[CR] * * * รีวิว TOYOTA Yaris Ativ Sport .. กับการเช่าขับ 1 วัน ครับ * * *

กระทู้รีวิว


- นานๆทีจะได้บินไปเที่ยว แล้วก็เช่ารถยนต์ขับ (ปกติ เช่าแต่มอเตอร์ไซค์ 55+) รอบนี้ จงใจ เลือกเช่ากับเจ้านี้ เจาะจงเจ้ารถรุ่นนี้ เพราะอยู่ใน list รถ ที่มองๆว่า อาจจะเปลี่ยนแทน Altis หน้าแบน คันเก่า ที่สุราษ ครับ

ออกตัวก่อนว่า มีแต่รูปภายนอกนะครับ ไม่ได้ถ่ายภายในไว้เลย แล้วก็ ขอ Reference กับ City Hatchback Turbo เกรด SV ที่ใช้อยู่ (ยังพอจำฟิลลิ่งเดิมๆของมันได้)

รถคันที่เช่า เป็น TOYOTA YARIS ATIV เกรด Sport เห็นป้ายแดง แต่วิ่งใช้งานมาราวๆ 2 หมื่นกว่ากม. นะครับ

- รับรถมา .. ทำไมอาการรถมันแปลกๆหว่า ย้วยๆ หยึยๆ ยังไงชอบกล เลยแวะปั๊มก่อน มองไปที่ข้างประตู ระบุว่า แรงดันลมยาง 36 psi ทั้ง 4 ล้อ ผมวิ่งมาสัก 4 - 5 กม. จากจุดรับรถ แตะยางดู ยังไม่ร้อน แอบมีอุ่นๆนิดนึง  .. วัดลมยางดู อ้าว 29 psi ทั้ง 4 ล้อเลย !!! .. จัดการเติมลมไป 38 psi เผื่อชดเชยยางร้อนครับ ขับออกมา อาการรถดีขึ้นพอสมควร

..................


อัตราเร่ง
- ใครเคยขับ March หรือ Almera 1.2 ไหมครับ ? ภาพจำ eco car อืดๆ เร่งไม่ขึ้น แซงทีลุ้นกันแทบแย่ มันหลอนผมมาตลอด .. ทีแรกก่อนขับ Ativ ก็คิดว่า คงไม่หนีกัน แต่เอาเข้าจริง ลบภาพนั้นเลยแฮะ .. ออกตัวไว คันเร่งไว ตามประสาพี่ต้า เค้า ช่วงไล่ความเร็วถึงสัก 100 ไม่อืดนะ ไปเรื่อยๆของมัน ถ้าจะพอให้รู้สึกว่า มันคือ eco car ก็คือ ช่วงแซงถนน 2 เลนสวนนี่แหละ เค้นกันหนักหน่อย แต่ยังย้ำว่า ดีกว่า Almera 1.2 คนละเรื่อง

- ส่วน สามสูบพันโบ .. ปล่อยเค้าไปนะ เทียบไม่ได้อยู่ละ

ปล. ไมล์รถ จับเทียบ GPS error 7% นะครับ เพี้ยนเยอะเลย

อัตราสิ้นเปลือง
- จากท่าเรือที่จะข้ามไปเกาะพยาม ไปร้านถอดรองเท้า ไปหาซาลาเปาทับหลีกิน ที่ บ้านทับหลี แล้วไปขึ้นเขาจุดชมวิวเขาฝาชี กลับเข้าเมือง รุ่งขึ้นก็ไป รักษะวาริน ต่อด้วย น้ำแร่พรรั้ง กลับมาในเมือง แล้วไป สนามบินคืนรถ
- ในเมืองรถไม่ติด ไปเรื่อยๆ / ทางไกล 80 - 100 ไม่เกินนี้ (ขาไป 80 เพราะไม่คุ้นรถ ขากลับจากทับหลี ได้แตะ 100)
- หน้าจอโชว์ 20 กม/ลิตร เติมกลับไปจริง ได้ 18.5 กม./ลิตร .. สูสีกับ City Turbo ผมนะ City จะอยู่ 18 ต้นๆครับ

เกียร์
- ไม่น่ามีอะไร แต่มีแฮะ .. ถ้า City ที่ไม่ใช่ RS มันจะมีแค่ ตำแหน่ง S เวลาลงเขา ตบลง S ก็หน่วงรถได้นิดนึง ต้องใช้ทักษะมากหน่อย ไม่งั้น ทางชันเบรคไหม้ครับ
- แต่ Ativ มีโหมด บวก / ลบ ให้สับที่คันเกียร์ จากตำแหน่ง D ตบขวา เข้า Sport ลากเกียร์ให้ ถ้าจะเชนจ์เกียร์ก็ดึงลง หรือ ขึ้น แต่ถ้าจะกลับไป S ใหม่ ต้องผลักไปซ้ายกลับไป D แล้วผลักมาขวาใหม่นะ
- ข้อดี คือ ผมเอาไปขึ้นจุดชมวิวเขาฝาชี ทางชันพอได้ ลองสับเกียร์เอง มันหน่วงใช้ได้ครับ ดึงรอบเครื่องพอสมควร อันนี้ขอชม วิ่งทางชันๆน่าจะสบายกว่า City ครับ



ช่วงล่าง
- มันไม่นุ่มย้วย นั่งแล้วโยนไปโยนมาเป็นเรือ แบบ City ผม มันค่อนข้างเฟิร์ม ไม่ได้แข็ง ไม่ได้กระด้างนะ การทรงตัวชัดเจนครับ ดีกว่า City แต่ ... มันก็พิสัยรถเล็กนะครับ เจอเส้นจากตัวเมืองระนองไปทับหลี ขับลงมาเหลือ 80 แค่นั้น โยนไป โยนมา ซึ่งก็ว่าไม่ได้ รถเล็ก มันก็แค่นี้แหละ (ปกติ รถตัวเองทุกคัน 110 นิ่งๆไม่เคยยก ไม่เคยเบรค)

- พวงมาลัย .. ไม่ชอบเลย จอดอยู่กับที่ หมุนแล้วหนัก (จะหนักเพื่อ ???) พอขับเร็ว ก็ตึงมือกว่า City (อันนี้โอเค) แต่ พอทางตรงนิ่งๆ ความเร็วสูง อาการมันเหมือนหุ่นยนต์ ช่วงกลางมันแข็งน่ะครับ อาการเหมือน Jazz GD / Tiida แบบนั้น มันไม่เป็นธรรมชาติ ส่วนความไวกลางๆครับ
- เทียบ City รายนี้ linear กว่า โดยรวมเบากว่า แต่ไม่ได้เบาหวิว สำหรับผมคือ กำลังดี และที่ชอบคือ มันคม ครับ จะโยก จะมุด ทันใจกว่าเยอะ (อันนี้ตรงกับหลายสำนักรีวิว)

- ยางติดรถ เป็น Yoko Blue Earth มันทำหน้าที่ของมันได้ดีนะครับ นุ่มนวลใช้ได้ เสียงไม่ดัง แต่แน่นอน ยางนุ่มเงียบ จะให้คมกริบแบบ RE004 ก็คงไม่ใช่แหละ แต่ดีกว่า Maxxis MA-P3 ที่แถมมาใน City เยอะครับ

ระบบเบรค
- หน้าดิสค์ หลังดรัม เท่า City
- ระยะฟรีช่วงแรกเยอะมาก กดแล้วไม่ตอบสนองใดๆ ต้องกดลงไปเกือบครึ่งถึงจะจับ ซึ่งพอมันจับ มันก็หัวทิ่มเลย แต่อยู่นะไม่ไหล เพียงแต่ คุมน้ำหนักเท้า ให้เบรคนุ่มนวลได้ยากมากครับ
- เทียบกับ City ตอนเดิมๆ .. ระยะเหยียบไม่ลึกเท่า จับไวครับ แต่เกิน 60 ไปแล้ว ไหลยาวๆ นิสัยฮอนด้า ครับ

งานประกอบ
- มาตรฐานไดฮัทสุ เอ้ยย โตโยต้า ไม่มีก๊อก ไม่มีแก๊ก ให้น่ารำคาญแบบฮอนด้า ครับ

การเก็บเสียง
- เงียบกว่าพอสมควร เสียงจากใต้ท้อง เสียงยางค่อนข้างเงียบ เสียงลมไม่ได้ยิน (ใส่กันสาด เหมือนรถผมนะ)
- ในขณะที่ City จำได้แม่น ออกมาใหม่ๆ วิ่งถนนปูนที่เพิ่งทำเสร็จ มีเสียงหวีดหวิวมาจากพื้นรถ จนเป็นสาเหตุให้ไปพ่นเก็บเสียงในซุ้มล้อครับ ถึงหายไป

ภายใน
- เบาะหน้า .. ตำแหน่งเบาะวางสูงกว่า City (กดต่ำสุดทั้งคู่) นั่งแล้ว เนื้อที่เหนือศีรษะเหลือราว 1 กำปั้น น้อยกว่า City นิดนึง ตำแหน่งคนขับ เกือบถึงจุดบนสุดของกระจกหน้า เลยรู้สึกลอยๆแปลกๆ แต่ตรงนี้ ถ้าเป็น ผู้ใหญ่ น่าจะชอบ เพราะเบาะสูง ลุกเข้าออกง่ายกว่าครับ
- ส่วนความสบายของเบาะ ผมกับแฟน เห็นตรงกันว่า เบาะ City สบายกว่า ผมเน้นตรงการรับแผ่นหลัง มีดันหลัง แม้ City จะปรับไม่ได้ แต่มันมี ในขณะที่ Ativ มันแบนไปเลย อารมณ์เหมือนเบาะ Altis หน้าแบน เลย

- เบาะหลัง .. ปรับเบาะหน้าตำแหน่งผมขับ แล้วลงไปนั่ง ผมสูง 168 cm เรียบร้อยครับ หัวติดเพดานทันที รวมถึง legroom ก็น้อยกว่า City ชัดเจน แฟนผมโวยวายก่อนละว่า หัวติด

- คอนโซลกลาง .. อารมณ์ Almera Turbo ครับ เข่าซ้ายติดเต็มๆครับ City สบายกว่าครับ

อื่นๆ
1. ฟิล์ม Glasia บานหน้า แสงผ่าน 35% รอบคันแสงผ่าน 15% ภายนอกมืดทึบ ภายใน ไม่อมชา ไม่มืด ใช้ได้แฮะ ตากแดด สัก 30 นาที เข้ารถมา มีอุ่นๆ แดดส่องมาทางกระจกข้าง มีร้อนๆแขน .. ถ้ามองว่า มันคือ ฟิล์มแถม ผมว่า มันดีกว่า Hi-Kool R75HC ที่ติดรถตู้ ที่พอดีนั่งวันนี้นะ (รายนั้น ร้อนชัดๆ) แต่กลางคืน ไม่ได้ลองนะครับ

2. ฟิลลิ่งการสัมผัสสิ่งต่างๆ ยังรู้สึกว่า มันเป็นรถราคาถูก
- มือเปิดประตูภายนอก .. ฟิลลิ่งการดึง เทียบ City คนละเรื่องนะ อารมณ์ March / Almera เลย
- มือเปิดประตูภายใน .. เหมือนภายนอกแหละ ดึงแล้วก็มองหน้ากัน มันจะหลุดคามือไหมนะ
- ปุ่มปลดล็อคที่หัวเกียร์
- เสียงการดึงเบรคมือ
- เสียงการทำงานของเซนทรัลล็อค
ไปลองได้ครับ ลองเทียบ City ครับ บอกเลย คนละเรื่อง .. ไม่ได้บอกว่า ฟิลลิ่งดีกว่ามันจะทนกว่านะ แต่มันคือความประทับใจ ให้ความรู้สึกว่า พรีเมี่ยมน่ะครับ HONDA เค้าฉลาดเรื่องพวกนี้ แล้วไปแอบลดตรงอื่น เช่น คอนโซลหน้าด้านใน เอามือกดดูดิ ยุบตามมือเลย หรือ ฝากระโปรงหน้าที่เบาจนคิดว่า ทำจากอลูมิเนี่ยม 55+

3. แอร์
- ความรู้สึกคือ ไม่ฉ่ำ ผมเร่งน้ำยาไปเกือบสุดนะ เหลืออีก 1 ขีด ถามว่า เย็นไหม เย็นครับ แต่มันไม่ฉ่ำแบบ Altis หน้าแบน หรือ Toyota ที่เคยรู้สึก แม้แต่กลับมา กทม. ขับ City ก็ยังเห็นตรงกันว่า City ฉ่ำกว่าครับ (อารมณ์เหมือน ใช้น้ำยาแอร์ ยี่ห้อ JH ถูกๆ เทียบกับ น้ำยาแอร์ Dupont อะไรแบบนั้น)

- ปุ่มเปิดปิด อันนี้หน้าแบนก็เป็น คือ ถ้า City มีปุ่ม ON/OFF กดทีเดียว ก็เรียกค่าเดิมกลับมา แต่ Ativ มีแต่ OFF ถ้าจะ ON ต้องกดเร่งสปีดพัดลม มันถึงเป็นการเปิด ก็ต้องมานั่งไล่สปีดพัดลม แทนที่จะทีเดียวจบ

4. ที่วางแก้ว
- มาอยู่หน้าช่องแอร์ แบบกระบะ อันนี้ ตำแหน่งโอเคครับ แต่ ช่องมันเล็กไปนิด เจอแก้วกาแฟใหญ่หน่อย ใส่ไม่ลงครับ ดิ้นไป ดิ้นมา รวมถึง พอใส่แก้วกาแฟแล้ว จะถอยจอดเทียบฟุตบาท จะปรับกระจกมองข้างซ้ายลง ติดที่วางแก้วครับ

5. Keyless ที่ทำงานช้า
- ผมเจอเรื่องนี้ใน youtube ช่องที่เค้าไปสัมภาษณ์ผู้ใช้ Yaris Cross น่ะครับ ทีแรกฟังแล้วก็คิด .. มันจะแค่ไหนกัน คิดมากไปป่าว ..
- เจอกับตัวเอง ในรถคันนี้ครับ มันจะเป็นเฉพาะตอนสั่งล็อค (ตอนปลดไม่เป็น) แต่เจ้าสามขีด ที่มือเปิดแล้ว นับ 1 .. 2 .. มันถึงล็อค บางทีรีบๆก็ต้องยืนรอ มันล็อคก่อน หรือ บางทีเบลอๆก็ .. ล็อคยังหว่า แล้วก็ไปกดซ้ำ กลายเป็นปลดล็อคอีก

- ถ้ามาดู City .. การปลดล็อค จะใช้การล้วงมือเข้าไปดึงก้านดึง ซึ่งก็ทำงานว่องไวใช้ได้ (แต่ถ้ารีบๆก็มีติดๆบ้างแบบปลดไม่ทัน ยังไม่ไวเท่า CRV รายนั้น ไม่มีพลาด) .. การล็อค City จะใช้การกดปุ่มยาง กดปุ๊บ ล็อคปั๊บ ยกเว้น .. รีบๆ เดินออกห่างจากมือเปิดแล้วเอื้อมมือมากด อันนี้รถจะโวยวาย (CR-V ไม่เป็น .. ตามราคาแหละ)

...............

สรุปว่า .. มันก็ใช้ได้ ถ้าคุณต้องการรถสักคัน ที่ไม่ต้องไปสนใจ ใส่ใจ อะไรมันมาก ทนๆ ถึกๆ ใครก็ซ่อมมันได้ เน้นใช้งาน ขับรถจาก A ไป B แค่นั้นจบ เลือกได้ไม่ผิดหวัง

แต่ถ้า .. คุณเรื่องเยอะแบบผม สัมผัสต้องดี ฟิลลิ่งต้องได้ เครื่องต้องแรง แซงต้องมั่นใจ ไม่ใช่มันแน่ อาจจะต้องไปดู City ซึ่งก็ต้องรับให้ได้กับงานประกอบ กับสนิม กับการดูแลที่ต้องใส่ใจมันเยอะหน่อย

ส่วนผมเหรอ ? .. ถ้าเปลี่ยนแทน หน้าแบน มีหวัง พ่อตาเตะก้านคอแน่ๆ (นั่งหลังหัวติด) .. สงสัยดวงจะได้ HR-V อิอิ

ชื่อสินค้า:   Toyota Yaris Ativ Sport
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่