"สิ่งที่ถูกรู้"..ไม่มี, "ผู้รู้"..ไม่มี, แต่ทำไมยังมีพระอรหันต์ที่ยังมีชีวิตอยู่..ยังมี "กิริยาจิต"!?

คิดสิ คิด..ว่าท่านหมายถึง อะไร

ประเด็นที่ 1 "สิ่งที่ถูกรู้"..ไม่มี..สูญ, แล้ว จักรวาล ดิน น้ำ ลมไฟ..สูญหายไปจริง ๆ หรือเปล่าล่ะ..คิดสิ คิด!?

ประเด็นที่ 2 "ผู้รู้"..ไม่มี..สูญ, แล้ว จิต เจตสิก นิพพาน..สญหายไปจริง ๆ หรือเปล่าล่ะ..คิดสิ คิด!?

ประเด็นที่ 3 แล้วคน (พระอรหันต์) ที่ออกมาประกาศเทศน์สอนว่า..แม้แต่ "ผู้รู้" ก็ไม่มี, สูญ..ทำไมยังมีชีวิตอยู่ ออกมาเทศน์สั่งสอนชาวบ้านได้ (ทั้ง ๆ ที่บอกว่า "ผู้รู้" ไม่มีแล้ว)..คิดสิ คิด!?

ประเด็นที่ 4 "ผู้รู้" ไม่มี..สูญ..ทำไมท่านยังไม่ตาย ยังมี "กิริยาจิต"..อะไร อยู่เบื้องหลังการทำงานของ "กิริยาจิต" (ถ้าจิตของพระอรหันต์สูญจริง..ทำไมท่านยังมีชีวิตอยู่ต่อ, ทำไมยังมี "กิริยาจิต", "กิริยาจิต" คืออะไรกันแน่ และมีหลักการทำงานอย่างไร อะไรอยู่เบื้องหลังผลักดัน ให้มีการกระทำโน่นนี่นั่นต่อ)..คิดสิ คิด!?

**********

ปากก็บอกว่า "สูญ" คือ หมดกิเลส..แต่สุดท้าย เอามาอธิบายเหมารวม ว่าจะรูป (จักรวาล ดินน้ำลมไฟ) และจิต (พระอรหันต์ที่ตายแล้ว) ไม่มีเลย!

ปากก็บอกว่า "สูญ" คือ มุมมองในเชิงปรมัตถ์..เช่น ตอนนี้มีโลก มีจักรวาล มีดินน้ำลมไฟ มีมนุษย์ มีจับต้องสัมผัสได้จริง ๆ--เพียงแต่เมื่อมองเชิงปรมัตถ์ คือ ไม่มีอะไรเป็นแก่นสารสาระที่แท้จริง..แล้วสุดท้าย ก็เอามาอธิบายเหมารวมว่า ไม่มีอะไรสักอย่าง ไม่เหลืออะไรสักอย่าง

(ทั้ง ๆ ที่ ตอนแรกบอกว่า มันเป็นการมองโลกเชิงปรมัตถ์--ว่า ไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร..แต่ก็มีโลก มีมนุษย์ มีสัตว์เดรัจฉาน มีรูป จิต เจตสิก นิพพาน นั่นแหละ, ไม่ใช่ว่างสูญเปล่าแบบไม่มีอะไรเลยจริง ๆ)

*********

ป.ล. ไม่ควรเอาความหมายของ "อนัตตา" มาปนกับ "สูญญตา"..เพราะบางบริบท อาจเอามาอธิบายหลอมรวมกันไม่ได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่