จู่ๆผมก็มีความอยากเนื้อย่างแนวญี่ปุ่น ก็เลยออกเดินทางไปยังโซนเมืองเพื่อไปกินร้านปิ้งย่างเตาถ่าน นามว่า Nikuro ซึ่งจัดว่าเป็นร้านเก่าแก่ร้านนึง 
ที่ตั้งอยู่หน้าปากซอย พหลโยธิน 15 เห็นเขาว่าย้ายทำเลห้องใหม่ที่กว้างกว่าเดิม ก็ไปจัดสักหน่อยละกัน

มาถึงที่หมายด้วยอากาศที่ร้อนจนแทบเผาไหม้ ร้านเป็นตึกแถวอยู่ในซอยเล็ก ดีที่เอามอเตอร์ไซต์มาเลยหาที่จอดไม่ยาก 
การจะเข้าไปยังร้านก็ต้องกดลิฟต์ที่เห็นอยู่นี่เสียก่อน แล้วไปยังชั้น 3

เมื่อถึงชั้น 3 ที่เป็นตัวร้านแล้ว จะมีพนักงานคอยรับเราจากลิฟต์แล้วพามายังโต๊ะ ซึ่งก็จะเป็นห้องกว้างๆ หน้าต่างติดรางรถไฟฟ้าแสงเข้าเยอะช่วง
กลางวัน มีปล่องดูควัน พร้อมโต๊ะเก้าอี่คล้ายกับร้านปิ้งย่างแบบกลางแจ้งทั่วๆไปเลย 

ร้านนี้มี 3 เรตราคา ซึ่งวันนี้ผมมาจัดราคา 699 บาท ซึ่งจะมีพวกเนื้อส่วนพรีเมี่ยมขึ้นมาหน่อย แล้วก็ไข่ดองกับไส้กรอกทรัฟเฟิล 
แต่ทางร้านมาแจ้งหน้างานว่า จะมีคิดค่าเตาเพิ่มกรณีมาคนเดียว(งานมาเลยทีนี้ ไม่ได้เตรียมตัวก่อน หน้าเพจก็ไม่เเจ้ง) ก็เลยโดนไปทั้งหมด
879 บาท ครับ กินได้ ชั่วโมงครึ่งสำหรับร้านนี้

ที่นี่สั่งเอาโดยการใช้คิวอาร์โค้ดสแกนครับ จะดูภาพจากเมนูหรือในแอพก็ได้(แต่บางเมนูก็มีเพิ่มมาไม่ตรงกับในแผ่นเมนูนะ) 
เนื้อทะยอยมาเสิร์ฟทีละอย่างครับ เปิดมาด้วย ไส้กรอกบราสเวิร์ทและแบบชีสทรัฟเฟิล
บราสเวิร์ท ข้างในฉ่ำน้ำ เนื้อนุ่มกรอบหนังหุ้ม ได้กลิ่นพริกไทยและเปรี้ยวเครื่องหมักภายใน
ทรัฟเฟิลชีส เนื้อแน่นกรุบ กลิ่นชีสและซอสทรัฟเฟิลฟุ้งออกมาจางๆ ชอบอันนี้กว่าอันบน

แล้วก็ไข่ดองซีอิ๊ว เหมือนเอาไข่สดมาราดใส่น้ำซอสเฉยๆ ก็เลยได้รสชาติข้นนัวแบบกินไข่สดเสียมากกว่า เอามาจิ้มกินกับพวกเนื้อ อร่อยใช้ได้เลย

กุ้งเสียบไม้ เป็นเมนูที่เพิ่มมาใหม่ รสชาติหวานกรอบเอาเรื่อง แต่กลิ่นกุ้งไม่หอมนัก

เริ่มเปิปเนื้อย่างกันที่ เนื้อส่วนที่ใครหลายๆคนชอบ เสือร้องไห้หรือเนื้อใต้อก เนื้อนุ่มนิ่มหอมหวาน ไม่เหม็นคาว แม้ซอสราดจะเข้มไปหน่อย 
แต่จิ้มคู่กับน้ำจิ้มเนื้อที่ร้านจัดมาให้ บวกกับผักสลัด เข้ากันมากๆ

เนื้อลูกเต๋า ย่างสุกง่ายเกินคาด มีความแน่นเด้ง และน้ำซุปเนื้ออยู่เยอะ ได้รสหวานอ่อนๆ 

เนื้อส่วนตะพาบ  โดยรวมรสชาติคล้ายๆเนื้อเต๋า แต่มีมันเพิ่มเข้ามา และชิ้นบางเคี้ยวง่ายกว่า

ไทยฮัมวากิว หรือเนื้อโหนก เนื้อนุ่มหวาน อมเปรี้ยวที่ปลายลิ้น ไม่รู้มาจากซอสหมักหรืออะไร แต่ความหอมของมันนั้นยังสู้เสือร้องไห้ไม่ได้

วากิวท๊อปไซต์ เนื้อชายโครง ความหอมของเนื้อและหวานของมัน อยู่ในระดับกลาง หนึบแบบเคี้ยวได้คล่อง 

เอาลงย่างก่อน เตามันเล็กต้องเข้าใจ ร้านใช้เตาถ่านนะร้านนี้ แต่ไฟแรงและทนทานอยู่ กินเกือบๆหมดเวลานู่น ถึงจะมอด

เนื้อแฮมเบิร์ก ไร้กลิ่นเนื้อย่าง รสแบบบะช่อหมูย่างเลย ถ้าหลับตากินนึกว่าหมูนะ การปรุงรสยังไม่แจ่มเท่าไหร่  

เหล่าของทอดกินเล่น ก็จะมี เอบิโรล ที่รูปร่างคล้ายปอเปี๊ยะ แล้วไส้ในคือ ปอเปี๊ยะวุ้นเส้นชัดๆ ไม่มีกุ้งสักเสี้ยว 
ส่วนขลุ่ยกุ้ง ก็เป็นเกี๊ยวกุ้งทอดแบบหลอด รสชาติพอไหว กับ คารามาริ หมึกแหวนชุบแป้ง ความหอมน่ะมาเต็ม แต่ไร้รสชาติ 
ต้องจิ้มมายองเนสเยอะๆเลยจานนี้

น้ำจิ้มเนื้อหลักๆจะมีสองสูตร คือแบบน้ำซีอิ๊ว กับแบบซอสข้น ซึ่งผมชอบแบบข้นมากกว่านะ รสคล้ายน้ำจิ้มไดโดม่อนแต่มีความอมเปรี้ยวหวาน
แบบผลไม้ผสมมาเล็กน้อย เข้ากับเนื้อย่างมากกว่า

จิ้มกับไข่ดอง อร่อยเหาะยิ่งกว่าเดิม

รอบสอง ยังพอมีพื้นที่ในกระเพาะหลงเหลืออยู่ เลยสั่งพื้นท้องมาลองดู พบว่าเหนียวกว่าเนื้อเต๋า แต่รสชาติรวมๆคือคล้ายกัน

เนื้อเสียบไม้ อันนี้ได้รสหวานเค็มแอบเด้งๆ มันเข้มดีมาก

จัดของกินเล่นมาช่วยย่อย ทีแรกสั่งปูอัดเส้นทอดกรอบมาแต่ของหมด เลยโดนเฟร้นฟรายซอสชีสแทน หวานซอสชีสเจอเหนอะปาก ราดมาเยอะเกินอ่ะ

ตัดเกรด
รสชาติอาหาร : ****
เนื้อคุณภาพกลางๆ ความนุ่มความหอมไม่โดดเด่นเท่าไหร่ การหมักทำได้โอเคออกหวานนำเปรี้ยวปลายนิดหน่อย เนื้อส่วนท้องดีงามสุด 
รองลงมาก็เนื้อลูกเต๋าที่มีความฉ่ำของซุปเนื้อชัดเจน ไข่ดองนี่แทบไม่ได้หมักเลยมั้ง เหมือนตอกไข่สดลงซอสมันทั้งอย่างนั้น 
เอามาจิ้มเนื้อย่างเพิ่มความมันนัวลิ้นได้ดีอยู่ ร้านนี้มีของกินเล่นพอสมควร ส่วนมากเป็นของทอด แต่ทั้งหมดล้วนธรรมดาเสียเหลือเกิน ไม่ปลื้มเท่าใดนัก

อร่อยมากสุด : เนื้อเสือร้องไห้
อร่อยน้อยสุด : เอบิโรล

บรรยากาศในร้าน : ****1/2
ห้องอาหารถือว่ากว้างขวาง โต๊ะและเก้าอี้ก็นั่งสบายดี ติดที่ความเย็นในร้านจัดว่าร้อนพอควร แถมหน้าต่างเยอะแสงเข้าไปหมด
ถ้าไปกินช่วงค่ำๆน่าจะเหมาะกว่า

การบริการ : ****
การต้อนรับและเสิร์ฟถือว่าทำได้ดีสมมาตรฐาน ขอติตรงเวลาจานหมด ไม่ค่อยมาเก็บ ทั้งๆที่ก็ยืนอยู่เฉยๆอย่างนั้นในร้านไม่ได้ทำไรนะ
แล้วก็ไม่ได้แนะนำเนื้อส่วนต่างๆให้เข้าใจ มาถึงก็เสิร์ฟเลย

ความหลากหลาย : ****
มีเนื้อส่วนต่างๆให้เลือกเยอะอยู่ตามราคา พ่วงด้วยของกินเล่นนับสิบเมนู

ราคา : **
ด้วยคุณภาพและรสชาติโดยรวมของเนื้อ รวมไปถึงการบวกค่าเตาเพิ่มเมื่อมาคนเดียวนี้ ผมบอกเลย แพงเป๋าฉีก

การเข้าถึง : ***1/2
เป็นอีกหนึ่งร้านที่เข้าถึงยากและมาได้ลำบาก เพราะตัวร้านนอกจากจะต้องกดลิฟท์เล็กๆเพื่อขึ้นไปบนห้องอาหารแล้ว ถ้ามาด้วยรถส่วนตัว
ก็ต้องลุ้นให้มีที่จอดในซอย 15 ถ้าไม่มีก็ต้องวกไปจอดที่วัดไผ่ตัน ที่ซอยก่อนถึงร้าน ถ้ามาด้วยรถไฟฟ้าจะสะดวกกว่า คือลงจากสถานสะพานควาย
ทางออก 3 แล้วเดินไปอีกเกือบๆ 400 เมตรได้

ความคุ้มค่า : ***1/2
รสชาติอาหารไม่ได้ขี้เหร่ครับ กินได้อร่อยอยู่ และข้อดีคือถ่านลุกทนทานมาก แต่ด้วยความที่โดนค่าชาร์จเตาเพิ่ม(โดยไม่มีแจ้งให้ทราบก่อนในเพจ)
คุณภาพเนื้อและอาหารจานรองที่ยังไม่โดนใจ และการเข้าถึงที่เข้าหาได้ลำบาก ทั้งหมดทั้งมวลมันเลยหักล้างความคุ้มไปซะเยอะเลย
ร้านนี้ผมบอกได้เลยว่า ถ้าเป็นขาจร ไม่แนะนำเท่าไหร่ครับ เพราะรสชาติไม่ได้หนีไปกว่าร้านอื่นๆในโซนอื่นเลย
น่าจะเหมาะสำหรับ นักกินในแถบนั้นเสียมากกว่า กับผู้ที่ชอบดื่มด่ำบรรยากาศยามเย็นกับวิวรถไฟฟ้าใจกลางเมือง

ภาพรวม : ***1/2