ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 3
ตอบ จขกท
ชิ้นเนื้อ น่าจะไม่ได้ส่งตรวจ เพราะถ้าส่งตรวจต้องมีการทำหัตถการ หมอต้องบอกว่าจะทำ และขออนุญาต ต้องจัดท่าใหม่ ต้องสอดเครื่องมือเข้ามดลูกเพื่อดูดเยื่อบุมดลูก ซึ่งทำให้รู้สึกเจ็บนิดหน่อย และต้องเสียเงินค่าตรวจชิ้นเนื้อเพิ่มด้วย
หมอบางคน ไม่ตรวจชิ้นเนื้อถ้าอายุยังไม่ถึง 40 ปี แต่ข้อยกเว้นให้ตรวจในผู้อายุไม่ถึง 40 ปีก็มีอยู่
จากรูปอัลตร้าซาวนด์ที่ส่งมา บอกผลการตรวจทั้งหมดไม่ได้ เพราะไม่ได้ตรวจเอง เห็นเพียง 3 รูป
รูปสำคัญคือรูปเดี่ยว มดลูกเท่าเห็นไม่มีเนื้องอก ดูตามที่วัดมา D1,D2,D3 น่าจะเป็นขนาด 3 มิติของมดลูก ซึ่งปกติ
เยื่อบุมดลูกเป็นลักษณะเพิ่งผ่านการตกไข่มาแล้ว ไม่กี่วัน (ซึ่งหมายคามว่ามีการตกไข่แล้ว)
เยื่อบุมดลูกบริเวณส่วนบนชิดกับผนังมดลูกไม่เรียบ น่าสงสัยว่าจะมีติ่งเนื้อ (polyp)
ฮอร์โมนที่หมอให้มา ออกฤทธิ์เหมือน โพรเจสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่รังไข่ผลิตออกมาหลังตกไข่
จะได้ผลดีถ้าสาเหตุที่ทำให้เลือดออกนั้น เกิดจากการไม่ตกไข่
เป็นเหตุผลอธิบายได้ว่า ทำไมจึงมีเลือดออกมาอีก ทั้งๆที่กินยาอยู่
ก็เหมือนการกินยาตัวนี้แล้วเลื่อนประจำเดือนไม่ได้ผลนั่นแหละ เพราะตอนนี้ระดับฮอร์โมนโพรเจสเตอโรนจากรังไข่ ลดลงแล้ว เพื่อเตรียมให้เกิดประจำเดือน ครั้งต่อไป
คำแนะนำ: กินยาต่อไปให้หมด แล้วไปพบหมอตามนัด
ส่วนแผนการรักษาต่อไป หมอไม่อยากก้าวก่าย รอฟังคุณหมอว่า แล้วทำตามนั้นแล้วกันนะ
ชิ้นเนื้อ น่าจะไม่ได้ส่งตรวจ เพราะถ้าส่งตรวจต้องมีการทำหัตถการ หมอต้องบอกว่าจะทำ และขออนุญาต ต้องจัดท่าใหม่ ต้องสอดเครื่องมือเข้ามดลูกเพื่อดูดเยื่อบุมดลูก ซึ่งทำให้รู้สึกเจ็บนิดหน่อย และต้องเสียเงินค่าตรวจชิ้นเนื้อเพิ่มด้วย
หมอบางคน ไม่ตรวจชิ้นเนื้อถ้าอายุยังไม่ถึง 40 ปี แต่ข้อยกเว้นให้ตรวจในผู้อายุไม่ถึง 40 ปีก็มีอยู่
จากรูปอัลตร้าซาวนด์ที่ส่งมา บอกผลการตรวจทั้งหมดไม่ได้ เพราะไม่ได้ตรวจเอง เห็นเพียง 3 รูป
รูปสำคัญคือรูปเดี่ยว มดลูกเท่าเห็นไม่มีเนื้องอก ดูตามที่วัดมา D1,D2,D3 น่าจะเป็นขนาด 3 มิติของมดลูก ซึ่งปกติ
เยื่อบุมดลูกเป็นลักษณะเพิ่งผ่านการตกไข่มาแล้ว ไม่กี่วัน (ซึ่งหมายคามว่ามีการตกไข่แล้ว)
เยื่อบุมดลูกบริเวณส่วนบนชิดกับผนังมดลูกไม่เรียบ น่าสงสัยว่าจะมีติ่งเนื้อ (polyp)
ฮอร์โมนที่หมอให้มา ออกฤทธิ์เหมือน โพรเจสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่รังไข่ผลิตออกมาหลังตกไข่
จะได้ผลดีถ้าสาเหตุที่ทำให้เลือดออกนั้น เกิดจากการไม่ตกไข่
เป็นเหตุผลอธิบายได้ว่า ทำไมจึงมีเลือดออกมาอีก ทั้งๆที่กินยาอยู่
ก็เหมือนการกินยาตัวนี้แล้วเลื่อนประจำเดือนไม่ได้ผลนั่นแหละ เพราะตอนนี้ระดับฮอร์โมนโพรเจสเตอโรนจากรังไข่ ลดลงแล้ว เพื่อเตรียมให้เกิดประจำเดือน ครั้งต่อไป
คำแนะนำ: กินยาต่อไปให้หมด แล้วไปพบหมอตามนัด
ส่วนแผนการรักษาต่อไป หมอไม่อยากก้าวก่าย รอฟังคุณหมอว่า แล้วทำตามนั้นแล้วกันนะ
แสดงความคิดเห็น
สอบถามผู้รู้หน่อยค่ะ ใครเคยกินยาฮอร์โมนเมดร็อกซีโพรเจสเทอโรนแอซีเทตแล้วมีผลข้างเคียงเลือดออกกระปิดกระปอยระหว่างกินยาบ้าง