บิ๊กอสังหาฯ-โบรกเกอร์ข้ามชาติชี้มาตรการภาครัฐช่วยดันตลาดรวมโตพรวด 20% แห่ปูพรมอัดแคมเปญโหมโปรโมชั่น กระตุ้นกำลังซื้อซ้ำ หวังเร่งระบายสต๊อกบ้าน-คอนโดฯลอตสุดท้าย ทั้ง “ลดแหลก-แจกทัวร์” ผนึกแบงก์ให้กู้ 110% “ออริจิ้น-ธนาสิริ” ใจป้ำลดคูณสอง ซื้อบ้านเกิน 7 ล้านก็ลดให้อีก
นางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย บริษัท ซีบีอาร์อี ประเทศไทย จำกัด (CBRE) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เป็นตัวช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้มากขึ้น เหมือนให้โบนัสคนที่จะซื้อที่อยู่อาศัย
ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
นอกจากเป็นตัวปลุกตลาดรวมให้คึกคักแล้ว เดิมประเมินว่าตลาดจะมีอัตราเติบโตต่ำในปีนี้ แต่ขณะนี้แนวโน้มเริ่มเปลี่ยน โดยคาดว่ามีโอกาสเติบโตได้ถึง 20% เช่น ตลาดภูเก็ตที่มีลูกค้าต่างชาติเข้ามาซื้ออยู่แล้ว มาตรการรัฐรอบนี้ยิ่งทำให้ยอดขายลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้นอีก ส่วนทำเลกรุงเทพฯ ที่ผู้ประกอบการมีแผนพัฒนาคอนโดมิเนียมคงจะเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากเป็นซัพพลายที่อั้นการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงที่ผ่านมา
REIC ชี้ดันตลาดโต
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า มาตรการอสังหาฯที่ออกมามีพลังจะกระตุ้นธุรกิจนี้ได้ในระดับหนึ่ง อาทิ การขยายวงเงินค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนองซื้อที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็น 7 ล้านบาท ถือเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมีโอกาสเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น
สินเชื่อ Happy home และ Happy life ที่เป็นซอฟต์โลนก็ถือว่า ตอบโจทย์สำหรับบ้านต่ำ 3 ล้านบาทได้ และกระตุ้นให้ผู้มีกำลังซื้อน้อยเข้าถึงการมีที่อยู่อาศัยเช่นกัน สำหรับมาตรการลดหย่อนบ้านสร้างเอง 1 แสนบาท ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน
โดยให้หักลดหย่อนภาษีได้ 1 หมื่นบาทต่อทุกจำนวนค่าก่อสร้าง 1 ล้านบาท ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันเล้วไม่เกิน 1 แสนบาท เป็นอีกมาตรการที่ผู้คนจะได้ประโยชน์จากการสร้างที่อยู่อาศัยเอง และกระตุ้นการจ้างงานอีกด้วย
มาตรการส่งเสริมบ้าน BOI สำหรับผู้มีรายได้น้อยสำหรับบ้านไม่เกิน 1.5 ล้านบาทในกรุงเทพฯและเขตปริมณฑล ที่ยังมีสต๊อกคอนโดฯ ระดับราคานี้อยู่มาก คาดว่าปีนี้จะระบายสต๊อกที่เหลือได้ และอาจส่งผลให้มีอุปทานใหม่เข้ามามากขึ้น ขณะเดียวกันบ้านราคา 1.5 ล้านบาทในต่างจังหวัดยังมีน้อย น่าจะมีการสร้างบ้าน BOI โครงการใหม่ในภูมิภาคที่คนมีรายได้น้อย
“การเติบโตในภาคอสังหาฯ มองว่า ยังกังวลในเรื่องของการกู้ เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ซื้อบ้านด้วยการกู้และธนาคารเองก็เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ REIC เคยคาดการณ์หน่วยการโอนกรรมสิทธิ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เติบโตที่ 1.8% แต่หลังจากมีมาตรการรัฐคาดว่าจะมีหน่วยการโอนกรรมสิทธ์เติบโตอยู่ที่ 5-10% รวมถึงบ้านมือสองด้วย เนื่องจากมาตรการรัฐส่งเสริมเรื่องนี้เช่นกัน ถือเป็นสัญญาณที่ดีของตลาดโดยรวม”
ศุภาลัยแจกทัวร์ญี่ปุ่น
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า มาตรการกระตุ้นรอบนี้ออกมาในช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากอสังหาฯ ปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบเชิงลบอย่างต่อเนื่อง ทั้งดอกเบี้ยขาขึ้น ค่าก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2565 อัตราการกู้ไม่ผ่านของลูกค้าอยู่ในเกณฑ์ที่สูง อีกทั้งมาตรการ LTV ที่นำกลับมาใช้ใหม่ ทำให้ลดทอนกำลังซื้อและคนคิดจะซื้อบ้านได้ยากขึ้น
ดังนั้นตัวช่วยของรัฐจะกระตุ้นกำลังซื้อได้มาก โดยเฉพาะการลดค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองจากเดิมกำหนดที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จะช่วยครอบคลุมตลาดได้ 22% ในกลุ่มลูกค้ารายได้ไม่สูงมากนัก แต่การปรับเพิ่มมาที่ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ช่วยให้ตลาดระดับกลางสามารถซื้อบ้านเดี่ยว 5-7 ล้านบาทได้ และครอบคลุมตลาดรวมได้มากถึง 76%
นอกจากนี้ยังได้จัดโปรโมชั่น “Freezable Festival ล็อคดีล กรี๊ดนานจนกรามค้าง” แก่ผู้ซื้อโครงการในทุกทำเลราคา 1.39-18 ล้านบาท เลือกรับฟรีทัวร์ซัปโปโร 5 ที่นั่ง มูลค่า 250,000 บาท หรือรับส่วนลดสูงสุด 250,000 บาท หรือช่วยผ่อนล้านละ 3,000 บาท นาน 1 ปี ฟรีค่าโอนฯ มิเตอร์น้ำ-ไฟฟ้า ค่าส่วนกลางปีแรก และรับเพิ่ม Central Gift Card มูลค่าสูงสุด 70,000 บาท ช่วงวันที่ 12-30 เมษายน 2567
ผนึกแบงก์ให้กู้ 110%
นางสาวพิชญา ตันโสด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ริชี่ เพลซ 2002 กล่าวขานรับมาตรการรัฐว่า ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและตอบโจทย์ผู้มีรายได้ทุกระดับ ทั้งสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษจาก ธอส.ได้แก่ Happy Home ดอกเบี้ย 3% ต่อปี นาน 5 ปี สำหรับผู้มีรายได้น้อย-ปานกลาง วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท และ Happy Life ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 2.98%
สำหรับประชาชนทั่วไป วงเงิน 2.5 ล้านบาทขึ้นไป ดีกับผู้หาบ้านใหม่ในราคาไม่แพง ซึ่งสอดคล้องกับสินค้าของ RICHY บริษัทจึงนำ 12 โครงการบ้านและคอนโดฯพร้อมอยู่ราคาเริ่มที่ 1.99 -19 ล้านบาท จัดโปรโมชั่น Hello!! Summer Deals รับส่วนลดและกู้เต็ม 100%
ลดสูงสุด 3 ล้าน
นายพีระพงศ์ จรูญเอก นายกสมาคมอาคารชุดไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า มาตรการรัฐจะช่วยเพิ่มมูลค่าการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ได้ประมาณ 8 แสนล้านบาท เกิดการลงทุนอีก 4-5 แสนล้านบาท ทั้งมีผลต่อการใช้จ่าย 1.2 แสนล้านบาท ภาพรวมจะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อีก 1.7-1.8%
มาตรการที่เห็นผลชัดคือ การลดค่าโอนและจำนองที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท เหลือ 0.01% ซึ่งมีสัดส่วนเกินกว่า 85% ของการซื้อขายที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ ทั้งมือหนึ่งและมือสอง ส่งผลต่อการเร่งตัดสินใจซื้อในภาวะตลาดที่ทรงตัว
รวมถึงกลุ่มผู้มีรายได้น้อยสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น พร้อมจัดโปรโมชั่น “เวลานี้ดีที่สุด” กับทุกโครงการ ดอกเบี้ย 3% นาน 5 ปี กรณีที่ทำสัญญากู้กับ ธอส. ฟรีทุกค่าใช้จ่ายในวันโอน ส่วนลดสูงสุด 3 ล้านบาท เฉพาะพาร์ค ออริจิ้น ตั้งแต่ 17 เมษายน-30 มิถุนายน 2567
ระบายสต๊อก-ลดคูณ 2
นางสาวสุทธิสินี อยู่สวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท รีโว กล่าวว่า มาตรการรัฐช่วยสร้างแรงจูงใจต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศด้วย โดยรีโว กรุ๊ป นำบ้านพร้อมอยู่ 3 โครงการมาจัดแคมเปญด้วยเพื่อระบายบ้านลอตสุดท้าย ด้วยการลดราคาพิเศษ เติมน้ำมันฟรี 2 หมื่นบาท ฟรีค่าทางด่วน 1 ปี เป็นต้น
นายจรัญ เกษร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ บมจ.ธนาสิริ กรุ๊ป กล่าวว่า มาตรการของภาครัฐส่งผลดีต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยและลดภาระแก่ผู้ซื้อด้วย บริษัทจึงจัดโปรโมชั่น ON TOP X 2 Gift Voucher สูงสุด 1 ล้านบาท ฟรีแอร์ทั้งหลัง ฟรีค่าส่วนกลาง 2 ปี สำหรับบ้านไม่เกิน 7 ล้านบาท จะได้รับส่วนลด X 2 และบ้านเกิน 7 ล้านบาทยังให้ส่วนลดอีกเช่นกัน...
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.prachachat.net/property/news-1546800
มาตรการรัฐดัน “บ้าน-คอนโด” โต 20% อสังหาอัดแคมเปญซ้ำกระตุ้น.
นางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย บริษัท ซีบีอาร์อี ประเทศไทย จำกัด (CBRE) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เป็นตัวช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้มากขึ้น เหมือนให้โบนัสคนที่จะซื้อที่อยู่อาศัย
ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
นอกจากเป็นตัวปลุกตลาดรวมให้คึกคักแล้ว เดิมประเมินว่าตลาดจะมีอัตราเติบโตต่ำในปีนี้ แต่ขณะนี้แนวโน้มเริ่มเปลี่ยน โดยคาดว่ามีโอกาสเติบโตได้ถึง 20% เช่น ตลาดภูเก็ตที่มีลูกค้าต่างชาติเข้ามาซื้ออยู่แล้ว มาตรการรัฐรอบนี้ยิ่งทำให้ยอดขายลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้นอีก ส่วนทำเลกรุงเทพฯ ที่ผู้ประกอบการมีแผนพัฒนาคอนโดมิเนียมคงจะเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากเป็นซัพพลายที่อั้นการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงที่ผ่านมา
REIC ชี้ดันตลาดโต
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า มาตรการอสังหาฯที่ออกมามีพลังจะกระตุ้นธุรกิจนี้ได้ในระดับหนึ่ง อาทิ การขยายวงเงินค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนองซื้อที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็น 7 ล้านบาท ถือเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมีโอกาสเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น
สินเชื่อ Happy home และ Happy life ที่เป็นซอฟต์โลนก็ถือว่า ตอบโจทย์สำหรับบ้านต่ำ 3 ล้านบาทได้ และกระตุ้นให้ผู้มีกำลังซื้อน้อยเข้าถึงการมีที่อยู่อาศัยเช่นกัน สำหรับมาตรการลดหย่อนบ้านสร้างเอง 1 แสนบาท ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน
โดยให้หักลดหย่อนภาษีได้ 1 หมื่นบาทต่อทุกจำนวนค่าก่อสร้าง 1 ล้านบาท ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันเล้วไม่เกิน 1 แสนบาท เป็นอีกมาตรการที่ผู้คนจะได้ประโยชน์จากการสร้างที่อยู่อาศัยเอง และกระตุ้นการจ้างงานอีกด้วย
มาตรการส่งเสริมบ้าน BOI สำหรับผู้มีรายได้น้อยสำหรับบ้านไม่เกิน 1.5 ล้านบาทในกรุงเทพฯและเขตปริมณฑล ที่ยังมีสต๊อกคอนโดฯ ระดับราคานี้อยู่มาก คาดว่าปีนี้จะระบายสต๊อกที่เหลือได้ และอาจส่งผลให้มีอุปทานใหม่เข้ามามากขึ้น ขณะเดียวกันบ้านราคา 1.5 ล้านบาทในต่างจังหวัดยังมีน้อย น่าจะมีการสร้างบ้าน BOI โครงการใหม่ในภูมิภาคที่คนมีรายได้น้อย
“การเติบโตในภาคอสังหาฯ มองว่า ยังกังวลในเรื่องของการกู้ เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ซื้อบ้านด้วยการกู้และธนาคารเองก็เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ REIC เคยคาดการณ์หน่วยการโอนกรรมสิทธิ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เติบโตที่ 1.8% แต่หลังจากมีมาตรการรัฐคาดว่าจะมีหน่วยการโอนกรรมสิทธ์เติบโตอยู่ที่ 5-10% รวมถึงบ้านมือสองด้วย เนื่องจากมาตรการรัฐส่งเสริมเรื่องนี้เช่นกัน ถือเป็นสัญญาณที่ดีของตลาดโดยรวม”
ศุภาลัยแจกทัวร์ญี่ปุ่น
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า มาตรการกระตุ้นรอบนี้ออกมาในช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากอสังหาฯ ปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบเชิงลบอย่างต่อเนื่อง ทั้งดอกเบี้ยขาขึ้น ค่าก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2565 อัตราการกู้ไม่ผ่านของลูกค้าอยู่ในเกณฑ์ที่สูง อีกทั้งมาตรการ LTV ที่นำกลับมาใช้ใหม่ ทำให้ลดทอนกำลังซื้อและคนคิดจะซื้อบ้านได้ยากขึ้น
ดังนั้นตัวช่วยของรัฐจะกระตุ้นกำลังซื้อได้มาก โดยเฉพาะการลดค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองจากเดิมกำหนดที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จะช่วยครอบคลุมตลาดได้ 22% ในกลุ่มลูกค้ารายได้ไม่สูงมากนัก แต่การปรับเพิ่มมาที่ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ช่วยให้ตลาดระดับกลางสามารถซื้อบ้านเดี่ยว 5-7 ล้านบาทได้ และครอบคลุมตลาดรวมได้มากถึง 76%
นอกจากนี้ยังได้จัดโปรโมชั่น “Freezable Festival ล็อคดีล กรี๊ดนานจนกรามค้าง” แก่ผู้ซื้อโครงการในทุกทำเลราคา 1.39-18 ล้านบาท เลือกรับฟรีทัวร์ซัปโปโร 5 ที่นั่ง มูลค่า 250,000 บาท หรือรับส่วนลดสูงสุด 250,000 บาท หรือช่วยผ่อนล้านละ 3,000 บาท นาน 1 ปี ฟรีค่าโอนฯ มิเตอร์น้ำ-ไฟฟ้า ค่าส่วนกลางปีแรก และรับเพิ่ม Central Gift Card มูลค่าสูงสุด 70,000 บาท ช่วงวันที่ 12-30 เมษายน 2567
ผนึกแบงก์ให้กู้ 110%
นางสาวพิชญา ตันโสด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ริชี่ เพลซ 2002 กล่าวขานรับมาตรการรัฐว่า ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและตอบโจทย์ผู้มีรายได้ทุกระดับ ทั้งสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษจาก ธอส.ได้แก่ Happy Home ดอกเบี้ย 3% ต่อปี นาน 5 ปี สำหรับผู้มีรายได้น้อย-ปานกลาง วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท และ Happy Life ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 2.98%
สำหรับประชาชนทั่วไป วงเงิน 2.5 ล้านบาทขึ้นไป ดีกับผู้หาบ้านใหม่ในราคาไม่แพง ซึ่งสอดคล้องกับสินค้าของ RICHY บริษัทจึงนำ 12 โครงการบ้านและคอนโดฯพร้อมอยู่ราคาเริ่มที่ 1.99 -19 ล้านบาท จัดโปรโมชั่น Hello!! Summer Deals รับส่วนลดและกู้เต็ม 100%
ลดสูงสุด 3 ล้าน
นายพีระพงศ์ จรูญเอก นายกสมาคมอาคารชุดไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า มาตรการรัฐจะช่วยเพิ่มมูลค่าการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ได้ประมาณ 8 แสนล้านบาท เกิดการลงทุนอีก 4-5 แสนล้านบาท ทั้งมีผลต่อการใช้จ่าย 1.2 แสนล้านบาท ภาพรวมจะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อีก 1.7-1.8%
มาตรการที่เห็นผลชัดคือ การลดค่าโอนและจำนองที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท เหลือ 0.01% ซึ่งมีสัดส่วนเกินกว่า 85% ของการซื้อขายที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ ทั้งมือหนึ่งและมือสอง ส่งผลต่อการเร่งตัดสินใจซื้อในภาวะตลาดที่ทรงตัว
รวมถึงกลุ่มผู้มีรายได้น้อยสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น พร้อมจัดโปรโมชั่น “เวลานี้ดีที่สุด” กับทุกโครงการ ดอกเบี้ย 3% นาน 5 ปี กรณีที่ทำสัญญากู้กับ ธอส. ฟรีทุกค่าใช้จ่ายในวันโอน ส่วนลดสูงสุด 3 ล้านบาท เฉพาะพาร์ค ออริจิ้น ตั้งแต่ 17 เมษายน-30 มิถุนายน 2567
ระบายสต๊อก-ลดคูณ 2
นางสาวสุทธิสินี อยู่สวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท รีโว กล่าวว่า มาตรการรัฐช่วยสร้างแรงจูงใจต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศด้วย โดยรีโว กรุ๊ป นำบ้านพร้อมอยู่ 3 โครงการมาจัดแคมเปญด้วยเพื่อระบายบ้านลอตสุดท้าย ด้วยการลดราคาพิเศษ เติมน้ำมันฟรี 2 หมื่นบาท ฟรีค่าทางด่วน 1 ปี เป็นต้น
นายจรัญ เกษร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ บมจ.ธนาสิริ กรุ๊ป กล่าวว่า มาตรการของภาครัฐส่งผลดีต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยและลดภาระแก่ผู้ซื้อด้วย บริษัทจึงจัดโปรโมชั่น ON TOP X 2 Gift Voucher สูงสุด 1 ล้านบาท ฟรีแอร์ทั้งหลัง ฟรีค่าส่วนกลาง 2 ปี สำหรับบ้านไม่เกิน 7 ล้านบาท จะได้รับส่วนลด X 2 และบ้านเกิน 7 ล้านบาทยังให้ส่วนลดอีกเช่นกัน...
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/property/news-1546800