบวิวไฟน์เดอร์ ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่ยากมากถ้าเลนซ์ที่ใช้เป็นเลนซ์ไวด์ เพราะทรงโค้งของโลก เวลาถ่ายรูปท้องนากว้าง ๆ จะเห็นชัด ว่าขอบฟ้ามันโค้ง และถ้าเราเผลอเอียงแค่นิดเดียว มันจะเบี้ยวทันที แต่ถ้าเลนซ์แคบลงมามันจะควบคุมความเบี้ยวหรือเอียงง่ายกว่า แต่ก็ไม่ได้แคบจนทำให้สั่นเบลอง่าย ผมก็เลยรู้สึกว่า เลนซ์ 40-50 ค่อนข้างเหมาะกับผมมากกว่า อย่างเจ้า Canonet นั่นก็ 40 ครับ
ผ่านโป่งทุ่งกวาง แวะซะหน่อย
โป่งทุงกวางวันนี้ แอบเขียวชะอุ่มกว่าตอนหน้าหนาวที่เคยมาซะอีก
แล้วเราก็มาถึงศูนย์อาหาร แวะจัดมื้อเช้าที่นี่แหละ
เสร็จจากศูนย์อาหารผมก็บิดมาเรื่อย ๆ จนมาถึงจุดชมวิวก.ม.30
มุมนี้ต้องเลนซ์ไวด์ ซึ่งไวด์สุดที่ผมมีก็คือ 18 แต่ก็ยังเก็บไม่หมดอยู่ดี ไม่เป็นไร ถ่ายเจาะเป็นจุด ๆ ไปดีกว่า
เช็กอินซะหน่อย
จับยัดเลนซ์ซูมซะหน่อย
ตรงนั้นน่าจะเป็นสนามกอล์ฟ
มาดูรูปฟิล์มกันหน่อย ตอนนี้ฟิล์มหลือบานเลยครับ รูปหลังจากนี้ก็จะมาจากฟิล์มซะส่วนใหญ่
ไปกันต่อดีกว่านะ
แล้วเราก็มาถึงศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ตั้งใจจะมาไหว้ตั้งแต่ทริปเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ก็เปลี่ยนใจไปชลบุรีซะก่อน วันนี้ก็แวะไหว้ซะหน่อย
ไหว้มือเปล่าเหมือนเดิมครับ เสร็จแล้วก็ไปกันต่อ
หลังจากออกมาจากเขาใหญ่ ผมก็บิดออกมาเรื่อย ๆ ตามเส้นธนะรัชต์ ตั้งใจว่าจะแวะฟาร์มโชคชัยด้วย แต่คงจะไม่เข้าไปเที่ยวข้างในเพราะเดี๋ยวจะถึงบ้านมืดซะก่อน ว่าจะเดินถ่ายรูปกับนั่งจัดไอติมอยู่ข้างหน้า
มีโซนสัตว์เล็กอยู่ข้างหน้า อากาศร้อนแทบบ้าแบบนี้ แกะต้องขนเกรียนแบบแหละไม่งั้นน้อน ๆ ร้อนตายแน่นอน
ป้อนนมลูกวัว ตัวนี้อาจจะป่วย ซึมเชียว หรือแค่ง่วงก็ได้นะ
[CR] บิดไปเรื่อย เหนื่อยก็พัก : หนีร้อนขึ้นเขาใหญ่ ทริปไปเช้าเย็นกลับที่โหดที่สุดของผม
กระทู้นี้รูปไม่เยอะมากครับ ไม่ค่อยได้ถ่ายระหว่างทาง เน้นถ่ายตอนไปถึงที่หมายมากกว่า
เด้งจากเตียงตอนตี 3 นิด ๆ ออกจากบ้านตอนตี 4 บิดไปตามทางเรื่อย ๆ ตอนนี้เส้นกาญจนาภิเษกหมายเลข 9 ช่วงสามโคก-บางไทรเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว บางส่วนก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่เปิดไฟริมทางล่ะครับท่าน มืดตึ้บเลย ยังดีที่ผิวถนนเสร็จแล้วก็เลยอาศัยเปิดไฟสูงเอา เหลือส่วนที่ยังก่อสร้างกันอยู่ไม่มากนัก ซึ่งเมื่อพ้นมาก็โล่งแล้วครับ บิดไปเรื่อย ๆ ก่อนเลี้ยวเข้าหินกอง บิดไปทะลุวงเวียนนเรศวร และเลี้ยวซ้ายบิดขึ้นเขาใหญ่ เดี๋ยวคราวหน้าผมต้องลองวิ่งไปเส้นรังสิตซะหน่อยแล้ว เช้ามืดแบบนั้นเส้นรังสิตน่าจะโล่ง เพราะถ้าวิ่งเส้นนั้นได้จริง ๆ จะลดระยะทางได้มากอยู่
มาถึงแล้ว เย่ ~ ด้วยความที่ตอนนี้ผมใส่ท่อเดิมอยู่ ก็เลยไม่ต้องตรวจระดับเสียง คิดว่านะครับ จ่ายค่าเข้าแล้วไปกันเลย
ไปกันเลย ~
บนเขาใหญ่อากาศยามเช้ายังเย็นสบายอยู่ แต่ตกบ่ายก็คงจะร้อนใช้ได้
ทริปนี้ผมคิดว่าจะไม่แวะเหวนรก เพราะไม่งั้นจะเสียเวลาเดินไปมากโข จะไปแวะอีกทีก็คือจุดชมวิวผาตรอมใจ ไม่งั้นอาจจะไม่มีเวลามากพอที่จะแวะหลาย ๆ ที่ฝั่งปากช่อง
มาดูรูปฟิล์มกันหน่อยดีกว่า ทริปนี้ผมเอากล้องมา 3 ตัวเหมือนเดิม 1300D เป็นกล้องหลัก FTB พร้อมฟิล์ม Colorplus 200 เป็นกล้องอาร์ท และ IXUS 185 เป็นกล้องสแน็ป
และแล้วเราก็มาถึงเหวนรก แต่อย่างที่ได้บอกไปครับว่าวันนี้ผมจะไม่เข้าไป แวะเข้าห้องน้ำแป้บนึง แล้วไปต่อ
แล้วเราก็มาถึงคลองที่ออกมาจากน้ำตกเหวนรก ตอนนี้หน้าแล้ง น้ำน้อยและนิ่งเชียว แต่ตอนนี้แสงกำลังสวย ไม่แวะก็ยังไง ๆ อยู่ แวะถ่ายรูปซะหน่อย
สวยงาม
ตาดีจัดครับ ระหว่างที่บิดไปตามทางเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ นี่คือเรื่อย ๆ จริง ๆ นะครับ เพราะผีเสื้อเยอะมาก ไม่อยากชน สายตาผมก็ไปสะดุดกับพวกของเหล่านี้ที่ตกอยู่ข้างทาง ผมก็แวะเก็บไปเรื่อย อย่างที่ผมเคยได้บอกไว้ในหลายครั้งที่ผ่านมา เรามาป่า เรามาเที่ยว เราอยากเห็นต้นไม้ใบหญ้า ไม่ใช่ของพวกนี้ ในป่าเขาเอาถังขยะมาตั้งไม่ได้ ไม่งั้นสัตว์ป่าจะมาคุ้ย เพราะงั้นเราต้องช่วยกันครับ เก็บขยะให้มิดชิด แล้วเอาไปทิ้งในที่ ๆ เขาจัดไว้ให้ หรือก็คือทิ้งให้ลงถังนั่นแหละ
ส่วนนึงที่ขยะเริ่มมีก็คงเพราะมีผู้คนใช้ถนนเส้นนี้มากขึ้นครับ เพราะคนที่อยากจะวิ่งข้ามไปฝั่งปากช่อง ก็แค่จ่ายค่าเข้าแล้วก็วิ่งรถเข้าไปได้เลย แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าทุกที่เข้ามา เขาจะเข้ามาเที่ยว หลังจากที่บิดมาเอื่อย ๆ ชมนกชมไม้ไปตามเรื่อง ก็มีกระบะคันนึงมาจี้ผม จี้เลยครับ ระยะไม่เกิน 3 เมตรด้วยซ้ำจากที่หันมาดู จี้อยู่อย่างนั้น จี้ ๆ ๆ ๆ จนผมเบื่อ ก็เลยเทโค้งเพื่อจะสลัดให้หลุด สุดท้ายเขาคงรำคาญ เขาก็เลยเหยียบปื้ดดดดด ควันคลุ้งแซงออกไป แล้วก็ไปจี้รถเก๋งที่อยู่ข้างหน้า ควันคลุ้งไปทั้งแถบ ผมก็เลยควักกล้องออกมาถ่าย ได้ภาพตามที่เห็นนี่แหละครับ เสียดายถ่ายไม่ติดกระบะคันนั้น ติดมาแต่รถเก๋งคันข้างหน้ากับควันที่ยังคลุ้งอยู่ ผมถือว่าช่วยไม่ได้นะ ผมมาเที่ยว ผมก็บิดเอื่อย ๆ ชมนกชมไม้ไปเรื่อย ๆ น่ะสิ ถ้าคุณรีบจริง ทำไมคุณไม่วิ่งเข้าข้างนอกล่ะ คุณจะได้เหยียบจมไมล์สมใจอยากเลยแหละ แต่ในนี้ ส่วนใหญ่เขาก็มาเที่ยวกันทั้งนั้น คุณจะไม่พอใจไม่ได้นะ เอาล่ะ ๆ มาเที่ยว ๆ ใจเย็น ๆ แล้วไปกันต่อ
แล้วเราก็มาถึงดงเฟิร์นในตำนาน แวะซะหน่อย
เช็กอินเล็กน้อย
เฟิร์นเป็นพืชที่ชอบอากาศเย็นและชื้น เพราะบนเขาใหญ่อากาศเย็น เฟิร์นก็เลยอยู่ได้
สวยงาม ไปกันต่อดีกว่า
ผ่านดงต้นยางใหญ่ แวะซะหน่อย
สงสัยวัดแสงเจ้า FTB จะเพี้ยน เคยส่งซ่อมไปแล้วแต่ก็ยังสว่างเกินอยู่ดี FTB ตัวที่แล้วก็เป็น ซึ่งพอเทียบกันแล้ว Canonet แม่นกว่า สงสัยต้องอาศัยตั้ง ISO สูงชดเชยซะแล้ว
แล้วผมก็เลี้ยวเข้าทางขึ้นเขาเขียว แน่นอนว่าต้องผ่านโซนโป่งกับทุ่งหญ้า แวะซะหน่อย
หญ้าเหลืองแห้งตามสภาพอากาศ ไม่รู้เหมือนกันว่าทุกวันนี้ทางเขาใหญ่เขายังใช้การชิงเผาเพื่อกันไฟป่าอยู่หรือเปล่า ซึ่งถ้าไม่มีแล้วจะดีมาก เพราะแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ส่วนไฟป่านั้น ผมเชื่อว่ามันมีวิธีป้องกันที่ดีกว่าการชิงเผานะครับ
เช็กอินซะหน่อย
หันไปดูฝั่งตรงข้าม ป่ายังอุ้มความเย็นเก็บความชื้นอยู่ ก็เลยเห็นไปหมอกอยู่ในดงไม้ ไปกันต่อดีกว่า
ผ่านศาลเจ้าพ่อเขาเขียว แวะซะหน่อย ไหว้มือเปล่าครับ ไม่ได้มีอะไรตติดไม้ติดมือมาด้วย
ออกจากศาลมาก็บิดขึ้นไปเรื่อย ๆ จนมาถึงจุดหมายแรกของวันนี้ ผาตรอมใจ
สูดอากาศลึก ๆ สดชื่นนนนนนนนนนน
เช็กอินเล็กน้อย
มาดูรูปฟิล์มกันหน่อย
เช้านี้บนผาตตรอมใจ มีร้านลูกชิ้นเพิ่มมา 1 ร้านตรงข้ามกับร้านเดิมที่ตั้งอยู่ อย่างน้อยก็มีอะไรกินเพิ่ม แต่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะไปแวะหามื้อเช้าที่ศูนย์อาหาร ก็เลยไม่ได้ซื้ออะไร
จับยัดเลนซ์ซูม ส่องนั่นส่องนี่ซะหน่อย
เลนซ์ซูมตัวนี้คือ Canon EF 75-300 ราคาไม่แรง แต่ประสิทธิภาพก็ตามราคาที่จ่ายนั่นแหละครับ ไม่ได้คมโหดอะไรขนาดนั้น แถมยังเบลอง่ายมากด้วย สั่นแค่นิดเดียวก็เบลอแล้ว แต่ถึงแบบนั้นมันก็ใช้ได้ดี เอาล่ะ ไปกันต่อดีกว่า
ขากลับลงมา ก็ต้องผ่านผาปูนใกล้ ๆ กับผาเดียวดาย ว่าจะไม่แวะแล้วนะ แวะซะหน่อยละกัน ไม่ได้มาบ่อย ๆ
จุดนี้อยู่ต่ำกว่าที่ผาตรอมใจ วิวที่เห็นก็เลยชัดกว่า สวยกว่าด้วยนะถ้าจะว่ากันตามตรง แต่ตรงนี้ไม่มีที่นั่ง ไม่มีที่จอดรถ ผมอาศัยลักไก่จอดมอไซค์เข้าข้างทาง ก็เลยแวะได้
มาดูรูปฟิล์มกันหน่อย เลนซ์ที่ใช้เป็น FD 50 f1.8 ร้านเขาก็แนะนำครับว่า 35 เหมาะกว่า แต่ผมเฉย ๆ นะ ชอบ 50 มากกว่า เพราะว่ามุมที่ได้มันควบคุมง่ายกว่า เวลาที่ผมถ่ายวิว ผมจะพยายามยังคับให้ขอบฟ้ามันตรง เป็นระนาบเดียวกับขอบวิวไฟน์เดอร์ ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่ยากมากถ้าเลนซ์ที่ใช้เป็นเลนซ์ไวด์ เพราะทรงโค้งของโลก เวลาถ่ายรูปท้องนากว้าง ๆ จะเห็นชัด ว่าขอบฟ้ามันโค้ง และถ้าเราเผลอเอียงแค่นิดเดียว มันจะเบี้ยวทันที แต่ถ้าเลนซ์แคบลงมามันจะควบคุมความเบี้ยวหรือเอียงง่ายกว่า แต่ก็ไม่ได้แคบจนทำให้สั่นเบลอง่าย ผมก็เลยรู้สึกว่า เลนซ์ 40-50 ค่อนข้างเหมาะกับผมมากกว่า อย่างเจ้า Canonet นั่นก็ 40 ครับ
ผ่านโป่งทุ่งกวาง แวะซะหน่อย
โป่งทุงกวางวันนี้ แอบเขียวชะอุ่มกว่าตอนหน้าหนาวที่เคยมาซะอีก
แล้วเราก็มาถึงศูนย์อาหาร แวะจัดมื้อเช้าที่นี่แหละ
เสร็จจากศูนย์อาหารผมก็บิดมาเรื่อย ๆ จนมาถึงจุดชมวิวก.ม.30
มุมนี้ต้องเลนซ์ไวด์ ซึ่งไวด์สุดที่ผมมีก็คือ 18 แต่ก็ยังเก็บไม่หมดอยู่ดี ไม่เป็นไร ถ่ายเจาะเป็นจุด ๆ ไปดีกว่า
เช็กอินซะหน่อย
จับยัดเลนซ์ซูมซะหน่อย
ตรงนั้นน่าจะเป็นสนามกอล์ฟ
มาดูรูปฟิล์มกันหน่อย ตอนนี้ฟิล์มหลือบานเลยครับ รูปหลังจากนี้ก็จะมาจากฟิล์มซะส่วนใหญ่
ไปกันต่อดีกว่านะ
แล้วเราก็มาถึงศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ตั้งใจจะมาไหว้ตั้งแต่ทริปเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ก็เปลี่ยนใจไปชลบุรีซะก่อน วันนี้ก็แวะไหว้ซะหน่อย
ไหว้มือเปล่าเหมือนเดิมครับ เสร็จแล้วก็ไปกันต่อ
หลังจากออกมาจากเขาใหญ่ ผมก็บิดออกมาเรื่อย ๆ ตามเส้นธนะรัชต์ ตั้งใจว่าจะแวะฟาร์มโชคชัยด้วย แต่คงจะไม่เข้าไปเที่ยวข้างในเพราะเดี๋ยวจะถึงบ้านมืดซะก่อน ว่าจะเดินถ่ายรูปกับนั่งจัดไอติมอยู่ข้างหน้า
มีโซนสัตว์เล็กอยู่ข้างหน้า อากาศร้อนแทบบ้าแบบนี้ แกะต้องขนเกรียนแบบแหละไม่งั้นน้อน ๆ ร้อนตายแน่นอน
ป้อนนมลูกวัว ตัวนี้อาจจะป่วย ซึมเชียว หรือแค่ง่วงก็ได้นะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น